Legend of the mythological genes – ตอนที่ 406 มหาเทพควงกระบอง

วู วู วู!
กระบองโลหะปล่อยเสียงแกว่งไปมากลายเป็นวงกลม เป็นเหมือนอุปสรรคที่ไม่สามารถเข้าถึงได้
เมื่อมีบางสิ่งเข้ามา พวกมันจะถูกกระะบองโจมตีอย่างหนักและแหลกเป็นชิ้น ๆ
แม้ว่าจะมีร่างกายเป็นเหล็ก พวกมันก็จะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย กระจัดกระจายไปทุกหนแห่ง
กระบองศักดิ์สิทธิ์เป็นเสาเทพที่สามารถยึดทวีปได้ มันแข็งมาก
สถานที่ที่เฟิงหลินยืนอยู่กลายเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถล่วงล้ำได้ ทำให้เกิดพายุขึ้น เมื่อใดก็ตามที่แรงอัดของกระบองผ่านไป ทุกอย่างก็จะแหลกสลายไปหมด
สัตว์จักรกลวิญญาณไม่สามารถเข้าใกล้ได้และรีบถอยห่าง
อสูรวิญญาณในร่างของพวกมันมีสติปัญญาและรู้เรื่อง เมื่อพวกมันเห็นฉากนี้ พวกมันก็รีบหลบหลีกวงป้องกันของกระบองโลหะ หันไปโจมตีป้อมปราการกำแพง
ภารกิจแรกของสัตว์จักรกลเหล่านี้คือการโจมตีป้อมปราการที่แข็งแกร่งของมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพง ตอนนี้เฟิงหลินยืนขวางทางพวกมันอยู่ พวกมันจึงหลบทันที ไม่เลือกที่จะต่อสู้ซึ่งๆหน้า
อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกมันจะหลบเลี่ยง แต่เฟิงหลินก็ไม่เต็มใจปล่อยมันไป
เขาริเริ่มที่จะมุ่งหน้าไปหาพวกมัน พุ่งเข้าใส่สัตว์จักรกลขนาดเล็กที่อยู่ไม่ไกล สัตว์จักรกลเหล่านี้มีลักษณะคล้ายกันทั้งหมด รูปร่างของพวกมันดูเหมือนหัวโลหะขนาดใหญ่ที่มีดวงตาโต
 
“เผ่าพันธุ์: มนุษย์ระหว่างดวงดาว สิ่งมีชีวิตฐานคาร์บอน พลังชีวิตกว่า5พัน….
 
เมื่อเห็นเฟิงหลินเข้ามาใกล้ อสูรตาเดียวเหล่านั้นก็ยิงแสงสีเขียวใส่ร่างเขา ราวกับว่าต้องการแทงทะลุเขาอย่างสมบูรณ์ ตัวเลขยังคงกะพริบ การวิเคราะห์เกิดขึ้นไม่หยุด
เฟิงหลินตัวสั่นและเปิดใช้งานอาณาเขตราชาลิงโดยสัญชาตญาณ พลังลิงหัวใจควบแน่น
การตรวจสอบของอสูรตาเดียวหยุดลงทันที
ไม่มีช่องโหว่รอบตัวเฟิงหลิน และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรั่วไหลข้อมูลใด ๆ ออกไปอีก
ในทางตรงกันข้าม เมื่อดวงตาของเขาเปิดและปิด พวกมันก็ปล่อยแสงสีเงินและพลังวิญญาณที่ทรงพลังออกมา มันเหมือนกับมือที่มองไม่เห็นมากมาย
เมื่อใดก็ตามที่พลังพุ่งผ่านไป มันจะล้อมรอบอสูรตาเดียวเหล่านั้นไว้ ยึดจับพวกมันทั้งหมด
ตาเดียวของสัตว์จักรกลเหล่านั้นปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา พวกมันต้องการหลุดพ้นจากพันธนาการที่มองไม่เห็น
ปัง ปัง ปัง!
พวกมันค่อยๆหลุดพ้นจากเชือกพลังวิญญาณที่มองไม่เห็น
อย่างไรก็ตาม เฟิงหลินจะให้โอกาสพวกมันได้ยังไง?
เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับลิงทองคำกำลังตีลังกา
วูววววว!
กระบองโลหะหมุนไปในอากาศ แยกออกเป็นหลายพันอันในทันที มุ่งโจมตีอสูรตาเดียวเหล่านั้น
ไม่รู้ว่าร่างกายของสัตว์จักรกลวิญญาณหลอมมาจากโลหะชนิดใด แต่มันมีความทนทานสูงมาก
อย่างไรก็ตามเฟิงหลินมีกระบองศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นวัตถุโบราณ โลหะแข็งแกร่งเหล่านี้ถูกบดขยี้อย่างง่ายดายภายใต้กระบองโลหะ
ทุกที่ที่กระบองกวาดผ่าน ทุกอย่างจะถูกบดขยี้อย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้นกลุ่มอสูรตาเดียวก็ถูกโยนเข้าสู่ความโกลาหลครั้งใหญ่ในทันที
สัตว์จักรกลตาเดียวที่เหลืออยู่เปล่งลำแสงออกมา ถักทอเป็นตาข่ายบนท้องฟ้า มันแผดเผาและแหลมคม ทุกอย่างจะถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พวกมันต้องการเฉือนเฟิงหลินเป็นชิ้น ๆ
เปิด!
เฟิงหลินส่งเสียงดังอย่างไม่กลัวเกรง
เขตปกครองราชาลิงถูกบังคับให้เปิดขึ้น ทุกอย่างในอวกาศพลันตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
อวกาศบิดเบี้ยวเล็กน้อย
ลำแสงเหล่านั้นดูเหมือนจะปะทะเข้ากับกระจกที่มองไม่เห็นจำนวนมาก จากนั้นหักเหไปทุกทิศทาง จบลงด้วยการระเบิดสัตว์จักรกลเหล่านั้นเอง
เฟิงหลินก้าวออกไปท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย
กระบองโลหะ มหาเทพควงกระบอง!
กระบองโจมตีอย่างดุเดือด สร้างความโกลาหลอย่างมากบนอวกาศที่เต็มไปด้วยดวงดาว
เฟิงหลินกลายเป็นหนึ่งเดียวกับกระบอง หมุนอย่างรวดเร็วในอากาศ เขาเคลื่อนไหวด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ รวดเร็วจนเกิดภาพติดตา
อสูรตาเดียวเหล่านั้นไม่สามารถหลุดพ้นได้อย่างสมบูรณ์และไม่สามารถต้านทานแรงดึงดูดได้
ปัง ปัง ปัง!
พวกมันทั้งหมดระเบิดอย่างสมบูรณ์ ถูกบดขยี้เป็นเศษเล็กเศษน้อย
อสูรวิญญาณจำนวนมากต้องการล่องลอยออกจากชุดเกราะของพวกมัน ปล่อยเสียงคำรามเงียบๆ พวกมันดูบิดเบี้ยวและน่ากลัวขณะที่พยายามที่จะหลบหนี
 
“ แกคิดจะไปไหน?” เฟิงหลินคาดการณ์ไว้แล้วและปล่อยเสียงเย็นเยือกออกมา เขตปกครองราชาลิงขยายออกไปเหมือนตาข่ายขนาดใหญ่ ครอบคลุมพวกมันทั้งหมด ลม ไฟ สายฟ้าและไฟฟ้ารวมตัวกันทันทีจัดการอสูรวิญญาณทั้งหมดจนหมดไม่เหลือแม้แต่เศษผง
ภายใต้การโจมตีของเฟิงหลิน เผ่าพันธุ์วิญญาณต่างรู้ว่าเขามีพลังมากเพียงใด พวกมันจึงหลีกเลี่ยงเขาได้อย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เฟิงหลินเดินผ่านไป สัตว์จักรกลวิญญาณเหล่านั้นจะเคลื่อนตัวออกไปทันที ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา
เฟิงหลินยืนอ้างว้างไม่มีใครเข้าใกล้
ในขณะนี้คนที่เหลือกำลังต่อสู้กับเผ่าพันธุ์วิญญาณอย่างดุเดือดทำให้เกิดการต่อสู้ที่ยากลำบาก
พวกเขาไม่มีอาวุธสังหารที่ยอดเยี่ยมเหมือนกระบองศักดิ์สิทธิ์และการใช้พลังทางพันธุกรรมเพื่อต่อสู้กับสัตว์จักรกลนั้นก็ทำให้พวกเขาเผชิญกับความยากลำบาก
สัตว์จักรกลวิญญาณยังรู้จักกลัวผู้ที่แข็งแกร่งกว่า และรังแกผู้อ่อนแอ เฟิงหลินยิ้มอย่างเย็นชา
(คิดจะหลบหน้าฉัน?ฉันจะปล่อยให้พวกแกทำยังงั้นได้ยังไง?)
เขาหันไปยังกลุ่มคนที่ถูกล้อมด้วยสัตว์จักรกลวิญญาณ
 
“ฉันมาได้แค่นี้?!” นักรบดวงดาวถูกปกคลุมไปด้วยรอยฟกช้ำและเกราะไมโครเมชาที่เขาสวมใส่ก็ปล่อยแสงสีแดงที่ออกมาซึ่งเป็นสัญญาณว่ามันถึงขีดจำกัดแล้ว
 
เมื่อสูญเสียการปกป้องของเกราะเมชา ร่างมนุษย์ของเขาจึงได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมนอกโลก ใคร ๆ ก็สามารถจินตนาการได้ว่าชะตากรรมของเขาจะเป็นยังไง
เขามองสัตว์จักรกลดุร้ายตรงหน้าด้วยความป่าเถื่อน
(สารเลว ต่อให้ต้องตาย ฉันก็จะลากพวกแกไปด้วย!)
เขาส่งเสียงร้องคำราม เปลวไฟพลันลุกขึ้นบนร่างกายของเขา เขากลายเป็นเหมือนดาวต กพุ่งเข้าหาสัตว์จักรกลอย่างไม่ลังเล ดูราวกับว่าเขากำลังจะชนพวกมันและให้ทั้งสองฝ่ายพินาศไปด้วยกัน
(อะไร?)
ในพริบตาต่อมา ดวงตาแสนโกรธเกรี้ยวเขาก็หรี่ลง เงาสีดำกวาดมา ฟาดฟันลงมาจากท้องฟ้าด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ราวกับว่าภูเขาลูกใหญ่ได้กดทับลงมา กลิ่นอายรุนแรงทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก
ตูม!
สัตว์จักรกลที่ดุร้ายและน่ากลัวถูกทุบจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที ไม่ยอมให้แม้แต่วิญญาณที่อยู่ข้างในหลบหนี
 
“ขอบคุณ … ” ก่อนที่เขาจะกล่าวขอบคุณ เงาสีดำก็พุ่งไปทั่วท้องฟ้าโดยไม่หยุดนิ่ง มุ่งตรงไปยังพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น
 
ทุกที่ที่เขาผ่านไปจะมีเศษโลหะถูกทิ้งไว้
ไม่มีสัตว์จักรกลตัวใดที่คู่ควรกับบุคคลนี้ ภายใต้การโจมตีของกระบอง ทุกอย่างจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ
นักรบดวงดาวกัดฟัน เดินตามเขาไปโดยสัญชาตญาณ
หนึ่งคนหนึ่งกระบอง ด้วยความกล้าหาญที่ไม่หยุดยั้ง เขาสามารถกวาดผ่านกองทัพสัตว์จักรกลวิญญาณได้
เส้นทางตำนานของซุนหงอคงนั้นไร้ที่ติ ไม่มีช่องโหว่ใด ๆ
แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับสัตว์จักรกลวิญญาณที่แปลงมาจากโลหะผสม เขาก็ไม่เสียเปรียบเลย ด้วยการสนับสนุนจากพลังทางพันธุกรรมของเขา เขาแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ออกมา มีเพียงสัตว์จักรกลขนาดใหญ่ที่เป็นแกนกลางของกองทัพใหญ่เท่านั้นที่สามารถปราบปรามเขาได้
เฟิงหลินยังคงฆ่าอย่างไม่หยุดยั้ง ค่อยๆพุ่งเข้าหาด้านในของคลื่นสัตว์จักรกล แหวกเปิดเส้นทาง
นักรบดวงดาวโดยรอบรวมตัวกันตามสัญชาตญาณ พุ่งตามเขาไป
ชายหนึ่งคนและทีมหนึ่งพุ่งออกไปเหมือนลูกศร มุ่งตรงไปยังแกนกลางของกองทัพ
นั่นคือจุดที่การต่อสู้รุนแรงที่สุด!

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset