OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF – ตอนที่ 23 ฉีกเช็คมูลค่าหลักล้านอีกครั้ง

บทที่ 23 ฉีกเช็คมูลค่าหลักล้านอีกครั้ง

 

ที่โรงแรมหรูทางตอนเหนือของแม่น้ำฉานเจียง

ในห้องชุดแห่งหนึ่ง หนิงเถาได้ยืนต่อหน้าเชินเซิงหลินพร้อมกับยื่นบัญชีแยกประเภทใบไผ่และยังสั่งด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “ถือไว้”

เชินเซิงหลินไม่มีความคิดว่าทำไมหนิงเถาถึงต้องการให้เขาถือใบไผ่เก่าๆนี้เอาไว้ เพราะทันทีที่เขาได้ยืนคำสั่งนี้เขาก็ถือมันเอาไว้อย่างเชื่อฟัง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งใดๆของอีกฝ่าย

อีกสองวินาทีต่อมาหนิงเถาก็นำบัญชีแยกประเภทกลับมาแล้วเปิดมัน

เนื้อหาต่อไปนี้ได้ปรากฏบนบัญชีแยกประเภทใบไผ่ – “ไม่สามารถเป็นผู้ป่วยได้ เนื่องจากตัวผู้ป่วยนั้นเกิดจากการกระทำของมนุษย์เอง มันไม่ได้เกิดขึ้นโดยอำนาจต่อวิถีแห่งสวรรค์และถ้าเจ้าของยังดึงดันที่จะทำมัน มันจะเป็นการเพิ่มบาปโดยตรงต่อเจ้าของเอง”

หัวใจของหนิงเถาตกไปทันที ที่เขาขอให้เชินเซิงหลินถือบัญชีแยกประเภทเอาไว้นั้นก็เพราะเขาต้องการยืนยันว่าวิธีนี้ของตัวเองใช้ได้ผลหรือไม่ เพราะเมื่ออีกฝ่ายติดตามคนอย่างเจียงหยีหลง แน่นอนว่าเขาต้องติดสีมาบ้างไม่มากก็น้อย และหนิงเถาก็ต้องการเปลี่ยนบาปนั้นเป็นพลังงานพลังชั่วร้ายของคลินิก

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแทนที่จะเปลี่ยนให้เชินเซิงหลินกลายเป็นผู้ป่วยของคลินิกนภา มันจะไม่สามารถทำได้และยังเป็นการเพิ่มบาปโดยตรงให้กับตัวเองอีกด้วย

“เฮ้อ! ฉันเข้าใจแล้วดูเหมือนว่าการที่จะถือว่าคนป่วยนั้นเป็นผู้ป่วยของคลินิกได้นั้น มันจะต้องเกิดขึ้นโดยผลกรรมจากทางแห่งสวรรค์ ซึ่งอาการป่วยของเจียงหยีหลงนั้นตรงตามเงื่อนไขที่ตั้งเอาไว้ ดังนั้นทางคลินิกจึงรับเขาเข้าเป็นผู้ป่วย ” หนิงเถายังคงคิดต่อว่า “ซึ่งมันแตกต่างกับเชินเซิงหลินที่ถูกฉันทำให้เป็นโรคเอง ดังนั้นมันจึงไม่ตรงกับเงื่อนไขของตัวคลินิก และถ้าฉันยังคงดึงดันที่จะทำมันต่อไป มันก็จะส่งผลร้ายต่อตัวเองเท่านั้น “

ด้วยความคิดนี้หนิงเถาจึงนำบัญชีแยกประเภทกลับมาเก็บไว้ในหีบยาก่อนที่จะปิดมันลง อันที่จริงแล้วที่เขาทำแบบนั้นเขาเพียงแค่ต้องการดูค่าบุญหรือบาปของอีกฝ่ายเท่านั้น แต่เมื่อผลมันไม่เป็นอย่างที่คิดและเขากำลังจะนำบัญชีกลับมานั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นว่ามีเส้นสีดำเส้นหนึ่งปรากฏอยู่บนบัญชีนั้น

“สิ่งนี้หมายความว่ายังไง? ทำไมถึงเส้นสีดำปรากฏขึ้นมากัน? หรือว่ามันจะเป็นผลจากการกระทำชั่วของฉันที่ทำกับเชินเซิงหลิน? และไม่ใช้ว่าถ้าฉันยังคงทำชั่วต่อไปในอนาคตเมื่อบัญชีแยกประเภททั้งหมดกลายเป็นสีดำ ฉันจะต้องกลายเป็นปีศาจใช้ไหม? ไม่นะ! แบบนั้นคงไม่ส่งผลดีต่อฉันแน่นอน ถ้าฉันจำไม่ผิดลุงเจ้าของคลินิกคนก่อนบอกว่าฉันต้องค่อยรักษาสมดุลระหว่างบุญและบาปให้ดี ใช้แล้ว! ฉันต้องทำแบบนั้น ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่ฉันต้องทำคือฉันต้องชดใช้บาปของฉันที่เกิดจากเจตนาชั่วร้ายนี้ “หนิงเถาพยายามไตร่ตรองเรื่องที่เกิดขึ้น

“ท่านอาจารย์หนิง … ” เชินเซิงหลินได้สังเกตเห็นว่าหนิงเถาได้นิ่งเงียบไปนานเกินกว่าปกติ เขาก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมา เพราะอีกฝ่ายเป็นความหวังเดียวในการรักษาเขาให้หายจากโรคนี้

หนิงเถาที่ถูกคนขัดจังหวะไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร กลับกันเขาพูดอย่างสุภาพว่า “ เอาละ! คุณไปเอาผ้าเช็ดตัวมาผืนหนึ่งและนอนบนพื้นพร้อมกับปิดตาของคุณด้วย ถ้าคุณแอบมองผมไม่ว่าจะวิธีไหนผมจะหยุดรักษาทันที เข้าใจไหม?”

เชินเซิงหลินรีบพยักหน้าแล้วตอบว่า “ฉันเข้าใจ! ฉันจะไม่มองและหลับตาตลอดการรักษาแน่นอน ฉันสัญญา โอ้! ฉันเกือบลืมไปแล้ว ฉันยังมีค่ารักษาเตรียมเอาไว้ให้หมอด้วยเช่นกัน ” จากนั้นเขาก็ได้ยื่นมือเข้าไปกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะยื่นเช็คใบหนึ่งไปตรงหน้าของหนิงเถาพร้อมกับพูดว่า “ท่านอาจารย์หนิงได้โปรดรับมันเอาไว้ด้วย”

หนิงเถารับเช็คจากเชินเซิงหลินมา ก่อนที่จะฉีกมันโดยไม่ได้ดูจำนวนเงินข้างในด้วยซ้ำ

การกระทำของหนิงเถานั้นทำให้เชินเซิงหลินตกใจอย่างมาก เขาถึงกับลงคุกเข่าและพูดอย่างหวาดกลัวว่า “ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์หนิง … ท่านคิดว่ามันน้อยเกินไป? ไม่เป็นไรฉันจะเพิ่มให้อีกหนึ่งล้านหยวน”

หนิงเถาได้ฉีกเช็คนั้นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่อหน้าของเชินเซิงหลินก่อนที่เขาจะพูดออกมาเย็นชาว่า “คุณคิดว่าผมเป็นคนแบบไหนกัน? เงินเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าสำหรับผมจำเอาไว้!”

เชินเซิงหลินที่ได้ฟังแบบนั้นถึงกับตกตะลึงไป

ถึงแม้ว่าภายนอกหนิงเถาจะแสดงความแข็งแกรงออกไป แต่ภายในของเขากับกำลังร้องไห้อยู่ นี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาฉีกเช็คมูลค่าหลักล้านไป มันจะมีใครบ้างที่ไม่รักเงินทอง แต่เป็นเพราะกฎของคลินิกทำให้เขาไม่สามารถรับเงินทองได้ ยิ่งไปกว่านั้นการที่เขาได้ทำให้เชินเซิงหลินป่วยเป็นโรคขึ้นมามันก็เป็นการเพิ่มบาปให้ตัวเองมากพอแล้ว ถ้าเขายังคงรับเงินจากอีกฝ่ายอีกมันคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน เขาจะไม่ยอมทำผิดพลาดเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว

เชินเซิงหลินเข้าไปที่ห้องน้ำแล้วเอาผ้าเช็ดตัวหนาๆมาหนึ่งผืนอย่างเชื่อฟัง จากนั้นเขาก็นอนลงกับพื้นและคลุมหน้าด้วยผ้านั้น

หนิงเถานั่งไขว่ห้างข้างหน้าของเชินเซิงหลิน และเริ่มเดินพลังจิตวิญญาณของตัวเองเพื่อที่จะดูดพลังชั่วร้ายในร่างกายของเชินเซิงหลินออกมาทีละเล็กทีละน้อยและกลั่นมัน

สิบนาทีต่อมาหนิงเถาได้ลุกขึ้นจากพื้นแล้วออกจากห้องพร้อมกับกล่องยาของเขา

กลุ่มบอดี้การ์ดจำนวนมากที่ประตูจ้องมองหนิงเถาด้วยความเกรงกลัว ในขณะที่บางคนได้รีบหันเข้าไปดูเชินเซิงหลินที่กำลังนอนอยู่บนพื้น

หนิงเถาพูดเบาๆว่า “เขาแค่หลับแล้วผมจะทิ้งข้อความเอาไว้ ผมหวังว่าพวกคุณจะบอกเขาเมื่อเขาตื่นขึ้นมา” หลังจากหยุดไปเล็กน้อย เขาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าเขายังคงทำสิ่งชั่วร้ายต่อไปในอนาคต เขาจะป่วยอีกครั้งและแน่นอนว่าผมจะไม่ช่วยเขาอีก”

สิ่งนี้ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน แต่คำเตือนนี้จะหยุดการกระทำผิดที่เห็นได้ชัดของเชินเซิงหลินเอาไว้ได้ แม้ว่ามันจะไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แต่มันก็สามารถรับรองได้ว่าจะไม่เกิดสิ่งเลวร้ายขึ้น

ในขณะที่เขาออกจากโรงแรมโทรศัพท์ของหนิงเถาก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเสียงนี้จะเป็นเสียงข้อความจากวีแชทของเขาเอง มันได้ดังขึ้นมาไม่หยุด เขาจึงได้ดึงมันออกมาและดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ที่จริงแล้วมันเป็นข้อความจากหม่ายิงเค่ย โดยที่อีกฝ่ายบอกว่ามีเพื่อนร่วมงานหลายคนที่ต้องการพบเขาเพื่อรับการรักษา พวกเขาดูเหมือนเป็นห่วงเรื่องนี้มาก เนื่องจากเขาไม่ได้ตอบกลับข้อความของพวกเขาเลย พวกเขาจึงทำได้เพียงขอให้หม่ายิงเค่ยติดต่อเขาเป็นการส่วนตัวได้เท่านั้น

หลังจากอ่านข้อความนี้แล้วหนิงเถาไม่เพียงแต่ปฏิเสธมัน เขากับยิ้มออกมา ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะอีกไม่นานเขาก็จะมีรายรับเข้ามาเป็นกอบเป็นกำแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเทียบไม่ได้กับเช็คใบหนึ่งที่เขาพึ่งจะฉีกไปก็ตาม

เขาได้เดินตรงไปยังบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นบนริมฝีปากของเขา

เมื่อมาถึงที่หมายหนิงเถาก็ได้เห็นหม่ายิงเค่ยยืนคอยเข้าอยู่แล้วตรงบริเวณล็อบบี้ของบริษัท

เมื่ออีกฝ่ายเห็นหนิงเถาในระยะไกล เขาก็อดไม่ที่จะยิ้มออกมาและรีบเดินเข้ามาพูดทักทายว่า “หมอมหัศจรรย์! ผมกลัวว่าคุณจะไม่มาซะอีก แต่เมื่อผมเห็นคุณคุณรู้ไหมว่าผมดีใจที่คุณมามากขนาดไหน? คุณรีบมากับผมเถอะ ตอนนี้พวกเพื่อนๆของผมหลายคนกำลังรอคุณอยู่”

“คุณเพียงเรียกผมว่าหมอหนิงก็พอ” หนิงเถาพูดต่อว่า “ผมไม่สมควรถูกเรียกว่าหมอมหัศจรรย์”

“ไม่! คุณสมควรได้รับมัน” หม่ายิงเค่ยไม่ยอมเปลี่ยนคำเรียก เขายังคงยืนยันว่าหนิงเถาควรจะได้รับการปฏิบัติแบบนี้

ในที่สุดหม่ายิงเค่ยก็ได้พาหนิงเถาขึ้นมาหยุดที่เลานจ์บนชั้นห้า

“หมอหนิงครับ!” หม่ายิงเค่ยพูดต่อว่า “คุณช่วยรออยู่ที่นี้ก่อน ผมจะรีบโทรให้เพื่อนร่วมงานของผมลงมาที่นี้” จากนั้นเขาก็ลดเสียงพูดว่า “พอดีว่าตอนนี้พวกเรายังคงอยู่ในเวลาทำงานอยู่ และมันจะเป็นเรื่องแย่มากถ้าเจ้านายของเราจับได้ว่าพวกเราทำสิ่งนี้ในช่วงเวลาทำงาน เธอเป็นคนที่เขี้ยวลากดินมากดังนั้นผมต้องขอโทษด้วยที่ผมต้องโทรเรียกพวกเขาลงมือที่ละคนแบบนี้ หวังว่าหมอหนิงจะให้อภัยด้วย “

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” หนิงเถาตอบกลับไปว่า “บอกพวกเขาให้มาทีละคน”

ไม่นานหลังจากหม่ายิงเค่ยจากไป ก็มีชายวัยกลางคนเดินเข้ามา การทำงานระยะยาวของเขาที่โต๊ะทำงาน ทำให้เขาทรมานจากกระดูกคอรุนแรง เขาไม่สามารถตั้งขอให้ตรงได้มันทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเมื่อเดิน

หนิงเถารักษาชายวัยกลางคนที่เป็นโรคกระดูกคออักเสบให้หายในไม่กี่นาที ด้วยเข็มศักดิ์สิทธิ์สองเล่มและพลังทางจิตวิญญาณของตัวเอง เพียงแค่พวกมันได้ถูกส่งให้ไหลเข้าไปในตัวของผู้ป่วยไม่ว่าจะเป็นอะไรพวกมันจะถูกกระตุ้นเพื่อฟื้นฟูและถูกชะล้างให้สะอาด ดังนั้นอาการของกระดูกคออักเสบจึง “ถูกปลดปล่อย” ที่เห็นได้ชัดว่ามันมีความยืดหยุ่นมากกว่าเดิม

มันเป็นปาฏิหาริย์สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ เพียงแค่การฝังเข็มเพียงสองเล่มและใช้เวลารักษาเพียงไม่กี่นาที โรคที่ตัวเองเป็นและไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ตลอดหลายปีก็ถูกทำลายไป และมันยังไม่ต้องถึงขั้นผ่านตัดอีกด้วย มันเป็นเพียงแค่การฝังเข็มเท่านั้น

กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที

ในขณะที่เขาดึงเข็มศักดิ์สิทธิ์สีน้ำเงินสองเล่มออกมาจากคอของชายวัยกลางคน หนิงเถาพูดว่า “โรคของคุณถูกรักษาแล้ว แต่ผมต้องของพูดให้ชัดเจนว่าถ้าคุณยังไม่ปรับการนั่งของคุณ โรคนี้ก็จะกลับมาอีกครั้ง ดังนั้นคุณควรจะหมั่นดูแลสุขภาพของตัวเองด้วย “

ชายวัยกลางคนพยายามขยับคอไปมา หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจว่า “พระเจ้า! หมอเป็นอย่างที่หม่ายิงเค่ยบอกจริงๆด้วย! ผมรู้สึกคอเบาลงไปมากและมันยังยืดหยุ่นอีด้วย? ตอนนี้ผมไม่รู้สึกเจ็บจากการหมุนคอไปมาอีกแล้ว ในตอนแรกที่หม่ายิงเค่ยพูดเรื่องของหมอนั้นผมก็ยังไม่เชื่อเท่าไหร่ แต่มาตอนนี้ผมเชื่อเต็มร้อยแล้ว คุณเป็นหมอมหัศจรรย์จริงๆ! “

หนิงเถารู้สึกภูมิใจและมีความสุขมาก แต่เขาไม่ได้แสดงออกบนใบหน้าของเขา เขายังคงรักษาความสงบนิ่งเอาไว้เหมือนเคย

“หมอหนิง เอ่อ … ค่ารักษานี้มันราคาเท่าไหร่?” ชายวัยกลางคนถามออกมาอย่างไม่แน่ใจ

หนิงเถาทำเพียงแสดงยิ้มเล็กน้อยและตอบว่า “คุณสามารถจ่ายตามที่คุณต้องการได้”

ชายวัยกลางคนที่ได้ยินแบบนั้นก็หยิบกระเป๋าเงินออกมาและดึงธนบัตรหนึ่งร้อยหยวนออกมาสองใบ จากนั้นเขาก็ลังเลและหยิบเพิ่มอีกสองใบ

“ สองร้อยก็พอแล้ว” หนิงเถาพูดต่อว่า “คุณควรสนับสนุนการศึกษาของบุตรให้มาก เงินแค่สองร้อยหยวนก็มากพอแล้ว”

ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างเชื่องช้าและพูดว่า “ผมมีลูกในโรงเรียนมัธยมครับ! ผมจะทำตามที่หมอบอกผมขอบคุณมากจริงๆ”

คนไข้อีกคนหนึ่งมาที่เลานจ์และจากไปอย่างมีความสุข หนิงเถาคิดว่าจะมีผู้ป่วยเพียงไม่กี่คน แต่หลังจากเขาได้ทำการรักษาไปๆมาๆมันก็มีผู้ป่วยมากกว่าสิบคนที่เขามาทำการรักษา และนั้นทำให้เขามีรายได้มากกว่า 2,000 หยวน หลังจากผ่านไปเพียงชั่วโมงเดียว มันทำให้เขามีความสุขมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

ผู้ป่วยครั้งนี้เป็นหญิงสาว เธอได้เดินเข้ามาในเลานจ์ถัดจากพื้นที่สำนักงาน เธอไม่ได้คาดหวังว่าหนิงเถาจะเป็นแพทย์ที่ดูกระฉับกระเฉงและหล่อเหลาแบบนี้ มันจึงทำให้แก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา

หนิงเถามองเธอด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “สวัสดีครับ! คุณต้องการรักษาโรคจมูกอักเสบใช่ไหม?”

เขาทำการวินิจฉัยที่แม่นยำโดยการมองและการดมกลิ่นเพียงครั้งเดียว หญิงสาวคนนี้ไม่เป็นโรคกระดูกสันหลังส่วนคอหรือเอว แต่เธอเป็นโรคจมูกอักเสบรุนแรง

หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจและถามว่า “คุณหมอรู้ได้ยังไงว่าฉันต้องการรักษาโรคจมูกอักเสบ?”

“ผมมีวิธีของผมนะครับ” หนิงเถาพูดต่อว่า “นั่งก่อนครับ! อีกเดี๋ยวผมจะให้การฝังเข็มแก่คุณ”

“โรคจมูกอักเสบสามารถรักษาด้วยการฝังเข็ม?” หญิงสาวคนนั้นถามออกมาอย่างสงสัย

“แน่นอนครับ” หนิงเถาตอบกลับไปต่อว่า “ถ้าคุณเชื่อผม ผมจะเริ่มลงมือรักษาคุณตอนนี้เลย”

หญิงสาวนั่งลงทันทีถัดจากหนิงเถาและพูดว่า “ฉันเชื่อคุณ เพราะฉันได้เห็นมากับตาว่าอาการของเพื่อนๆของฉันดีขึ้นมากขนาดไหน แต่ฉันไม่คิดว่าคุณจะรักษาพวกเขาด้วยการฝังเข็มก็เท่านั้นเอง “

หนิงเถานำเข็มศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองออกมาแล้วทำการฝังเข็มรักษาหญิงสาวตรงหน้า ที่จริงแล้วมันไม่ใช่การฝังเข็มที่เป็นการรักษา แต่เป็นพลังทางจิตวิญญาณของเขาต่างหากที่ทำการรักษา หลังจากรักษาผู้ป่วยจำนวนมากเขาพบว่าพลังจิตวิญญาณของเขาเมื่อพวกมันได้เข้าไปในร่างกายของผู้ป่วย ไม่เพียงแต่กำจัดอาการอักเสบไปเท่านั้น แต่ยังช่วยชะล้างร่างกายที่เป็นพิษให้อีกด้วย มันก็เป็นเหมือนกับยาแก้พิษที่มีประสิทธิภาพดีๆนี้เอง การอักเสบและสารพิษที่อยู่ในร่างกายต่างก็ถูกพวกมันทำลายทั้งหมด ดังนั้นด้วยคุณสมบัตินี้เองทำให้พลังจิตวิญญาณของเขากลายเป็นยาครอบจักรวาลชนิดหนึ่ง

อย่างไรก็ตามพลังจิตวิญญาณของเขานั้นค่อนข้างอ่อนแอ มันห่างไกลจากการรักษาผู้ป่วยโดยตรง

การรักษาด้วยการฝังเข็มสิ้นสุดลงในไม่ช้า ในครั้งนี้มันไม่สามารถกำจัดการอักเสบในโพรงจมูกของหญิงสาวได้อย่างสมบูรณ์ หนิงเถาจำเป็นต้องเขียนใบสั่งยาให้เธอไปที่ร้านขายยาเพื่อซื้อยารักษาโรคจมูกอักเสบอีกทีหนึ่ง

หญิงสาวหยิบใบสั่งยาของหนิงเถาขึ้นมา ก่อนที่เธอจะพูดว่า “หมอหนิง! เมื่อฉันมาหาคุณจมูกของฉันนั้นไม่ได้กลิ่นอะไรเลย แต่มาตอนนี้จมูกของฉันกับโล่งมาก ฉันคิดว่าฉันคงไม่ต้องทานยาพวกนี้อีกแล้ว “

“ ไม่ครับ! การอักเสบในโพร่งจมูกของคุณยังไม่หายไปอย่างสมบูรณ์ คุณจำเป็นต้องใช้ยาบางอย่างเป็นการรักษาแบบเสริมเพื่อรักษาโรคจมูกอักเสบของคุณให้หายอย่างสมบูรณ์” หนิงเถาอธิบายต่อว่า “เพื่อประโยชน์ของคุณเอง คุณเพียงแค่ต้องซื้อของที่มีในใบสั่งยานี้เท่านั้น”

“โอเค! ฉันจะรับคำแนะนำของคุณเอาไว้ แล้วค่ารักษาในครั้งนี้เท่าไหร่กัน?” หญิงสาวถามออกมา

“คุณสามารถจ่ายได้ตามต้องการครับ”

หญิงสาวที่ได้ฟังแบบนั้นก็หยิบกระเป๋าเงินของเธอออกมาและกำลังจะเอาเงินออกมาจ่ายค่ารักษา แต่ทันทีนั้นเองไประตูห้องเลาจ์ได้ถูกผลักเปิดขึ้นอย่างกระทันหัน และมีผู้หญิงเข้ามาโดยไม่มีคำทักทายอะไร

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

บทนำ นักศึกษาแพทย์ที่ยากจนคนหนึ่งได้เข้าไปช่วยชีวิตสุนัขสีดำที่ได้รับบาดเจ็บจากบนถนนโดยไม่ตั้งใจ แต่เขาไม่คิดว่านั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมหัศจรรย์พันธ์ลึก และทำให้เขาได้รู้จักกับคลินิกลึกลับอย่างคลินิกนภา ตัวคลินิกเองยังมีกฎที่เป็นข้อบังคับที่ว่าถ้าหากเขาไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ตรงเวลา จำนวนชีวิตน้อยๆของเขาจะต้องถูกหักออกไปทดแทนในส่วนที่ขาดไป เพื่อความอยู่รอดหนิงเถาผู้ที่พึ่งจะก้าวเข้ามาเป็นผู้ฝึกตนมือใหม่และโลกใบใหม่นี้ จะต้องพยายามหาความดีและความชั่วเพื่อนำมาเป็นค่าเช่า นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มธรรมดาผู้หนึ่งที่ได้รับหน้าที่เป็นทั้งนักบุญและปีศาจ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset