Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ch11-4
“ไหนตอบมาสิ มิสึกิ อายาโนะโคจิจะล้างส่วนไหนก่อนเป็นอันดับแรกระหว่าง หัว หรือ ตัว”
“แน่นอนว่าหัวสิ เสร็จแล้วค่อยฮัมเพลงออนไลน์ไปด้วยล้างตัวไปด้วย
“รู้ดีใช่ย่อยซะด้วย แถมเสียงเพลงแม่มนึกว่าเข้าทรงไจแอนท์ด้วย”
“พวกเธอรู้ได้ไงเนี่ย ผมต้องแจ้งตำรวจด่วนละ”
ผมตะโกนลั่นสุดพลังคาตึกโรงเรียนเก่า ทว่ารินกะและทาจิบานะยังคงเล่นเกมเศรษฐีคุยเรื่องของผมต่ออย่างเข้าขาเป็นปี่เป็นขลุ่ย เมินกุซะงั้น
เหตุการณ์มันมีอยู่ว่า หลังจากผมกับทาจิบานะมาถึงตึกเก่า พอเข้าไปห้องเรียน รินกะรออยู่ข้างใน ทันทีที่เธอเห็นพวกผมก็กล่าวทันทีว่า
“นังชะนีขี้ขโมย อย่ามายุ่งกับสามีของชั้นนะ”
“เสียใจด้วยนะ คนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะอยู่เคียงข้างอายะตันคือชั้นต่างหาก….หือ?…สามีงั้นรึ?”
“ชั้นคบกับคาสึโตะคุงมาสี่ปีแล้ว ไม่มีช่องว่างให้ผู้ชายอย่างคุณหรอก”
“แต่ว่าที่คบกันในโลกความเป็นจริงมันแค่สองเดือนเองไม่ใช่เหรอ ฉะนั้นชั้นกับอายะตันที่คบกันมาตั้งแต่ม.1ย่อมเหนือกว่า ชั้นมีช่วงเวลาลึกซึ้งกับอายะตันมากกว่ามิสึกิแน่ๆ”
“แล้วไงล่ะคะ คบกันในโลกออนไลน์ยังไงก็ชนะโลกความจริง เพราะโลกออนไลน์ไม่มีความรู้สึกไร้สาระเข้ามาเกี่ยว เป็นโลกที่สานสัมพันธ์ความรู้สึกใจต่อใจอันบริสุทธฺ์”
“ถึงแก้ตัวยังไง โลกความจริงก็ต้องชนะอยู่ดี …แล้วที่พูดว่าสามีมันคืออะไร?”
“ชั้นกับคาสึโตะคุงแต่งงานกันแล้วน่ะสิ”
“หา? พูดอะไรของหล่อน? เรายังเป็นนักเรียนมัธยมอยู่เลยนะ”
“ใช่ แต่ชั้นแต่งกับเขาในโลกออนไลน์แล้ว นั่นหมายความว่า ในโลกความเป็นจริง ชั้นกับเขาก็ต้องถูกนับเป็นสามีภรรยาด้วยค่ะ”
“……..ถือว่าพูดมีเหตุผล”
อ้าว ยอมรับง่ายๆซะงั้น เล่นเอาผมงงเลย เพราะนึกย้อนกลับไป ขนาดผมเองกว่าจะยอมรับตรรกะรินกะในเรื่องนี้ได้นี่ใช้เวลาโคตรนาน
ทาจิบานะเงยหน้าด้วยสีหน้าเจ็บใจ มองฟ้าพึมพำ
“บ้าชะมัดเลย..ถ้าเป็นสามีภรรยา แปลว่ากุคนนี้ก็ไม่มีโอกาสชนะแต่แรกไม่ใช่เหรอ”
เออ มันแน่อยู่แล้วเว้ย และต่อให้ไม่ใช่สามีภรรยา เมิงก็ไม่มีโอกาสชนะ ฉะนั้นรีบๆหายสติแตกซะทีเหอะ
“เข้าใจก็ดีแล้วค่ะ คนที่มีคุณสมบัติอยู่เคียงข้างคาสึโตะคุง คือชั้น มิสึกิ รินกะ ไม่สิ ต้องบอกว่า อายาโนะโคจิ รินกะถึงจะถูก”
รินกะมีสีหน้าภาคภูมิใจ เสยผมเล็กๆอย่างผู้ชนะ”
ดูเหมือนว่าทาจิบานะจะยอมแพ้เรื่องนี้ละ เขาหน้าสลดแปบหนึ่ง ทว่าจู่ๆก็ทำท่าเหมือนนึกอะไรออกเอ่ยปากถาม
“มิสึกิเป็นภรรยาของอายะตันใช่มั้ย”
“ใช่แล้ว ชั้นจะไม่พูดเรื่องนี้ซ้ำซากนะเพราะชั้นเกลียดการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ”
รินกะเอ่ยด้วยน้ำเสียงและท่าทีเย็นชาแฝงแรงกดดัน
บอกได้เลยว่าถ้าผมเจอรินกะพูดใส่ด้วยท่าทางตะกี้ ผมคงจิตตกไปเป็นอาทิตย์เลยล่ะ
ทว่าทาจิบานะไม่มีทีท่าหวั่นเกรงในคำพูดรินกะ เขาถามขึ้นมาว่า
“ถ้าเป็นอย่างนั้น แปลว่าเธอจูบกับอายะตันแล้วใช่มั้ย”
“เอ๋…จ..จูบเหรอ?”
“ใช่แล้ว จูบนั่นล่ะ”
“….ชั้นจูบเขาตอนแต่งงานในโลกออนไลน์แล้ว”
“แล้วโลกความเป็นจริงล่ะ?”
“……ย…ยังไม่เคยค่ะ”
อ้าวเฮ้ย จากท่าทีภาคภูมิใจสมเป็นคูลไอดอลสุดฮอต ตอนนี้ไหงเปลี่ยนไปราวกลับตาลปัตรเลยวะ
รินกะตอนนี้กลายเป็นสาวน้อยใสซื่อก้มหน้ามองพื้น ขาดความมั่นใจในตัวเองไปซะแล้ว
ในขณะที่ทาจิบานะพอรู้ว่าได้เปรียบ ก็มีท่าทีโอหังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ความสัมพันธ์กับอายะตันในชีวิตจริงไปถึงขั้นไหนแล้ว”
“……จับมือกัน..แล้วนะ”
“เฮ้ยเฮ้ย แค่จับมือเองเนี่ยนะ อุตส่าอวยว่าเป็นภรรยาแท้ๆ มันต้องมีอะไรคืบหน้าหรือทำกิจกรรมมากกว่านี้รึเปล่า”
“ก็มีกิจกรรมเยอะนะ…”
“ต่อให้มีกิจกรรมเยอะแค่ไหน แต่จูบมันต้องมาก่อนเป็นอันดับแรกสิ”
“……..อา”
รินกะคงจะจินตนาการตามคำพูดของทาจิบานะไปด้วย ตอนนี้เธอหน้าแดงแป๊ด
ตอนนี้บอกเลยครับว่ารินกะหมดสภาพความเป็นคูลไอดอลละ ถ้าเป็นในมังงะโชโจ ป่านนี้ฉากหลังเธอคงมีไอน้ำโผล่บนหน้าเธอแล้วล่ะ
รินกะพยายามจะตอบกลับ เธอค่อยๆพูด ริมฝีากค่อยๆขยับสั่นๆ “…อา…ยา….โนะ…อือออออ”
ดูเหมือนเธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พูดไม่ออก
“หึหึ ดูเหมือนว่าจะรู้ผลแพ้ชนะแล้วสินะ และคนชนะคือกุผู้นี้เอง เฮ้ อายะตัน”
“มีอะไรวะ? แล้วก็เมืงหยุดเรียกกุว่าอายะตันเถอะ”
“คบกับกุเป็นแฟนเถอะนะ”
“ไม่คบโว้ย”
“เหตุผลล่ะ”
“เมิงต้องให้กูอธิบายอีกเหรอวะ ถามจริงเห้อ?”
“ชั้นให้แครอททุกวันแล้วนะ”
“แล้วมันมีข้อดีอะไรวะ เอะอะก็แครอท พ่อเมิงเป็นเด็กดอยใจดีรึไงวะ”
“แครอท..มันทำไมกัน”
ผมพูดจาตัดรอนไอ้แครอทเฮงซวยให้มันเลิกเล่นมุกนี้ ส่วนทาจิบานะช็อคกับคำพูดผม เป็นส้นตีนไรกับแครอทนักวะไอ้เวร
“ทำไมวะ…ทำไมถึงหักอกชั้นคนนี้….ทำไมถึงปฏิเสธไม่กินแครอท”
“ช..ชั้นกับคาสึโตะเป็นสามีภรรยากันจริงๆนะ ถึงแม้จะยังไม่เตรียมใจ แล้วก็ยังไม่เคยได้ทักทายครอบครัวฝั่งคาสึโตะคุงเลยก็ตาม”
จู่ๆรินกะก็พูดออกมาให้ทาจิบานะฟังขัดจังหวะการสนทนาของผม
….อืม สถานการณ์ตอนนี้เริ่มทะแม่งๆละ เดาไม่ออกเลยว่าตอนจบจะลงเอยยังไง
แต่อย่างน้อยสิ่งที่ผมควรทำคือพูดความรู้สึกของตัวเองให้ชัดเจน
“ผมไม่ได้เกลียดทาจิบานะ แต่ว่าในใจผมมีแค่รินกะคนเดียว ต่อให้มีคนอื่นมาสารภาพรักกับผม ผมก็ปฏิเสธคนพวกนั้นทั้งหมดอยู่ดี”
“ข..ขนาดนั้นเเลยเหรอ”
ทาจิบานะเบิกตาค้างกับคำพูดที่จริงจังของผม
ส่วนรินกะก็กล่าวว่า “ค..คาสึโตะคุง” ด้วยแววตาซาบซึ้งทอประกาย
“ทาจิบานะ กุเคารพเมิงในฐานะเป็นเพื่อนนะ แต่จะให้พัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นคนรัก กูมองไม่เห็นจุดนั้นเลย”
“……”
ทาจิบานะไม่พูดอะไร ก้มหน้ามองพื้น ปล่อยให้เวลาผ่านไปเงียบๆสักพักหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ากล่าว
“อายะตัน ไม่สิ อายาโนะโคจิ กุเข้าใจความรู้สึกเมิงชัดเจนละว่าเมิงไม่ได้คิดกับกูไปในทางนั้นเลย”
“ง…งั้นเหรอ”
“แต่ว่า เพื่อให้กุตัดใจได้เด็ดขาด กุอยากเห็นเมิงจูบว่ะ”
“….เอ๋?”
“ทำไมวะ กุอยากเห็นพวกเมิงจูบกันหวานๆสักทีเพื่อตัดใจแค่นี้ ให้ไม่ได้รึไง ถ้าให้กุเห็นปุ๊บ กุจะเลิกคุยเรื่องนี้เลย”
ทำไมมันมาลงเอยจุดนี้ได้ฟะ
“โย่ คุณมิสึกิ ทำให้ได้มั้ย”
“มันจะทำได้ไงคะ ให้จูบตอนนี้เลยมัน…”
รินกะอายหน้าแดงก่ำ มองหน้าผมสลับกับทาจิบานะ
“เธอเป็นสามีภรรยากับอายาโนะโคจิไม่ใช่รึไง”
“อ..อืม สามีภรรยาค่ะ”
“แล้วตะกี้ก็บอกเองว่าโลกออนไลน์เป็นโลกที่ใสซื่อมีค่ากว่าโลกความจริง ฉะนั้นไอ้โลกความจริงที่ไร้ค่าน่ะ กะอีแค่จูบแสดงความรักดูดดื่มให้เห็นมันไม่เหนือบ่ากว่าแรงหรอก ถูกมั้ย”
“ม..มันก็…”
“ถ้าไม่เคยจูบกัน นั่นไม่ได้เรียกว่าสามีภรรยาหรอก”
“……อา”
รินกะฟังคำพูดทาจิบานะจบ เบิกตากว้าง
“ว่าไงล่ะ จูบได้หรือไม่ได้”
“ด…ได้สิ พวกเราเป็นสามีภรรยากัน..กะอีแค่จูบ….”
รินกะตอบกลับทาจิบานะด้วยคำพูดแข็งขัน
…….แต่ว่าความสัมพันธ์ในโลกจริงเรามันแค่จับมือเองนะครับ
ม่า ถ้าที่นี่เป็นห้องผมแล้วอยู่ในความมืด เธออาจจะทำได้ก็ได้
“ลองจูบเด้ อย่าช้า วัยรุ่นใจร้อน ลองจูบเลย”
“หน..หนวกหูค่ะ”
รินกะกล่าวจบ ค่อยๆเดินมาหาผมด้วยใบหน้าแดงก่ำ ตัวแข็งเป็นหุ่น
“ช..เชิญค่ะ คาสึโตะคุง”
รินกะกล่าวด้วยเสียงสั่นๆเพราะตื่นเต้น สองมือประสานแนบอก แหงนหน้าเล็กน้อยหลับตานิ่ง
เคยได้ยินข่าวลือมาบ้าง นี่มันใบหน้าของคนที่รอให้จูบชัดๆ
ใบหน้ารินกะแดงด้วยความอายและตื่นเต้น หลับตาปี๋ รู้เลยว่าเธอกำลังเขินสุดๆ เป็นท่าทางที่น่ารักมากๆ
…….แล้วจูบเลย..จะดีรึเปล่านะ
ให้จูบแรกตรงนี้และสถานที่แบบนี้เนี่ยนะ
ผมเบนหน้าไปมองทาจิบานะ สบตากับมัน
พอมันเห็นหน้าผมปุ๊บ จู่ๆก็ทำท่าไหล่ห่อ ส่ายศีรษะไปมา
“ฮะฮะ ชั้นผู้นี้เป็นฝ่ายแพ้แล้วล่ะ”
“…หา?”
“นายทำให้ไอดอลสุดคูลมีสีหน้าเขินได้ขนาดนั้น ชั้นก็มีทางเลือกเดียวคือยอมแพ้ คนที่ทำให้เธอแสดงสีหน้าแบบนั้นได้มีแค่นายคนเดียว และคนที่ทำให้หัวใจนายหวั่นไหวก็มีแค่รินกะคนเดียวด้วยเช่นกัน”
“ทาจิบานะ..”
“..เฮ้อ ..เอาจริงก็เป็นสงครามที่รู้แล้วว่าไม่มีวันชนะแต่แรกล่ะนะ”
“กุบอกเมิงตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็บอกอีกทีละกันว่าหัวใจกุมีแค่รินกะคนเดียว”
“ถ้าเมิงจัดงานแต่งเมื่อไร อย่าลืมเชิญกุไปงานด้วยล่ะ กุจะเตรียมแครอทเซ้ทพิเศษเป็นของอวยพรให้”
“หาอย่างอื่นก็ได้นะเพื่อน”
“ยังไงเด็กผู้หญิงก็น่ารักอยู่ดีแหละ กุจะคบใครก็ต้องคบผู้หญิง ตอนนี้กุเข้าใจความรู้สึกตัวเองแล้ว”
“เออ อย่าว่าเลย กุก็รู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันร้ายนี่แหละ”
“ไว้เจอกันนะ อายาโนะโคจิ เมิงก็ลืมๆเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ไปนะ ส่วนกุจะลองไปหาทางคุยกับคุณชิอิคุระต่อ”
“เอ่อ จะให้กุเชียร์เมิงกับชิอิคุระนี่ก็ยากนะ”
ทาจิบานะไม่ได้ฟังคำพูดผม เดินออกจากห้องเรียน หายลับไป
“หือ….คาสึโตะคุง….?”
รินกะที่ยังหลับตารอจูบอยู่ ส่งเสียงเรียกผม
กุจะทำไงต่อจากนี้ดีฟะ
อย่างน้อย ในความคิดผมถ้าจะจูบ มันก็ต้องเลือกบรรยากาศกับสถานที่สักหน่อยนะ
แต่ว่า ทางรินกะที่ทำท่าน่ารักแบบนั้น ก็ดูเหมือนว่าเธอจะคาดหวังให้ผมจูบเธอตอนนี้เลย
“ค…คาสึโตะคุง?”
รินกะลืมตามองผมด้วยสายตาบอกชัดว่า “สรุปไม่จูบเธอเหรอ?”
หลังจากนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขั้น รินกะกดรับสาย ก่อนจะรีบบอกว่าขอตัวกลับบ้านก่อน
ไอดอลสุดฮอตมันก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างแบบนี้แหละ
ก็ต้องรอดูต่อไปว่าหลังจากนี้ ชีวิตของผมกับเธอจะเป็นไงต่อล่ะนะ
*****
จบ CH11-4
จบอีเว้นสุดกาวแต่เพียงเท่านี้ ส่วนใครที่โมโหว่าพระเอกไม่จูบวะ มันต้องรอดูกันยาวๆครับ
ตอนหน้า ผมแปลอัดไปชั่วโมงครึ่ง อ่านกันจุใจแน่นอน รอชมกันนะครับว่าหลังความกาว คาสึโตะกับรินกะจะเป็นไงต่อ
รอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon