ตอนที่ 1630 ความโลภของไรเดอร์
ใต้สวรรค์กับจ้านกวงขมวดคิ้วตอนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
“จ้านจั๋ว เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง?!” จ้านกวงตระหนักว่าจ้านจั๋วกําลังจะฆ่าเขาด้วย
“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าไม่ควรมา”จ้านจั๋วหันหัวไปมองจ้านกวง ดวงตาของเขาแผ่จิตสังหารออกมา” หลังเจ้าพาพวกมันมาที่นี่ เจ้าก็สามารถแสดงความมีน้ําใจและจากไปหลังเคาะประตูและประตูไม่เปิดได้ เจ้าควรปล่อยให้พวกมันคิดหาทางกันเอง แต่ไม่ เจ้ากลับขู่ข้าให้เปิดประตู เจ้าบังคับให้ข้าเผชิญหน้ากับพวกมัน”
“ผู้อาวุโสจ้านกวง ท่านไม่ต้องคิดให้เสียเวลาอีกแล้ว ตั้งแต่วินาทีที่มันเปิดประตูวัง มันก็รู้แล้วว่าการกระทําต้องโดนเปิดเผย มันคงไม่ตั้งใจปล่อยเราให้รอดอยู่แล้ว” หลินฮวงไม่ใช้คลื่นเสียงเขา พูดออกเสียงออกมา
“เจ้าพูดถูก” จ้านจั๋วยอมรับหลังได้ยินที่หลินฮวงพูด” ข้าเริ่มวางกับดักนับตั้งแต่เจ้ามาที่นี่ ข้าเปิดประตูเพราะข้าเตรียมการเสร็จแล้ว น่าเสียดายที่พวกเจ้าทั้งหมดนั้นโง่จนก้าวเข้ามาในกับดักที่ข้าเตรียมไว้”
ทีละหนึ่ง มอนสเตอร์ที่สลักบนเสาทองแดงมีชีวิตและแสดงตัวในวัง พวกมันมีทั้งหมด 2030ตน และกลิ่นอายของพวกมันก็บ่งชี้ว่าเป็นจ้าวเทวะ
สีหน้าของใต้สวรรค์กับจ้านกวงดูไม่สู้ดี ทั้งสองสามารถสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของมอนสเตอร์นั้น คล้ายกับนักล่าการผสานมาก
ไม่ช้ามอนสเตอร์เหล่านั้นก็แยกเป็นสามกลุ่ม และพุ่งโจมตีพวกเขา
ตอนจ้านกวงเห็นเช่นนี้ เขาก็ไม่คิดทนอีก
เขาสะบักหอกเต๋ในมือ เล็งใส่มอนสเตอร์รอบเขา
อีกด้าน ใต้สวรรค์ขมวดคิ้วเป็นปม เขาอยากไปช่วยเหลือหลินฮวง แต่โดนมอนสเตอร์หลายตัวขวางไว้
แม้เขาจะเดาได้ว่าที่หลินฮวงตัดมือของจานชั่วนั้นจะเป็นการใช้ความสามารถสืบทอดของตน และไม่ใช่เทคนิคบางอย่าง เขาก็ไม่กล้ารับประกันว่าการคาดเดาจะถูก
ถ้าหลินฮวงใช้ไพ่ตายไปแล้วจริง งั้นสิ่งที่เขาเผชิญตอนนี้ก็อาจถึงตายได้
แต่ทว่าวินาทีต่อมา ใต้สวรรค์ก็เห็นคลื่นแสงสีแดงเลือดนับสิบพุ่งจากแขนเสื้อของหลินฮวง พวกมันพุ่ทะลุอากาศเหมือนสายฟ้าฟาด
อึดใจต่อมา มอนสเตอร์ที่พุ่งใส่หลินฮวงก็ล้มลงกับพื้นและไม่ลุกขึ้นมาอีก
ไม่ใช่แค่นั้น แม้กระทั่งมอนสเตอร์ที่ล้อมใต้สวรรค์กับจ้านกวงไว้ก็ยังล้มด้วย
ตอนใต้สวรรค์เพ่งสายตามอง เขาก็ตระหนักว่าหัวของมอนสเตอร์ทั้งหมดพลันขาวซีด และวิญญาณเทพพวกมันก็โดนลบล้าง
“นี่คือแผนที่เจ้าเตรียมไว้?” หลินฮวงก้าวไปข้างหน้าและถามจ้านจั๋วอย่างสงบ
มีดบินที่เขาใช้ก่อนหน้าคืออาวุธเซียนพลังจิตระดับเต่ํา แต่ละเล่มนั้นมีพลังลําดับเทพกว่าหมื่น สายบรรจุอยู่
พูดได้ว่าพลังของการโจมตีนั้นเหนือกว่าการโจมตีเต็มกําลังของจ้านจั๋วซะอีก
ชั่วขณะนั้น มันยากสําหรับใต้สวรรค์ที่จะฟื้นคืนความสงบ แม้เขาจะเดาได้นานแล้วว่าความสามารถของหลินฮวงอาจโดดเด่น การโจมตีของหลินฮวงก่อนหน้าก็ทําให้เขาตกใจ
เขาสามารถสัมผัสได้ชัดว่าถ้าเขาโดนมีดบินสเล่มโจมตี มันก็มีโอกาสสูงมากที่เขาจะโดนฆ่าตายทันที
ใกล้ๆกัน จ้านกวงเองก็ตะลึงงัน
เขาไม่คิดเลยว่าผู้เยาว์ระดับเทพสวรรค์ที่ใต้สวรรค์พามาจะมีความสามารถน่ากลัวขนาดนี้ เขานั้นทรงพลังพอจะสะกดจ้านกวงด้วยตัวเอง จ้านกวงนั้นถึงกับพูดไม่ออก
ในทางกลับกัน สีหน้าของจ้านจั๋วดูไม่สู้ดี
เดิมที เขาคิดว่าเขาจะชนะได้ด้วยจํานวนโดยการผลาญพลังเทวะ เขาไม่คิดเลยว่าช่วงแรกของแผนจะโดนทําลายง่ายขนาดนี้
แม้เขาจะประเมินหลินฮวงไว้สูง จ้านจั่วก็ไม่อยากเชื่อว่าจะยังประเมินต่ําไป
“มันเร็วเกินไปที่จะยินดี”
จ้านจั่วแค่นเสียงเย็น หลินฮวงกับอีกสองสามารถสัมผัสได้ชัดว่ามีกลิ่นอายกําลังพุ่งสูงขึ้นในเงาทั่วทั้งวัง
กลิ่นอายคล้ายกับมอนสเตอร์กว่ายี่สิบตัว แต่พวกมันมีจํานวนเป็นสองเท่าแล้ว
ตอนพวกเขาสัมผัสถึงกลิ่นอายของมอนสเตอร์อีก ใต้สวรรค์กับจ้านกวงสามารถยืนยันได้แล้ว ว่ามอนสเตอร์เหล่านี้คือนักล่าจริง
พวกเขาไม่รู้ว่าจ้านจั๋วใช้วิธีอะไรถึงอัญเชิญนักล่ามาได้มากขนาดนี้ และผนึกมันไว้ภายในวังโบราณ สิ่งที่เขาทําต่อมาก็แค่ปลดผนึกและปลดปล่อยนักล่าเหล่านี้
ในความเป็นจริง นักล่าการผสานไม่ได้ทรงพลังมากในแง่ของความสามารถ ที่ทรงพลังสุด คือพวกมันเข้าใจห่วงโซ่ลําดับเทพไม่น้อยกว่าสองพันสาย คนส่วนใหญ่จะเข้าใจแค่พันสาย ซึ่งเท่ากับจ้าวเทวะใหม่ที่เพิ่งทําการผสานสําเร็จ
ปัญหาคือมีนักล่ามากเกินไป
ถ้าหลินฮวงไม่เข้าแทรกแซงในก่อนหน้านี้ ใต้สวรรค์กับจ้านกวงคงต้องโดนสูบเข้าการต่อสู้รุนแรงที่จะผลาญพลังเทวะพวกเขา
รอบสองที่ตามมานี้จะทําให้พวกเขาหมดแรงจนตาย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หลินฮวงคือตัวแปรภายในวังโบราณ
มอนสเตอร์รอบสองๆโผล่ออกจากอักขระบนกําแพงของวังโบราณอย่างรวดเร็ว และล้อมพวกหลินฮวงไว้
ใต้สวรรค์กับจ้านกวงตึงเครียด มีนักล่ากว่าร้อยตัวที่ล้อมพวกเขาในครั้งนี้ แค่จํานวนอย่างเดียวก็พอทําให้พวกเขาเครียดจนตายได้
แต่ทว่า หลินฮวงยังสงบ เขาสะบัดแขนเสื้อ และมีดบินพลังจิตกว่าร้อยเล่มก็ได้เปลี่ยนเป็นแสงสีแดงเลือดที่พุ่งผ่านวังเหมือนปลา
มันผ่านไปไม่นานก่อนพวกนักล่าจะล้มลงอีกครั้ง บาดแผลพวกมันยังเป็นจุดเดิม มีดบินได้พุ่งทะลุกึ่งกลางระหว่างคิ้วพวกมัน
หลังจากนั้น ศพพวกมันก็เลือนรางก่อนหายไป
“ถ้านั่นคือทั้งหมดที่มี ก็หยุดเสียเวลาซะเถอะ ยอมจํานนซะ และข้าจะจัดการให้เจ้าไปนรก โดยไม่ทรมาน” หลินฮวงดึงมีดบินพลังจิตกลับและหันไปมองจ้านจั๋ว
จากอีกด้าน จ้านกวงเองก็พูดขึ้น” หยุดเดินลงบนเส้นทางผิดๆได้แล้ว!”
“เจ้ารู้ถึงธรรมชาติของนักล่าไหม?”จ้านจั๋วพลันถามด้วยรอยยิ้ม
หลินฮวงกับอีกสองคิดว่ามันไร้สาระที่จ้านจั๋วจะถามอะไรแบบนี้ขึ้นมา
“โลกที่พวกนักล่าอาศัยเรียกว่าอาณาจักรเสมือนสิ่งที่เรารู้คือพวกนักล่าคือประชากรของอาณาจักรเสมือนนี้จริง” จ้านจั๋วอธิบาย
“เจ้ารู้ไหมว่าอาณาจักรเสมือนคืออะไร?”เขาถามอีกครั้ง
หลินฮวง ใต้สวรรค์กับจ้านกวงยิ่งงงกว่าเดิม พวกเขาไม่รู้ว่าจ้านจั๋วต้องการจะสื่อถึงอะไร
“อาณาจักรเสมือนคือการสะท้อนของอาณาจักรวัตถุ ขนาดของอาณาจักรวัตถุจะเป็นขนาดของอาณาจักรเสมือน มันไม่ใช่แค่ทั้งจักรวาล มันยังไปไกลเกินกว่านั้น”
“พวกเจ้าทั้งหมดก็แค่มดที่ไม่รู้ว่าโลกนี้แท้จริงแล้วกว้างใหญ่แค่ไหน มหาพิภพไร้พรมแดนที่เจ้าเห็นก็แค่ฝุ่นผง”
“เคียวแห่งความตาย วิหารเทพนักรบ แดนเทพทั้งหมดก็แค่ฝันในฝัน!”
“สําหรับเรา ไรเดอร์ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดของทุกสิ่ง พลังทั้งหมด และโลกทั้งหมด โดยรวมแล้ว ทุกอย่างคือเป้าหมายการปล้นตราบเท่าที่มีประโยชน์!”
“สําหรับข้า พวกเจ้าสามคนจะตกเป็นเป้าหมายไปตลอด!”
ทันทีที่จ้านจั๋วพูดจบ “ตาเสมือนทั้งสามก็เปิดขึ้น พวกมันเหมือนดวงตาของสิ่งมีชีวิตที่จับจ้องหลินฮวงกับอีกสอง