OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF – ตอนที่ 12 เข็มศักดิ์สิทธิ์แห่งโรคร้าย

บทที่ 12 เข็มศักดิ์สิทธิ์แห่งโรคร้าย

ดวงจันทร์สลัวและเมืองสว่างไสวด้วยแสงระยิบระยับมากมาย

หนิงเถาได้หยุดทานอาหารลองท้องข้างถนนในทางกลับบ้าน ก่อนที่เขาจะกลับไปที่ชุมชนของเขา

อาคารในชุมชนแห่งนี้สร้างขึ้นในยุค 80 เป็นอิฐและโครงสร้างคอนกรีตที่ล้าสมัย ซึ่งดูเก่าแก่อย่างมากและชุมชนนี้เองก็ไม่มีแม้แต่ชื่อ

พ่อแม่ของหนิงเต่าได้ตายจากเขาไปและเหลือสมบัติเพียงบ้านขนาด 80 ตารางเมตรเท่านั้น เขาจะกลับมายังบ้านหลังนี้เพียงในช่วงวันหยุดฤดูร้อนและฤดูหนาวหรือในวันเสาร์เมื่อเขาไม่ได้ทำงานเท่านั้น

อาจจะเป็นเพราะสิ่งที่พ่อแม่ของเขาทิ้งไว้ที่บ้านนี้ทำให้เขารู้สึกถึงการมีอยู่ของพ่อแม่ของเขา

เมื่อเขาไปถึงประตูใบหน้าของหนิงเถาก็เย็นชาทันที

ประตูไม้เก่าได้ถูกทาสีด้วยสีแดงและเขียนคำว่า “ตาย” ขนาดใหญ่เอาไว้บนผนังด้านข้างประตู

สียังเปียกอยู่และกลิ่นก็ยังคงมี พร้อมกับกลิ่งอื่นๆเต็มไปหมด

หนิงเถาที่พึ่งจะผ่านการเปลี่ยนจากคนธรรมดาไปเป็นผู้ฝึกตนนั้นมีความสามารถเพิ่มขึ้นมาก หนึ่งในนั้นคือการรับกลิ่น เพียงแค่การสูดดมเพียงเล็กน้อย กลิ่นต่างๆก็ได้ปรากฏขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของสี, ซีเมนต์, หินดินดาน, ไม้, อาหาร, พลาสติก, กระดาษ, คน …

ในไม่ช้าหนิงเถาก็สามารถระบุบกลิ่นแปลกปลอมได้ และมันเป็นกลิ่นที่เขาพึ่งจะเจอเมื่อเร็วๆนี้

มันคือเชินเซิงหลิน

ความโกรธได้รุกโซนในหัวใจของหนิงเถา และนั้นทำให้ดวงตาของเขาเย็นชาอย่างน่ากลัว “นายคิดว่าสถานที่นี้คืออะไร? นายกล้ามากที่มาที่นี่และทำเรื่องชั่วๆแบบนี้! เชินเซิงหลิน! ฉันสัญญาว่าฉันจะไปอัดแกและพาแกมาเลียประตูและกำแพงของฉันให้สะอาด!” เขาสาบานด้วยเสียงเบาๆ

จากนั้นความโกรธของเขาลดลง หนิงเถาได้หยิบกุญแจจากรอยร้าวระหว่างทับหลังกับประตู ก่อนที่เขาจะเปิดประตูเข้าไปข้างใน

ห้องนั่งเล่นมีขนาดเล็ก เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ยังเก่ามาก ภาพเขียนบนผนังได้กลายเป็นอะไรที่ล้าสมัยไปแล้ว และพื้นห้องเองก็ยังไม่ได้ปูกระเบื้องด้วยซ้ำ มันยังคงรูปซีเมนต์แบบดังเดิมที่สะอาดและเงางามเอาไว้ อาจจะพูดได้ว่าบ้านหลังนี้ดูราวกับว่ามาจากยุค 90 ก็ไม่ผิดมากนัก

หนิงเถาได้เดินไปที่โต๊ะสี่เหลี่ยมเล็กๆถัดจากผนังด้านในห้องนั่งเล่น

มีรูปถ่ายอยู่บนโต๊ะสี่เหลี่ยมนั้น ในภาพนั้นเป็นชายและหญิงคู่หนึ่ง ชายผู้นั้นดูดีและผู้หญิงนั้นอ่อนโยนและสวยงาม พวกเขาสวมดอกไม้สีแดงขนาดใหญ่บนหน้าอกและยิ้มอย่างมีความสุขบนใบหน้า

ทั้งคู่เป็นพ่อแม่ของหนิงเถา

เนื่องจากเขาไม่ต้องการเห็นรูปถ่ายขาวดำของพ่อแม่ตัวเอง ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะทำแบบนี้และในใจลึกแล้วเขาคิดว่าพ่อแม่ไม่ได้จากเขาไปไหน พวกท่านยังคงอยู่กับเขาเสมอ

หนิงเถาได้จุดธูปสามแท่งและพูดว่า “แม่พ่อ! ผมกลับมาบ้านแล้ว และผมมีอะไรจะบอกด้วย แต่ได้โปรดอย่าด่าผมนะ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ไปฝึกงานกับโรงพยาบาลดังๆ แต่ผมก็มีคลินิกเป็นของตัวเองแล้วในตอนนี้และที่สำคัญไปกว่านั้นคือผมได้กลายเป็นผู้ฝึกตน… ” เขาได้พูดออกมาราวกับกระซิบ

หลังจากผ่านไปไม่นานหนิงเถาก็ลุกขึ้นและหยิบกล่องไม้เล็กๆขึ้นมาพร้อมกัน แล้วเข้าได้เดินเข้าไปไปในห้องของเขา จากนั้นเขาก็วางกล่องบนเตียงเปิดและหยิบหนังสือทางการแพทย์นิรนามที่เฉินผิงดาวมอบให้เขาและเข็มสีเงินที่เขาพบในคลินิกขึ้นมา เพราะหลังจากนี้เขาจำเป็นที่จะศึกษาศิลปะการฝังเข็มอย่างจริงจัง

บทฝังเข็มในหนังสือมีความกระชับมาก แต่มันก็ได้ซ่อนความหมายที่ลึกซึ้งและซับซ้อนเอาไว้

มันทำให้หลังจากที่หนิงเถาเริ่มอ่านประโยคแรกจบ เขาก็ได้จมหายไปในเนื้อหานั้นทันที …

มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่เนื้อหาในนั้นทั้งหมดจะถูกจดจำได้ และมันทำให้เขาตระหนักถึงบางสิ่ง เมื่อจับเข็มเงินสีน้ำเงินขึ้นมาในครั้งนี้ เขาได้ลองกระตุ้นพลังวิญญาณลงไป ซึ่งมันแตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา

จากนั้นพลังจิตวิญญาณที่ดำสนิทก็แหวกว่ายไปมาทางด้านหลังมือของเขา

หนิงเถาได้พยายามฉีดพลังแห่งวิญญาณของตัวเองลงไปในเข็ม โดยไม่คาดคิด พลังงานทางจิตวิญญาณได้ไหลจากด้านหลังมือของเขาไปยังเข็มอย่างต่อเนื่อง

ติ้ง!

เข็มเงินได้ส่งเสียงเรียกที่คมชัดและสั่นเบาๆ และมีเพียงเจ้าของอย่างหนิงเถาเท่านั้นที่รู้ว่าเสียงนั้นสื่อถึงอะไร!

เกือบทุกอย่างในคลินิกนั้นต่างก็เกี่ยวข้องกับความดีความชั่ว เหตุและผล ก่อนหน้านี้ที่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ว่าในตอนนั้นคลินิกยังไม่มีพลังงานของบุญและบาป แต่ในตอนนี้ด้วยพลังงานบาปของเจียงหยีหลง 107 จุด มันจึงทำให้เข็มเงินนี้มีการแสดงออกมาในที่สุด!

เพื่อไขข้อข้องใจ หนิงเถาได้นำเข็มเงินนั้นออกไปทางระเบียง

มีต้นกระบองเพชรอยู่บนระเบียง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้รดน้ำมันมากนัก แต่มันก็ยังคงเต็มไปด้วยพลังชีวิต

เขาที่เห็นแบบนั้นก็ได้แทงเข็มเงินไปบนใบไม้แคคตัสใบหนึ่งในนั้น ก่อนที่จะดึงเข็มออกมาอย่างระมัดระวังและสังเกตว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?

ใช้เวลาไม่นานก่อนที่บริเวณรูเข็มบนใบแคคตัสจะเปลี่ยนเป็นสีดำและเน่าอย่างรวดเร็ว! และไม่นานใบทั้งหมดก็สูญเสียพลังและเหี่ยวแห้งไป!

หนิงเถาเข้าใจทันที “เห็นได้ชัดว่าเข็มนี้ควรเรียกว่าเข็มศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุความหมายของตาข่ายแห่งสวรรค์เอาไว้ และฉันสามารถใช้มันให้เป็นบทลงโทษได้ เพียงแค่ขับเคลื่อนพลังงานบาปไปที่มัน!”

คลินิกแห่งนภาไม่เพียงแต่มีวิธีการรักษาผู้คนเท่านั้น แต่ยังมีวิธีการที่ชั่วร้ายที่ใช้สำหรับลงโทษเช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือเข็มอันศักดิ์สิทธิ์ที่น่ารังเกียจนี้ มันเป็นหนึ่งในวิธีการที่ชั่วร้าย มันสำคัญมากสำหรับหนิงเถาที่พึ่งจะผู้เป็นเจ้าของคลินิก ด้วยเข็มเข็มศักดิ์สิทธิ์สู่โรคร้ายนี้ เพียงแค่เขาจิ้มมันลงไปยังเป้าหมายอีกฝ่ายก็จะเกิดโรคร้ายแบบสุ่มขึ้นมา และมันไม่มีทางรักษาด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน

ไม่ว่าในอนาคตอาจมีใครบางคนที่ประสงค์ร้ายต่อเขา และเขาอาจจะต้องใช้มัน

หรือไม่ก็เป็นช่วงเวลาที่เขาจำเป็นต้องไปทวงสัญญาที่อีกฝ่ายตกลง

รับรองได้เลยว่าด้วยเข็มอันศักดิ์สิทธิ์ต่อโรคที่น่ารังเกียจนี้! จะไม่มีใครหนีรอดไปได้

หลังจากที่หนิงเถาทดลองจนพอใจแล้ว เขาก็ได้ตัดใบไม้ที่ตายนั้นออกจากต้นแล้วกลับไปที่ห้องเพื่อศึกษาการฝังเข็มของเขาต่อ …

มันเป็นอีกคืนที่นอนไม่หลับ

แสงแรกของรุ่งอรุณขับไล่ความมืดและวันใหม่ได้เข้ามาแทนที่

หนิงเถาทำก๋วยเตี๋ยวสำหรับตัวเองหนึ่งถ้วย หลังอาหารเช้าเขาหยิบกล่องไม้เล็กๆออกเดินทาง สำหรับที่ว่าเจียงหยีหลงจะทำตามสัญญาหรือไม่นั้นเขาไม่ได้เก็บมันมาสนใจเลย เพราะยังไงด้วยใบสัญญาที่มีมันไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะละเมิดได้ ดังนั้นงานที่เขาจะทำตอนนี้คือการไปหาคนดีที่มีคุณธรรมและรับค่าบุญมาเป็นค่าเช่าและฝึกตน

ก๊อก ก๊อก.

ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

หนิงเถาผู้เพิ่งมาถึงประตูและเปิดประตูออก เขารู้สึกแปลกใจที่เห็นคนหลังประตูก็รู้สึกแปลกใจ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาที่นี้

เจียงเฮาอยู่ที่นี่?

วันนี้เธอได้สวมหมวกปีกกว้างของตำรวจในเครื่องแบบฤดูร้อน – เสื้อแขนสั้น กางเกงขายาว และรองเท้าส้นเตี้ยสีดำคู่หนึ่ง แทนที่จะมันส่งผลกระทบต่อร่างกายที่โค้งมนของเธอและทำให้เธอดูแย่ลง มันกลับทำให้เธอแสดงความกล้าหาญออกมาแทน เมื่อมองไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายตรงๆมันก็ยิ่งทำให้อารมณ์ที่มีต่อเธอนั้นเพิ่มสูงขึ้น มันเป็นเรื่องแปลกมากที่ผู้หญิงสวยๆแบบนี้ถึงมาทำงานเป็นตำรวจ!

พวกเขาต่างก็ได้จ้องมองหน้ากันนานกว่าสามวินาที

ในที่สุดก็เป็นหนิงเถาทำลายความเงียบขึ้น “สวัสดีเจียงเฮา! คุณรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่?” เขาถามด้วยรอยยิ้ม

“ที่อยู่อาศัยถาวรที่จดทะเบียนของทั้งประเทศต่างก็อยู่บนอินเทอร์เน็ต ในฐานะตำรวจฉันสามารถหาที่อยู่ของนายได้อย่างง่ายดาย” เจียงเฮาตอบกลับมา

หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกแปลกๆ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเชิญอีกฝ่ายเข้ามาก่อน “เข้ามาสิ! ข้างนอกมันเย็นเดี่ยวคุณจะไม่สบายเอา”

เจียงเฮาที่ได้ฟังแบบนั้นก็เดินเข้าไปก่อนที่เธอจะสังเกตเห็นสีที่อยู่บนประตูแล้วถามว่า “สีที่ประตูและกำแพง … ใครเป็นคนทำ?”

ขณะนั้นหนิงเถาก็คิดจะพูดชื่อของเชินเซิงหลินออกไป แต่เขาก็นึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นญาติผู้ใหญ่ของเจียงเฮา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องไม่ดีที่จะพูดถึงอีกฝ่ายทั้งๆที่ยังไม่มีหลักฐาน มันอาจจะทำให้เรื่องที่ตามมากลายเป็นอะไรที่ยุ่งยากก็ได้

“ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน มันพึ่งจะเกิดขึ้นตอนที่ผมไม่อยู่บ้าน แต่ผมรับรองว่าจะต้องหาตัวคนทำมาให้ได้เร็วๆนี้อย่างแน่นอน ยังไงก็ตามคุณยังไม่ได้บอกผมเลยว่าคุณมาที่นี้ทำไม?” หนิงเถาได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนานี้ทันที

เจียงเฮารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ยากพูดถึงมัน เธอก็เลือกที่จะไม่ถามต่อเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงได้หยิบซองออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเธอแล้วส่งให้หนิงเถา

หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็หยิบซองจดหมายออกมาและถามอย่างสงสัยว่า “มันคืออะไร?”

“เปิดดูแล้วนายจะรู้เอง” เจียงฮาตอบกลับมาเบาๆ

หนิงเถาทีได้ฟังแบบนั้นก็เปิดซองจดหมายและตรวจดูของข้างในทันที ก่อนที่เขาจะเห็นใบเช็คเงินสดใบหนึ่ง เขาจึงเริ่มนับจำนวนเลขศูนย์ในนั้น “หนึ่งล้าน! ทำไม ทำไม …. คุณถึงให้เงินก้อนใหญ่กับผมกัน?”

“เพราะนายคู่ควรกับมัน.” เจียงเฮาตอบกลับมาอย่างง่ายๆ

หนิงเถารีบส่งเช็คคืนให้เธอและพูดว่า “ไม่! ผมไม่สามารถรับมันได้”

เจียงเฮาเองก็ไม่ใช้รับเช็คคืนเช่นกัน ก่อนที่เธอจะพูดว่า “นายฟังฉันก่อน! เช็คใบนี้เป็นการแสดงความขอบคุณของแม่ของฉันที่มีต่อนาย นายคงไม่รู้ว่าทันทีที่พ่อของฉันหายจากโรค สิ่งแรกที่เขาทำคือการไปขอโทษแม่ของฉัน เขาถึงกับคุกเข่าต่อหน้าแม่ของฉันเพื่อขอโทษและได้คืนทรัพย์สินที่ขโมยไปทั้งหมด แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่ใช้เพราะนายเป็นคนทำ ดังนั้นฉันหวังว่านายจะรับเงินนี้ ” เธอได้อธิบายเรื่องทั้งหมดออกมาด้วยความจริงใจ

“ไม่! ผมไม่สามารถรับเงินพวกนี้ได้ ” หนิงเถาเองก็ยืนยันที่จะคืนเช็คให้เจียงเฮาเช่นกัน

อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายเลือกที่จะไม่รับคืน เมื่อหนิงเถาเห็นแบบนั้นเขาก็เลือกที่จะทำบางอย่าง และนั้นทำให้เจียงเฮาร้องตกใจออกมา “นั้นนายจะทำอะไร?” เธอโพล่งออกมาด้วยความตรงใจจริงๆ

ทำอะไรนะเหรอ? หนิงเถาได้ฉีกเช็คหนึ่งล้านหยวนนั้นทิ้งอย่างไม่มีชิ้นดี ก่อนที่จะโยนมันลงถังขยะ

“นาย … ” เจียงเฮาถึงกับอ้าปากค้างที่เห็นคนตรงหน้าทำแบบนี้ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีนักศึกษาวิทยาลัยยากจนที่ทำงานนอกเวลาเพื่อหาเงินตลอดเวลา แต่ตอนที่เขามีเงินมากองอยู่ตรงหน้าเขากับฉีกมันทิ้ง!

แต่ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของหนิงเถาตอนนี้ดีเท่าตัวเอง มันไม่ใช้ว่าเขาไม่ชอบเงินแต่เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ในฐานะเจ้าของคลินิกแห่งนภา สกุลเงินที่เขาสามารถรับได้มีเพียงแค่ค่าบุญและบาปเท่านั้น การที่เขาจะรับเงินในช่องทางอื่นๆนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ผิด เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมานั้นจะเป็นอะไรที่รุนแรงมาก ซึ่งเขาไม่ต้องการลิ้มรสมัน

“เอาล่ะ! ตอนนี้พวกเราก็ไม่ต้องมาคอยเถียงกันเรื่องคืนเงินนี้อีกแล้ว ” หนิงเถาตอบกลับมาด้วยความยินดี อันที่จริงเขาในใจของเขานั้นเต็มไปด้วยลอยแผนบาดลึก นั้นคือเงินหนึ่งล้านหยวนเลยนะ! ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสถือเงินแบบนี้อีกตอนไหน?

ทางด้านเจียงเฮาเองก็ได้จ้องมองหนิงเถาราวกับกำลังพยายามเจาะใจเขา “ฉันไม่เข้าใจว่าการฉีกเช็คหนึ่งล้านหยวนนั้นจะเป็นการจบปัญหาเรื่องนี้ยังไง?”

หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มออกมาและตอบว่า “สำหรับผมแล้วเรื่องเงินนั้นไม่สำคัญเลย แค่ความจริงใจที่คุณเจียงมีต่อผมมันก็เพียงพอแล้ว “

เจียงเฮาที่ได้ฟังแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาและพูดว่า “ฉันไม่เคยเห็นใครเหมือนนายมาก่อนเลย! ถึงแม้ว่านายจะไม่ยอมรับเงินที่ฉันและแม่มอบให้ แต่ฉันก็จะเก็บเงินนั้นไว้ให้นายเสมอและนายสามารถมารับมันคืนได้ทุกเวลาที่นายเกิดเปลี่ยนใจ”

“เอาละ! เอาละ! เราจะคุยเรื่องนี้กันทีหลัง” หนิงเถาตอบกลับ

เจียงเฮาเองก็หยุดเรื่องนี้เอาไว้เท่านี้ ก่อนที่เธอจะพูดเรื่องอื่นขึ้นมา “พ่อของฉันกำลังจะมีงานเลี้ยงที่สโมสรมังกรซ่อนเพื่อเฉลิมฉลองการหายดีและเรื่องที่ฉันยอมยกโทษให้ แต่ฉันไม่ยากจะไปพบเขาเพียงคนเดียว ดังนั้นจะเป็นอะไรไหมถ้าฉันจะเชิญนายไปเป็นเพื่อนด้วยกู้? “

หนิงเถาคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบกลับว่า “ได้แน่นอน”

เจียงเฮาทีได้ฟังแบบนั้นก็แสดงรอยยิ้มที่หายากออกมา จากนั้นเธอก็เดินไปที่โต๊ะสี่เหลี่ยมถัดจากผนังด้านหน้าและโค้งคำนับรูปภาพที่อยู่บนนั้น

หนิงเถารู้สึกอะไรบางย่าง แต่เขาก็เลือกที่จะไม่แสดงมันออกมา

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

บทนำ นักศึกษาแพทย์ที่ยากจนคนหนึ่งได้เข้าไปช่วยชีวิตสุนัขสีดำที่ได้รับบาดเจ็บจากบนถนนโดยไม่ตั้งใจ แต่เขาไม่คิดว่านั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมหัศจรรย์พันธ์ลึก และทำให้เขาได้รู้จักกับคลินิกลึกลับอย่างคลินิกนภา ตัวคลินิกเองยังมีกฎที่เป็นข้อบังคับที่ว่าถ้าหากเขาไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ตรงเวลา จำนวนชีวิตน้อยๆของเขาจะต้องถูกหักออกไปทดแทนในส่วนที่ขาดไป เพื่อความอยู่รอดหนิงเถาผู้ที่พึ่งจะก้าวเข้ามาเป็นผู้ฝึกตนมือใหม่และโลกใบใหม่นี้ จะต้องพยายามหาความดีและความชั่วเพื่อนำมาเป็นค่าเช่า นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มธรรมดาผู้หนึ่งที่ได้รับหน้าที่เป็นทั้งนักบุญและปีศาจ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset