NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 114 ตู้เฟยที่หยิ่งผยองไม่มีใครเทียบได้

บทที่ 114 ตู้เฟยที่หยิ่งผยองไม่มีใครเทียบได้
เช้าวันที่สอง หลี่ฝางได้ไปโชว์รูมรถเบนซ์4S
หลังจากเรื่องเมื่อวานแล้ว แค่เข้าไปในร้าน หลี่ฝางถูกต้อนรับเหมือนกับเทพเจ้า
หลี่ฝางเดินดูไม่นานนัก ก็ได้เดินไปที่รถเบนซ์จิ๊บคันหนึ่ง ชี้ไปรถคันนี้แล้วถาม: “รถคันนี้ราคาเท่าไหร่?”
“รถเบนซ์จิ๊บคันนี้ราคาอยู่ที่ประมาณสองล้านกว่าหยวน” พนักงานหญิงที่ขายรถตอบกลับอย่างยิ้มแย้ม
“ซื้อคันนี้แหละ”
หลี่ฝางหยิบการ์ดออกมาหนึ่งใบ ไม่มีความลังเลใดๆ
“คุณไม่ทำความเข้าใจให้มันมากกว่านี้หน่อยเหรอคะ?” พนักงานหญิงที่ขายรถยังไม่เคยเจอลูกค้าที่ซื้อง่ายขนาดนี้มาก่อนเลย
“ไม่ต้องแล้ว ผมรีบ รูดการ์ดเลย” หลี่ฝางพูดอย่างไม่แยแส: “สิ่งที่ควรมีก็ใส่มันเข้าไปเลย”
“คุณจะจ่ายจำนวนเต็มใช่มั้ยคะ?”
“ใช่ ทำไมเหรอ? แค่สองล้านกว่าเอง คงไม่ต้องผ่อนมั้ง?” หลี่ฝางไม่ได้ปกปิดความร่ำรวยของตัวเอง พูดออกมาโดยตรง
หลังจากรูดการ์ด ทำเรื่องเสร็จหมดเรียบร้อยแล้ว พนักงานหญิงที่ขายรถยังได้ขอวีแชทกับหลี่ฝาง บอกว่าหากรถมีปัญหาอะไร สามารถหาเธอได้ตลอดเวลา
หลี่ฝางไม่ได้โง่ ทำไมจะไม่เข้าใจความหมายของเธอละ?
หลี่ฝางก็แกล้งพูด: “แล้วหากรถไม่มีปัญหา จะหาคุณได้มั้ย?”
พนักงานหญิงที่ขายรถหน้าแดงทันที: “หากเป็นเวลาเลิกงาน ก็ได้ค่ะ”
หลี่ฝางหัวเราะเห่อๆ ก็ขับรถออกไปเลย
ผู้หญิงแบบนี้ หลี่ฝางเห็นมาเยอะแล้ว ขอเพียงตัวเองตกลง อีกฝ่ายก็จะถอดเสื้อผ้าออกทันที แล้วไปนอนบนเตียงอย่างว่าง่าย รอให้ตัวเองไปเสพสุข
เวลานี้ ที่หน้าประตูโรงแรมลี่ชุน มีนักเรียนจำนวนมากมารวมตัวกัน
ตู้เฟยก็ขับรถสปอตเบนซ์ของตัวเอง และมาที่นี่อย่างสง่าผ่าเผย
ตู้เฟยลงมาจากรถ สวมใส่แว่นตาดำ ทักทายผู้คนที่อยู่รอบข้าง
“คนนี้ใช่ตู้เฟยป่ะ? เขามาได้ยังไง”
“ใช่ เขาถูกผู้อำนวยการโรงเรียนไล่ออกแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังมีหน้ามาร่วมงานเลี้ยงอำลาอีกละ” นักเรียนที่ที่ไม่ชอบความหยิ่งผยองของตู้เฟยได้พูดขึ้นมาอย่างเยาะเย้ย
จางเสี่ยวเฟิงและเกาเสิ้งนั้นดวงตาเป็นประกาย รีบไปต้อนรับทันที
“พี่เฟย พี่มาได้ไง?”
“เปลี่ยนรถอีกแล้วเหรอ รถคันนี้ดูแล้วใหม่จังเลย เพิ่งถอยมาเหรอ?” จางเสี่ยวเฟิงมองตู้เฟยอย่างอิจฉา
“ใช่ เมื่อวานเพิ่งถอยมาเอง” ตู้เฟยยิ้มๆ
“พี่เฟย ผมได้ยินมาว่าบ้านของพี่ทำธุรกิจร่วมกับเศรษฐีลึกลับคนนั้นแล้ว ใช่เรื่องจริงหรือเปล่า?” เกาเสิ้งถาม
“ใช่ วันนี้เป็นวันที่เซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการ สวีจื่อโห้ก็จะไปร่วมด้วย” ตู้เฟยกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“เฮ้ย พี่เฟย สามารถให้ทีมงานของพ่อผมไปช่วยพวกพี่ทำงานได้มั้ย ทีมงานของพ่อผมก็มีแค่หลายสิบคนเอง” เกาเสิ้งถามอย่างต่อเนื่อง
“แค่หลายสิบคน? มันเล็กไปมั้ย” สีหน้าของตู้เฟยแสดงออกอย่างรังเกียจ: “แต่ก็ยังคงพูดต่อ แต่ว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์ของเราสองคน ฉันจะไปบอกกับพ่อของฉัน ให้ทีมงานของพ่อนายเข้าไปทำงาน”
“พี่เฟย ขอบคุณพี่มากเลยครับ” เกาเสิ้งดีใจจนเกือบจะร้องไห้ออกมา เขารีบวิ่งไปข้างๆ ได้โทรไปแจ้งข่าวดีนี้กับพ่อของตัวเอง
“เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง”
ตู้เฟยพูดจบ ก็ได้มองไปที่จางเสี่ยวเฟิงอีกครั้ง: “เสี่ยวเฟิง ฉันได้ยินมาว่าครั้งนี้นายสอบไม่ผ่าน”
จางเสี่ยวเฟิงสีหน้ามืดมนลงเล็กน้อย: “ใช่ครับ พี่เฟย ทำได้ไม่ดีเลย มันค่อนข้างแตกต่างจากข้อสอบจำลอง พ่อผมให้ผมไปทำงานกับเขา”
“พอได้แล้วมั้ง ตอนที่ทดลองสอบมีคนให้นายลอก นายจึงสอบได้หนึ่งในสามสิบแรกของห้องเรา ตอนสอบเอ็นทรานซ์ไม่มีใครให้นายลอกไง นายก็เลยได้เผยความสามารถที่แท้จริงออกมาไง” เกาเสิ้งกล่าวอย่างไม่ไว้หน้า
จางเสี่ยวเฟิงจ้องมองที่เกาเสิ้งไปหนึ่งที เกือบจะต่อยกับเขาแล้ว
“ไม่เป็นไร นายติดตามฉันมาสามปีแล้ว ฉันจะให้นายตามฉันฟรีๆ เหรอ?” ตู้เฟยยิ้มๆ แล้วกล่าว: “เอาอย่างนี้ละกัน พ่อฉันมีไซด์งานใหม่ที่หนึ่ง ต้องการหัวหน้าคนงานหลายคน นายก็ไปเป็นหัวหน้าคนงาน มีเงินพิเศษไม่น้อยเลยนะ”
“จริงหรือเปล่าเนี่ย พี่เฟย?” จางเสี่ยวเฟิงดีใจจนอยากจะกระโดดขึ้นมา
“ฉันเป็นพี่ใหญ่นาย ฉันจะโกหกนายเหรอ? เมื่อไปถึงที่ไซด์งาน นายก็บอกว่าเป็นน้องของตู้เฟย วางใจเถอะ ไม่มีใครกล้ารังแกนาย” ตู้เฟยตบที่อกแล้วกล่าว
พูดจบ ตู้เฟยก็กวาดสายตามองไปที่กลุ่มคนหนึ่งรอบ
“ทำไมหลี่ฝางยังไม่มา?” ตู้เฟยอยากให้หลี่ฝางเรียกเขาว่าปู่
“คงยังมาไม่ถึงมั้ง” จางเสี่ยวเฟิงกล่าว: “แต่ว่าเชี่ยลู่อยู่ข้างในแล้ว พี่เฟย พี่ให้ผมจับตามองเธออยู่ไม่ใช่เหรอ? ผมพบว่าในห้องเธอมีผู้ชายคนหนึ่งตอแยเธออยู่ตลอดเวลา พวกเราไปจัดการมันมั้ย?”
“แม่งเอ๊ย ใครที่ใจกล้าขนาดนั้น ไม่รู้ว่าเชี่ยลู่เป็นผู้หญิงของฉันหรือไง?” ตู้เฟยขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
ตู้เฟยพรวดพราดเข้าไปในโรงแรม เห็นผู้ชายคนหนึ่งในมือถือช่อดอกไม้ไว้ คุกเข่าขาเดียวต่อหน้าเชี่ยลู่
“เชี่ยลู่ ฉันชอบเธอมาสามปีแล้ว สามปีมานี้ ฉันไม่กล้าที่จะบอกเธอว่าฉันชอบเธอ แต่ว่าวันนี้ หากฉันไม่พูดมันอีก เกรงว่าจะไม่มีโอกาสพูดมันอีกแล้ว”
ผู้ชายคนนี้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความกล้าแล้วกล่าว: “เชี่ยลู่ ฉันชอบเธอ เป็นแฟนฉันได้ไหม?”
ยังไม่ทันที่เชี่ยลู่จะปฏิเสธ ตู้เฟยก็วิ่งเข้ามาโดยตรง แย่งช่อดอกไม้ของผู้ชายคนนั้นมา แล้วโยนลงบนพื้น ก็ใช้เท้ากระทืบซ้ำหลายที จากนั้นก็ด่าขึ้นมา: “เย็ดแม่เอ๊ย สารรูปอย่างนายเหรอ นายคิดว่าเชี่ยลู่จะชอบนายเหรอ?”
“ตู้เฟย?”
“นาย………นายมาได้ไง? เชี่ยลู่เห็นตู้เฟย ก็ตกใจเล็กน้อย
“ทำไม ฉันมาไม่ได้เหรอ” ตู้เฟยมองเชี่ยลู่ ถามอย่างโกรธเคือง: “เชี่ยลู่ เธอลืมสิ่งที่ฉันเคยได้พูดกับเธอแล้วใช่ไหม?”
“หากเธอกล้ามีแฟน ฉันก็จะเปิดโปงเรื่องเน่าเหม็นของเธอออกมาทั้งหมด!” ตู้เฟยชี้ไปที่จมูกของเชี่ยลู่แล้วกล่าวอย่างข่มขู่
ผู้ชายคนนั้นได้ลุกขึ้นมา มองตู้เฟยอย่างเยือกเย็น: “ตู้เฟย เชี่ยลู่ไม่ใช่แฟนของนายแล้ว นายมีสิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องของเธอ?”
“ไปหาแม่มึงเลยไป!”
ตู้เฟยยกขาขึ้น ถีบไปบนร่างของชายคนนั้นโดยตรง
ผู้ชายคนนี้รูปร่างกำยำ ไม่เพียงแต่ไม่ล้ม กลับคว้าขาของตู้เฟยเอาไว้ แล้วโยนเขาออกไป
“นายรังแกเชี่ยลู่ ยังทำลายดอกไม้ที่ฉันจะมอบให้เชี่ยลู่ ฉันจะเอานายให้ตาย!” ผู้ชายคนนี้ดวงตาแดงก่ำ มุ่งหน้าไปทางตู้เฟย
จางเสี่ยวเฟิงและเกาเสิ้งเมื่อกี้ถูกตู้เฟยให้คำมั่นไว้ ไม่มีทางที่จะทนดูแบบโง่ๆ อย่างแน่นอน
ทั้งสองคนวิ่งเข้าไป ช่วยตู้เฟยทำร้ายผู้ชายคนนี้ แต่ว่าผู้ชายคนนี้กำยำเกินไป ต่อให้เกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิงเข้ามาช่วย แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางเขาทำร้ายตู้เฟยได้
หากไม่ใช่เพราะคุณครูมาได้เวลาพอดี เกรงว่าตู้เฟยคงจะถูกทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล
หลังจากที่ถูกแยก ตู้เฟยถุยน้ำลายที่มีเลือดไปทางเขา พูดอย่างไม่พอใจ: “เย็ดแม่” คิดไม่ถึงว่านายคนนี้มันจะต่อยตีเก่งขนาดนี้!”
“พี่เฟย พี่ไม่เป็นไรนะ?” เกาเสิ้งถามไปหนึ่งประโยค
“นายตาบอดหรือไง นายดูท่าทางของฉันเหมือนไม่เป็นไรเหรอ?” ตู้เฟยจ้องมองเกาเสิ้งกับจางเสี่ยวเฟิง: “พวกนายสองคนเศษสวะจริงๆ”
“ไม่ใช่สิ เศษสวะยังมีประโยชน์มากกว่าพวกนาย!”
เวลานี้เชี่ยลู่มาถึงตรงหน้าของตู้เฟย: “ตู้เฟย นายรับปากฉันแล้ว ว่าจะไม่ตอแยฉันไม่ใช่เหรอ?”
“ฝันไปเถอะ ตู้เฟยพูดจบ พอดีมองเห็นสร้อยคอเพชรที่อยู่บนคอของเชี่ยลู่ สร้อยคอนี้ใครซื้อให้เธอ?”
“ไม่ใช่เรื่องของนาย!”
“เย็ดแม่ เธอมันไปให้ท่าผู้ชายอีกแล้วใช่มั้ย!” ตู้เฟยพูดอย่างเย็นชา ยื่นมือไปจับที่สร้อยคอ กระชากสร้อยมาอยู่ในมือตัวเอง
“เพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้ อย่างน้อยๆ ก็ต้องหลายหมื่นหยวน!” ตู้เฟยจ้องมองเชี่ยลู่ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง แล้วถาม: “พูด ใครเป็นคนให้เธอ?”
“ฉันบอกแล้ว มันไม่ใช่เรื่องของนาย!” เชี่ยลู่ทำตาถลนใส่ตู้เฟย: “รีบเอาสร้อยคืนมาให้ฉัน!”
“คืนให้เธอ? ไม่มีทางหรอก!” ตู้เฟยพูดจบ ก็โยนสร้อยคอลงไปในบ่อน้ำของโรงแรม
“กระโดดลงไปเอาเองเลย” ตู้เฟยกล่าวด้วยสีหน้าที่ชั่วร้าย
ในบ่อน้ำของโรงแรม ยังเลี้ยงจระเข้ไว้สองตัว และสร้อยคอเส้นนั้น พอดีถูกตู้เฟยโยนไปตกลงอยู่บนหัวของจระเข้
“ตู้เฟย นายมันบ้าหรือเปล่า นายมีสิทธิ์อะไรมาโยนสร้อยของฉัน?” เชี่ยลู่ด่าอย่างโมโห
“พี่เฟย ฉันได้ยินมาว่าสร้อยคอเส้นนี้หลี่ฝางเป็นคนให้เธอ” เวลานี้ จางเสี่ยวเฟิงได้มากระซิบที่ข้างหูของตู้เฟย
ตู้เฟยฟังแล้ว ดวงตายิ่งเบิกกว้างกว่าเมื่อกี้
เขายกมือขึ้น ตบไปที่บ้องหูของเชี่ยลู่ทันที: “ฉันถามเธอ เธอมีอะไรกับหลี่ฝางแล้วใช่มั้ย?”
ตู้เฟยคนนี้ ตั้งแต่ที่เชี่ยลู่เลิกกับเขา เขาก็เหมือนคนเป็นโรคประสาท
ต่อหน้าคนตั้งมากมาย เขายังคำรามเสียงดังแบบนี้ ดังนั้นจึงทำให้นักเรียนทุกคนหันมามอง
เวลานี้ รถเบนซ์จิ๊บคันหนึ่งก็ได้ขับมาจอดยังหน้าประตูโรงแรม คนทั้งหมดต่างถูกรถเบนซ์จิ๊บคันนี้ดึงดูดเข้าให้แล้ว
“รถคันนี้ยังไม่มีทะเบียน เหมือนเพิ่งจะถอยออกมา” มีคนได้พูดขึ้นมา
“แม่งเอ๊ย มันคือใคร ขับรถหรูขนาดนี้?” เกาเสิ้งเดินไปที่ประตู ถามอย่างประหลาดใจ
ตู้เฟยมองรถเบนซ์จิ๊บคันนี้อย่างเยือกเย็น เย็ดแม่ใครกัน เห็นได้ชัดเลยว่ามาแย่งซีนของตัวเอง?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset