Infinite Competitive Dungeon Society – บทที่ 4 – เด็กหนุ่มที่กลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยน (4)

Infinite Competitive Dungeon Society - บทที่ 4 – เด็กหนุ่มที่กลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยน (4)

บทที่ 4 – เด็กหนุ่มที่กลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยน (4)

ฉันไม่หลงเหลือความภาคภูมิใจอยู่อีกเลย ในสัปดาห์ต่อมาฉันก็ได้มายืนอยู่ที่หน้าประตูบานเดิมและตะโกนออกมาอย่างเชื่อฟังว่าฉันขอเข้าร่วมปาตี้ จากนั้นหน้าต่างโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้น

[นี่คือกระดานรับสมัครปาตี้ คลิกไปที่ชื่อที่คุณต้องการและเข้าร่วมปาตี้]

“มาดูกันดีกว่า ‘ล่าออร์คลอร์ด กำลังมองหาฮีลเลอร์จะต้องมีเลเวลที่สูงกว่า 5’ โง่อะไรอย่างนี้ทุกคนที่อยู่ในชั้นที่ 5 จะต้องมีเลเวล 5 ไม่ใช่หรอ?”

ฉันคิดว่ามันมีคนโง่กว่าฉันมาก ฉันค่อยๆเลื่อนผ่านหน้าต่างไปเรื่อยๆและพบกับคนที่กำลังมองหน้าแนวหน้าสร้างความเสียหาย เพราะว่าฉันนั้นได้เริ่มเล่มเกมมาก่อน ฉันจึงรู้ว่าแนวหน้าสร้างความเสียหาคืออะไร พวกเขาจะเป็นคนที่โจมตีในระยะประชิดด้วยอาวุธระยะประชิด

ในตอนที่ฉันได้คลิกลงไปที่โพสนั้นฉันรู้สึกมึนสั้นๆและครู้หนึ่งฉันก็พบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางคนอื่นๆอีก 9 คน

“ยินดีต้อนรับ นายเป็นแนวหน้าสร้างความเสียหายใช่ไหม?”

ชายรูปหล่อสไตล์ตะวันตกได้เริ่มพูดกับฉันฉันคิดว่านี่เป็นภาษาอังกฤษฉันจึงกำลังที่จะตะโกนออกไปว่า “ฉันไม่สามารถจะพูดอังกฤษได้” แต่ว่าโชคดีที่ว่าฉันเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดได้อย่างไร้ปัญหา

“ชะ ใช่แล้ว ฉันใช้หอก”

“โอ้ผู้ใช้หอก นายมาจากทวีปอีเดียสหรอ?”

“มะ ไม่ใช่ ฉันมาจากโซล”

“โซล? นี่มันเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินชื่อนี้ มีใครรู้จักไหม?”

“ไม่ใช่จากทวีปลูก้า”

“ไม่ใช่จากไพรอสแน่นอน”

คนที่อยู่รอบๆตัวฉันได้บ่นออกมาในขณะที่ส่ายหัวของพวกเขา เมื่อฉันเหลือบไปมองที่พวกเขาฉันก็สังเกตุเห็นว่าพวกเขาส่วนใหญ่มีผิวสีขาวหรือสีเข้าและมีผมสีบลอนด์ สีแดงหรือสีน้ำตาล พวกเขานั้นเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด! ขณะที่ฉันกำลังงงเล็กน้อยคนที่พูดคุยกับฉันคนแรกก็เดินเข้ามาใกล้ เขาสวมใส่โล่เล็กๆบนแขนและมีดาบสั้นติดเอาไว้อยู่ ด้วยการถอนหายใจเขายื่นมือออกมาหาฉัน

“นายคงจะต้องมาจากสถานที่เล็กๆแย่ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันเป็นหัวหน้าปาตี้นี้ เอลลอส วอน คาซิน่า พอล ,คาลทีนและฉันนั้นมาจากทวีปอีเดียส

“กาซิน่า”

“มันเป็นคาซิน่า”

ฉันได้จับมือกับหัวหน้าปาตี้ผู้ที่ดูจะผิดหวังเล็กน้อย ฉันได้เล่นเกมมานานพอฉันจึงรู้ว่าปาตี้มันเป็นเช่นไร สิ่งที่ฉันไม่คิดเพียงแค่ฉันไม่คิดเลยว่าฉันจะมาอยู่ในปาตี้เดียวกันกับผู้ที่มาจากโลกอื่นๆ…

“ฉันคัง ชิน ยินดีที่ได้รู้จัก”

หลังจากที่แนะนำตัวกันสั้นกับสมาชิกคนอื่นๆแล้วฉันก็คิดว่าเราจะไปสู้กับออร์คลอร์ดในทันที แต่ว่าฉันเข้าใจผิด

“เดี๋ยวก่อน”

เป็นเด็กสาวตัวเล็กๆที่มาจากสถานที่ๆเรียกว่าทวีปลูก้า นอกจากสาวน้อยคนนี้แล้ว มีอีกสองคนที่เป็นผู้หญิงในปาตี้ผู้หญิงที่ถือดาบเรเปียเธอมีหูที่ยาวงามและหญิงสาวที่ดูอ่อนแอที่ถือโล่ไม้เอาไว้อยู่ เด็กสาวตัวเล็กเธอมีผมบลอนด์ไว้ทรงทวินเทลที่สวยงาม ผมของเธอนั้นดูเหมือนกับทองคำล้ำค่าและรวมไปถึงการถือคทาไม้ที่เข้ากันกับเธอ อย่างไรก็ตามคำพูดของเธอไม่ได้น่ารักเลยแม้แต่น้อย

“เดี๋ยวก่อน ดูที่เสื้อผ้าของเขาก่อนสิ มันไม่ใช่เสื้อผ้าของผู้เริ่มต้นงั้นหรอ?”

“เสื้อผ้าของผู้เริ่มต้น?”

มีอะไรที่ผิดปกติเกี่ยวกับเสื้อผ้าของฉันงั้นหรอ? ฉันได้มองลงไปที่เสื้อผ้าที่ฉันใส่ เพราะการที่ฉันอยากจะใส่เสื้อที่เหมาะกับการที่จะเดินไปรอบๆ ฉันจึงมักจะเข้ามาในดันเจี้ยนพร้อมกับใส่ชุดฝึกซ้อมของฉัน แม้ว่าเสื้อพวกนี้จะขาดแต่ว่ามันก็จะได้รับการฟื้นฟูเมื่อฉันออกไปจากดันเจี้ยน

“…นายยังไม่ได้ไปที่ชั้นซื้อขายหรอ?”

“ฉันไปแล้ว”

เพราะคนอื่นๆพูดกันอย่างไม่เป็นทางการนัก ฉันก็เลยทำแบบเดียวกัน เด็กสาวก็ได้ถามออกมาอีกครั้งอย่างประหลาดใจ

“มันมีอุปกรณ์ป้องกันขายอนู่ที่นั่นทำไมนายถึงไม่ซื้อมันมาหละ?”

“อา”

ฉันขำร้านที่ขายอุปกรณ์ป้องกันได้ อย่างไรก็ตามเป้าหมายของฉันก็คือการไปถึงชั้นที่ 10 และซื้อวิธีเพาะปลูกมานา ฉันไม่สามารถที่จะใช้จ่ายทองออกไปได้ มันก็เป็นเหมือนกันกับอาวุธของฉัน ฉันก็ยังคงจำเป็นจะต้องใช้หอกไม้ที่ให้มาตั้งแต่ต้นและแน่นอนว่าตอนนี้มันไม่มีคมอีกต่อไปแล้ว

“ฉันจะต้องประหยัดเงินเอาไว้เพื่อซื้อวิธีเพาะปลูกมานานะ”

“อะไรนะ? นายไม่มีวิธีเพาะปลูกมานา? ครอบครับของนายมาจากไหน?”

“ครอบครับ? คังคือครอบครัวของฉันนะ?”

“ครอบครับของนายไม่มีวิธีเพาะปลูกมานาหรอ?”

“ไม่เลย”

“อะไรนะ? โอ้ไม่นะ พวกเรามีสมาชิกที่ไม่ถูกต้อง เตะเขาออกไป”

“อืมมม มันเป็นเรื่องยากถ้าหากว่านายไม่มีวิธีเพาะปลูกมานา”

“เขาไม่มีมีวิธีเพาะปลูกมานา?”

สมาชิกคนอื่นๆได้เริ่มที่จะกระซิบกระซาบกัน ฉันตระหนักได้ว่ามีบางสิ่งที่ผิดพลาดไปฉันจึงได้หันไปพูดคุยกับเอลลอสที่ดูเหมือนจะเข้าใจง่ายที่สุด

“คนอื่นๆมีวิธีเพาะปลูกมานาหมดเลยหรอ?”

“แน่นอน เดี๋ยวก่อนนะ ฉันไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับดันเจี้ยนอื่นๆเลย แต่ว่าฉันก็ยังรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขึ้นมาที่ชั้นที่ 5 ของดันเจี้ยนแรกโดยปราศจากวิธีการเพาะปลูกมานา นายมาไกลขนาดนี้ได้ยังไง?”

“โอ้ ฉันเพิ่มระดับทักษะหอกของฉัน ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญในเทคนิคหอกระดับกลาง…”

“ผู้เชี่ยวชาญระดับกลาง!?”

คราวนี้อีกคนหนึ่งในด้านหลังได้ตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ เขาเป็นคนที่มีผมสีน้ำตาลถือโล่ขนาดใหญ่และสวมเกาะหนัง

“อย่ามาโกหก ฉันนั้นฝึกเทคนิคโล่ของฉันมาเป็นเวลา 10 ปีและมันเป็นเพียงแค่ระดับกลาง เลเวล 2 เท่านั้นเอง นายมองว่านาได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเทคนิคหอกระดับกลางแล้วงั้นหรอ!?”

“ฉันรู้…มันแปลกหรอ?”

“มันแปลก! การที่จะเชี่ยวชาญเทคนิคหอกระดับกลางโดยที่ไม่ต้องใช้วิธีการเพาะปลูกมานา ฉันไม่เชื่อ! ทำไมนายไม่บอกว่านายมีเทคนิคหอกระดับสูงหละ?”

“ไม่ มันบอกว่าฉันไม่สามารถจะเรียนได้เนื่องจากว่าฉันไม่มีมานา”

“…”

สมาชิกในปาตี้ทั้งหมดได้แต่เงียบลงไป จากนั้นเอลลอสก็โพล่งขึ้น

“เอาเขาเข้ามา”

“แต่เอลลอส…”

“พวกเราแทบจะไม่สามารถขึ้นมาที่ชั้น 5 ได้ด้วยพวกเราสามคม ผู้เล่นทุกคนที่อยู่จ่ำกว่าชั้นที่ 10 จะสามารถเข้าร่วมกับคนในทวีปของต้นเองได้เท่านั้น เขาจะต้องปีนขึ้นมาที่ชั้นนี้ด้วยตัวเองเท่านั้น เพราะว่าถ้าหากเขามีปาตี้ของตัวเอง เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาร่วมกับพวกเรา ฉันพูดถูกไหม?”

“ใช่แล้ว”

เมื่อฉันหยักหน้าเอลลอสก็ดูเหมือนกับจะได้รับความมั่นใจมากขึ้นและพูดดังขึ้น

“ดูสิ คัง ชินเพียงคนเดียวก็มีความสามารถเท่ากับของคนสามคน ฉันไม่สามารถจะพูดถึงเรื่องในอนาคตได้ แต่อย่างน้อยก็บนชั้นที่ 5 นี้เขาก็มีคุณสมบัตเพียงพอที่จะเติมเต็มบทบาทของตัวทำดาเมจได้ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคนิคหอกระดับกลาง”

“แต่ดูเกราะของเขาสิ…”

“ฉันไม่ชอบเขา…”

“เตะเขา!”

เจ้าหนูทวินเทลก็ยังคงบอกให้เตะฉัน ฉันจึงก้มหน้าตัวเองให้พ้นจากการจ้องมองของเธอ แต่เธอก็ยังคงเย่อหยิ่งและจ้องมองฉันต่อไป

“เตะเขา!”

“คุณเพลรูเดียช่วยใจเย็นลงด้วย เรายังไม่เคยเห็นทักษะของเขาเลย”

“เราไม่จำเป็นที่จะทำเช่นนั้น! มองดูเขาสิ เขาใช้หอกไม้ที่หักครึ่ง!”

“ฮืมม…”

“มันจะสายเกินไปถ้าหากว่าเราใช้เวลาดูเขา ฉันไม่ทราบว่าทวีปของนายเป็นยังไง แต่ว่าฉันอยู่ในช่วงสงครามรุนแรงกับเผ่าพันธุ์ปีศาจ ถ้าฉันสูญเสียโอกาสที่จะได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นสำหรับหนึ่งสัปดาหฺ พวกเราจะตกไปอยู่เบื้องหลังในสงคราม!”

“ทวีปของฉันก็ยังอยู่ในช่วงสงครามกับพวกผู้รุกราน ฮูว ไม่เป็นไร ขอเวลาพวกเราสักหน่อยนะ คุณคัง ชิน ฉันขอโทษด้วยนะแต่ว่านายช่วงแสดงพลังของนายให้พวกเราดูที มันควรจะมีออร์คอยู่ที่ด้านหลังดังนั้นแสดงความสามารถของคุณด้วยการเอาชนะมัน

“แน่นอน มันไม่ใช่คำขอที่ยาก”

“กั๊ก”

เด็กที่ชื่อเพลรูเดียได้ก้าวถอยหลังไปหลังจากการเจรจากับเอลลอส แต่เธอก็ยังขบฟันลงที่ปากของเธอด้วยความไม่พอใจ

“นายมันเป็นออร์ค…”

“ฉันไม่ได้เป็นออร์ค!”

มันไม่สามารถจะช่วยได้ที่ฉันจะตะโกนออกไปเมื่อเธอพูดจี้จุดของฉัน เมื่อฉันเผชิญหน้ากับเธอและจ้องมองเธอดูเหมือนจะขู่ในขณะที่เธอหันหลับไป

“ฮึ่ม!”

“ฮึ่ม”

ฉันได้ฮึดฮัดออกมา จากนั้นฉันก็เดินออกมาก เนื่องจากว่ามันไม่มีออร์คที่อยู่ใกล้กับประตูฉันจึงต้องใช้เวลาเดินหาถึง 5 นาที

“ชวิค มนุษย์”

เจอแล้ว มันส่วมใสเกราะหนังอยู่และถือง้าวที่ดูน่ากลัว เมื่อยืนยันแล้วว่าคนอื่นๆกำลังมองอยู่ ฉันก็วิ่งเข้าไปหามัน หอกของฉันได้หมุนอยู่ในหมู่ของฉันและครู่หนึ่งฉันก็กระชับมันแน่น ในตอนนี้เอง

“ฮึบบ”

ฉันได้หลบง้าวของออร์คที่โจมตีเข้ามาและใช้หอกที่เหลืออยู่ของฉันแทงเขาไปเหมือนกับสายฟ้าฟาดที่เป้าหมาย ออร์คมันได้หยุดวิ่งลงไปในทันที ก่อนที่จะส่งเสียงอั๊กออกมาและเริ่มที่จะมีเลือดและฟองไหลออกมาจากปากของมัน ในขณะเดียวกันเมื่อมันล้มลงฉันก็รีบดึงหอกออกมาทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้มันหัก เมื่อปราศจากที่พิงออร์คมันก็ได้ล้มลงไปบนพื้น

ในช่วงแรกที่ฉันต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์ที่โหดร้าย ฉันได้ป้องกันการโจมตีด้วยหอก แต่เนื่องจากว่าความทนทานของหอกมันลดลงต่ำกว่า 10 วันนี้ฉันจึงได้ทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะฆ่าออร์คด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และเนื่องจากว่าความชำนาญในการใช้หอกระดับกลางของฉันมันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำเช่นนี้

“คะ แค่ทีเดียว…!”

“ไม่มีทาง นายเห็นนั้นไหม? ฉันไม่ได้รู้สึกถึงมานาเลย!”

“น่าตกใจจริงๆ…”

เอลลอสและสมาชิกในปาตี้คนอื่นๆดูเหมือนจะตกใจไปกับเทคนิคของฉัน ฮืมฉันเดาว่าวันนี้ฉันจะแข่งกับพอของฉันด้วยทักษะหอกเพียงอย่างเดียวซะแล้ว แต่น่าเสียดายที่ยังมีคนที่ไม่ชอบขี้หน้าฉันอยู่

“ฮึ่ม นั่นมันเป็นเรื่องบังเอิญ ถ้าเขาลองทำอีกครั้งมันก็จะไม่มีทางที่จะหมดจดและสวยงามแบบนี้”

“คะ คุณพอลรูเดีย แม้ว่านี่มันจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ตามแต่นี้มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเหมาะสมที่จะเป็นสมาชิกในปาตี้ของเรา”

“หึ ถ้าหากว่าคุณไม่เห็นด้วยกับฉัน ฉันก็จะออกไป คุณจะต้องเลือกระหว่างฉันกับเขาในปาตี้นี้”

“นะ นั่นมัน…”

“ถ้างั้นฉันก็เพียงแค่เอาชนะอีกตัวหนึ่ง”

เพราะว่าเอลลอสกำลังมีปัญหา ฉันจึงพูดออกมา เอลลอสได้มองมาที่ฉันด้วยน้ำตา มันดูน่าสะอิดสะเอียน ในขณะเดียวกันเพลรูเดียก็พูดออกมา

“ลองดูสิ่ง”

“สบายอะไรอย่างนี้ มีอีกตัวหนึ่งตรงนั้น”

มันเป็นออร์คนักธนู พวกมันเป็นพวกที่น่ารำคาญที่ชอบยิงธนูมาจากระยะไกล แต่โชคดีที่พวกมันไม่ได้โผล่ออกมาบ่อยนัก เมื่อพวกมันมาพร้อมกับออร์คตัวอื่นๆ ฉันก็จะต้องเตรียมตัวที่จะได้รับบาดเจ็บได้เลยในตอนที่ฉันพุ่งเข้าไปต่อสู้กับพวกมัน แต่ว่าในตอนนี้มันมีเพียงแค่ออร์คนักธนูเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น สำหรับฉันการหลบแม้แต่ลูกกระสุนก็ไม่ใช่ปัญหา

“ชวิค อร์คยิงลูกธนู”

“มนุษย์แทงออร์ค”

จากการที่ล่าแต่พวกนี้คนเดียวตลอดทั้งปีมันได้ทำให้ฉันมีงานอดิเรกใหม่ก็คือการพูดคุยตอบโต้ไปกับพวกมอนสเตอร์

ด้วยความง่ายดายฉันได้เอียงหัวของฉันและหลบลูกธนูของออร์คไป ฉนได้ก้ามไปข้างหน้าและแทงเข้าไปที่ออร์คนักธนู เหมือนกับในก่อนหน้านี้หอกของฉันเจาะลงไปที่คอของออร์คอย่างสวยงาม

“มันเป็นยังไงบ้าง”

“อะ…ฮึ่ม…”

แม้ว่าเพลรูเดียจะจ้องเขม็ง เธอได้แต่กำกำปั้นแน่และก้มลงไป เธอนั้นยอมรับความพ่ายแพ้ ฉันไม่รู้ว่าส่วนไหนกันของฉันที่มันทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบ แต่ว่าฉันก็คิดว่าด้วยรูปร่างของตัวเองค่อนข้างจะเป็นไปได้ ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะไม่สนใจ

สิ่งที่สำคัญนั่นมันไม่ใช่ด้านนอก แต่เป็นภายใน! ฉันคัง ชิน ลูกชายของผู้ใช้หอกที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ฉันจะแสดงให้เห็นถึงพลังที่ฉันได้รับมาโดยการแลกกับการใช้ชีวิตปกติของฉัน

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

ICDS, 무한경쟁던전사회
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2015 Native Language: Korean
อ่านนิยาย Infinite Competitive Dungeon Society เรื่องย่อ : เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset