Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 500 : สอบสวนฉลามขาว

ราชันเร้นลับ 500 : สอบสวนฉลามขาว

โครม!

บาร์เทนเดอร์ล้มลงไปนอนชักบนพื้นผับ

ฉลามขาว·แฮมิลตันไม่กล่าวสิ่งใดต่อ เพียงพ่นลมหายใจฟึดฟัดพร้อมกับเดินขึ้นบันไดไม้ไปยังชั้นสองจนเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าด

หลังจากเรื่องราวน่าตื่นเต้นจบลง ขี้เมามุงหลายคนเริ่มทยอยเดินออกจากร้าน ส่วนกัปตันไอร์แลนด์เดินกลับขึ้นไปยังชั้นสองเพื่อเล่นไพ่ต่อ ราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ไคลน์ฉวยโอกาสเดินตามขึ้นไป

ชายหนุ่มกลับมายังผับปลาบินและไวน์มิใช่เพื่อจัดการกับฉลามขาวผู้ไม่มีพิษภัยต่อตน แต่กลับมาเพราะต้องการสืบเค้นข้อมูลจากเจ้าของผับซึ่งมีเส้นสายกับโจรสลัดย่างกว้างขวาง เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ตามชื่อของตัวตนใหม่ไคลน์ เกอร์มัน ได้บอกเป็นนัยแล้วว่าเกิดมาเพื่อล่าโจรสลัดชั่วช้าอันเต็มไปด้วยบาปหนา ชายหนุ่มมีแผนสังเวยเหยื่อเหล่านั้นให้เป็นอาหารของยุบพองหิวโหย รวมถึงขโมยพลังพวกมันมาใส่ไว้ในถุงมือ

เนื่องจากเมืองท่าดาเมียร์ไม่มีแก๊ส สองฝั่งทางเดินจึงค่อนข้างมืด แสงสว่างเดียวมาจากเชิงเทียนติดผนังทำจากทองแดง

ไคลน์สำรวจบรรยากาศรอบตัวก่อนสักพักจะใช้ฝ่ามือลูบไล้ใบหน้า แอบเปลี่ยนรูปโฉมให้เหมือนกับคนคุมผับชั้นล่าง ตามด้วยการใช้เวทมนตร์ลวงตาปรับแต่งเครื่องแต่งกายให้เหมาะสม

หลังจากเตรียมการเสร็จ ชายหนุ่มเดินตรงไปยังห้องหนึ่งซึ่งสัมผัสวิญญาณระบุว่าเป็นห้องทำงานของฉลามขาว·แฮมิลตัน

ไคลน์เดินผ่านห้องเล่นไพ่อย่างเงียบงันโดยไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ

เดินไปสักพัก มันหยุดลงหน้ากลุ่มคนคุมบนทางเดินชั้นสอง ตามด้วยการพูดเสียงต่ำ

“ข้างล่างเกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว!”

“โธ่พระองค์วายุสลาตัน! คืนมันอะไรกัน!” คนคุมถอนหายใจยาว

“ได้แต่หวังว่าสาวสวยข้างล่างจะไม่ได้รับอันตราย” อีกคนเสริมด้วยสีหน้าเป็นกังวล

มันหมายถึงโสเภณีผู้เข้ามาหาลูกค้าในผับ

“ไม่ต้องห่วง พวกหล่อนสบายดี”

ไคลน์เดินผ่านกลุ่มคนคุมร้านไปเคาะประตูห้องทำงานของฉลามขาว

“ใคร?” แฮมิลตันถาม

“ผมเองบอส ข้างล่างเกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว!” ไคลน์เลียนแบบพฤติกรรมของคนคุมร้านหลังจากเคยเฝ้าจับตามองมาสักพัก

“บัดซบ!” แฮมิลตันแผดเสียง “เข้ามาอธิบายรายละเอียดให้ฉันฟัง!”

ไคลน์บิดกลอนประตูและเดินเข้าไป

เมื่อห้องปิดสนิท ชายหนุ่มสลายเวทมนตร์ลวงตาบนเสื้อผ้า กล้ามเนื้อบนใบหน้าเริ่มยุบพองและเปลี่ยนรูปลักษณ์กลับเป็นลูกค้าหน้าใหม่คนเดิม ชายผมทองตาสีฟ้า เจ้าของใบหน้าจืดชืดไม่มีจุดเด่น

“นี่แก…” แฮมิลตันพลันผงะ พลางรีบอ้าปากกว้างเตรียมส่งเสียงตะโกน

ในเวลาเดียวกัน เกล็ดปลาจำนวนมากเริ่มผุดขึ้นบนหลังมือฉลามขาว ก่อนจะลุกลามไปทั่วร่างกายอันอวบอ้วนและสูงใหญ่

อย่างไรก็ตาม หัวใจแฮมิลตันพลันเต้นผิดจังหวะกะทันหัน ความหวาดกลัวจากก้นบึ้งแล่นขึ้นมาสุมอยู่ตรงลำคอจนหายใจไม่ออก

มันรู้สึกอย่างแรงกล้าว่า ชายแปลกหน้าตรงประตูคือปีศาจหิวกระหายผู้ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาหลายวัน ดวงตาแสนเย็นชาคู่นั้นราวกับจะเสียดแทงเข้าไปในดวงวิญญาณ

ฉลามขาว·แฮมิลตันแสดงอาการลนลานอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ มันมิอาจควบคุมพฤติกรรมของตัวเองได้ตามใจนึกคิด

ไคลน์ย่างกรายเข้าหาอย่างไม่รีบ ก่อนจะนั่งลงพร้อมเผยรอยยิ้มอ่อนโยน

“คุยกันก่อนไหม”

ทันใดนั้น ความรู้สึกคล้ายกับถูกสัตว์ประหลาดจ้องมองพลันมลายหาย แฮมิลตันถอนหายใจยาวด้วยร่างกายสั่นระริก

มันไม่กล้าแหกปากร้องตะโกนอย่างบุ่มบ่าม ทำเพียงซักถามโดยมีเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นกลางใบหน้า

“แกเป็นใคร ต้องการอะไร”

“นักล่า” ไคลน์ตอบเสียงเรียบ “ได้ยินว่าแกมีเส้นสายกับกลุ่มโจรสลัด ฉันอยากฟังสถานการณ์ล่าสุดของพวกมัน”

“ฉันไม่ได้…” ฉลามขาวรีบปฏิเสธตามจิตใต้สำนึก

แต่ทันใดนั้น บรรยากาศรอบตัวคู่สนทนาคล้ายกับมีดวงตาของอสุรกายหิวโหยจ้องมองกลับมาอีกครั้ง ราวกับดวงตาของชายผมทองกำลังส่องแสงสีแดงเข้ม

ไคลน์กล่าวต่อไปอย่างเย็นชาตามลักษณะนิสัยของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ในอุดมคติ

“แกมีสองตัวเลือก หนึ่ง พูดความจริง สอง ถูกเชือดและพูดความจริง”

ฆ่าทิ้งและสื่อวิญญาณ…?

แฮมิลตันย่อมเคยได้ยินข่าวลือของพลังสื่อวิญญาณคนตายมาบ้าง จึงกลืนน้ำลายคำโต

“ก…แกจะอยากรู้ไปทำไม”

ไคลน์ยิ้มสุภาพ

“ฉันคือนักล่า… ปรารถนาค่าหัวพวกมัน”

แฮมิลตันเริ่มสัมผัสได้ว่า รอยยิ้มอ่อนโยนของชายตรงหน้ากำลังเปี่ยมไปด้วยความวิกลจริต จึงอุทานอย่างหวาดผวา

“ก…แกเสียสติไปแล้วรึไง! ฉันเคยเห็นนักผจญภัยโง่เขลามาแล้วนับไม่ถ้วน! ทุกคนถูกส่งลงไปนอนจมก้นทะเลอย่างน่าสมเพช! จริงอยู่ การฆ่าโจรสลัดสักคนไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก แต่แกรับมือกับการล้างแค้นอย่างไม่มีวันจบสิ้นได้หรือ… โสเภณีในผับอาจดูไม่มีพิษภัย แต่ส่วนใหญ่เป็นสายข่าวให้โจรสลัดทั้งสิ้น! พวกพ้องของแก วันดีคืนดีจะถูกติดสินบนและหันมาแทงข้างหลัง! โจรสลัดจะสืบหาตำแหน่งของแกจนพบและล้อมเรือแกไว้ทุกทิศทาง ในสถานการณ์เช่นนั้น แกจะช่วยเหลือผู้โดยสารคนอื่นได้อย่างไร แกจะรอดจากการระดมยิงปืนใหญ่ได้ด้วยวิธีไหน ใจกลางทะเลอันเวิ้งว้างและไม่มีช่องทางให้หลบหนี แกจะเอาชีวิตรอดออกมายังไง!”

หลังจากพรั่งพรูทุกสิ่งภายในหนึ่งลมหายใจ ตรงข้ามกับความหวาดกลัว ฉลามขาวกลับเห็นชายผู้เรียกตัวเองว่านักล่า กำลังฉีกยิ้มกว้างยิ่งกว่าเก่า

“ฆ่าทิ้งให้หมดก็สิ้นเรื่อง”

ชายคนนี้เสียสติไปแล้ว…

ฉลามขาวสูดลมหายใจยาว

“จริงอยู่ ฉันอาจเคยติดต่อกับโจรสลัดหลายกลุ่ม แต่ทั้งหมดเป็นเพียงการกระทำฝ่ายเดียว พวกมันจะแวะมาขายเครื่องเพชร แลกเปลี่ยนเงินตรา และข้าวของอื่นๆ กับเหล้า เบียร์ ไวน์ อาหาร น้ำสะอาด อาวุธ และโสเภณีจากผับของฉัน แต่พวกมันจะเป็นฝ่ายเริ่มติดต่อมาหาก่อนทุกครั้ง ฉันไม่ทราบว่าเรือแต่ละลำกำลังแล่นอยู่แถวไหน ทำได้แค่รอในเมืองท่าดาเมียร์แห่งนี้…”

“เล่าต่อ” ไคลน์ทำเสียงเยือกเย็น

แต่เพียงคำเดียวก็มากพอจะทำให้ฉลามขาวสั่นกลัวจากก้นบึ้ง

ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มมิได้เกรงกลัวการตามล่าหรือแก้แค้นจากโจรสลัด ในฐานะผู้ไร้หน้า หากตนปล่อยให้ถูกสะกดรอยจนอีกฝ่ายทราบความเคลื่อนไหว ก็ควรไปกระโดดน้ำตายในความไร้ฝีมือ

เล่าต่อ…?

ลูกกระเดือกฉลามขาวขยับขึ้นลงโดยไม่มีเสียงใดเล็ดลอด

มันเอาแต่นั่งจ้องสุภาพบุรุษผู้มีรอยยิ้มอ่อนโยนแต่ดวงตาแฝงความบ้าบิ่นคุกรุ่นอยู่ภายใน

บรรยากาศเงียบงันภายในห้องเปรียบดังลมสงบก่อนพายุเริ่มก่อตัว สายลมกำลังหมุนเอื่อยอย่างอ่อนโยนและบรรจงทวีความเกรี้ยวกราดขึ้นทีละนิด

“…เข้าใจแล้ว ฉันแอบรวบรวมข้อมูลส่งให้โจรสลัดบางกลุ่ม และถ้ามีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น ฉันจะต้องรีบแจ้งข้อมูลผ่านเครื่องรับส่งวิทยุซึ่งพวกมันทิ้งไว้ให้”

ฉลามขาวไม่กล้าโกหก มันเคยได้ยินว่ามีผู้วิเศษบางเส้นทางชำนาญการจับโกหก

“เครื่องรับส่งวิทยุ?”

ขณะนั่งจ้องปลางับเหยื่อล่อ ไคลน์ทวนคำสำคัญจากประโยคอีกฝ่าย

“พวกมันเรียกว่าแบบนั้น เป็นอุปกรณ์คล้ายกับโทรเลข แต่ไม่ต้องใช้สาย”

เมื่อกล่าวจบ แฮมิลตันลุกเดินไปทางตู้นิรภัยสีเทาและนั่งยอง

โทรเลขไร้สาย…? โจรสลัดครอบครองเทคโนโลยีล้ำสมัยแบบนี้ด้วยหรือ…

ไคลน์พอจะจินตนาการหลักการทำงานของเครื่องรับส่งวิทยุออก

ชายหนุ่มเคยคิดจะประดิษฐ์อะไรทำนองนี้มาก่อน แต่หลังจากอ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารจำนวนมาก ไคลน์ได้ทราบว่าเคยมีคนประดิษฐ์ไว้นานแล้ว แต่มิอาจผลักดันให้เกิดความแพร่หลายได้ สาเหตุหลักมาจากทะเลคลั่งซึ่งกั้นแบ่งระหว่างทวีปเหนือและใต้ รอบทะเลดังกล่าวมีความผันผวนของพลังงานและสภาพอากาศอย่างรุนแรง ต่อให้พกเครื่องส่งโทรเลขไร้สายไปก็เปล่าประโยชน์

สถานการณ์ยังคล้ายคลึงกันในทะเลโซเนียและทะเลหมอก สภาพอากาศทั้งสองห้วงสมุทรได้รับอิทธิพลมาจากทะเลคลั่งกึ่งกลาง ส่งผลให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีความแปรปรวน ระยะทางการใช้งานโทรเลขไร้สายจึงค่อนข้างจำกัด

…กำลังจะบอกว่า โจรสลัดครอบครองวิทยุรุ่นพัฒนาซึ่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้แล้ว?

ไคลน์นั่งจ้องฉลามขาวงัดแผ่นกระดานเพื่อหาปุ่มกลไกสำหรับเปิดประตูลับบนผนัง

ด้านหลังประตูลับเป็นตู้เก็บของสามชั้น ช่องบนสุดเก็บเอกสาร ธนบัตร ลูกโม่ดัดแปลง ปืนรุ่นใหม่ และอาวุธอื่น ส่วนชั้นล่างสุดมีเครื่องจักรสีดำกลไกซับซ้อนวางจนเต็มช่อง

เพียงชำเลือง ผนวกกับข้อมูลจากโลกเก่าและข้อมูลจากการศึกษาของโลกใบนี้เบื้องต้น ไคลน์เดาได้ทันทีว่านี่คือเครื่องรับส่งวิทยุ

“พวกเขาเรียกกันว่าเครื่องรับส่งวิทยุ หากฉันส่งข้อมูลไป คนจากฝั่งเกาะรอสต์สามารถรับข้อความได้ด้วยอุปกรณ์แบบเดียวกัน แต่ถ้าต้องการส่งข้อความไกลกว่านั้นก็ต้องพึ่งพาโชคสักหน่อย มันมีขีดจำกัดค่อนข้างมาก”

แฮมิลตันเองก็ไม่ทราบรายละเอียดของอุปกรณ์ชิ้นนี้มากนัก เพียงเล่าไปตามจริงจากประสบการณ์ใช้งาน

ประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องรับส่งวิทยุรุ่นล่าสุดในนิตยสาร… ใครเป็นคนผลิตกันนะ…

ไคลน์ซักถามหลังจากครุ่นคิดอย่างเงียบงัน

“แล้วพวกมันเป็นใคร”

ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นนักล่าหัวโบราณผู้เข้าไม่ถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่

ฉลามขาว·แฮมิลตันปาดเหงื่อเม็ดใหญ่กลางหน้าผากพร้อมกับรีบขานตอบ

“คนหนึ่งอ้างตัวว่าทำงานรับใช้กัปตันเรือรุ่งอรุณ โอเดล·อสรพิษเหรียญเงิน ส่วนอีกคนอ้างตัวว่าทำงานเป็นสายข่าวให้กับพลเรือเอกโลหิต เฒ่าควินน์ พลเรือเอกโลหิตมักปรากฏตัวพร้อมกับเฒ่าควินน์เสมอ แต่ก็ไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าพวกเขาทำงานด้วยกัน ในกรณีของโอเดล รายนั้นกล่าวอ้างลอย ๆ ฝ่ายเดียว”

กัปตันเรือรุ่งอรุณ? หมายถึงราชินีเงื่อนงำ?

ไคลน์เบือนหน้าไปทางอื่น บนมือขวาปรากฏเหรียญทอง

เหรียญถูกควงรอบนิ้วก่อนจะดีดขึ้นไปในอากาศและตกลงลงฝ่ามือ ฉากตรงหน้ายิ่งเพิ่มความกลัวและหวาดระแวงให้ฉลามขาว

ไคลน์ชำเลืองด้วยหางตาจนทราบผลลัพธ์ ตามด้วยการลุกขึ้นยืน

“ใครเป็นคนมอบโอสถให้แก”

“ท…เฒ่าควินน์” แฮมิลตันลังเลสักพัก ก่อนจะเลือกตอบไปตามความจริง

ไคลน์พยักหน้าโดยไม่ถามต่อ และหันหลังเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบงัน

ตึง!

ประตูไม้ถูกเปิดและปิด เพียงไม่นาน ชายสวมโค้ทดำกระดุมสองแถวก็หายไปจากการมองเห็นของฉลามขาวอย่างสมบูรณ์

แฮมิลตันถอนหายใจยาว รอจนกระทั่งผ่านไปราวสิบวินาที จึงค่อยทำสีหน้าโล่งอกอย่างแท้จริง

จากนั้น ฉลามขาวรีบปาดเหงื่อและวางเครื่องรับส่งวิทยุลงบนโต๊ะทำงาน พลิกอ่านข้อความบนสมุดบันทึก ปิดท้ายด้วยการส่งโทรเลขทางไกล

“ฉันถูกหมายหัว! โดยชายนิรนาม!”

ด้านข้างแฮมิลตันผู้กำลังจดจ่อ ไคลน์ยืนล้วงกระเป๋าพลางจ้องมองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างเงียบงัน สมองบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับคลื่นความถี่วิทยุและหลักการเข้ารหัสจนขึ้นใจ

ภาพการเดินออกจากห้องในจังหวะก่อนหน้าเป็นเพียงมายากลเด็กเล่น แต่ก็มากพอจะตบตาผู้วิเศษลำดับ 9 เส้นทางลูกเรือ

สำหรับเนื้อหาการสอบปากคำฉลามขาวก่อนหน้านี้ ไคลน์ไม่กังวลว่าจะลืม เพราะมันสามารถใช้พลังทำนายเรียกคืนความทรงจำได้ทุกเมื่อ

พลเรือเอกโลหิตกับคนของมันรักการฆ่าฟันและหลั่งเลือด พวกมันหลงใหลการขืนใจหญิงสาวขณะปล้นเรือเดินสมุทรของผู้บริสุทธิ์ และมักก่อโศกนาฏกรรมบ่อยครั้ง…

สาธารณชนต่างทราบเรื่องนี้ดี และพวกมันก็ชอบประกาศศักดาความโฉดของตัวเองอย่างภาคภูมิใจบ่อยครั้ง…

ได้เป้าหมายในการล่าแล้ว ถึงจะมีความเสี่ยงสักหน่อย แต่เราก็จะจัดลำดับพวกมันไว้อันดับต้น ๆ …

ไคลน์ครุ่นคิดพลางเดินออกจากห้องขณะฉลามขาวกำลังนำเครื่องรับส่งวิทยุเก็บกลับใส่ตู้นิรภัยสามชั้น

ชายหนุ่มไม่มีแผนจัดการกับฉลามขาวในตอนนี้ เพราะเกรงว่าจะทำให้เหยื่อตัวจริงตื่นตูมและระมัดระวังตัวจนเกินเหตุ

เหนือสิ่งอื่นใด ในสายตาไคลน์ คนประจำท้องถิ่นอย่างฉลามขาวสามารถเชือดทิ้งตอนไหนก็ได้

ไคลน์เดินออกจากห้องทำงานของแฮมิลตันโดยปราศจากสุ้มเสียง ประตูไม้ถูกเปิดและปิดสนิทอย่างเงียบงัน มีเพียงสายลมแผ่วเบาพัดผ่านเจือจาง

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset