OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF – ตอนที่ 39 การพูดคุยอย่างลับๆในห้องน้ำ

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

 

บทที่ 39 การพูดคุยอย่างลับๆในห้องน้ำ

 

แสงสว่างได้กลับคืนมา สิ่งแรกที่หนิงเถาทําคือการค้นหาชุดปฐมพยาบาล เหตุที่เขาทําแบบนั้นก็เนื่องจากครั้งนี้เขาไม่ได้นําหีบยามากับเขา เขาเอาเพียงเข็มศักดิ์สิทธิ์มาเท่านั้น

 

เข็มศักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงแต่จะสามารถใช้ในการรักษาคน แต่ยังสามารถใช้ในการลงโทษคนชั่วได้อีกด้วย ดังนั้นตอนนี้มันจึงกลายเป็นสิ่งที่เขาได้ดํามันติดตัวตลอดเวลา

 

เมื่อกลับมาที่ออฟฟิศ หนิงเถากลับไปที่ที่เตียงนอนที่ถูกกระแทกกลับไปยังที่เดิม และยกหลินชิงวู่ขึ้นจากพื้นแล้ววางเธอลงบนเตียง เธอมีลูกดอกอยู่ที่อกขวาของตัวเอง แต่โชคดีที่มันไม่ได้ลึกมาก

 

ภายใต้แสงไฟ ลูกดอกนั้นเปล่งประกายความเย็นออกมา แต่มันก็ไม่โดดเด่นเท่ากับจุดที่มันบังเอาไว้

 

” ทําไมมันต้องปักที่จุดยุทธศาสตร์ของเธอด้วย??” มันเป็นเรื่องปวดหัวสาหรับหนิงเถามากในตอนนี้ แต่ในไม่ช้าเขาก็พบเหตุผลที่จะโน้มน้าวตัวเอง “ฉันเป็นหมอ! ฉันมีสิ่งสําคัญที่จะต้องทํานั้นคือการรักษาชีวิตของผู้ป่วย”

 

เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาก็ได้เริ่มถอดเสื้อผ้าของหลินชิงวู่

 

หนิงเถาหยิบมีดผ่าตัดที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ ก่อนที่จะตัดชุดราตรีของหลินชิงวู่ออกอย่างระมัดระวัง ชุดชั้นในที่ทําจากผ้าฝ้ายชั้นดีพร้อมกับเสริมฟองน้ำซับแรงก็ปรากฏต่อหน้าของหนิงเถา ด้วยอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้เองที่ ทําให้เธอไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

 

ในกรณีนี้ต้องขอบคุณชุดชั้นในที่เธอสวมมาในวันนี้ เพราะมันทําให้แรงกระแทกที่ควรจะรุนแรงได้ถูกลดลงจนไป

 

สูดหายใจเข้าลึกๆ หนิงเถาได้เอื้อมมือไปคว้าหางลูกดอกแล้วดึงมันออกมา

 

เมื่อลูกดอกถูกดึงออกจากบาดแผล เลือดได้พุ่งออกมาแทบจะทันที มันจึงทําให้เลือดสีแดงสดได้เลอะผิวสีขาวของหลินชิงวู่ ไม่เพียงแต่มันจะไม่ดูแย่ มันกลับทําให้เธอดูมีเสน่ห์และน่าดึงดูดขึ้นอีกด้วย

 

“ฝ้าย!” หลินชิงวู่ตื่นขึ้นมาภายใต้ความเจ็บปวด เมื่อเธอเห็นหนิงเถาตรงอยู่ตรงหน้าของเธอ สิ่งแรกที่เธอถามโดยไม่รู้ตัวคือ ” ชายชรานั้นอยู่ที่ไหน?”

 

“ไม่ต้องห่วง! ชายชรานั้นหนีไปแล้วและตอนนี้คุณก็ปลอดภัยแล้ว” หนิงเถาตอบต่อว่า “ตอนี้คุณควรจะนอนนิ่งๆเพื่อให้ผมสะดวกในการทําแผลให้คุณ”

 

ทันใดนั้นหลินชิงวู่ก็รู้สึกอะไรบางอย่างและลุกขึ้นนั่งบนโซฟาด้วยใช้แขนของเธอเป็นหลัก ในเวลาเดียวกันดวงตาของเธอหันไปมองที่หน้าอกของเธอ และในวินาทีต่อมาเธอก็ส่งเสียงกรี๊ดออกมา “อ๊า “

 

หนิงเถาที่ไม่ได้เตรียมตัวที่จะเจอกับอะไรแบบนี้ก็ถึงกับตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ และนั้นทําให้ลูกดอกที่เขาถืออยู่ได้ล่วงตกไปบนพื้น

 

หลินชิงวู่ได้ถูกดึงดูดด้วยเสียงที่ลูกดอกตกลงพื้น และก้มมองไปยังจุดที่เลือดของเธอไหลออกมา

 

“ผ่อนคลาย ผมกําลังรักษาคุณ” หนิงเถาพูดต่อว่า “ ตอนนี้คุณต้องนอนลงก่อน ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่สามารถห้ามเลือดของคุณได้”

 

เมื่อได้ยินคําพูดของอีกฝ่าย หลินชิงวู่ที่ลุกขึ้นนั่งตรงบนโซฟาก็ได้ก็ได้จ้องมองหนิงเถาด้วยดวงตาสีดําของเธอ 

 

“ แผลของคุณยังคงมีเลือดไหลออกมาและมันต้องได้รับการรักษาโดยด่วน” หนิงเถาได้พูดซ้ำในเรื่องนี้ “และอีกอย่างคุณจะถอดเสื้อผ้าด้วยตัวเองหรือจะให้ผมถอดเอง”

 

“แผลที่โดนมันลึกไหม?”

 

“ไม่” หนิงเถาตอบ

 

“ ดี! งั้นฉันจะทํามันเอง คุณแค่ต้องบอกขั้นตอนการรักษาเบื้องต้นมาก็พอ” หลินชิงวู่พูดต่อว่า ” ตอนนี้คุณก็ควรจะหันหลังกลับไปได้แล้ว และอย่าหันกลับมามองฉันเด็ดขาด เข้าใจไหม?”

 

หนิงเถาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตอบตกลง “ก็ได้!” จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและรอให้หลินชิงวู่ถามเขาว่าจะทําอย่างไรต่อไป

 

“ลูกดอกนั้นมียาพิษไหม?” เสียงของหลินชิงวู่ฟังดูกังวลเป็นอย่างมาก

 

“คุณถามทําไม?” หนิงเถาถามกลับไปอย่างสงสัย

 

“ก็ ก็ในหนังมันมักจะมีอะไรพวกนี้? และฉันกลัวว่าลูกดอกที่ฉันโดนจะเป็นแบบนั้นด้วย? มันก็ไม่ได้แย่อะไรถ้าฉันจะป้องกันเอาไว้ก่อนจริงไหม?”

 

หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็คิดว่ามันก็มีความเป็นไปได้ ขนาดเขายังทําเลย แล้วทําไมอีกฝ่ายที่เป็นนักฆ่ามืออาชีพถึงไม่ทํากัน? ดังนั้นเขาจึงได้หยิบลูกดอกขึ้นมาจากพื้นแล้วดมมัน เขาไม่ได้กลิ่นแปลกปลอมที่สามารถบอกได้ว่ามันมีพิษอยู่

 

” จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันมียาพิษ?” หลินชิงวู่ได้ถามขึ้นมาอีกครั้ง

 

“แล้วคุณเห็นว่าในหนังเขาทํากันยังไงละ?” หนิงเถายิงคําถามกลับ

 

หนึ่งในฉากที่นางเอกถูกพิษและพระเอกต้องทําการถอนพิษแบบง่ายก็ปรากฏขึ้นในสมองของเธอ และนั้นทําให้เ อรู้สึกเขินอายทันที “มันมีพิษจริงๆเหรอ?”

 

หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกลับหลุดหัวเราะออกมาและตอบว่า “คุณไม่ต้องกังวลไป มันไม่มียาพิษอะไรทั้งนั้น”

 

” คุณ ” หลินชิงวู่จ้องมองหนิงเถาราวกับว่าเธออยากจะกระโดดขึ้นไปกัดเขาให้ตาย แต่เรื่องตลกเล็กๆนี้ก็ทําให้เธอผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์และไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

 

หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็ได้เปลี่ยนหัวเรื่อง “คุณถอด … เสร็จแล้วก็เอาก้อนสาลีจุ่มแอลกอฮอล์เพื่อทําความสะอาดแผล จากนั้นวางมันลงบนแผลแล้วกดมันเอาไว้ก่อน”

 

เมื่อประโยคสุดท้ายจบลง เขาก็ได้ยินเสียงที่ดังอยู่ข้างหลังของเขา จากนั้นก็มีเสียงครวญครางเบาๆดังขึ้นมา

 

หนิงเถาไม่สามารถควบคุมจิตใจของเขาให้จินตนาการถึงฉากที่อยู่ด้านหลังของเขาได้ และมันก็เริ่มมีความคิดแปลกๆเกิดขึ้นกับเขา “ถ้าฉันบอกเธอว่าลูกดอกนั้นมียาพิษ เธอจะ …”

 

เขาไม่กล้าคิดอีก แล้วรู้สึกอึดอัดตรงเป้าตัวเองเล็กน้อย

 

อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงแค่จินตนาการของมนุษย์ในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งมันถือว่าเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติ เพราะในความเป็นจริงเขาจะไม่ทําอย่างนั้น

 

หลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง หลินชิงวู่ก็พูดว่า ” คุณหมอหนิง! ฉันจะขอยืมแจ็คเก็ตของคุณได้ไหม?”

 

หนิงเถาไม่ได้คิดมากในเรื่องนี้อยู่แล้ว เขาจึงถอดเสื้อนอกออกทันทีแล้วหันไปมอบให้หลินชิงวู่

 

“อา!” หลินชิงวู่ได้ส่งเสียงร้องออกมาก่อนที่จะรีบว่า “คุณ! คุณรีบหันกลับไป!” เธอร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว

 

” ขอโทษ ขอโทษ ผมไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ” หนิงเถารู้ว่าตัวเองทําพลาดไป ดังนั้นเขาจึงรีบหันหลังกลับและโยนแจ็คเก็ตของเขาเอาไว้บนโซฟาแทน

 

หลินชิงวู่ได้พูดขึ้นหลังจากที่เธอสวมแจ็คเก็ตเสร็จแล้ ว “ตอนนี้เราควรทําอย่างไรดี?”

 

“เราควรเรียกตํารวจ” หนิงเถาพูดต่อว่า “ในสถานการณ์แบบนี้คุณและพี่ชายของคุณกําลังตกอยู่ในอันตราย และแม้แต่พ่อแม่ของคุณก็อาจจะตกเป็นเป้าได้เหมือนกัน” 

 

หลินชิงวู่ไม่ได้ตอบสนองต่อข้อเสนอของหนิงเถา กลับกันเธอเกิดความลังเลขึ้นแทน

 

“การเรียกตํารวจอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ ทําให้คุณเสียเงินไปช่วงหนึ่ง แต่ถ้าเกิดว่าคุณหรือครอบครัวของคุณเกิดได้รับบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิตขึ้นมา คุณคิดว่าอะไรมันสําคัญกว่ากันระหว่างเงินกับชีวิต? นอกจากนี้สิ่งที่พี่ชายของคุณได้ทํามันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนและอันตรายมาก ไม่อย่างนั้นคงจะไม่มีคนที่น่ากลัวแบบที่เราเจอมาปล้นงานวิจัยของพี่ชายของคุณ ดังนั้นการโทรเรียกตํารวจจะเป็น การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง แทนที่จะรอให้ตํารวจนำหมายศาลมาเอง”

 

หลินชิงวู่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะพูดว่า “เอาล่ะ! ฉันจะโทรหาตํารวจ”

 

กลุ่มตํารวจได้มาถึงในครึ่งชั่วโมง นําโดยวูเวยหัวหน้าตํารวจผู้ที่ได้ช่วยหนิงเถาออกจากสถานการณ์หน้าอีกอัดก่อนหน้านี้ และตามมาด้วยเจียงเฮาในการปลอมตัวเป็นตํารวจธรรมดา เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ต้องการให้หลินชิงวู่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ ดังนั้นหนิงเถาจึงไม่ทักเธอเลย

 

ในสานักงานของหลินชิงหัววู่ วูเวยกําลังสอบปากคําของหลินชิงวู่

 

หนิงเถายืนอยู่ข้างนอกประตู พร้อมกับสงสัยว่าเมื่อไหร่ที่เจียงเฮาจะรีบมารับเผือกร้อนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง

 

ดูเหมือนว่าเจียงเฮาจะมีปฏิกิริยาบางอย่าง เธอได้เดินไปเข้าห้องน้ำ

 

หนิงเถาลังเลที่จะไปกับเธอ เพราะเขาไม่รู้ว่าเธอต้องการไปห้องน้ำจริงๆหรือไม่? หากว่าเธอแค่ต้องการใช้ห้องน้ำจริงๆ และเขาตามไปมันคงดูไม่ดีอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเจียงเฮาได้หันกลับมาส่งซิกมาให้กับเขาอย่างชัดเจน ดังนั้นเขาจึงเดิน ไปยังทิศทางของห้องน้ำ

 

เจียงเฮาได้หยุดที่อ่างล้างหน้าทําท่าจะล้างมือแล้วถามว่า “นายพบอะไรบ้าง?”

 

หนิงเถายังยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้าทําท่าว่าจะล้างมือและตอบว่า “ฉันได้พบชิ้นส่วน ดิน และแคปซูล …”

 

ก่อนที่เขาจะจบประโยค เจียงเฮาก็ได้พูดขัดขึ้นว่า ”มากับฉัน” จากนั้นเธอก็ตรงเข้าไปในห้องของผู้หญิง

 

หนิงเถาที่จับจุดไม่ได้ก็มองไปรอบๆด้วยความงงงวย แม้ว่าเธอต้องการเก็บเรื่องที่พูดกันเป็นความลับ ทําไมเธอถึงเลือกที่จะเข้าไปในห้องของผู้หญิง เมื่อเธอสามารถเข้าไปในห้องของผู้ชายได้ง่ายกว่า?

 

“ไอ!” ทันใดนั้นอาการไอของเจียงเฮาก็ดังออกมาจากห้องผู้หญิง

 

หนิงเถาที่รู้ว่านั้นเป็นสัญญาให้เขาตามเข้าไป เขาก็ทําได้เพียงยิ้มออกมาอย่างขมขืนและเดินเข้าไปในห้องของผู้หญิงโดยดีเท่านั้น

 

“แสดงสิ่งนั้นให้ฉันดู” เจียงเฮาพูดออกมาพร้อมกับจ้องไปที่สิ่งที่หนิงเถาจะนําออกมาอย่างใจจดใจจ่อ

 

หนิงเถาได้ดึงสิ่งที่เขาบอกออกมาจากกระเป๋าของเขาและพูดคร่ำครวญว่า “ทําไมฉันต้องเข้ามาในนี้? เธอก็รู้ว่านี้มันคือห้องของผู้หญิง?”

 

“นายไม่เห็นกล้องวงจรปิดในโถงทางเดินหรือไง? ถ้าเรายังคุ้มกันอยู่ที่เดิมมีความเป็นไปได้ว่าความลับจะไม่ลับอีกต่อไป” เจียงเฮาได้อธิบายต่อว่า “หลักฐานตัวนี้ถือว่าเป็นวัตถุที่ละเอียดอ่อนมาก และฉันไม่สามารถเสี่ยงที่จะเปิดเผยตัวตนของฉันได้ ดังนั้นเราควรระวังให้มากในเรื่องพวกนี้”

 

หนิงเถาไม่ได้สังเกตเห็นกล้องวงจรปิดจริงๆ ด้วยคําอธิบายของเจียงเฮามันก็ทําให้เขาเข้าใจอะไรหลายๆอย่างเขาได้ส่ง “ดิน” สีน้ำเงินที่เขาได้รับจากภาพวาดให้เธอ คราวนี้เขาก็ได้กําจัดเผือกร้อนนี้ไปได้แล้ว เขาใส่มันลงในถุงพลาสติก 

 

“แคปซูลอยู่ที่ไหน” เจียงเฮาถามหลังจากที่เธอเห็นเพียง แค่ดินสีน้ำเงิน

 

“มันอยู่ใน” ดิน ” นั้น “ หนิงเถาตอบ

 

เจียงเฮาที่ได้ยินแบบนั้นก็เปิดถุงออกและดูเหมือนว่าเธอจะต้องการเอา “ดิน” สีน้ำเงินออกมา แล้วเปิดมันออกเพื่อดูแคป

 

หนิงเถารีบหยุดเธอโดยเร็ว “อย่าแตะต้องมัน! เราไม่รู้แน่ชัดว่ามันคืออะไร และหลินชิงหัวเองก็มีโรคแปลกๆเพราะมัน”

 

เจียงเฮาที่ได้ยินแบบนั้นก็รับหดมือกลับและพยายามละงับความอยากสัมผัส ” ดิน” เอาไว้ “ขอบใจนายที่เตือนฉัน! อีกเดียวฉันจะส่งเจ้าสิ่งนี้ไปให้สถาบันการศึกษาวิทยาศาสตร์” เธอพูดต่อว่า “ฉันคิดว่ารายงานการตรวจสอบจะออกมาเร็วๆนี้ ฉันเดาว่ามันต้องมีความลับบางอย่างที่เก็บไว้ในอุปก ณ์อิเล็กทรอนิกส์นี้ หลักฐานที่นายพบในครั้งนี้มีความสําคัญมากกับรูปคดี ”

 

“ ฉันไม่ได้มีโอกาสคุยกับเธอก่อนหน้านี้ ดังนั้นตอนนี้ฉันจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เธอฟัง” หนิงเถาพูดต่อว่า “หลินชิงวู่และฉันได้พบกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฒ่าก่อนหน้านี้ ในตอนแรกพวกเราก็ไม่ได้สงสัยเขานึกว่าเป็นพนักงานคนหนึ่ง แต่เมื่อฉันพบเจ้าสิ่งนี้! อีกฝ่ายก็ตัดสินใจเข้ามาทําร้ายฉันและหลินชิงวู่ทันที”

 

“นายได้รับบาดเจ็บไหม?” สิ่งที่สาคัญที่สุดสําหรับ เธอคือข้อมูลเกี่ยวกับชายชรา แต่สิ่งที่เธอโพล่งออกมากับเป็นความกังวลของเธอที่มีต่อหนิงเถา

 

“มันเป็นเพียงแค่แผลเล็กน้อย ฉันไม่เป็นไรมาก”

 

“ดีแล้ว! แต่ยังไงฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่ฉันไม่สามารถปกป้องนายได้ “ เจียงเฮารู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเธอเองที่ขอให้เขามาช่วยการสิบคดีนี้ และเธอยังได้รับปากเขาเอาไว้ว่าจะไม่ทําให้เขานั้นตกอยู่ในอันตรายและจะรับประกันความปลอดภัยส่วนบุคคลของเขา อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้คาดหวังว่าเพียงแค่ผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมง เขาก็ต้องอยู่ในอันตรายถึงสองครั้ง

 

หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “ เธอไม่ต้องขอโทษ ฉันสงสัยว่ากล้องวงจรปิดจะยังคงทํางานได้ตามปกติไหม? เพราะถ้ามันยังทํางานได้เราก็มีหวังว่าจะรู้ตัวคนร้ายและลงมือจับเขาก่อนที่เขาจะลงมือซ้ำอีกครั้ง จากความรู้สึกที่อีกฝ่าย ปล่อยออกมา ฉันแน่ใจว่าเขาอันตรายยิ่งกว่าพี่ชายเหมิงอะไรนั้นเสียอีก”

 

เจียงเฮาที่ได้ฟังแบบนั้นพยักหน้าและพูดว่า “ได้! งั้นเราออกไปกันเถอะ”

 

จากนั้นหนิงเถาก็เดินตามเจียงเฮาออกจากห้องของผู้หญิง เมื่อเขากลับมาที่ประตูห้องทํางานของหลินชิงหัว ตํารวจได้เข้ามารายงานด้วยความประหม่าว่า “หัวหน้าวู เราเจอบางอย่างครับ!”

 

วูเวยผู้ที่กําลังจดบันทึกอยู่ถึงกับได้หยุดการกระทําของตัวเองและถามว่า “มันคืออะไร?”

 

ตํารวจรายนั้นได้ตอบว่า “เราพบศพสี่ศพในทุ่งยาด้านหลังของห้องแล็บ! ศพสามศพอยู่ในชุดรักษาความปลอดภัยอีกชุด หนึ่งชุดที่เขาสวมอยู่ได้หายไปครับ”

 

การจ้องมองของวูเวยได้เปลี่ยนไปที่เจียงเฮาที่ยืนอยู่ที่ประตู ซึ่งดูเหมือนว่าเธอเองก็กําลังมองหาทิศทางนี้เช่นกัน 

 

เจียงเฮาได้พยักหน้าออกไปเล็กน้อย

 

“ดีมาก! ให้คนสองคนไปปิดล้อมฉากอาชญากรรมนั้นเอาไว้ก่อน” วูเวยได้พูดสั่งต่อว่า “ฉันจะเรียกทีมนิติเวชมาที่นี้ด่วนที่สุด ”

 

เจียงเฮาเองก็ได้เดินตามตํารวจที่เขามารายงานไป ขณะที่เธอเดินจากเธอก็ได้มองไปยังหนิงเถาด้วยสายตาแปลกๆ 

 

หนิงเถาได้รับข้อความนั้นและได้ติดตามเธอไป

 

หลินชิงวู่ดูเหมือนจะต้องการเรียกหนิงเถา แต่เธอแค่ขยับริมฝีปากของเธอเบาๆและไม่พูดอะไรออกมา

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

บทนำ นักศึกษาแพทย์ที่ยากจนคนหนึ่งได้เข้าไปช่วยชีวิตสุนัขสีดำที่ได้รับบาดเจ็บจากบนถนนโดยไม่ตั้งใจ แต่เขาไม่คิดว่านั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมหัศจรรย์พันธ์ลึก และทำให้เขาได้รู้จักกับคลินิกลึกลับอย่างคลินิกนภา ตัวคลินิกเองยังมีกฎที่เป็นข้อบังคับที่ว่าถ้าหากเขาไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ตรงเวลา จำนวนชีวิตน้อยๆของเขาจะต้องถูกหักออกไปทดแทนในส่วนที่ขาดไป เพื่อความอยู่รอดหนิงเถาผู้ที่พึ่งจะก้าวเข้ามาเป็นผู้ฝึกตนมือใหม่และโลกใบใหม่นี้ จะต้องพยายามหาความดีและความชั่วเพื่อนำมาเป็นค่าเช่า นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มธรรมดาผู้หนึ่งที่ได้รับหน้าที่เป็นทั้งนักบุญและปีศาจ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset