ไพรอซีนเป็นสถานที่ที่คนทั่วไปมาสนุกสนานกันในตอนค่ำ ไดเฟียสวางระเบียบการณ์ของทุกประตูในบาร์อย่างเข้มงวด แต่ละประตูมีอันธพาลที่ได้รับการฝึกให้คุ้มครองเขา การเข้ามานั้น ผู้คนต้องปราศจากอาวุธโดยไม่มีข้อยกเว้น อย่างไรก็ตามสมาชิกแก๊งอาเชรอนมีหน้าที่ปกป้องชีวิตของพวกเขา
นี่เป็นสิ่งที่ยุติธรรมงั้นเหรอ?
นอกจากนักผจญภัยระดับต่ำที่ไม่รู้จักความตายแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ต่างปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด สำหรับคนโง่ที่ฝ่าฝืน ร่างของพวกเขาจะถูกทิ้งไว้ที่ท่อระบายน้ำตอนเช้าของวันถัดมา
อย่าไปยั่วอันธพาลในแต่ละท้องถิ่น นี่เป็นกฎการอยู่รอดของนักผจญภัย
อย่างไรก็ตาม มาร์วินถือว่านี่เป็นข้อยกเว้นในคืนนี้
ถ้าคนพวกนี้ไม่ขัดขวางเขา เขาก็ไม่ขัดขวางพวกมัน นี่คือหลักการของมาร์วิน แก๊งอาเชรอนได้พยายามลอบสังหารเขา ดังนั้นเขาจึงต้องตอบโต้กลับ
มาร์วินเตรียมพร้อมแล้วสำหรับคืนนี้ ทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมดแล้ว มีดสั้นคู่อยู่ในมือทั้งสองของเขา มีดมากกว่า 2 เล่มถูกเหน็บไว้ที่เอวรวมถึงมีดโค้งที่สำรองไว้ นี่เป็นขีดจำกัดของเขาและหากน้ำหนักมากกว่านี้มันจะลดความคล่องตัวของเขา
เขาสวมหน้ากากดำปิดครึ่งใบหน้า ไม่ใช่ว่าเขาต้องการปกปิดตัวตน แต่จากประสบการณ์ของเขา คนที่ไม่รู้จักนั้นน่ากลัวยิ่งกว่า
วันนี้เขาจะส่งความกลัวให้กระจายไปทั่วแก๊งอาเชรอนตามที่เขาต้องการ
ที่ห้องครัว
เขาเคยถามคนรอบๆสลัมและพบว่าทุกๆวันจะมีคนส่งผัก ผลไม้ ไวน์และสิ่งอื่นๆผ่านทางห้องครัวไปจนถึงห้องเก็บของ
นั่นคือยามที่ขี้เกียจที่สุด
19.30 ในช่วงหัวค่ำ รถเข็นส่งของได้นำสิ่งของมาส่งตามเวลา ยาม 2 คนเดินเข้ามาและเริ่มตรวจสอบสินค้าในคนเข็น
ในเวลานั้น มาร์วินได้ซ่อนตัวและเข้าไปด้านในอย่างราบรื่น
ห้องครัวเต็มไปด้วยกลิ่นคาวปลาและมีพ่อครัว 2 คนกำลังทำอาหารอยู่หน้าเตา ไม่มีใครกล้าจ้องมองไปทางอื่น
จากมุมนี้มีเสียงร้องไห้เบาๆดังออกมา
มาร์วินขมวดคิ้ว
มีอันธพาลแก๊งอาเชรอนกำลังทุบตีเด็กสาวที่น่าสงสาร!
เด็กผู้หญิงอายุประมาณ 5-6 ปียังดันทุรังอยู่ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ใหญ่ 2 คนทุบตี เธอไม่พูดแม้แต่ขอโทษและกลั้นน้ำตาเอาไว้ มีเพียงเสียงสะอื้นเท่านั้นที่ดังออกมา
“แม่ของเจ้ามันตายไปแล้ว! อย่าลืมกลับไปหาพ่อของเจ้าด้วย! ไอ้ลูกโสเภณี พวกแกมันดื้อรั้นด้วยกันทั้งคู่”
ชายร่างผอมสาปแช่งออกมา “มันกล้ามาขอเงินพวกเรา! มันก็ต้องรับลูกค้าและตอนนี้มันตายเพราะติดโรค นังโสเภนีนั่นก็สมควรแล้ว!”
“คนโกหก!” เด็กผู้หญิงตัวเล็กถูกคว้าผมไว้และพูดต่อด้วยความโกรธ “แม่ยังไม่ตาย! แม่แค่ต้องการเงิน! หนูสามารถหานักบวชมารักษาแม่ได้! เอาเงินมา!”
“กลับไปหาแม่ของเจ้าซะ!” ชายอีกคนตบไปที่ใบหน้าของเด็กสาวอย่างแรง
เด็กสาวโดนตบ ใบหน้าของเธอบวมเปล่ง เลือดเริ่มไหลออกมาจากหางตา
“เอาเงินของหนูคืนมา!” ความตายไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเธอ เธอกัดฟันและตะโกนเสียงดัง
ชาย 2 คนมองหน้ากันและชายร่างผอมบีบกำปั้นและพยักหน้า
มาร์วินรู้ว่าพวกมันกำลังจะฆ่าเธอ
ชิ้ง!
มีดโค้งถูกชักออกมา พ่อครัวทั้งสองต่างสั่นกลัวและเริ่มมีสีหน้าซีดเซียว
“ทำงานของพวกเจ้าไป!” ชายร่างผอมพูดออกมาเบาๆ “จำไว้ว่าพวกเจ้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
หนึ่งในพ่อครัวที่เป็นคนหนุ่ม เขากำมีดในมือแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความโกรธ
“อย่า” พ่อครัวแก่กว่าห้ามเขาไว้ด้วยความรู้สึกหมองหม่น “นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราสามารถจัดการได้”
ชายร่างผอมถือมีดไว้ในมือและคว้าไปที่ไหล่ของเด็กสาว
เธอไม่มีแรงในการดิ้นรนอีกต่อไป เธอจ้องมองเขา แสดงให้เห็นว่าเธอพร้อมจะตาย
เป็นความรู้สึกอึดอัดยากที่อธิบายให้ถูกราวกับถูกผีจ้องมองลงมา
“เด็กน้อย ตายซะเถอะ!” ชายร่างผอมตะโกนออกมา
ประกายแสงวาววับสว่างออกมา
เลือดไหวทะลักไปทั่วไปหน้าของเด็กสาว
หัวของชายร่างผอมที่มีสีหน้าประหลาดใจร่วงลงกับพื้น
ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาด้านหลังของเขา
[ตัดคอ ใช้งานประสบความสำเร็จ!]
[โบนัสลอบโจมตี….ความเสียหายx2]
[เป้าหมายตายแล้ว! ได้รับค่าประสบการณ์ต่อสู้ 22 หน่วย]
ด้วยการโจมตีของมาร์วิน รวมไปถึงสกิลตัดคอและโบนัสโจมตีที่เพิ่มขึ้นมา ผลลัพธ์ที่ได้คล้ายกับสกิลระดับสูง [ตัดหัว]! ซึ่งเป็นคลาส 3 [อาชญากรนอกรีต]
ร่างของมาร์วินขยับไปยังเพื่อนของชายร่างผอมที่ไม่ทันเตรียมตัว เขากำลังดึงอาวุธเพื่อปกป้องตัวเอง แต่โชคร้าย มือซ้ายของมาร์วินตวัดกลับมาอย่างแม่นยำ เปิดศีรษะของชายคนนั้นออก
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางมากที่สุด แม้ว่าพวกเขาจะรักชีวิต แต่เมื่อพวกเขาถูกโจมตีจุดตาย พวกเขาจะตายอย่างแน่นอน
สมองของชายที่โชคร้ายถูกเปิดออก ร่างกายของเขาค่อยๆล้มลง
พ่อครัวทั้ง 2 คนต่างหวาดกลัว
เด็กสาวคนนั้นพยายามเงยหน้าขึ้นไปมองมาร์วิน
ดวงตาของเขาเปล่งประกายแสงสีแดงออกมาขณะหนึ่ง
“เจ้าชื่ออะไร?” มาร์วินถามขณะที่พ่อครัว 2 คนกำลังซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ
เด็กสาวมองไปยังมาร์วินที่สวมหน้ากากและกำลังถือมีดทั้ง 2 อยู่โดยไม่เกรงกลัวและตอบกลับ “อิสซาเบล”
“เป็นชื่อขุนนาง?” มาร์วินตั้งข้อสังเกต
“ท่านพ่อตั้งให้ข้า” อิสซาเบลพูด
“บอกข้ามา ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมขอโทษและหลบหนีออกมาเมื่อพวกมันถูกทุบตีเจ้า?”
เด็กสาวกัดฟัน “มีแค่ทางนี้ทางเดียวเท่านั้น”
ทางนี้ทางเดียว มิเช่นนั้นแม่ของเธอจะตาย เธอไม่มีทางเลือก เธอยอมถูกทุบตีจนตายดีกว่าไม่พยายามทำอะไรเลย
“เกิดอะไรขึ้น?”
ในขณะนั้น ยาม 2 คนที่กำลังตรวจสอบสินค้าที่รถเข็นวิ่งเข้ามาในห้องครัว ด้วยความตกใจ พวกเขาได้กลิ่นเลือด
มาร์วินหันมาและเดินผ่านชั้นวางอย่างเงียบๆ
ยาม 2 คนมองไปที่เด็กสาวที่อยู่ใกล้ศพ พวกเขาตกใจมาก จากจุดบอดด้านหลังมาร์วินก้าวเท้าและกระโจนเข้ามา อาวุธทั้งสองในมือของเขาตวัดไปมาอย่างเหมาะเจาะ
ด้วยการโจมตีที่มีประสิทธิภาพ ยาม 2 คนไม่มีเวลาชักอาวุธออกมา ก่อนที่กระโหลกของพวกเขาจะถูกเปิดออก
นี่คือความสามารถของอาวุธคู่! ทั้งมือซ้ายและมือขวาสามารถผสานการโจมตีได้อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถจัดการสองเป้าหมายในเวลาเดียวกันได้
กลิ่นเลือดโดยมาจากห้องครัวแรงขึ้น ปัญหานี้ไม่ค่อยใหญ่มาก เนื่องจากคนในบาร์มักคิดว่าเป็นการฆ่าสัตว์
เมื่อมองไปที่ฉากที่น่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ อิสซาเบลก้าวออกมาและถามเสียงเบาๆ “คุณคือศัตรูของแก๊งอาเชรอนใช่ไหม?”
“ข้าจะฆ่าพวกมันคืนนี้” มาร์วินตอบ
เขาไม่ได้สนใจเด็กสาวตัวน้อยๆ ความดื้นรันของเธอชนะใจเขา
“คุณอยากได้คำแนะนำไหม?” เด็กสาวเดินมาหาเขาพร้อมด้วยดวงตาที่สว่างไสว “หนูรู้จักทุกคนในแก๊งอาเชรอนและรายละเอียดหลายอย่าง”
“หนูรู้ว่าหัวหน้าของพวกมันซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดิน หนูรู้ทาง”
มาร์วินหัวเราะและลูบหัวอิสซาเบล
“เจ้ากล้าหาญมาก”
หลังจากที่พูด เขาส่งมีดให้กับเธอ
“ถือไว้ อิสซาเบล คืนนี้พวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน”
เด็กสาวที่ถือมีดสั้นไว้ในมือราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน เธอสูดลมหายใจเข้าและถามขึ้น “พวกเราจะแอบลอบสังหารที่ไหนกันก่อนที่ดี?”
“ไม่” มาร์วินเตะประตูห้องครัวและเดินผ่านประตูทางเท้าพร้อมมีดสั้นทั้งสองเล่ม
“พวกเราจะฆ่ามันซึ่งๆหน้านี่แหละ”
…
ตราบใดที่เขาก้าวเข้ามาในบาร์ได้ เขาไม่จำเป็นต้องปกปิดตัวเอง
ถึงแม้ว่าเขาจะเก่งเท่ากับตัวเขาในอดีต แต่ปัจจุบันเขาเป็นเรนเจอร์ ไม่ใช่โจร
สกิลของเขาในตอนนี้เหมาะกับการเผชิญหน้าโดยตรงมากกว่าชีวิตที่ผ่านมาของเขา ฟุตเวิร์ค การใช้มีดและประสบการณ์ ทั้งหมดใช้ในการกำจัดเหล่าอันธพาลที่เข้ามาโดยไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้เขามีระดับ 3 แล้ว อันธพาลทั้งหมดให้ค่าประสบการณ์แค่คนละ 10 หน่วยเท่านั้น มันเป็นเรื่องน่าขำ
พวกมันเป็นเพียงแค่พรมเช็ดเท้าที่มีไว้เหยียบย่ำ
เมื่อมาร์วินเตะประตูห้องครัว เหล่าอันธพาบต่างถือมีดมาเชตี้วิ่งเข้ามาโจมตี
นักเลงดาบ ระดับ 3 HP 78!
โชคร้ายที่พวกมันทั้งหมดสวมเสื้อผ้าฝ้ายธรรมดา ไม่ได้สวมชุดเกราะแต่อย่างใด ค่า HP ของมนุษย์ที่ไม่ได้สวมเกราะเหมือนกับไม่มี โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้ามาร์วิน ผู้เชี่ยวชาญในการโจมตีจุดตาย
เคร้ง! มีด 2 เล่มปะทะกัน ความแข็งแกร่งของมาร์วินด้อยกว่าฝ่ายตรงข้ามนิดนึง
อย่างไรก็ตาม ด้วยการบิดข้อมือเบาๆ มีดโค้งของเขาสามารถหลุดลอดไปตามแนวของมีดมาเชตี้ได้และตวัดไปตัดข้อมือของอันธพาลคนนั้นทันที
“อ๊ากกกกก!”
เสียงร้องได้ดึงความสนใจของทุกคน
ทั่วทั้งบาร์เริ่มเต็มไปด้วยเสียงอื้ออึงและทุกคนลุกขึ้นยืน!
บางคนกำลังมองหาต้นเหตุ! และดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาสามารถจัดการได้ง่ายๆ
แขกบางคนถอยไปหลบด้านหลังคนอื่นและมองฉากตรงหน้าอย่างตื่นเต้น แก๊งอาเชรอนกำลังขยายอำนาจ ดังนั้นคนบางกลุ่มอาจจะไม่พอใจ
พวกเขากำลังสงสัยว่าแก๊งไหนที่กล้าลุกขึ้นต่อต้าน
แต่เมื่อพวกเขาเห็นผู้บุกรุกเป็นเพียงนักดาบที่สวมหน้ากากและเด็กผู้หญิงที่เคยถูกทุบตี ใบหน้าที่ตื่นเต้นของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่สิ้นหวัง
“เป็นนักผจญภัยที่บ้าบิ่นเป็นบ้า”
“เรนเจอร์คนนี้ดูเหมือนจะเก่งอยู่นะ แต่เขามีเพียงคนเดียว….เขากำลังมองหาความตายอย่างนั้นรึ?”
“ใช่แน่เลย คงใช้ชีวิตมามากพอแล้วมั้ง”
นี่คืออาณาเขตของแก๊งอาเชรอน พวกเขาได้เปรียบและมีสมาชิกกว่า 20 คน มีทีมขนาดเล็กอีก 2 ทีมที่มีคลาสและรวมถึงสมาชิกที่ไว้ใจได้ของไดเฟียส
ในสายตาของพวกเขา นักผจญภัยระดับต่ำนี่กำลังเมาและอาละวาด
เมื่อผู้คนกำลังพูดไปมา มาร์วินได้จบชีวิตของสมาชิกแก๊งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เด็กสาวกำลังมองหาโอกาสแทรกตัวเองหลบเข้าไป เธอไม่ต้องการเป็นภาระให้กับมาร์วิน
“ฆ่ามัน!” เสียงน่าปวดหัวดังขึ้นมา
นักผจญภัย 6 คนที่อยู่ในชุดเดียวกันออกมาจากฝูงคนที่ล้อมรอบมาร์วิน โจร 2 นักดาบ 3 และอีก 1 ไม่รู้ว่ามีคลาสอะไรอีกอาจจะเป็นโร๊ก
มาร์วินมองไปยังพวกเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูล
สำหรับ 6 คนนี้ถือเป็นศัตรูที่ต่อสู้ได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะเมื่อถูกรุม
“ชายคนนี้มันบ้าไปแล้ว!”หนึ่งในนั้นพูดอย่างสนุกสนาน
นักดาบอีก 3 คนคำรามและวิ่งเข้ามา
มาร์วินหัวเราะเยาะและพุ่งตัวไปยังบาร์และกระโดด!
เขากระโดดไปบนคาน
ความว่องไว 18 แต้มของเขาช่วยให้เขาทำในสิ่งที่คนทั่วไปทำไม่ได้
‘น่าเสียดายที่ข้ายังไม่มีก้าวไร้แรงโน้มถ่วงหรือว่าข้าจะวิ่งผ่านปัญหานี้ไปเลยดี’
มาร์วินได้ความคิดใหม่และใช้ฝีเท้าที่ว่องไว เขากระโดดไปยังคานที่ 2 และถีบไปที่หนึ่งในเสาเหล่านั้น
เขามาถึงด้านหลังของหนึ่งในนักดาบภายในพริบตา
การใช้ความเร็วในการพุ่งลงมา เขาวางมีดในรูปแบบของกรรไกร!
ทุกคนต่างตกตะลึง นักเลงดาบยกมีดมาเชตี้ขึ้นมาป้องกันตัวตามสัญชาตญาณ
เคร้ง! มีดมาเชตี้แตก รวมไปถึงกระดูกคอด้านซ้ายของนักดาบคนนั้น
“อ้ากก!” เสียงร้องดังออกมาจากลำคอของเขา มาร์วินเดินหลับไปตัดคอของเขาอีกครั้ง เพื่อส่งเขาไปสู่สรวงสวรรค์
“บัดซบบ!” ชาย 5 คนที่อยู่ใกล้ๆบ้าคลั่งขึ้นมาทันที
มาร์วินเตะโต๊ะ กระแทกเข้าใส่นักเลงดาบ 2 คน
ด้วยความรวดเร็ว เขาพุ่งตัวไปยังหนึ่งในโจรทั้งสอง