OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF – ตอนที่ 36 ชายแปลกหน้าที่ชื่อหนิงเถา

บทที่ 36 ชายแปลกหน้าที่ชื่อหนิงเถา

 

รถตํารวจสองคันได้คํารามขึ้นมาและหยุดที่ด้านหน้าของร้านอาหารปารีสที่สอง

 

ประตูรถเปิดออกในเวลาเดียวกันและมีตํารวจในเครื่องแบบจำนวนแปดคนออกมา หนึ่งในนั้นมีชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า

 

เฉินจุนที่เห็นภาพนี้ก็ก้าวออกไปหาพวกเขาทันที

 

ชายวัยกลางคนคือหัวหน้าเฉินซึ่งเฉินจุนได้พูดถึงชื่อก่อนหน้านี้ ของมีชื่อเต็มว่าเฉินกูโจวและเขาก็เป็นหัวหน้าตํารวจของพื้นที่นี้

 

“สวัสดีครับหัวหน้าเฉิน” เฉินจุนได้ทักทายเฉินกูโจวด้วยร้อยยิ้ม

 

เฉินกูโจวที่เห็นแบบนั้นพยักหน้ารับอย่างสุภาพและถามด้วยความเคารพ ” หลานเฉิน! อดีตผู้อํานวยการเป็นอย่างไรบ้าง?อาไม่ได้เห็นเขามาซักพักแล้วจึงคิดถึงท่านขึ้นมา”

 

“ พ่อของผมสบายดีครับ! เขาดูจะเบื่อนิดหน่อยเพราะเขาได้เกษียณและไม่มีอะไรจะทํา” เฉินจุนพูดต่อว่า “ แต่เมื่อวานนี้ เขาพูดเกี่ยวกับคุณอาด้วยนะครับ ดูเหมือนว่าพ่ออยากจะแนะนําคุณอาให้กับผู้บังคับบัญชาคนสนิทของพ่อให้รู้จัก อีกอย่างดูเหมือนว่าผู้บังคับบัญชาคนนั้นอีกกี่ปีก็จะเกษียณเหมือนกัน เขาจึงอยากได้คนที่ไว้ใจได้มารับตําแหน่งต่อ เขาจึงได้มาติดต่อพ่อของผมด้วยอิทธิพลที่มีในคณะกรรมการพรรค พ่อได้แนะนําคุณอาขึ้นไปดู ไม่รู้ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง”

 

ใบหน้าของเฉินกูโจวก็สว่างขึ้นทันที “หากไม่มีอดีตผู้อํานวยการคงไม่มีอาคนนี้อยู่ที่นี้ เอาละ! ไม่ว่าหลานจะเจอเรื่องอะไรอาจะช่วยหลานเท่าที่จะทําได้” จากนั้นเขาก็เปลี่ยนหัวข้อและถามว่า “แล้วไหนคนร้ายที่หลานได้พูดถึงก่อนหน้านี้?”

 

หยางไห่เป็นฝ่ายตอบคําถามนี้ “สวัสดีครับหัวหน้าเฉิน! ผมเป็นผู้เสียหายครับ ส่วนคนร้ายตอนนี้ยังอยู่ข้างในร้านครับ”

 

“นี่คือเพื่อนที่ดีที่สุดของผม” เฉินจุนได้แนะนํา “คนที่ทําร้ายเขาคือมีชื่อว่าหนิงเถา”

 

เฉินกูโจวที่ได้ฟังแบบนั้นตะโกนขึ้นว่า ”เขากล้าทําเรื่องที่ผิดกฏหมายจริงๆ ดีมาก! ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครอาคนนี้จะทวงความเป็นธรรมให้เพื่อนของหลานเอง พวกเราไป!”

 

แต่ระหว่างที่พวกของเฉินกูโจวกําลังจะเดินเข้าไปนั้น หนิงเถาและหลินชิงวู่ก็ได้เดินออกจากร้านอาหาร

 

เทียนเหมิงเจียวมีสายตาที่เฉียบคม เธอจึงสังเกตเห็นพวกเขาก่อน “นั่นคือเขา!” เธออุทานออกมาพร้อมกับโดยชี้ไปที่หนิงเถาอย่างตื่นเต้น

 

ด้วยการโบกมือไม่กี่ครั้งตํารวจที่มาด้วยเฉินกูโจวก็ได้พุ่งหนิงเถาและหลินชิงวู่

 

หลินชิงวู่ที่กําลังคุยอย่างมีความสุขกับหนิงเถาก็รู้สึกตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นอะไรเหรอ? อะไร …พวกคุณจะทําอะไร?”

 

“นายชื่อหนิงเถาใช้ไหม?” เฉินกูโจวเดินไปที่หนิงเถาและหลินชิงวู่ ก่อนที่จะถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

 

หนิงเถาพยักหน้าและตอบกลับว่า “ใช่! ผมคือหนิงเถา คุณต้องการอะไร?”

 

“ฉันต้องการอะไร?” เฉินกูโจวยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยและตอบว่า “นายได้ทําร้ายใครบางคนในที่สาธารณะ ซึ่งมันถือว่าเป็นคดีอาญา ดังนั้นฉันในฐานนะตํารวจจําเป็นจะต้องพานายไปที่สถานีตํารวจเพื่อทําการสอบสวน!”

 

ตํารวจที่อยู่ไม่ไกลได้หยิบกุญแจมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะเดินไปจับกุมหนิงเถาโดยไม่ลังเล

 

หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้แสดงสีหน้าต่อต้านอะไร

 

หลินชิงวู่ที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา “ คุณตํารวจ! มันต้องเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดแน่นอน หมอหนิงเขาไม่ใช่อาชญากร และคุณจะจับกุมใครบางคนโดยไม่สอบสวนได้ยังไง? ไหนจะหมายจับอีก? คุณควรจะแสดงมันออกมาให้ฉันได้เห็น!”

 

” คุณคิดว่าคุณเป็นใคร?” เฉินกูโจวแสดงสีหน้าไม่พอใจ “คุณคิดว่าผมจะต้องแสดงหมายจับให้คุณได้ดูเมื่อคุณร้องขอหรือไง? ผมขอเตือนคุณถ้าคุณยังคงขัดขวางการทํางานของเจ้าหน้าที่อยู่ ผมก็คงไม่มีทางเลือกที่จะต้องจับกุมคุณไปด้วย!”

 

“นี่เป็นการละเมิดสิทธิ์นะ!” หลินชิงวู่ที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกโกรธขึ้นมา

 

“พาเขาไป!” เฉินกูโจวเลิกสนใจหลินชิงวู่ ก่อนที่เขาจะสั่งให้ลูกน้องพาตัวหนิงเถาไป

 

ตํารวจคนที่ใส่กุญแจมือหนิงเถาได้ผลักเขาไปข้างหน้าและตะโกนว่า “ไป! คุณควรจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดเรื่องขึ้นกับคุณได้”

 

หนิงเถาไม่เพียงแต่จะไม่ต่อต้านเท่านั้น เขายังยินดีที่จะเดินไปที่รถตํารวจอีกด้วย

 

เหลียงติงเทียน เหมิงเจียว และหยางไห่ และเฉินจูน มองดูเรื่อง นี้ด้วยความสุข พวกเขาต้องการให้หนิงเถาแสดงท่าทางขัดขืนมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่สาแก่ใจพวกเขา

 

” หนิงเถา! ฉันบอกนายแล้วว่านายต้องเสียใจกับสิ่งที่นายทํากับฉัน” หยางไห่ได้ร้องตะโกนขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม “ฉันบอกแล้วว่าฉันจะเอาคืนแกเป็นสองเท่าที่เคยทํากับฉัน และครั้งนี้แกต้องไปนอนในคุก!”

 

หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินอยู่ข้างหยางไห่พร้อมแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “เมื่อไหร่ที่นายพูดคําพวกนี้ออกมา? เพราะครั้งสุดท้ายที่ฉันทําร้ายนาย นายยังคงร้องออกมาเหมือนหมูถูกเฉียดอยู่เลย”

 

” แก!” หยางไห่กําลังจะสําลักความโกรธของตัวเอง เขาไม่เชื่อว่าหนิงเถาจะยังคงแสดงสีหน้าสงบออกมาได้หลังจากที่เข้าไปอยู่ในคุกจริงๆ!

 

เฉินจูนเองก็ได้หัวเราะเยาะออกมา “หนิงเถาหนอหนิงเถา ดูเหมือนว่านายจะไม่รู้ว่าตัวเองกําลังเผชิญกับอะไร แต่อีกไม่นาน นายก็จะรู้เองว่าตัวเองทําผิดพลาดไปมาก และฉันสัญญาว่านายจะต้องรีบวิ่งมาคุกเขาต่อหน้าฉันเพื่อให้ฉันยกโทษให้”

 

แต่ในระหว่างนั้นเองตาของหนิงเถาได้ตกลงไปยังรถเก๋งบูอิคที่จอดอยู่ข้างถนนห่างไปไม่ไกล

 

ในที่นั่งคนขับนั้นแน่นอนว่าจะต้องเป็นโจวเฮา เธอเองก็ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้น แต่กับไม่ใช้เธอที่ออกมาแก้ปัญหานี้ กลับเป็นรถเก๋งฮาแว่นวีหกสองคันที่จอดอยู่ไม่ไกลแทน พวกเขาต่างก็วิ่งออกมาจากรถหนึ่งในคนที่วิ่งออกมามีท้องที่ใหญ่มาก เห็นได้ชัดว่าเขาต้องอ้วนเนื่องจากการดื่ม ชายคนนั้นได้พาท้องอันใหญ่ตัวของตัวเองวิ่งมาทางเฉินกูโจวอย่างรวดเร็ว!

 

ในขณะเดียวกันเฉินกูโจวที่เห็นว่าหนิงเถาได้หยุดเดิน เขาก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมากจนเขาได้ตะโกนขึ้นว่า “แม่*! แกคิดจะขัดขืนหรือไง?!”

 

แต่แทนที่จะทําให้หนิงเถารู้สึกกลัวและรีบเดินต่อไป อีกฝ่ายกับไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร จนเขาได้ลงไม้ลงมือไป แต่ไม่ใช้อีกฝ่ายที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด กลับเป็นเขาที่ร้องออกมาและรู้สึกว่ามือที่ตัวเองตบไปนั้นกําลังจะหัก!

 

“แกกล้าขัดขวางการทํางานของเจ้าหน้าที่เหรอ!” เฉินกูโจวรู้สึกเสียหน้ากับเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงคิดจะใช้ไม้พลองที่พกติดตัวมา

 

” หยุด!” มีเสียงคํารามของชายท้องใหญ่ดังขึ้นในเวลาต่อมา

 

เมื่อเฉินกูโจวได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ไม้พลองของเขาที่กําลังจะตีถูกหลังศีรษะของหนิงเถาก็หยุดลง ก่อนที่เขาจะหันกลับไปมองเจ้าของเสียงนั้น ไม่ไกลจากที่เขายืนอยู่นั้นมีชายท้องใหญ่ที่กําลังก้มและหอบอย่างหนัก ถึงมันจะเป็นภาพที่ไม่หน้าดูเท่าไหร่ แต่สําหรับเฉินกูโจแล้วมันเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดที่พร้อมจะฆ่าเขาทุกเวลา!

 

” หัวหน้า…วู!” เฉินกูโจวยังคงตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น “ทําไม คุณถึงอยู่ที่นี่?”

 

ชายคนนี้คือวูเว่ย ผู้กํากับอาวุโสในระบบตํารวจของเมืองฉานเจียง เขาอยู่ในนั้นรถเก๋งฮาแว่นวีหกเพื่อมาช่วยโจวเฮาทําภารกิจนี้ ดูเหมือนว่าตําแหน่งของเจียงเฮาจะไม่ใช้ต่ำเลย การที่เธอสามารถใช้ให้คนระดับนี้มาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้

 

แน่นอนว่าตําแหน่งของเธอไม่ได้สูงไปกว่าวูเว่ยแต่ด้วยคําสั่งจากเบื้องบนที่สั่งตรงลงมายังเขาให้ทําตามสิ่งที่โจวเฮาบอก มันจึงช่วยไม่ได้ที่เขาต้องทําหน้าที่ทุกอย่างที่อีกฝ่ายสั่งออกมา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้คาดคิดว่าการทํางานนี้จะทําให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังมากขึ้น แต่เขาไม่คิดว่าคําสั่งแรกที่อีกฝ่ายสั่งให้เขาทําคือการช่วยแก้ปัญหาเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้

 

และที่สําคัญไปกว่านั้นคนที่กําลังสร้างปัญหาอยู่นั้นเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาของเขาอีกด้วย!

 

ในที่สุดหลังจากได้พักหายใจจนพอแล้ววูเว่ยก็ได้ยืนตัวตรงและเดินไปทางเฉินกูโจว ทันใดนั้นเขาก็ถอดหมวกตํารวจของเฉินกูโจวออกไปโดยไม่พูดอะไรแล้วโยนมันทิ้งไปไกล

 

ใบหน้าของเฉินกูโจวเป็นเป็นสีขาวในพริบตา “หัวหน้า หัวหน้าวู! ทําไมหัวหน้าถึงมาที่นี้ได้ครับ …” เขาถามด้วยเสียงหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

 

เฉินจู เหลียงติงเทียน เหมิงเจียว และหยางไห่ ต่างตกตะลึงและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน

 

“นายกําลังถามฉันว่าฉันกําลังทําอะไรอยู่เหรอ?” วูเว่ยได้ร้องออกมาเหมือกับฟ้าร้อง

 

เฉินกูโจวรู้ว่าตอนนี้หัวหน้าของตัวเองกําลังโกธรแต่เขาก็ทําได้เพียงพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว

 

“นี้เป็นวันแรกของนายในฐานะตํารวจหรือไง?” วูเว่ยยังคงตะโกนออกมาด้วยเสียง “ นายกล้าจับกุมใครโดยไม่มีหมายจับได้ยังไง? และ! และ! และ! และนายรู้ตัวไหมว่ากําลังจับกุมใครอยู่?”

 

การเน้นของวูเว่ยทําให้เฉินกูโจวรู้ว่าเรื่องที่ตัวเองทํานั้นไม่เล็กอีกแล้ว เขามองกันไปหนิงเถาโดยอัตโนมัติ แต่เขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าคนที่เขามาจับกุมนั้นมีอิทธิพลมากขนาดไหน

 

หนิงเถาเองก็ตกใจจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน เขาไม่รู้จักหัวหน้าที่เรียกว่าวูเว่ย แต่อีกฝ่ายก็ออกมาช่วยเขา ความอยากรู้อยากเห็นของเขาเกี่ยวกับตําแหน่งของเจียงเฮาอย่างมากขึ้นไปอีก เขาเริ่มสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นตํารวจจริงๆหรือเปล่า

 

“นายกําลังจับกุมผู้มีประคุณของฉัน!” วูเว่ยพูดออกมาด้วยท่าทางจริงจัง “คุณหมอหนิงได้รักษาความเจ็บป่วยให้กับพ่อของฉัน เมื่อหลายปีก่อน แล้วนายคิดว่าเขาจะเป็นคนเลวหรือไง? รู้แบบนี้นายยังไม่รีบถอดกุยแจมือของเขาออกอีก”

 

“ผม … ผม…” ในเวลานี้เฉินกูโจวไม่รู้ว่าตัวเองต้องทํายังไง เขาหันไปมองทางหยางไห่ด้วยความเกลียดชัง และต้องการที่จะเข้าไปต่อยอีกฝ่าย

 

“ยังอีก?” วูเว่ยยังคงตําหนิการกระทําอีกฝ่าย “นายยังไม่ไปอีก? แล้วพรุ่งนี้ฉันต้องการเห็นรายงานเรื่องทั้งหมดบนโต๊ะของฉันด้วยเข้าใจไหม!”

 

เมื่อประโยคนี้จบลง เฉินกูโจวรู้สึกว่าวิญญาณของตัวเองได้ตายจากไป

 

วูเว่ยดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบๆตัว ” พวกนายก็ด้วย! ยังไม่รีบไปอีก?!”

 

ตํารวจที่มาที่นี้ไม่กล้ารอช้าอีกต่อไป พวกเขาทําการถอดกุญแจมือออกจากข้อมือของหนิงเถาพร้อมกับขอโทษและจากไปทันที

 

วูเว่ยที่เห็นว่าสถานการณ์กลับมาเป็นปกติแล้วเขาก็ได้เดินไปจับมือทั้งสองข้างแล้วพูดอย่างจริงจัง “หมอหนิง! ผมต้องขอโทษจริงๆที่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพื่อเป็นการขอโทษที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เที่ยงวันพรุ่งนี้ผมขอเชิญคุณไปทางอาหารด้วยกัน ”

 

ถึงแม้ว่าหนิงเถาจะไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นมากนัก แต่เขาก็รู้ดีว่าต้องเล่นตามน้ำไปก่อน ดังนั้นเขาจึงได้ตอบกลับมาอย่างสุภาพว่า “หัวหน้าวู คุณสุภาพเกินไปแล้ว ช่วยบอกพ่อของคุณด้วยว่าพรุ่งนี้ผมจะไปทานอาหารเที่ยงด้วยอย่างแน่นอน”

 

“ ดีครับ! ผมจะบอกให้ภรรยาของผมทําปลาหวานอมเปรี้ยวที่หมอชอบเอาไว้ให้” วูเว่ยเองก็ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

 

“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ฉันชอบปลาเปรี้ยวหวาน?” หนิงเถาคิดเรื่องนี้กับตัวเอง แต่เขาก็ยังตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม “โอเคครับ ”

 

หลังจากที่เรื่องนี้ถูกแก้ไขแล้ว หนิงเถาก็ได้เดินผ่านพวกเฉินจู เหลียงติงเทียน เหมิงเจียว และหยางไห่ ไป

 

พวกเพื่อนทั้งสามของหนิงเถามองภาพที่เกิดขึ้นด้วยสายตาที่ซับซ้อนและมีอารมณ์ผสมอยู่มากมาย หยางไห่ เหลียงติงและ เทียนเหมิงเจียวมั่นใจว่าพวกเขารู้จักอีกฝ่ายดีมาโดยตลอด แต่ในคืนนี้พวกเขากับพบว่าคนที่เขาคิดว่าผู้จักดีนั้นได้เปลี่ยนไป มันเป็นเหมือนคนแปลกหน้าที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน เขาไม่ได้เป็นนักเรียนที่ยากจนที่ต้องทํางานอย่างหนักเพื่อหารายมาจ่ายค่าเล่าเรียนของตัวเองอีกแล้ว แต่เป็นอาจารย์หนุ่มผู้มั่งคั่งที่พวกเขาไม่กล้ามองตรงๆแทน!

 

หนิงเถาหยุดเดิน ห่างจากพวกหยางไห่ไม่ไกล ก่อนที่จะพูดขี้นว่า “ เอาละ! พวกนายยังต้องการเล่นต่ออีกไหม? ถ้าต้องการเล่นต่อฉันก็พร้อมที่จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนพวกนาย” ถึงประโยคพูดจะเป็นอะไรที่สบายๆ แต่สายตาที่ใช้มองคนพวกนั้นกับเต็มไปด้วยความเย็นชา

 

เฉินจุนนั้นหน้าแดงไปหมด เขาไม่กล้าพูดอะไรขึ้นอีกหลังจากเจอเรื่องที่เกิดขึ้น เขาทําได้เพียงแค่ก้มหน้าและเดินจากไป

 

เทียนเหมิงเจียวที่เห็นแบบนั้นก็วิ่งตามเขาไป พร้อมกับที่ตะโกนว่า “พี่ชายเฉิน! รอฉันด้วย”

 

ทันใดนั้นหยางไห่และเหลียงติงเองก็กลับมาจากความตกใจ พวกเขาไม่กล้าหาเรื่องหรือหน้าหนิงเถาต่อไป พวกเขาทําได้เพียงก้มหน้าและรีบเดินตามเฉินจุนไปได้เท่านั้น

 

” ฉันคิดว่าคุณได้เอาชนะพวกเขาแล้ว แบบนี้คุณจะทํายังไงกับพวกนั้นต่อละ?” หลินชิงวู่พูดขึ้นมาระหว่างที่เธอเดินเขามา

 

หนิงเถาไม่คิดว่ามันจําเป็นที่จะต้องหาเรื่องพวกอดีตเพื่อนของตัวเองอีก เพราะถ้าเขาทําอย่างนั้นแล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่างเขากับหยางไห่และเฉินจุนกัน?

 

” คุณคิดว่าผมเป็นพวกอยากหาเรื่องใครหรือไง?” หนิงเถาพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมา

 

หลินชิงวู่ที่ได้ยินแบบนั้นมองหนิงเถาอย่างระมัดระวัง จากนั้นเธอส่ายหัวแล้วตอบว่า “ไม่! คุณดูดีในชุดสูท ถ้าคุณแต่งตัวแบบนี้ เมื่อคืนนี้คุณคงไม่ตกอยู่ในสภาพลําบากแบบนั้น”

 

หนิงเถาทําเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย เขาไม่ต้องการให้คนอื่นเคารพ เขาเพียงแค่ดูที่ภายนอก

 

หลินชิงวู่ดูเหมือนจะรู้สึกอะไรบางอย่างและพูดขอโทษออกมา “ที่จริงพ่อของฉันได้รอคุณเจียงเมื่อคืนนี้เพื่อซื้อที่ดินผืนนั้นฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ”

 

“เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป ตอนนี้เราควรจะไปห้องแล็บของพี่ชายของคุณได้แล้ว”

 

หลินชิงวู่แสดงรอยยิ้มไปให้หนิงเถาและตอบว่า “ได้! งั้นฉันจะเอารถก่อน”

 

“งั้นผมจะรอคุณที่นี่” หนิงเถาตอบกลับไป

 

บนหลังคาของอาคารไม่ห่างไปมากนัก มีร่างสีเข้มมองลงมาจากบนอย่างเงียบๆ แน่นอนว่าเป้าหมายนั้นคือหนิงเถา เขาสวมเสื้อคลุมสีดําและหมวกไม้ไผ่ขนาดใหญ่ดูเหมือนนักดาบโบราณ แต่สิ่งที่เขาถือไม่ใช่ดาบ แต่เป็นไอศกรีมรสช็อกโกแลต

 

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

บทนำ นักศึกษาแพทย์ที่ยากจนคนหนึ่งได้เข้าไปช่วยชีวิตสุนัขสีดำที่ได้รับบาดเจ็บจากบนถนนโดยไม่ตั้งใจ แต่เขาไม่คิดว่านั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมหัศจรรย์พันธ์ลึก และทำให้เขาได้รู้จักกับคลินิกลึกลับอย่างคลินิกนภา ตัวคลินิกเองยังมีกฎที่เป็นข้อบังคับที่ว่าถ้าหากเขาไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ตรงเวลา จำนวนชีวิตน้อยๆของเขาจะต้องถูกหักออกไปทดแทนในส่วนที่ขาดไป เพื่อความอยู่รอดหนิงเถาผู้ที่พึ่งจะก้าวเข้ามาเป็นผู้ฝึกตนมือใหม่และโลกใบใหม่นี้ จะต้องพยายามหาความดีและความชั่วเพื่อนำมาเป็นค่าเช่า นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มธรรมดาผู้หนึ่งที่ได้รับหน้าที่เป็นทั้งนักบุญและปีศาจ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset