***สรุปรวดรัดนะครับ ใครๆคงอ่านมาแล้วเนอะ55 จะได้เร่งไปให้ถึงตอนไคลแมกไวๆ
คาบเรียนผ่านไป4ชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงพักกลางวัน
ก่อนจะไปหารินกะตามนัด ปรากฏว่ามีนักเรียนชายสองคนเดินมาหาผม
“โย่ อายาโนะโคจิคุง วันนี้พวกผมมาแล้ว”
นักเรียนคนแรกเป็นผู้ชายใส่แว่นชื่อ ไซโต้ ส่วนอีกคนจะเป็นนักเรียนชายร่างท้วมหน่อยชื่อ ทาจิบานะ
ปกติช่วงพักจะทำกิจกรรมด้วยกันกับสามคนนี้ แต่เผอิญว่าวันนี้ผมมีนัดที่ยังไงก็ต้องไป เลยเกิดความรู้สึกผิดทีต้องปฏิเสธ
“โทษทีว่ะ พอดีว่าวันนี้ติดนัดด่วน”
“หา พูดอะไรของนาย จะบอกว่ามีนัดกินข้าวกลางวันกับคนอื่นนอกจากพวกเราเนี่ยนะ อย่างนายเนี่ยนะ”
“ฟังแล้วแปร่งๆนะเฮ้ย แต่ก็นะ ม่า เรื่องจริงคือเรื่องจริงเฟ้ย มีว่ะ”
“อายาโนะโคจิคุง หยุดละเมอได้ละครับ เสียเวลาเปล่า จากการคำนวนอันสุดเมพของผมบอกว่า ตอนนี้เหลือเวลาแค่40นาที รีบแดกแล้วมาคุยเรื่องไลท์โนเวลเดือนนี้ไวๆเถอะ”
ไซโต้ดุนแว่นขึ้นพลาวกล่าวกับผม
ไอ้เรื่องพักเวลา40นาทีใครๆก็รู้เฟ้ย จะคำนวนสุดเมพทำมะเขืออะไร
“กุพุดจริง เดี๋ยวต้องไปละเนี่ย”
“รอเดี๋ยวก่อน”
ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกไป ปรากฏว่าผมถูกดึงแขนเสื้อรั้งไว้ พร้อมคำถาม
“อย่าบอกนะว่า…นายไปกินข้าวกับผู้หญิง”
“…..”
“เฮ้ อายาโนะโคจิ”
“ใจเย็นของพรรค์นี้ไม่ต้องให้เจ้าตัวตอบหรอกเพราะ จากการคำนวนอัดสุดเมพของผม โอกาสที่อายาโนะโคจิจะมีเพื่อนผุ้หญิง มีอัตราเป็นไปได้อยู่ที่ เพียง0.4% “
“อัตราส้นตีนหมาไรวะนั่น ต่ำเกิ้น นี่เห็นว่ากุจะไม่มีโอกาสมีเพื่อนผู้หญิงขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
ขี้หมูขี้หมาเมิงให้กูสัก10%ก็ได้นะเพื่อน ฟังแล้วเจ็บจี้ด
“งั้นนายบอกมาได้แล้วว่านัดกับใครไว้”
“….คุณมิสึกิ”
ผมตอบด้วยน้ำเสียงพึมพำ แต่ก็ดังพอที่คู่สนทนาจะได้ยิน ทั้งไซโตและทาจิบานะมองหน้ากันเองก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะ
“ฮะๆๆๆๆ เมายากันยุงเหรอเพื่อนถึงบอกว่านายจะมีนัดทานข้าวกลางวันกับคุณมิสึกิน่ะ”
“ม่า ก็นะ เออสิ นี่เขาชวนและนัดไปที่โรงอาหาร..”
“มันเป็นไปไม่ได้ครับพี่น้องครับ บอกว่าฝันไปยังดูเพ้อเจ้อเลย”
“ถูกต้องแล้วอายาโนะโคจิคุง จากการคำนวนสุดเมพบอกว่า โอกาสที่คุณมิสึกิจะชวนอายาโนะโคจิคุงไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน บอกว่าลุงลาออกพรุ่งนี้ยังดูเป็นไปได้มากกว่าเลย”
“โห เมิงคำนวนด้วยคำว่าลุงลาออกนี่มัน%เท่ากับ0เลยนะโว้ย”
“ฮะฮะฮะ ก็อยู่ๆมาเล่นมุกตลกหม่ำเท่งโหน่งให้ดู กุก็ขำสิครับ ม่าๆ กุขอไถ่โทษเอาแครอทกุไปแดกละกัน”
“เอามาทำเหี้ยไร แดกเองสิวะ”
“น่าๆใจเย็นอายาโนะโคจิคุง กุแถมถั่วให้ด้วยเลย”
“จริงเด้ ขอบคุณงามๆ… พ่อง.. พวกนายแค่เอาของที่ไม่อยากแดกโยนมาให้กุล้วนๆเลยนี่หว่า”
เอาเหอะ พวกนี้ไม่เชื่อก็ไม่แปลก ขนาดเราเองยังไม่เชื่อเลยว่าเป็นเรื่องจริง
“ขอเวลาสักครู่ได้มั้ย”
“เอ๋?”
ผมได้ยินเสียงจากข้างหลัง นั่นมันเสียงของคุณมิสึกิ
“คาสึโตะคุงลืมนัดแล้วรึเปล่า”
“ม..ไม่ได้ลืมนะ คิดอยู่ว่าจะไปเดี๋ยวนี้เลย”
“เหรอ ดีแล้ว ถ้างั้นก็รีบมาที่โรงอาหารนะ ถ้าช้าเดี๋ยวโรงอาหารคนแน่นนะ”
คุณมิสึกิพูดจบ หันหลังเดินออกจากห้องเรียนไป
สมเป็นไอดอลสายคูล ท่าเดินและคำพูดช่างให้ความเป็นนางพญาจริงๆ
“เฮ้ยเฮ้ย อายาโนะโคจิคุง…”
“บ..บ้าน่า..การคำนวนอันสุดเทพของชั้น”
ผมหันกลับไปดูสภาพของไซโตกับทาจิบานะ ทั้งคู่ทำปากพะงาบๆเหมือนปลาทองฮุบอาหาร
“เออ ก็ตามที่เธอว่า ชั้นขอตัวก่อนนะ”
“อายาโนะโคจิ เอ็งใช้วิชามารอะไรวะ เน็ตเกมกิ๊กก๊อกแบบนายถึงได้มีไอดอลมานัดไปกินข้าว มันเป็นไปไม่ได้โว้ย”
“จากการคำนวนอันสุดเทพของผม พรุ่งนี้มีฝนดาวตกเกิดที่ญี่ปุ่นแน่”
“กิ๊กก๊อกพ่องเมิง จำไว้นะสาสส”
จะว่าไปพอดูรอบๆ เหมือนว่าเพื่อนร่วมห้องบางคนดูจะให้ความสนใจที่คุณมิสึกิชวนผมตะกี้ ได้ยินเสียงซุบซิบ
ผมเลี่ยงสถานการณ์ตกเป็นเป้าสายตา รีบวิ่งตามคุณมิสึกิ
***
ผมกับคุณมิสึกิถึงโรงอาหาร สั่งอาหารเซ็ทเอ เลือกนั่งโต๊ะว่างแถวหัวุม ด้วยความที่โรงอาหารมีคนอยู่เยอะมาก ดูเหมือนว่าคนจะให้ความสนใจกับการกินมากกว่าจะมาดูพฤติกรรมของผมกับคุณมิสึกิ ถึงจะเห็นว่ามีบางคนดูเราอยู่ก็เถอะ แต่ช่างมัน
หลังจากนั่งลงบนเก้าอี้ คุณมิสึกิเป็นฝ่ายพูดก่อน
“สรุปว่าคาสึคือคาสึโตะคุงสินะ ตกใจมากๆเลย”
“ผมก็ตกใจไม่ต่างครับ”
ไม่สิ เผลอๆผมตกใจต่างกันมากกว่าเธอสัก100เท่าเลยล่ะ
แถมตะกี้เธอยังเอ่ยชื่อผมด้วย เล่นเอารู้สึกใจเต้นด้วยความเขินเลย
นี่คือภรรยาในเกมส์ที่ผมแต่งงานด้วยจริงรึนี่
ว่าไปตะกี้เธอเรียกชื่อผม งั้นผมต้องลองรวมความกล้าเรียกชื่อเธอบ้างว่า คุณรินกะ
…….
ไม่ไหวอะ ไม่กล้าพอ
ถ้าผมกล้าขนาดเรียกชื่อคุณรินกะได้ ป่านนี้ผมหาเพื่อนได้เป็น100คนอัพแล้วมั้ง
“ชื่อในเกมคาสึเอามาจากชื่อคาสึโตะคุงสินะ ตั้งชื่อได้ง่ายจนน่าใจหายเลย”
“ช่างกล้าพูดนะครับคุณมิสึกิ คุณก็เอาคำว่ารินมมาจากรินกะไม่ใช่เหรอ”
“จริงด้วย…กะแล้วเชียว พวกเรานี่ใจตรงกันกระทั่งเรื่องตั้งชื่อในเกมด้วยเนอะ”
“.ก็..คงงั้นครับ”
ชิบละไง เริ่มตื่นเต้นจนอาการออกทางน้ำเสียงละ
พอได้ยินว่าเธอบอกว่าเราใจตรงกันมันก็ดีใจจาก้นบึ้งหัวใจเลย
“ได้มานั่งกินข้าวด้วยกันกับคาสึโตะคุงนี่นึกว่าฝันไป”
“ง..งั้นเหรอ? ขอโทษด้วยนะครับ ที่คุณต้องมาแต่งงานกับเพื่อนร่วมห้องเห่ยๆอย่างผม”
“ไม่เห็นต้องดูถูกตัวเองเลย ชั้นรู้สึกอุ่นใจด้วยซ้ำที่ตัวจริงคาสึคือคาสึโตะคุง”
“อุ่นใจ?”
“ใช่ ชั้นดีใจมากที่คนที่แต่งงานเป็นผู้ชายที่ดียิ่งกว่าชั้นจินตนาการเสียอีก”
“…..”
พูดขนาดนี้ เอามีดมาแทงผมเหอะครับ
ถึงจะรู้ว่าสิ่งที่เธอพูด มีโอกาสเป็นการยกยอเกินจริง แต่มันก็ทำให้น้ำตาผมแทบไหลด้วยความซึ้งใจ ชีวิตนี้ไม่มีสักเสี้ยวให้รู้สึกเสียใจภายหลังละครับสำหรับเน็ตเกมง่อยๆอย่างผม
“คิดว่าโอกาสคนที่แต่งงานกัน จะมีอัตราเป็นเพื่อนร่วมชั้นได้ประมาณเท่าไรล่ะ”
“ก็คงอารมณ์บอกว่าพรุ่งนี้ลุงจะลาออกอะครับ ม่า ถึงจะบอกว่าแต่งงานก็เถอะแต่มันก็แค่แต่งในเกมนะครับ”
ทันทีที่ผมพูดจบ คุณมิสึกิเริ่มเอ่ยปากด้วยท่าทีสุขุมแต่จริงจัง
“คาสึโตะคุง ชั้นคิดว่า โลกออนไลน์มันไม่ได้ด้อยกว่าโลกความเป็นจริงเลยนะ”
“เอ๋?”
“นี่อาจจะเป็นข้อสรุปทึกทักของชั้นเอง ชั้นคิดว่า ในเน็ต เราไม่มีทางรู้ถึงนิสัยและรูปลักษณ์บนโลกภายนอก แต่หัวใจและนิสัยที่แท้จริงของเขานี่ล่ะจะแสดงออกมาในโลกออนไลน์”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”
“ในบรรดาผู้เล่นที่ชั้นเคยเจอทั้งหมด คาสึโตะคุงเป็นคนที่บริสุทธิ์ใจและนิสัยดีที่สุดเหนือทุกคนนะ”
“..ง..งั้นเหรอครับ”
ไอ้ที่บอกนิสัยดีก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ทื่มั่นใจได้แน่คือ ผมเล่นเกมกับเธอด้วยความรู้สึกสนุกและบริสุทธิ์ใจจริงๆ และพร้อมจะช่วยเหลือรินเต็มที่ไม่มีเจตนาแอบแฝง
“ชั้นเพิ่งจะพูดออกมาตอนนี้คงแปลก แต่ว่าคาสึโตะคุงคือคนที่คอยเยียวยาหัวใจชั้นนะ”
“เยียวยาหัวใจ?”
ผมถามเธอกลับ คุณมิสึกิพยักหน้าเล็กๆให้กับคำถามของผม
“ใช่ มีช่วงหนึ่งที่ชั้นต้องทุกข์ใจกับงานไอดอลที่ไม่ราบรื่นตามที่คิด แล้วชั้นได้รับกำลังใจจากเธอไง”
“อ้อ จะว่าไปก็มีเรื่องแบบนั้นจริงด้วย”
จำได้คลับคล้ายคลับคาว่ารินช่วงนั้นดูไม่ร่าเริงเหมือนปกติเลยลองพิมพ์แชทถามไป ได้ความประมาณว่าชีวิตจริงตอนนี้มีเรื่องต้องกังวลอยู่ แล้วผมก็ไม่ได้ละลาบละล้วงถามไปมากกว่านั้น แต่พยายามคอยถามข่าวคราวเธออยู่เสมอว่าดีขึ้นมั้ยและให้กำลังใจเรื่อยๆ
นึกไม่ถึงว่าที่แท้ความกังวลตอนนั้นของเธอคืองานไอดอลนี่เอง
“ถ้าหากว่าชั้นไม่ได้เจอกับคาสึในเกมออนไลน์ ชั้นคงเลิกเป็นไอดอลก่อนจะขึ้นมอปลายแล้วล่ะ”
“เวอร์ไปมั้งครับไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”
“ไม่เวอร์นะ ความนิยมของวงสตาร์ไมช่วงแรกที่ยังไม่ดังเท่าปัจจุบันนี้ ช่วงนั้นมันลำบากมากจริงๆ”
ที่เธอพูดก็เป็นเรื่องจริงแหละ เพราะความนิยมของสตาร์ไมช่วงก่อนจะปังเท่าปัจจุบัน ผลประกอบการหลายเดือนก่อนหน้าเรียกได้ว่าต่ำเตี้ยเรี่ยดินขายไม่ออกพร้อมจะโดนยุบวงได้ตลอด แต่ว่าเธอกับสมาชิกในวงก็สามารถฝ่าฟันสถานการณ์มาได้จนกลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปยอดฮิตในปัจจุบัน
แน่นอนว่า สำหรับผมที่เป็นแค่เน็ตเกมเมอร์ ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าความยากลำบากที่พวกเธอฝ่าฟันมาถึงจุดนี้ได้ ต้องผ่านมามากขนาดไหน แต่รู้ว่าเหนื่อยสุดๆแน่นอน
แต่ว่า พอรู้ว่า เน็ตเกมอย่างผมก็เป็นกำลังใจคอยช่วยเหลือรินกะได้ แม้สักนิด ผมก็รู้สึกดีใจมากแล้ว
“โลกความเป็นจริงมันโหดร้าย มีแต่คนคบกันด้วยเจตนาแอบแฝง อย่างแค่เล่นเกมออนไลน์ พอรู้ว่า ผุ้เล่นอีกคนเป็นผู้หญิงในโลกความเป็นจริง บางคนก็เผยสันดานหื่นแย่ๆมาแล้ว”
“ลำบากมากจริงๆนะครับ”
สำหรับผมที่ไม่ได้เนื้อหอม พอดูสีหน้าท่าทางคุณมิสึกิก็ได้แต่ยอมรับที่เธอบอก
“แล้วในบรรดาเพื่อนที่เล่นออนไลน์ด้วยกัน มีเพียงคาสึคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่ว่าชั้นจะเป็นยังไง เธอก็จะคอยสนับสนุนชั้นอย่างจริงใจ…”
มิสึกิยิ้มด้วยความคิดถึงความทรงจำอันน่าทนุถนอม ผมเห็นเธอแล้วนึกถึงเมื่อครั้งที่เล่นเกมกับเธอด้วยกัน ผ่านอะไรหลายๆอย่างมาด้วยกัน
“คาสึโตะคุง ฟังชั้นอยู่รึเปล่า”
“เอ๋ เอ่อ ฟังอยุ่ครับ”
ผมรีบพยักหน้ากลบเกลื่อนเรื่องที่ไม่ได้ตัั้งใจฟังเต็ม 100 ส่วนมิสึกิเห็นผมแล้วก็ออกอาการไม่พอใจเล็กน้อย
“เฮ้อ ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าใจความสำคัญคือ ถึงจะเป็นโลกออนไลน์ ชั้นก็ไม่คิดจะแต่งงานกับใครง่ายๆนะ กลับกันว่ายิ่งเป็นในเน็ตที่มีผู้คนบางคนมีวัตถุประสงค์แอบแฝง ชั้นยิ่งไม่แต่งงานกับใครด้วยความรู้สึกขอไปทีแน่”
“ค..ครับ”
“หรือคาสึโตะคุงไม่ได้คิดแบบเดียวกับชั้นเหรอ”
“เปล่าครับ ผมก็คิดแบบเดียวกัน การแต่งงาน แม้ว่าจะเป็นในเกมออนไลน์ แต่ก็เป็นอีเวนท์ที่มีความสำคัญมากในชีวิตด้วย”
“ดีใจจังที่คาสึโตะคิดแบบเดียวกับชั้นเลย”
“อ…อืม”
…นี่มันอะไรกัน ความรู้สึกนุ่มฟูอบอุ่นหัวใจข้างในนี้
เอาจริงๆ สำหรับผม แค่ได้คุยและสนิทสนมเป็นเพื่อนกับคุณมิสึกิที่แต่งงานในเกมส์ แค่นี้ก็พอใจแล้ว
แต่สำหรับคุณมิสึกิ เธอให้ค่าและความสำคัญมากกว่าที่ผมคิดอีก
“อ๊ะ รินจังมาที่โรงอาหารด้วยเหรอ ภาพหายากเลยนะเนี่ย”
เสียงเด็กสาวที่น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความร่าเริงแจ่มใสลอยเข้าหูผมแม้ว่าข้างในจะเป็นโรงอาหารที่มีคนแน่น
ผมหันไปหาต้นเสียง พบว่าเธอเป็นเด็กสาวสวยคนหนึ่ง
“อาร่า นานะ วันนี้ก็ร่าเริงเหมือนเคยนะ”
“่ม่า ก็เพิ่งจะทานอาหารจนอิ่มแปล้อะนะ”
เด็กที่ชื่อนานาะเป็นสาวสวยไว้ผมสั้น ดูสดใสร่าเริง
ถ้าจำไม่ผิด เธอคนนี้คือ…
“อะเร้ ผู้ชายที่ร่วมโต๊ะกับรินนี่คือคนรู้จักเธอเหรอ”
“อืม เขาชื่ออายาโนะโคจิ คาสึโตะ”
“งั้นเหรอ ชั้นชื่อคุรุมิซากะ นานะ เป็นสมาชิกร่วมสตาร์ไมกับรินจังนะ ฝากตัวด้วยจ้า”
สาวน้อยที่ทักทายผมพร้อมด้วยรอยยิ้มเปล่งประกายแจ่มใส เธอคือ คุรุมิซากะ นานะ เป็นเซนเตอร์ของวง ไอดอลสายร่าเริง และเคยได้ยินมาว่าเธอเป็นคนที่ซี้กับรินกะที่สุด
*****