Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ch13-4
หลับไปได้สักพัก สติผมก็สั่งให้ตื่นเพราะรู้สึกตัวว่ามีอะไรบางอย่าง
ผมลืมตามองเพดานที่ไม่คุ้นชินท่ามกลางความมืดสลัว
“…….?”
นี่มันอะไรกัน ร่างกายหนักอึ้ง เหมือนใครมุดเข้ามาทับผมใต้ผ้าห่ม ผมเลิกผ้าออก สายตาเริ่มชินกับความืด สิ่งที่เห็นคือร่างคนอกอึ๋มกำลังทับตัวผมอยู่
“….คุณรินกะ?”
รินกะนอนทับบนตัว และกอดผมแน่นราวกับว่าผมเป็นหมอนกอดสุดนุ่ม ผมรู้สึกถึงอุณภูมิและความอ่อนนุ่มของร่างกายรินกะผ่านสัมผัสอ้อมกอดจากเธอ
เอาไงดีเนี่ย เจอรินกะเข้ามากอด เล่นเอาทำไรไม่ถูกว่าควรจะตะโกนขอความช่วยเหลือ หรือปลุกให้เธอตื่นดี
“เอ่อ…คุณรินกะ? ตอนนี้ผมอึดอัดละครับ ปล่อยผมได้มั้ยครับ”
“กำลังนอนอยู่ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นค่ะ”
“ตื่นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แบบนี้ผมไม่ต้องบอกก็น่าจะลุกให้นะครับ”
“นี่คือการละเมอค่ะ”
“ตอบชัดขนาดนี้แถวบ้านไม่เรียกละเมอแน่ครับ”
“พรุ่งนี้ชั้นต้องออกแต่เช้าตรู่ ถ้าจะชวนคุยขอเป็นพรุ่งนี้นะคะ”
“นึกยังไงจู่ๆก็ทำตัวขี้อ้อนเอาแต่ใจผมนิ”
ดูสภาพ สั่งไปเธอก็ไม่ลุกอยู่ดี งั้นถามเหตุผลเลยน่าจะดีกว่า
รินกะเงยหน้ามองผม ถึงจะแม้ห้องจะมืด แต่ผมก็รู้สึกถึงบรรยากาศเหมือนคุยกันตามปกติ
“รินกะ อ้อนผมแบบนี้มันรุกล้ำเกินไปนะครับ”
“ชู่วววว อย่าเสียงดังสิคะเดี๋ยวแม่ชั้นรู้พอดี ชั้นอุตส่าใช้ความพยายามตั้งนานกว่าจะมุดเข้าแบบไม่ให้ใครรู้ตัวนะคะ”
“…..ผมว่าถึงคนอื่นรู้เขาก็คงไม่ว่าอะไรหรอกมั้งครับ”
“คิดว่าครอบครัวชั้นเป็นคนแบบไหนเหรอคะ ถึงพูดแบบนั้นออกมา”
ก็เป็นคนแบบที่เห็นๆกันเมื่อตอนหัวค่ำนั่นแหละ
“แล้วก็อย่าห้ามซะให้ยากค่ะ พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ฉะนั้นจะนอนด้วยกันมันก็เป็นเรื่องปกตินะ”
“นั่นสินะ งั้นอย่างน้อยก็ช่วยคลายอ้อมกอด ลงจากตัวผมสักหน่อยจะได้มั้ยครับ”
ผมพยายามต่อรองให้รินกะลงจากตัว แต่ดูเหมือนว่ารินกะจะโดนวิญญาณหมีโคอาล่าเข้าสิง เธอนอนคว่ำบนตัวผมกอดแน่น ส่งเสียงประหลาด “หุหหุหุหุหุ” นี่มันอะไรกันครับเนี่ย
“ไม่ปล่อยและไม่ลงค่ะ หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ปล่อยเด็ดขาด”
“เอ้า เสียเวลาสนทนาแบบนี้ เดี๋ยวเวลานอนคุณก็น้อยลงนะครับ”
“คิดว่าชั้นเฝ้ารอช่วงเวลานี้มานานมากขนาดไหนคะ เรื่องจะยอมปล่อยง่ายๆ ลืมไปได้เลยค่ะ”
“ไหงเร่าร้อนกับเรื่องพรรค์นี้ซะงั้น”
“หุหุหุหุหุ”
ดูเหมือนว่าการขอให้รินกะปล่อยจะได้ผลตรงข้าม ตอนนี้เธอกอดแน่นกว่าเก่าอีก สรุปว่าผมเลิกขัดขืนเธอละ อยากทำไรก็เต็มที่เลย
“ต้งแต่นี้เป็นต้นไปทุกคืน แค่คิดว่าคาสึโตะคุงจะกลายเป็นหมอนนุ่มให้ชั้นกอด…..ฮะฮะ”
“คือจะดีใจก็ไม่ว่านะครับ แต่อย่างน้อยคลายสักนิ้ดดด จะขอบคุณมาก”
“สามีภรรยานอนด้วยกันมันคือเรื่องปกตินะคะ ร่างกายผ่อนคลายเพราะสัมผัสกันและกัน แถมชั้นอยากจะอยู่ข้างๆคาสึโตะคุงนะ”
“….นอนกอดผมนี่ไม่คิดว่าตัวติดแน่นเกินไปรึครับ”
“ไม่ค่ะเพราะร่างกายของคาสึโตะคุงอบอุ่นมากค่ะ”
“ซุกซนเกิ้นนน….”
อุตส่าลองต่อรองให้ปล่อยอีกครั้ง ผลลัพธ์ก้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี
“ซู้ด ฮ่า ซู้ดดดดดด ฮ่า ซู้ดดดดดดดดด”
“หือ?”
จู่ๆรินกะโน้มหน้าตัวเองมาแถวต้นคอผม ก่อนจะตั้งใจสูดกลิ่นตัวผมเต็มที่
แทนที่ผมจะรู้สึกอาย ผมดันรู้สึกกดดันมากกว่าแทน
“….ป..เป็นอะไรไปครับ..อยู่ๆก็สูดผมราวกับว่าเป็นสัตว์ป่าพิสูจน์กลิ่นเลย”
“กลิ่นตัวของคาสึโตะคุงเหมือนเป็นยารักษาชั้น สูดแค่ครั้งเดียวก็ติดลมเหมือนมันช่วยรเยียวยาความเจ็บปวด.. ซู้ดดดด ซู้ดดดดด”
” นี่กลิ่นคนนะครับไม่ใช่กัญชา ผมเริ่มอายแล้วครับ เลิกสูดจะได้มั้ยครับ”
“ซู้ดดดด ซู้ดดดดดด”
“รินกะ?”
“คาสึโตะคุงชอบสัตว์รึเปล่าคะ”
“อย่าเบี่ยงประเด็นสิคร้าบบบ..ม่า ก็ไม่ได้ถึงขั้นเกลียด ขึ้นอยู่กับว่ามันเป็นตัวอะไรครับ”
“งั้นเหรอ…ชั้นน่ะชอบทานุกินะ”
“ทานุกิ? ทำไมถึงชอบครับ”
“มันน่ารักน่ะ แววตากลมบ้อกเหมือนตุ๊กตา แค่เห็นก็ถูกใจ นอกจากนี้ สัตว์ชนิดนี้ผูกสัมพันธ์กับคู่ครองมันสุดๆด้วย”
ผมนอนฟังเงียบๆ ปล่อยนรินกะกล่าวต่อ
“ทานูกิน่ะ จะอยู่ดัวยกันกับคู่ครองมันตลอดชีวิต และหากเป็นผัวเมียแล้ว ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไร มันจะไม่ห่างจากคู่ครองมันเลย”
“สายสัมพันธ์สามีภรรยามันสุดจัดจริงนะครับ”
“อืม แล้วก็ถ้าคู่ครองใครเป็นฝ่ายตายก่อน ตัวที่เหลือก็ใช้ชีวิตคนเดียวไม่ไปหาคู่ครองใหม่ตราบจนวาระสุดท้าย”
เป็นรักที่บริสุทธิ์ลึกซึ้งจริงจนไม่เหมือนเป็นสัตว์เดรัจฉานเลย ผมพอจะรู้เหตุผลแล้วว่าทำไมรินกะถึงชอบทานุกิ
“ไม่ไหวละ ถึงขีดจำกัดแล้วค่ะ”
“…ถึงขีดจำกัดเรื่องอะไรเหรอครับ”
“ปกติชั้นจะนอนกอดตุ๊กตาคาสึโตะคุงแล้วค่อยหลับนะคะ”
“….แล้ว?”
“ตัวชั้นในตอนนี้ที่ได้กอดคาสึโตะคุงตัวเป็นๆ มันทำให้ชั้นรู้สึกว่าอยากจะกอดเธอให้แน่นสุดชีวิตเลยค่ะ”
“ห…หา?”
รินกะโน้มหน้าลงมาที่คอผมหนักกว่าเก่า จนหน้าอกผมสัมผัสกับหน้าอกรินกะถึงขั้นได้ยินเสียงเต้นหัวใจของเธอ
“นี่คือสิ่งที่คุณอยากทำเหรอครับ”
“ไม่ชอบเหรอ ถ้าไม่ชอบจริงๆ ชั้นจะหยุดค่ะ…”
“ไม่ได้บอกว่า..ไม่ชอบนะครับ”
“งั้นเหรอคะ กว่าคุณสามีจะเปิดเผยความในใจ ช้าสุดๆเลยนะคะ ชั้นนี่แทบขึ้นเลยค่ะ”
“…….”
ผมอยากจะเถียง แต่คิดว่าเงียบไว้น่าจะดีกว่า
“คาสึโตะคุงเป็นคนน่ารักจริงๆนะคะ ตุ๊กตาคาสึโตะคุงน่ารักก็จริง แต่ถึงยังไงคาสึโตะคุงในโลกความจริงก็ต้องน่ารักเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว”
“งั้นเหรอครับ….”
ถ้าสมมติว่ารินกะบอกว่า ตุ๊กตาคาสึโตะน่ารักกว่าตัวผม ผมคงหน้าแห้งอะนะ
“เน่ คาสึโตะคุงไม่มีเรื่องอะไรที่อยากให้ชั้นทำจริงเหรอ จะให้ลูบหัวแล้วร้องเพลงกล่อมนอน ชั้นก็ทำได้หมดนะคะ”
“ผมไม่ใช่เด็กน้อยนะครับ เปลี่ยนแนวคิดสักหน่อยก็ได้นะ”
“อาร่า ไม่รู้เหรอคะ ตอนนอนน่ะ คาสึโตะคุงเหมือนเด็กเลยนะคะ ตอนหลับด้วยใบหน้าไร้เดียงสา ม้นน่ารักมากเลยล่ะค่ะ”
รินกะเขยิบขึ้นมาเหนือตัวผมเล็กน้อย ไม่รู้ว่ารินกะรู้ตัวรึเปล่า แต่ว่าหน้าอกเธอ สัมผัสโดนหน้าผมแล้ว ถ้านี่เป็นสถานการณ์คุยกันปกติในห้องเปิดไฟ ป่านนี้ผมคงโดนแดเมจจากท่านี้จนช็อคตายคาอกเธอแล้ว
“โม่ จริงๆแล้วคาสึโตะคุงก็คือคาสึโตะคุงนะคะ ….คาคาสึโตะคุง”
รินกะเธอเริ่มอดกลั้นความรู้สึกตัวเองไม่อยู่ กอดหน้าผมแน่นพร้อมเรียกชื่อผมหลายต่อหลายครั้ง ถ้าเธอยังไม่หยุดกอดด้วยท่านี้ต่อ ผมอาจจะหายใจไม่ออกตายเพราะหน้าอกเธอแล้วก็ได้ ซึ่งดูเหมือนว่าเธอเริ่มจะรู้ตัว เลยคลายอ้อมกอดเล็กน้อย
……คาสึโตะคุงงั้นเหรอ
“ถ้างั้นผมมีเรื่องหนึ่งจะขอร้องครับ”
“ได้สิ ว่ามาเลย”
“มันอาจจะเร็วเกินไปก็ได้ แล้วก็เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยพูดมาก่อนด้วย”
“ถ้าเป็นคำขอคาสึโตะคุง ชั้นไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธค่ะ”
“งั้นเหรอครับ ถ้างั้นอย่างแรก เอาหน้าคุณห่างไปจากคอผมก่อนได้มั้ย”
“ซู้ดดดด ซู้ดดดดด… อ๊ะ ขอโทษนะคะ ตอนนี้ชั้นหลับไปแล้วเลยไม่ได้ยินสิ่งที่พุดคะ เรื่องนี้ไว้คุยใหม่โอกาสหน้านะคะ”
“เอ้า”
แหมมม หาโอกาสคุยให้ปล่อยยังไง ก็ไม่ปล่อยสักที กุยอมของจริงก็ได้วะ แล้วก็ผมมีเรื่องจะขอเธออีกอย่างด้วย
“รินกะ คำของผมยังมีอีกอันนะครับ”
“จะทำรึไม่ขึ้นอยู่กับเนื้อหาคำขอนะคะ”
“อ้าว ทำไมคราวนี้คำตอบไม่เหมือนตอนแรกล่ะ”
“มนุษย์เราก้าวหน้าขึ้นในแต่ละวัน ฉะนั้นความคิดอ่านคนเราจะเปลี่ยนไปตามวันเวลาถือเป็นเรื่องปกติค่ะ”
“ก้าวหน้าเหรอ ฉวยโอกาสมากกว่านะผมว่า”
“ซู้ดดด ซู้ดดดด เอ๋ ว่าไงนะคะ”
“…..”
โอ้ยย เอาจริงๆ มีสาวงามมากอดจูบได้ซุกนมเขา คุณจะเอาไรอีก แถมเธอก็โคตรน่ารักด้วย เห็นเธอทำแบบนี้แล้วชักเริ่มใจละลายกว่าเก่า เธอจะดื้อแค่ไหนก็ตามสบายละครับ
ผมเริ่มสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อให้ตัวเองใจเย็น ก่อนจะเอ่ยปากบอกความต้องการ
“ผมอยากให้เรียกผมว่า คาสึโตะ ครับ”
“ให้ตัดคำลงท้าย คุง เหรอ เธอไม่ชอบที่ชั้นเรียกรึ”
“ไม่ได้เกี่ยวกับชอบหรือไม่ชอบครับ …ไม่สิ อาจจะเกี่ยวนิดหนึ่ง แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งเป็นพิเศษนะครับ”
“งั้นเหรอ…”
เอาจริงๆ สิ่งที่ผมคิดอยู่ตอนนี้คือ ณ.ปัจจุบัน ไม่มีใครเรียกผมว่า คาสึโตะ แม้แต่คนเดียว ฉะนั้นถ้ามีใครสักคนเรียกชื่อนี้ เขาคนนั้นคือคนพิเศษแล้ว
“คาสึโตะ”
“อืม”
รินกะค่อยๆพึมพำเรียกชื่อผมเบาๆอีกครั้ง
“คาสึโตะ”
อืม”
“คาสึโตะ…คาสึโตะ…. คาสึโตะ คาสึโตะ คาสึโตะคาสึโตะคาสึโตะ….”
“พอเลยครับ ผมเริ่มหลอนแทนแล้ว”
รินกะถอยตัวเองไปซุกใต้ผ้าห่ม โผล่ให้เห็นแค่หน้า ก่อนจะเรียกชื่อผมรัวๆ
อีสัส จากซีนโรแมนติก ไหงกลายร่างเป็นซีนผีจูออนจะโผล่มาแทนซะงั้น
*****
จบ CH 13-4
แปลไปชั่วโมงนิดๆน่าจะคุ้มค่านะครับ
บทนี้สูดทั้งกาว สูดทั้งนม วันนี้เจ้าโตะหน้าซุกนมเมียเต็มอิ่ม คุ้มค่าสุดๆละ หวานเกิน น่าอิจฉาเมียรักจริงๆ แต่ช้อตท้ายกลายร่างเป็นหนังหลอนแทน 555
ตอนหน้าจะเป็นดราม่าคั่นเวลาตัดความหวานนิดหนึ่ง แต่เนื้อเรื่องยังน่าสนใจ อย่าเพิ่งทิ่งกันไปนะครับ
รอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่มะรืนนะครับ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon