King of Sport – ตอนที่ 88 พิธีเปิดการแข่งขัน

88 พิธีเปิดการแข่งขัน

โจวซื่อหมิงกลับไปที่ห้องฝึกส่วนตัวของเขาหลังจากฝึกซ้อมร่วมกับถังเอี๋ยนในบางครั้ง

….

ถังเอี๋ยนได้รับการฝึกฝนแบบตัวต่อตัวจากฉินไห่หลง

ในบรรยากาศการฝึกซ้อมอันเข้มข้นความแข็งแกร่งของถังเอี๋ยนได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

เมื่อพวกเขาห่างจากเอเชียนเกมส์เพียงสามวันในที่สุดเขาก็บรรลุเป้าหมายด้วยการฝึกฝนอย่างหนัก

ในการยิงธนูลูกศร 72 ดอกของเขาคงที่ที่ 700 คะแนนและมีแนวโน้มที่จะสูงมากขึ้นกว่าเดิมรวมถึงความเร็วในการยิงก็เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ในการชกมวยหลังจากการฝึกฝนอย่างหนักความสามารถในการป้องกันของเขาได้รับการปรับปรุงอย่างมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้

หลังจากเสร็จสิ้นการเตรียมการทั้งหมดนี้เขาและเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ก็ขึ้นเครื่องบินไปยังมณฑลกวางตุ้งซึ่งการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2010 จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

เมืองเจ้าภาพในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งนี้คือกวางโจวซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้ง เกมนี้จะเป็นเจ้าภาพร่วมกันหลายเมืองประกอบด้วยตงก๋วน, ฝ๋อซาน และ จ้านเหว่ยซึ่งเป็นสามเมืองใกล้เคียงเช่นกัน แต่พวกเขามุ่งหน้าไปยังเมืองกวางโจวที่เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิด

ครั้งสุดท้ายที่เขาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชนถังเอี๋ยนยังได้สัมผัสกับพิธีเปิดและเห็นหลินจุนเจี๋ยนักร้องชื่อดังร้องเพลงชาติสิงคโปร์ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันอยู่ในสิงคโปร์ไม่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของหรือภาคภูมิใจมากนัก แต่คราวนี้เหมือนอยู่บ้านความรู้สึกย่อมแตกต่างออกไป

เนื่องจากกฎหมายและระเบียบในกวางโจวไม่ดีเท่าเมืองใหญ่อื่น ๆ พวกเขาจึงถูกห้ามไม่ให้ออกไปข้างนอกโดยเด็ดขาดหลังจากมาถึง

ในคืนที่สองในกวางโจวพวกเขาเป็นตัวแทนทีมจีนในพิธีเปิด

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เอเชียนเกมส์ที่พิธีไม่ได้จัดขึ้นในสนามกีฬาแบบดั้งเดิม แต่จะจัดขึ้นที่เกาะไห่ซินฉาโดยใช้แม่น้ำจูและ Canton Tower เป็นจุดโฟกัส

พวกเขาแห่เรือไปตามแม่น้ำจู พิธีนี้มีการแสดงศิลปะในธีมน้ำและแสดงวัฒนธรรมของกวางโจว

เหอชงนักดำน้ำคนสุดท้ายจุดไฟในกระถางและจุดประทัดจีนแบบดั้งเดิมพลุพุ่งขึ้นไปด้านบนของหอคอยซึ่งเป็นที่เก็บกระถางครบเพลิง ผู้ถือธงของจีนคือจินเจ๋อเว่ยแชมป์พายเรือหญิงโอลิมปิก

การเพลิดเพลินไปกับลมทะเลมันเป็นประสบการณ์ที่ดีเป็นพิเศษสำหรับผู้ชมและนักกีฬา

จากนั้นประธานาธิบดีหูจิ่นเทาและสมาชิกคนอื่นๆของสภาประชาชนแห่งชาติก็ปรากฏตัวขึ้นดึงดูดเสียงเชียร์จากผู้ชมอย่างล้นหลาม

เป็นครั้งแรกที่ถังเอี๋ยนได้เห็นผู้นำประเทศอย่างใกล้ชิด

เขามาไกลแค่ไหนแล้วในชีวิตนี้

….

หลังจากพิธีเปิดถังเอี๋ยนและคนที่เหลือออกไปด้วยกัน

เนื่องจากการแข่งขันยิงธนูจะจัดขึ้นในวันที่สองหลังจากพิธีเปิด ถังเอี๋ยนจึงเข้าร่วมในพิธีเปิดกับเพื่อนร่วมทีมยิงธนูของเขา

ตอนนี้พวกเขากลับมาเป็นกลุ่ม

แต่แล้วพวกเขาได้ยินใครบางคนเรียก: “ถังเอี๋ยนคือคนไหน?”

เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งนี้พวกเขามองขึ้นไปเห็นหลายคนสวมเครื่องแบบทีมเกาหลียืนอยู่ข้างหลังพวกเขา

ผู้นำดูคุ้นเคย แต่ถังเอี๋ยนจำไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร

 

คนเหล่านี้มองไปรอบๆ กลุ่มอายุของพวกเขาคนที่อายุมากที่สุดดูเพียง 23 ปี

“ต้องการอะไร?”หนิงเจ๋อกล่าวเขาอายุมากที่สุดในสามคนและเป็นกัปตันทีม

 

สมาชิกชาวเกาหลีที่อายุมากที่สุดกล่าวด้วยน้ำเสียงที่กราดเกรี้ยว: “ฉันชื่อพัคจีฮยอนพี่ชายของพัคแทอันเพราะถังเอี๋ยน เขาถึงทำลายถึงตัวเองหลังจากกลับจากสิงคโปร์ทุกๆวันเขาเอาแต่เล่นอินเทอร์เน็ตเพื่อระงับความรู้สึกง”

 

หลังจากฟังคำพูดของพัคจีฮยอน ถังเอี๋ยนถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดและสับสนเขาจำการเล่นของพัคแทอันในยูธโอลิมปิกได้

ดูเหมือนอัจฉริยะคนนี้จะเสียใจหลังจากต้องทนทุกข์กับการพ่ายแพ้และได้รับการสอนบทเรียนจากเขา

 

ถังเอี๋ยนรู้สึกว่ามันน่าผิดหวังที่เขาไม่สามารถเอาชนะความสูญเสียและเอามันมาเป็นบทเรียนได้ แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเขาอย่างไร?

หากพัคแทอันไม่สามารถฟื้นตัวได้หลังจากการพ่ายแพ้ครั้งเดียวบางทีเขาอาจไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อการแข่งขันกีฬายิงธนู หลังจบเกมจำเป็นต้องใช้ความอดทนทางจิตใจที่แข็งแกร่ง

 

เมื่อเห็นถังเอี๋ยนถอนหายใจ พัคจีฮยอนก็โกรธและพยายามคว้าตัวเขา แต่ถังเอี๋ยนก้าวถอยหลังและเขาพลาด

เขาสะดุดและก่อนที่เขาจะไปหาถังเอี๋ยนอีกครั้ง คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มดึงเขากลับมาและส่ายหัวใส่เขา

 

“ เดี๋ยวก่อนฉันจะทำให้แกได้สัมผัสกับสิ่งเดียวกับเขา ที่ตกจากสวรรค์สู่นรก!” พัคจีฮยอนกล่าวด้วยความเศร้าโศกขณะที่เขาปล่อยให้ตัวเองถูกดึงกลับไป

“เดี๋ยวก่อน.” ถังเอี๋ยนขัดจังหวะและพูดว่า “พัคแทอันที่กลายเป็นไอ้ขี้แพ้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันมันคือการแข่งขัน คุณคาดหวังว่าฉันควรปล่อยให้เขาชนะงั้นเหรอ”

“เขาเป็นความหวังของทีมยิงธนูเขาตั้งใจจะสืบทอดตำแหน่งของฉัน แต่ตอนนี้เพราะแกเขายอมแพ้ แกทำลายเขา!” พัคจีฮยอนพูดโดยไม่สนใจเขา

“ตรรกะแบบไหนวะ!” ถังเอี๋ยนอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา “ตามทฤษฎีของคุณ ฉันต้องพิจารณาว่าคู่ต่อสู้ของฉันสามารถรับมือได้หรือไม่ก่อนที่ฉันจะเอาชนะพวกเขา”

“ฉันเสียใจที่ได้ยินว่าน้องชายของคุณไม่สามารถแพ้ได้ แต่ในความจริงแล้วมันก็เรื่องของเขาว่าจะสามารถรับได้หรือไม่ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน”

“แก! …. แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร!” พัคจีฮยอนที่เต็มไปด้วยความโกรธขณะที่ชี้ไปที่ถังเอี๋ยน

“ถังเอี๋ยนไม่ต้องสนใจพวกเขาไปกันเถอะ” หนิงเจ๋อพูดและตบบนไหล่ของถังเอี๋ยนเพื่อเดินไปข้างหน้า

“หยุด! แกไปไม่ได้!” พัคจีฮยอนเอื้อมมือออกไปและก้าวเข้าไปขวางทางของพวกเขา

ถังเอี๋ยนไม่หยุดเขาผลักพัคจีฮยอนออกไปจากทาง

พัคจีฮยอนสูงกว่าถังเหยียนอยู่ 1 ช่วงศีรษะ แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย เมื่อเขาถูกผลักเขาก็กระเด็นออกไปด้านข้างจะล้มไปกองกับพื้น

ชิวเทียนและหนิงเจ๋อเดินตามหลังถังเอี๋ยนไป

“แกจะไปไหนกลับมาก่อนกลับมาคุยกับฉันดีๆ!”

ถังเอี๋ยนไม่สนใจพัคจีฮยอนเขาเดินต่อไปโดยไม่หันกลับมามอง

ใบหน้าของพัคจีฮยอนเปลี่ยนเป็นสีแดงและเขายังคงใช้คำหยาบคายต่อไป แต่สีหน้าของถังเอี๋ยนเฉยเมยราวกับว่าเขาไม่ได้ยิน อย่างไรซะเรื่องๆเด็กแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา

Comment

Options

not work with dark mode
Reset