Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 430 : วันใหม่

ราชันเร้นลับ 430 : วันใหม่

สภานักสิทธิ์สนธยา…

เป็นองค์กรลับประเภทใด? ทำไมเราถึงไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน…ย้อนกลับไปเมื่อครั้งเราจ่ายเงินซื้อข้อมูลองค์กรลับทั่วโลก มิสเตอร์แฮงแมนไม่เคยเอ่ยชื่อดังกล่าวให้ฟัง…

ออเดรย์ประหลาดใจแกมสับสน หมอกสีเทาเริ่มจางลง ร่างของบุรุษมาดสง่างามนามมิสเตอร์ฟูลพลันเลือนหาย

เด็กสาวมองไปรอบตัวพร้อมกับสร้างสมมติฐานในใจ

สภานักสิทธิ์สนธยาสินะ…ฟังจากชื่อก็น่าเกรงขามกว่าองค์กรเก่าแก่อย่างชุมนุมแสงเหนือหรือโรงเรียนชีวิตแล้ว คงลึกลับจนแม้แต่มิสเตอร์แฮงแมนผู้มากประสบการณ์และเป็นคนของโบสถ์วายุสลาตัน ก็ยังไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน…

เป้าหมายของพวกมันอาจเป็นการลอบสังหารบุคคลสำคัญระดับอาณาจักร ไม่สิ ระดับโลก เพื่อสร้างความปั่นป่วน…

พวกมันคงคอยบงการโลกอยู่ในเงามืด คอยจับตามองความเคลื่อนไหวของทวีปเหนือใต้ตลอดเวลา และมีเป้าหมายในการครอบครองโลกโดยสมบูรณ์สักวัน เข้าใจแล้วว่าทำไมมิสเตอร์ฟูลถึงสนใจเป็นพิเศษ…

ในคราวก่อน ท่านไม่ได้ส่งผู้รับใช้มาช่วยฆ่าคีลิงเกอร์เพียงเพราะมีรางวัลตอบแทนสมน้ำสมเนื้อ แต่เป็นเพราะท่านให้ความสนใจสภานักสิทธิ์สนธยาต่างหาก…

ลึกลับระดับเดียวกับชุมนุมทาโรต์ของเรา…

ออเดรย์กำลังเกิดความรู้สึกประหลาด ยากจะอธิบายเป็นคำพูด เป็นอาการตื่นเต้นเจือด้วยความภาคภูมิใจ ส่งผลให้อารมณ์เศร้าโศกจากการสูญเสียดยุคนีแกนบรรเทาลง

เรามั่นใจว่า โลกผู้วิเศษส่วนใหญ่คงยังไม่รู้จักสภานักสิทธิ์สนธยามากนัก แต่เราคือหนึ่งในน้อยคนนั้น และชุมนุมทาโรต์ของพวกเราก็กำลังหมายหัวมันอยู่!

ออเดรย์ยืนตัวตรง สายตาจ้องมองเรือนร่างของตนในกระจกเต็มบาน

เด็กสาวเชิดคางขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นมุมน่ารักน่าชังเป็นพิเศษ

ขณะดวงตากำลังเพ่งมองบุคคลในกระจก จิตใจออเดรย์เริ่มผ่อนคลาย สำหรับเด็กสาว นี่คือครั้งแรกอย่างแท้จริง กับการตระหนักว่าตนต้องรีบพัฒนาระดับพลังโดยด่วน

แม้แต่ดยุคนีแกน ผู้วิเศษลำดับกลาง แถมยังมีองครักษ์ผู้วิเศษแข็งแกร่งคอยคุ้มกันอีกเป็นจำนวนมาก ก็ยังถูกลอบสังหารเอาได้ เช่นนั้นแล้ว บิดาของเธอซึ่งเป็นเพียงคนธรรมดาจะปลอดภัยได้อย่างไร

แม้ว่าตระกูลของเราจะมั่งคั่งและมีบอดี้การ์ดผู้วิเศษคอยคุ้มกันจำนวนหนึ่ง รวมถึงยังมีการคุ้มครองจากโบสถ์รัตติกาลเป็นพิเศษ แต่ทางฝั่งท่านดยุคนีแกนก็ได้รับการคุ้มกันในระดับไม่ต่างกันเลยสักนิด…

ท่าไม่ดีแล้ว… ต้องรีบพัฒนาเป็นลำดับ 7 โดยเร็ว จากนั้นก็ลำดับ 6 และคอยเร้นกายในเงามืด รับบทบาทผู้พิทักษ์ของตระกูล เป็นปราการด่านสุดท้ายให้ท่านพ่อ ท่านแม่ และเหล่าท่านพี่!

ณ เมืองหลวงแห่งหมู่เกาะรอสต์

เมืองแห่งการให้

โทสะสีครามแล่นมาจอดเทียบท่า เปิดโอกาสให้ลูกเรือผ่อนคลายตัวเองอย่างอิสระ

อัลเจอร์·วิลสันเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดคลุมยาวลวดลายสายฟ้า ก่อนจะย่างกรายไปทางวิหารซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งจากบรรดาหมู่เกาะทั้งหมด

มหาวิหารแห่งคลื่น

สถาปัตยกรรมยังเป็นแบบโบราณ เต็มไปด้วยเสาหินต้นใหญ่และรูปทรงโค้งเว้า มองจากภายนอกจะเห็นหลังคาโดมสูงเด่น ขนาบข้างด้วยหอนาฬิกาใหญ่จำนวนสองเรือน

ย้อนกลับไปในยุคเพิ่งเริ่มล่าอาณานิคมได้ไม่นาน ผู้บุกเบิกไม่ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างวิหารสักเท่าไร และนั่นได้กลายเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมในเวลาถัดมา

เมื่อถูกรายล้อมด้วยชนเผ่า ผืนป่าเขียวขจี และซากอารยธรรมโบราณ คณะสำรวจยุคแรกได้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีใครต้นตอการตาย และการยึดครองดินแดนก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

หลังจากเกิดความสูญเสียอย่างยาวนาน อัตราการตายพลันลดลงอย่างกะทันหันเมื่อมหาวิหารหลายแห่งถูกสร้างเสร็จในเวลาไล่เลี่ยกัน จนกระทั่งการตายอย่างเป็นปริศนาไม่เกิดขึ้นอีกเลย กลายเป็นเพียงเรื่องเล่าในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์

อัลเจอร์หยุดยืนหน้าวิหารหลังใหญ่ มิได้รีบร้อนเดินเข้าไปด้านใน มันมองผ่านเข้าไปทางหน้าต่าง และพบกับห้องมืดสลัวซึ่งมีเพียงแสงเทียนอบอุ่น

ถัดมา อัลเจอร์เดินตรงเข้าไปในโถงสวดมนต์หลัก กำมัดขวาแน่นและนำมาทุบอกเสียงดัง ก่อนจะหันไปทางบิชอปด้านข้างและกล่าวอย่างขึงขัง

“พายุจงสถิตกับท่าน!”

“พายุจงสถิตกับท่าน” บิชอปตอบกลับด้วยถ้อยคำเดียวกัน

โดยไม่เปิดโอกาสให้อัลเจอร์ได้พูด บิชอปประจำมหาวิหารแห่งคลื่นยื่นกระดาษโทรเลขมาทางด้านหน้า

“คุณมาทันเวลาพอดี สภาพระคาร์ดินัลเพิ่งมีคำสั่งด่วนลงมา อ่านให้จบก่อนเข้าไปสวดมนต์”

“คำสั่งด่วน?” อัลเจอร์ขมวดคิ้วพร้อมกับรับกระดาษโทรเลขมาอ่าน

บิชอปอธิบายด้วยสีหน้าอึมครึม

“ดยุคนีแกนถูกลอบสังหาร ทางสภาพระคาร์ดินัลมีคำสั่งด่วนให้ทูตพิพากษาและนักบวชในสังกัดทุกคนพยายามรวบรวมข้อมูลของจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดอย่างสุดความสามารถ รวมถึงเบาะแสของพิธีกรรมไพ่ทาโรต์ด้วย”

จอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด…? อัลเจอร์แสดงสีหน้าประหลาดใจ

มันทราบอยู่ก่อนแล้วว่า จอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดคือผู้รับใช้ของเดอะฟูล

บิชอปพยักหน้าหนักแน่นพร้อมกับเล่าต่อ

“คนร้ายลอบสังหารดยุคนีแกนคือลำดับ 5 ‘ปีศาจ’ แต่ระหว่างการหลบหนี มันถูกฆ่าโดยฝีมือจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด เป็นชะตากรรมเดียวกับพลเรือโทแห่งวายุ คีลิงเกอร์ ผู้เคยลอบสังหารท่านดยุคล้มเหลว”

ไม่เพียงรายละเอียดปลีกย่อยจะคล้ายกันมาก แม้แต่ประเด็นหลักก็ยังเหมือนกันทุกประการ…คีลิงเกอร์ตายด้วยฝีมือผู้รับใช้ของมิสเตอร์ฟูล และคนร้ายในคดีล่าสุดก็… หรือว่ามิสเตอร์ฟูลจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความตายของดยุคนีแกนเสียเอง? ไม่น่าใช่ หากเป็นฝีมือท่านจริง คงมีการตักเตือนคีลิงเกอร์ให้ระวังมิสจัสติสก่อนลงมือลอบสังหาร…มิสเตอร์ฟูลคงพยายามสืบหาเบื้องหลังการตายของดยุคนีแกนมากกว่า… ต้องเป็นองค์กรลับระดับใดกัน ถึงได้รับความสนใจจากท่านโดยตรงเช่นนี้…

อัลเจอร์ครุ่นคิดในหลายเรื่อง แต่ทั้งหมดยังไม่มีหลักฐานรองรับ

จากรายละเอียดของกระดาษโทรเลข มันได้ทราบว่าโบสถ์วายุสลาตันจัดตั้งทีมสืบสวนพิเศษขึ้นเป็นการเฉพาะ จุดประสงค์เพื่อแกะรอยผู้บงการเบื้องหลังคดีลอบสังหารดยุคนีแกน สมาชิกแต่ละคนล้วนเป็นขุนพลระดับหัวกะทิของโบสถ์ทั้งสิ้น

เราควรเข้าร่วมดีไหม? จะได้รับรู้สถานการณ์ทางฝั่งโบสถ์อย่างละเอียด…

อัลเจอร์เริ่มลังเล

แต่ลงเอยด้วย มันตัดสินใจยึดหลักการเดิมของตน ไม่พยายามทำตัวโดดเด่น

เมื่อเริ่มวันใหม่ ไคลน์หลับยาวจนกระทั่งลืมตาตื่นเองตามธรรมชาติ ชายหนุ่มพยุงตัวลุกจากเตียงนอนและเดินลงมายังชั้นล่าง

มันไม่รีบประกอบอาหารเช้า แต่เลือกเดินออกไปนอกบ้านเพื่อหยิบปึกหนังสือพิมพ์ภายในกล่องจดหมาย

“นี่คือ…?” ไคลน์พบซองกระดาษแผ่นหนาถูกยัดไว้ระหว่างหนังสือพิมพ์ น้ำหนักค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับขนาด

หลังจากกลับเข้าบ้านและฉีกซองตรวจสอบ กลิ่นหมึกพิมพ์เข้มข้นของธนบัตรพลันลอยชนจมูกอย่างจัง

สัมผัสวิญญาณช่วยระบุทันทีว่าด้านในอัดแน่นไปด้วยเงินสดจำนวนมาก

มันบรรจงดึงเงินปึกใหญ่ออกมาด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ

หลังจากนับเสร็จ ไคลน์ยืนยันจนมั่นใจว่าธนบัตรทั้งหมดมีมูลค่าหนึ่งพันปอนด์ถ้วน

รางวัลจากจิตแห่งจักรกล… แต่ทำไมถึงส่งเงินสดมาในรูปแบบนี้? มั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่ถูกขโมย?

ไคลน์รำพันอย่างหัวเสีย

แต่อีกใจหนึ่งก็ยินดี ด้วยเงินก้อนนี้ ผนวกกับการไม่ถูกจับตามองโดยจิตแห่งจักรกล มันสามารถแวะไปหาแวมไพร์เอ็มลินเพื่อขอซื้อวัตถุดิบปรุงโอสถได้ทันที!

หลังเสร็จอาหารเช้า ไคลน์สวมหมวกและเสื้อโค้ท ถือไม้ค้ำ ใช้แขนหยิบหนังสือพิมพ์ และรีบเดินออกจากบ้าน

ขณะหันหน้าเตรียมเดินเท้าไปยังป้ายรถม้าสาธารณะ ชายหนุ่มพบกับเจ้าของบ้าน มาดามสตาร์ลิ่ง กำลังสั่งให้สาวใช้ขนกระเป๋าเดินทางขึ้นรถม้าริมถนน

“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณนายซาเมอร์” ไคลน์ทักทายด้วยรอยยิ้ม

สตาร์ลิ่งยิ้มรับด้วยสีหน้าผ่องใส

อารมณ์ดีแบบนี้ ยังไม่ทราบสินะครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับบ้านของตัวเองบ้าง…

ไคลน์ซักถามด้วยสีหน้าสงสัย

“กำลังจะไปไหนหรือครับ”

“ใกล้ช่วงปีใหม่แล้ว แมรีจึงให้ลุคลางานยาวได้เป็นกรณีพิเศษ พวกเราจึงเตรียมตัวเดินทางไปอ่าวเดซีเพื่อพักผ่อนในช่วงปีใหม่” สตาร์ลิ่งเล่าต่อโดยไม่รอให้อีกฝ่ายถาม “เราเคยไปเที่ยวแถวนั้นมาหมดแล้ว รวมไปถึงเมืองชายฝั่งชื่อดังอีกสองสามแห่ง คราวนี้จึงอยากลองเที่ยวฝั่งเฟเนพ็อตดูบ้าง ได้ยินว่าเมืองเซเวียร์มีวิวทิวทัศน์งดงามมาก”

ไคลน์ยิ้มรับ

“น่าอิจฉาจังนะครับ”

“แล้วทางคุณล่ะคะ? นักสืบโมเรียตี้ มีแผนจะเที่ยวปีใหม่แถวไหนหรือ” สตาร์สิ่งซักถามอย่างอารมณ์ดี

ก็คงนอนอืดอยู่กับบ้าน…จริงสิ ต้องเตรียมเครื่องมือสำหรับซ่อมผนังด้วย ตั้งแต่สจ๊วตยิงใส่คราวนั้นก็ปล่อยให้เป็นรูมาตลอด…

ไคลน์ยกมุมปาก

“คงกลับรัฐเลียบทะเลครับ อากาศฤดูหนาวแถวนั้นแตกต่างจากเบ็คลันด์มาก”

สตาร์ลิ่งพยักหน้ารับ

“หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันแถวอ่าวเดซีในปีถัดไปนะคะ”

ย่านทิศใต้ของสะพาน ถนนกุหลาบ วิหารฤดูเก็บเกี่ยว

เมื่อเห็นนักสืบเชอร์ล็อกในชุดขนสัตว์สีดำกำลังเดินเข้ามาใกล้ เอ็มลิน·ไวท์ ผู้กำลังยืนเช็ดเชิงเทียนอย่างระมัดระวัง พลันฉีกยิ้มกว้าง

มันรีบใช้มือสางเส้นผมสีดำขลับ เร่งฝีเท้าเดินไปหยุดยืนข้างไคลน์ เชิดคางขึ้น และกระซิบด้วยเสียงต่ำ

“ข้าได้เบาะแสของเจสัน·บีเลียลมาแล้ว ทางผีดูดเลือดสืบจนพบข้อมูลชายคนนั้น”

“ทางผมก็มีเหมือนกัน” ไคลน์อมยิ้มพลางยื่นหนังสือพิมพ์ไปทางเอ็มลิน พาดหัวข่าวกลางหน้ากระดาษเขียนไว้ว่า :

ช่วงบ่ายของเมื่อวาน ท่านดยุคนีแกนผู้ยิ่งใหญ่ถูกลอบสังหารอย่างอุกอาจ คนร้ายคือปีศาจจิตใจต่ำช้า

ใต้พาดหัวข่าวเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับคดีลอบสังหารเมื่อวาน มีการเผยว่าฆาตกรคือนายธนาคารชื่อเจสัน·แพทริค ถูกวิสามัญฆาตกรรมทันทีในจุดเกิดเหตุ กลุ่มก่อการร้ายชุมนุมแสงเหนือได้ประกาศความรับผิดชอบ

ย้อนกลับไปเมื่อเช้าขณะไคลน์กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ มันเกือบพ่นนมสดพรวดออกจากปาก

ในตอนแรก ไคลน์คิดว่ามิสเตอร์ A แห่งชุมนุมแสงเหนือคงถูกปลวกกินสมองไปหมดแล้ว ถึงได้กล้าประกาศความรับผิดชอบอย่างส่งเดช แต่เมื่อลองไตร่ตรอง มันฉุกคิดได้ว่าเรื่องนี้อาจเป็นฝีมือของรัฐบาล

หากสภานักสิทธิ์สนธยาคือองค์กรลับซึ่งจักรพรรดิโรซายล์เป็นสมาชิก พวกเขาต้องเป็นศัตรูกับชุมนุมแสงเหนืออย่างสุดโต่ง เพราะอุดมการณ์ตรงกันข้ามกับพระผู้สร้างแท้จริงโดยสิ้นเชิง…

ไคลน์ครุ่นคิดเรื่อยเปื่อย

เอ็มลินก้มหน้าอ่านพาดหัวข่าวอย่างละเอียดหลายหน ก่อนจะซักถามด้วยสีหน้ากระวนกระวาย

“หมายความว่า ข้อมูลของข้าไม่มีประโยชน์อีกแล้ว?”

“ในทางทฤษฎีก็ใช่…” ไคลน์ชำเลืองมองด้วยสายตาสมเพช ก่อนจะมอบความหวังให้อีกฝ่าย “แต่รัฐบาลกำลังสืบหาเบาะแสของผู้บงการเบื้องหลังเจสัน·บีเลียล ถ้าข้อมูลของคุณเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทางตำรวจคงมีรางวัลตอบแทนให้แน่”

ในส่วนของไคลน์ มันไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับคดีไปมากกว่านี้แล้ว

“คงไม่ได้…ข้าทราบเพียงว่า อีกฝ่ายชื่อเจสัน·บีเลียล มีงานอดิเรกอยู่ราวสองสามอย่าง” เอ็มลินถอนหายใจยาวอย่างผิดหวัง

เมื่อเห็นท่าทีตอบสนอง ไคลน์อมยิ้ม

“คุณไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์เลยหรือ”

ถ้าเราไม่ส่งหนังสือพิมพ์ให้อ่าน หมอนี่คงไม่มีทางทราบว่าดยุคนีแกนถูกลอบสังหารไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว…

เอ็มลินจ้องไคลน์ด้วยสายตาฉงน

“แล้วทำไมถึงต้องอ่าน? ไม่รู้หรือไงว่าข้างานยุ่งมาก!”

ยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดวิหารฤดูเก็บเกี่ยว ยุ่งอยู่กับการแต่งตัวฟิเกอร์ขนาดเท่าคนจริง และยุ่งอยู่กับการคิดหากลอุบายหลอกดื่มเลือดมนุษย์ฟรี… ช่างทำตัวสมกับเป็นแวมไพร์สมัยใหม่…

ไคลน์เผยอริมฝีปากเล็กน้อย แต่ด้วยการยับยั้งของตัวตลก เสียงหัวเราะจึงไม่เล็ดลอดออกไป

ลงเอยด้วย ชายหนุ่มตัดสินใจไม่ยั่วโมโหแวมไพร์เอ็มลิน เพียงกล่าวเข้าประเด็นโดยไม่มัวเสียเวลา

“ผมเตรียมเงินครบจำนวนแล้ว เพียงพอสำหรับซื้อวัตถุดิบทั้งสองชนิดจากคุณ พร้อมแลกเปลี่ยนวันไหน?”

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset