สามวันสุดท้าย
ที่โลกกรวด
มันเป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิและอุณหภูมิในเมืองจักรพรรดิก็เริ่มอุ่นขึ้นทีละน้อย ผู้คนถอดเสื้อผ้าตัวหนาจากฤดูหนาวและเริ่มฟื้นคืนชีวิตชีวา
ตอนเช้า ดวงอาทิตย์ขึ้นและท้องฟ้าก็เป็นสีฟ้าใส ไร้เมฆราวกับมันถูกล้างใหม่
ดวงอาทิตย์ส่องลงมา สร้างความอบอุ่นไปทั่ว
เกี๊ยวน้ำร้านดังเปิดให้บริการตามปกติ
มีแขกไม่มากตอนหกโมงเช้า ลุงและป้ายุ่งกับงานปกติ คุยกับแขกเก่าเป็นครั้งคราว
ไม่นาน เด็กสาวผมสั้นและเด็กหนุ่มผิวสีก็เดินมายังร้านเกี๊ยว
“เสี่ยวซินและเสี่ยวโม่มาแล้ว นั่งกันเลยเกี๊ยวยังไม่สุก ป้าจะให้ลุงจะเอามาให้พวกหนูทันทีที่นะ!”ป้าทักทายอย่างกระตือรือร้น ไม่ถามทั้งสองว่าอยากกินอะไรเพราะเธอจำได้ว่าลูกค้าประจำสั่งอะไร
“ค่ะ หนูไม่รีบหรอก”หลินซินตอบด้วยรอยยิ้ม
“เสี่ยวซิน ทำไมวันนี้หนูมาเร็วจัง?”ลุงอ้วนถามด้วยรอยยิ้มขณะทำงาน
“เมื่อวานหนูนานไม่ค่อยหลับ หลังงีบไปสักพัก มันก็เช้าแล้วและหนูก็นอนไม่หลับอีก ดังนั้นหนูจึงลากเสี่ยวโม่มากับหนู”หลิน
ซินอธิบายด้วยรอยยิ้ม
“คนหนุ่มสาวมักนอนดึกโดยไม่ดูแลสุขภาพ ฟังป้านะ ขอแค่นอนไม่ดึกเกิน หนูจะไม่มีอาการนอนไม่หลับแน่”ป้าอ้วนเริ่มให้คำแนะนำจากประสบการณ์”เมื่อป้ายังสาว ลุงและป้ามักทำงานจนดึกดื่น และก็นอนกันไม่ค่อยหลับ..”
“เจ้าหมายความว่ายังไงว่านอนไม่หลับ?เจ้านอนเหมือนหมูน้อยอยู่ทุกวัน…”ลุงอ้วนพูดเงียบๆ
“เจ้าพูดว่ายังไงนะ?!”พวกเขาเริ่มทะเลาะกัน
“ข้าบอกว่าข้ามักนอนหลับสบาย ข้านอนเหมือนหมูน้อยทุกวัน”ลุงอ้วนหดหัวและแก้ไขคำพูด
“หมูน้อยอะไร?!เจ้ามันหมูยักษ์!เสียงกรนเจ้าสั่นทำให้เตียงสั่นไม่หยุด!”ป้าอ้วนเริ่มวิจารณ์สามี
“ข้าเป็นหมูยักษ์เอง และเจ้าก็เป็นนางฟ้าตัวน้อย น้ำหนักเจ้าแค่2ขีดและมีปีกคู่หนึ่ง ลมแรงสามารถทำให้เจ้าลอยขึ้นฟ้าได้ ตกลงไหม?”ลุงอ้วนหัวเราะ
“พี่ชาย เพลงของเจ้าไม่เลวเลย”
เมื่อได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทของทั้งคู่ ลูกค้าก็อดหัวเราะไม่ได้
เมือ่เห็นสีหน้าของหลินซินเริ่มผ่อนคลาย ในที่สุดเสี่ยวโม่ก็เปิดปาก
‘ไม่ต้องห่วง ฝ่าบาทจะต้องไม่เป็นไร”
“แต่เหลือเวลาอีกแค่สามวันก็จะครบกำหนดหนึ่งปีแล้ว และยังไม่มีข่าวจากพี่ชายเลย..”หลินซินขมวดคิ้วแน่น
“เวลาหนึ่งปีแค่กำหนดการทั่วไป หากเขาล่าช้าเพราะอะไรบางอย่าง มันก็เป็นปกติที่จะเลื่อนไป”เสี่ยวโม่อธิบาย
“สิ่งที่ข้ากังวลก็คือเรื่องนี้แหละ เขาอยู่ในมหาพิภพ ไม่เพียงจะมีเทพเสมือนและเทพแท้จริงที่นั่น แต่ยังมีเทพสวรรค์อีกด้วย”หลินซินแสดงความกังวล
“เจ้าคิดมากไป เจ้าแดงอยู่ข้างฝ่าบาท หากเขาพบปัญหาจริงๆ เจ้าแดงจะต้องช่วยหาทางออกได้แน่ ข้าคิดว่าแม้พวกเขาจะกลับมาไม่ทันหนึ่งปี มันก็คงอาจเป็นเพราะพวกเขาหาทางกลับไม่ได้ ไม่ใช่เพราะพบศัตรูหรอก”เสี่ยวโม่เดา
ทั้งสองคุยกันสักพัก หลังจากนั้น ลุงอ้วนก็มาเสิร์ฟด้วยรอยยิ้ม
“กินให้อร่อยกันเลยนะ ยังมีอีกมากหากพวกหนูไม่อิ่ม”
“ขอบคุณค่ะ!”
…
ก่อนจะเก้าโมงเช้า โต๊ะยาวของห้องประชุมราชวงศ์ในเมืองจักรพรรดิก็ถูกจับจอง
ชายหนุ่มหน้าตาดีนั่งตรงที่นั่งแรก ด้วยความแปลกใจของทุกคน นี่คืออาจารย์ของหลินฮวง คุณฟู่
หวงไป่ยู่และหวงห่าวหยางนั่งอยู่ข้างคุณฟู่
หวงเทียนฟู่(แก้จากเทียนปู้) หวงอู่หนานและหวงตู้ฟู่กับดยุคระดับเทพเสมือนคนอื่นนั่งล้อมโต๊ะประชุมทรงเก่า
ตอนเก้าโมงตรง การประชุมก็เริ่มอย่างเป็นทางการ
หวงเทียนฟู่คือคนแรกที่เปิดปาก”เหลือเวลาอีกแค่สามวันจากกำหนดการหนึ่งปีของฝ่าบาท ไม่ว่าฝ่าบาทจะกลับมาตรงตามกำหนดหรือไม่ เราก็ควรเร่งดำเนินการเตรียมการต่อไป”
“หากฝ่าบาทกลับมาตามแผนที่วางไว้ งั้นก็คงดี แต่ทว่า หากฝ่าบาทไม่สามารถกลับมาทันตามกำหนด งั้นรัฐบาลกลาง สมาคมนักล่าและขุมอำนาจอื่นคงมีความคิดเหมือนกัน ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาจะผนึกกำลังกันเพื่อกดดันเราเพื่อให้ได้รับสิทธิ์สำรวจแดนรกร้างและมิติบรรพกาล…..”
“การประชุมวันนี้ อย่างแรกคือเตรียมการเรื่องการกลับมาของฝ่าบาท แต่ทว่า มันยังจำเป็นต้องวางแผนติดตามเพื่อจัดการกับรัฐบาลกลาง สมาคมนักล่าและขุมกำลังอื่น…”
…
ก่อนบ่ายสาม ทาสดาบทั้ง66 ไม่รวมดาบ301และดาบ302ก็กลับมารวมกันที่เมืองหมัดเหล็ก
หลินฮวงเปิดประตูมิติไปวังจอมเทพและส่งทาสดาบทั้ง68กลับไปวังจอมเทพก่อนเริ่มเดินทางกลับไปลำพัง
ในมหาพิภพ มีเขตดาวนับร้อยทอดยาวข้ามพื้นที่ชายแดนระหว่างแดนเทพและเผ่าหุบเหว ชายแดนของเขตดาวส่วนใหญ่จะถูกปิดกั้นโดยจ้าวเทวะของทั้งสองฝ่ายเพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกเผ่าอื่นเข้ามาในดินแดนตน
มีเพียงห้าเขตสนามรบที่ไม่ถูกปิดกั้นและเป็นพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายเข้าไปได้
มิติแห่งราคะที่หลินฮวงเพิ่งไปก็คือหนึ่งในนั้น
แต่ทว่า ประตูมิติในความทรงจำของฉีหมิงเซี่ยงตั้งในสนามรบอื่นที่เรียกว่ามิติอันเดท
มิติอันเดทคือสนามรบของโปรตอสและเผ่าหุบเหวตั้งแต่ต้นและก็เป้นหนึ่งในสนามรบที่เก่าแก่สุดของแดนเทพ
ตามข่าวลือ สนามรบนี้เดิมเป็นพื้นที่ที่เคยรุ่งเรือง มีดาวมากมาย แต่ทว่า มันถูกทำลายในช่วงการต่อสู้ระหว่างสองจ้าวเทวะและกลายเป็นพื้นที่รกร้าง
นอกจากนั้น ยังมีอะไรพิเศษเกี่ยวกับมิติอันเดท สิ่งมีชีวิตที่ตายในมิติอันเดทจะกลายเป็นอันเดทหรือสายพันธุ์อมตะ พวกเขาจะอยู่รอดในรูปแบบชีวิตใหม่ กล่าวกันว่ามันเกิดเพราะอิทธิพลของกลิ่นอายที่หลงเหลือโดยสองจ้าวเทวะ
เนื่องจากการขาดทรัพยากรรวมถึงความห่างไกล มีคนไม่มากจากแดนเทพที่จะมาที่นี่เพื่อล่ายกเว้นช่วงสงคราม ดังนั้น จึงมีจุดเคลื่อนย้ายน้อยมากที่เชื่อมต่อกับสถานที่นี้
หลินฮวงใช้เวลาวันครึ่งเพื่อเดินทางมาถึงสนามรบนี้
หลังลงทะเบียนที่ทางเข้าสนามรบ เขาก็ก้าวเข้าไปในโดยไม่ลังเล
หลังเข้า หลินฮวงก็สังเกตเห็นว่าฉากตรงหน้าเขาเริ่มคุ้นเคย ดาวหลายดวงซ้อนทับกับภาพในความทรงจำของฉีหมิงเซี่ยง
หลินฮวงเดินตามเส้นทางในความทรงจำเขา และมันก็ใช้เวลาประมาณหนึ่งวันเพื่อพบตำแหน่ง
หลังอัญเชิญราชาจักรกลให้ปล่อยหุ่นยนต์ตรวจสอบและทำการสำรวจสำเร็จ หลินฮวงก็เรียกมันกลับเป็นการ์ดและเดินผ่านประตูมิติไป…