OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF
บทที่ 39 การพูดคุยอย่างลับๆในห้องน้ำ
แสงสว่างได้กลับคืนมา สิ่งแรกที่หนิงเถาทําคือการค้นหาชุดปฐมพยาบาล เหตุที่เขาทําแบบนั้นก็เนื่องจากครั้งนี้เขาไม่ได้นําหีบยามากับเขา เขาเอาเพียงเข็มศักดิ์สิทธิ์มาเท่านั้น
เข็มศักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงแต่จะสามารถใช้ในการรักษาคน แต่ยังสามารถใช้ในการลงโทษคนชั่วได้อีกด้วย ดังนั้นตอนนี้มันจึงกลายเป็นสิ่งที่เขาได้ดํามันติดตัวตลอดเวลา
เมื่อกลับมาที่ออฟฟิศ หนิงเถากลับไปที่ที่เตียงนอนที่ถูกกระแทกกลับไปยังที่เดิม และยกหลินชิงวู่ขึ้นจากพื้นแล้ววางเธอลงบนเตียง เธอมีลูกดอกอยู่ที่อกขวาของตัวเอง แต่โชคดีที่มันไม่ได้ลึกมาก
ภายใต้แสงไฟ ลูกดอกนั้นเปล่งประกายความเย็นออกมา แต่มันก็ไม่โดดเด่นเท่ากับจุดที่มันบังเอาไว้
” ทําไมมันต้องปักที่จุดยุทธศาสตร์ของเธอด้วย??” มันเป็นเรื่องปวดหัวสาหรับหนิงเถามากในตอนนี้ แต่ในไม่ช้าเขาก็พบเหตุผลที่จะโน้มน้าวตัวเอง “ฉันเป็นหมอ! ฉันมีสิ่งสําคัญที่จะต้องทํานั้นคือการรักษาชีวิตของผู้ป่วย”
เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาก็ได้เริ่มถอดเสื้อผ้าของหลินชิงวู่
หนิงเถาหยิบมีดผ่าตัดที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ ก่อนที่จะตัดชุดราตรีของหลินชิงวู่ออกอย่างระมัดระวัง ชุดชั้นในที่ทําจากผ้าฝ้ายชั้นดีพร้อมกับเสริมฟองน้ำซับแรงก็ปรากฏต่อหน้าของหนิงเถา ด้วยอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้เองที่ ทําให้เธอไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
ในกรณีนี้ต้องขอบคุณชุดชั้นในที่เธอสวมมาในวันนี้ เพราะมันทําให้แรงกระแทกที่ควรจะรุนแรงได้ถูกลดลงจนไป
สูดหายใจเข้าลึกๆ หนิงเถาได้เอื้อมมือไปคว้าหางลูกดอกแล้วดึงมันออกมา
เมื่อลูกดอกถูกดึงออกจากบาดแผล เลือดได้พุ่งออกมาแทบจะทันที มันจึงทําให้เลือดสีแดงสดได้เลอะผิวสีขาวของหลินชิงวู่ ไม่เพียงแต่มันจะไม่ดูแย่ มันกลับทําให้เธอดูมีเสน่ห์และน่าดึงดูดขึ้นอีกด้วย
“ฝ้าย!” หลินชิงวู่ตื่นขึ้นมาภายใต้ความเจ็บปวด เมื่อเธอเห็นหนิงเถาตรงอยู่ตรงหน้าของเธอ สิ่งแรกที่เธอถามโดยไม่รู้ตัวคือ ” ชายชรานั้นอยู่ที่ไหน?”
“ไม่ต้องห่วง! ชายชรานั้นหนีไปแล้วและตอนนี้คุณก็ปลอดภัยแล้ว” หนิงเถาตอบต่อว่า “ตอนี้คุณควรจะนอนนิ่งๆเพื่อให้ผมสะดวกในการทําแผลให้คุณ”
ทันใดนั้นหลินชิงวู่ก็รู้สึกอะไรบางอย่างและลุกขึ้นนั่งบนโซฟาด้วยใช้แขนของเธอเป็นหลัก ในเวลาเดียวกันดวงตาของเธอหันไปมองที่หน้าอกของเธอ และในวินาทีต่อมาเธอก็ส่งเสียงกรี๊ดออกมา “อ๊า “
หนิงเถาที่ไม่ได้เตรียมตัวที่จะเจอกับอะไรแบบนี้ก็ถึงกับตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ และนั้นทําให้ลูกดอกที่เขาถืออยู่ได้ล่วงตกไปบนพื้น
หลินชิงวู่ได้ถูกดึงดูดด้วยเสียงที่ลูกดอกตกลงพื้น และก้มมองไปยังจุดที่เลือดของเธอไหลออกมา
“ผ่อนคลาย ผมกําลังรักษาคุณ” หนิงเถาพูดต่อว่า “ ตอนนี้คุณต้องนอนลงก่อน ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่สามารถห้ามเลือดของคุณได้”
เมื่อได้ยินคําพูดของอีกฝ่าย หลินชิงวู่ที่ลุกขึ้นนั่งตรงบนโซฟาก็ได้ก็ได้จ้องมองหนิงเถาด้วยดวงตาสีดําของเธอ
“ แผลของคุณยังคงมีเลือดไหลออกมาและมันต้องได้รับการรักษาโดยด่วน” หนิงเถาได้พูดซ้ำในเรื่องนี้ “และอีกอย่างคุณจะถอดเสื้อผ้าด้วยตัวเองหรือจะให้ผมถอดเอง”
“แผลที่โดนมันลึกไหม?”
“ไม่” หนิงเถาตอบ
“ ดี! งั้นฉันจะทํามันเอง คุณแค่ต้องบอกขั้นตอนการรักษาเบื้องต้นมาก็พอ” หลินชิงวู่พูดต่อว่า ” ตอนนี้คุณก็ควรจะหันหลังกลับไปได้แล้ว และอย่าหันกลับมามองฉันเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
หนิงเถาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตอบตกลง “ก็ได้!” จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและรอให้หลินชิงวู่ถามเขาว่าจะทําอย่างไรต่อไป
“ลูกดอกนั้นมียาพิษไหม?” เสียงของหลินชิงวู่ฟังดูกังวลเป็นอย่างมาก
“คุณถามทําไม?” หนิงเถาถามกลับไปอย่างสงสัย
“ก็ ก็ในหนังมันมักจะมีอะไรพวกนี้? และฉันกลัวว่าลูกดอกที่ฉันโดนจะเป็นแบบนั้นด้วย? มันก็ไม่ได้แย่อะไรถ้าฉันจะป้องกันเอาไว้ก่อนจริงไหม?”
หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็คิดว่ามันก็มีความเป็นไปได้ ขนาดเขายังทําเลย แล้วทําไมอีกฝ่ายที่เป็นนักฆ่ามืออาชีพถึงไม่ทํากัน? ดังนั้นเขาจึงได้หยิบลูกดอกขึ้นมาจากพื้นแล้วดมมัน เขาไม่ได้กลิ่นแปลกปลอมที่สามารถบอกได้ว่ามันมีพิษอยู่
” จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันมียาพิษ?” หลินชิงวู่ได้ถามขึ้นมาอีกครั้ง
“แล้วคุณเห็นว่าในหนังเขาทํากันยังไงละ?” หนิงเถายิงคําถามกลับ
หนึ่งในฉากที่นางเอกถูกพิษและพระเอกต้องทําการถอนพิษแบบง่ายก็ปรากฏขึ้นในสมองของเธอ และนั้นทําให้เ อรู้สึกเขินอายทันที “มันมีพิษจริงๆเหรอ?”
หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกลับหลุดหัวเราะออกมาและตอบว่า “คุณไม่ต้องกังวลไป มันไม่มียาพิษอะไรทั้งนั้น”
” คุณ ” หลินชิงวู่จ้องมองหนิงเถาราวกับว่าเธออยากจะกระโดดขึ้นไปกัดเขาให้ตาย แต่เรื่องตลกเล็กๆนี้ก็ทําให้เธอผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์และไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็ได้เปลี่ยนหัวเรื่อง “คุณถอด … เสร็จแล้วก็เอาก้อนสาลีจุ่มแอลกอฮอล์เพื่อทําความสะอาดแผล จากนั้นวางมันลงบนแผลแล้วกดมันเอาไว้ก่อน”
เมื่อประโยคสุดท้ายจบลง เขาก็ได้ยินเสียงที่ดังอยู่ข้างหลังของเขา จากนั้นก็มีเสียงครวญครางเบาๆดังขึ้นมา
หนิงเถาไม่สามารถควบคุมจิตใจของเขาให้จินตนาการถึงฉากที่อยู่ด้านหลังของเขาได้ และมันก็เริ่มมีความคิดแปลกๆเกิดขึ้นกับเขา “ถ้าฉันบอกเธอว่าลูกดอกนั้นมียาพิษ เธอจะ …”
เขาไม่กล้าคิดอีก แล้วรู้สึกอึดอัดตรงเป้าตัวเองเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงแค่จินตนาการของมนุษย์ในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งมันถือว่าเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติ เพราะในความเป็นจริงเขาจะไม่ทําอย่างนั้น
หลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง หลินชิงวู่ก็พูดว่า ” คุณหมอหนิง! ฉันจะขอยืมแจ็คเก็ตของคุณได้ไหม?”
หนิงเถาไม่ได้คิดมากในเรื่องนี้อยู่แล้ว เขาจึงถอดเสื้อนอกออกทันทีแล้วหันไปมอบให้หลินชิงวู่
“อา!” หลินชิงวู่ได้ส่งเสียงร้องออกมาก่อนที่จะรีบว่า “คุณ! คุณรีบหันกลับไป!” เธอร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
” ขอโทษ ขอโทษ ผมไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ” หนิงเถารู้ว่าตัวเองทําพลาดไป ดังนั้นเขาจึงรีบหันหลังกลับและโยนแจ็คเก็ตของเขาเอาไว้บนโซฟาแทน
หลินชิงวู่ได้พูดขึ้นหลังจากที่เธอสวมแจ็คเก็ตเสร็จแล้ ว “ตอนนี้เราควรทําอย่างไรดี?”
“เราควรเรียกตํารวจ” หนิงเถาพูดต่อว่า “ในสถานการณ์แบบนี้คุณและพี่ชายของคุณกําลังตกอยู่ในอันตราย และแม้แต่พ่อแม่ของคุณก็อาจจะตกเป็นเป้าได้เหมือนกัน”
หลินชิงวู่ไม่ได้ตอบสนองต่อข้อเสนอของหนิงเถา กลับกันเธอเกิดความลังเลขึ้นแทน
“การเรียกตํารวจอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ ทําให้คุณเสียเงินไปช่วงหนึ่ง แต่ถ้าเกิดว่าคุณหรือครอบครัวของคุณเกิดได้รับบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิตขึ้นมา คุณคิดว่าอะไรมันสําคัญกว่ากันระหว่างเงินกับชีวิต? นอกจากนี้สิ่งที่พี่ชายของคุณได้ทํามันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนและอันตรายมาก ไม่อย่างนั้นคงจะไม่มีคนที่น่ากลัวแบบที่เราเจอมาปล้นงานวิจัยของพี่ชายของคุณ ดังนั้นการโทรเรียกตํารวจจะเป็น การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง แทนที่จะรอให้ตํารวจนำหมายศาลมาเอง”
หลินชิงวู่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะพูดว่า “เอาล่ะ! ฉันจะโทรหาตํารวจ”
กลุ่มตํารวจได้มาถึงในครึ่งชั่วโมง นําโดยวูเวยหัวหน้าตํารวจผู้ที่ได้ช่วยหนิงเถาออกจากสถานการณ์หน้าอีกอัดก่อนหน้านี้ และตามมาด้วยเจียงเฮาในการปลอมตัวเป็นตํารวจธรรมดา เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ต้องการให้หลินชิงวู่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ ดังนั้นหนิงเถาจึงไม่ทักเธอเลย
ในสานักงานของหลินชิงหัววู่ วูเวยกําลังสอบปากคําของหลินชิงวู่
หนิงเถายืนอยู่ข้างนอกประตู พร้อมกับสงสัยว่าเมื่อไหร่ที่เจียงเฮาจะรีบมารับเผือกร้อนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง
ดูเหมือนว่าเจียงเฮาจะมีปฏิกิริยาบางอย่าง เธอได้เดินไปเข้าห้องน้ำ
หนิงเถาลังเลที่จะไปกับเธอ เพราะเขาไม่รู้ว่าเธอต้องการไปห้องน้ำจริงๆหรือไม่? หากว่าเธอแค่ต้องการใช้ห้องน้ำจริงๆ และเขาตามไปมันคงดูไม่ดีอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเจียงเฮาได้หันกลับมาส่งซิกมาให้กับเขาอย่างชัดเจน ดังนั้นเขาจึงเดิน ไปยังทิศทางของห้องน้ำ
เจียงเฮาได้หยุดที่อ่างล้างหน้าทําท่าจะล้างมือแล้วถามว่า “นายพบอะไรบ้าง?”
หนิงเถายังยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้าทําท่าว่าจะล้างมือและตอบว่า “ฉันได้พบชิ้นส่วน ดิน และแคปซูล …”
ก่อนที่เขาจะจบประโยค เจียงเฮาก็ได้พูดขัดขึ้นว่า ”มากับฉัน” จากนั้นเธอก็ตรงเข้าไปในห้องของผู้หญิง
หนิงเถาที่จับจุดไม่ได้ก็มองไปรอบๆด้วยความงงงวย แม้ว่าเธอต้องการเก็บเรื่องที่พูดกันเป็นความลับ ทําไมเธอถึงเลือกที่จะเข้าไปในห้องของผู้หญิง เมื่อเธอสามารถเข้าไปในห้องของผู้ชายได้ง่ายกว่า?
“ไอ!” ทันใดนั้นอาการไอของเจียงเฮาก็ดังออกมาจากห้องผู้หญิง
หนิงเถาที่รู้ว่านั้นเป็นสัญญาให้เขาตามเข้าไป เขาก็ทําได้เพียงยิ้มออกมาอย่างขมขืนและเดินเข้าไปในห้องของผู้หญิงโดยดีเท่านั้น
“แสดงสิ่งนั้นให้ฉันดู” เจียงเฮาพูดออกมาพร้อมกับจ้องไปที่สิ่งที่หนิงเถาจะนําออกมาอย่างใจจดใจจ่อ
หนิงเถาได้ดึงสิ่งที่เขาบอกออกมาจากกระเป๋าของเขาและพูดคร่ำครวญว่า “ทําไมฉันต้องเข้ามาในนี้? เธอก็รู้ว่านี้มันคือห้องของผู้หญิง?”
“นายไม่เห็นกล้องวงจรปิดในโถงทางเดินหรือไง? ถ้าเรายังคุ้มกันอยู่ที่เดิมมีความเป็นไปได้ว่าความลับจะไม่ลับอีกต่อไป” เจียงเฮาได้อธิบายต่อว่า “หลักฐานตัวนี้ถือว่าเป็นวัตถุที่ละเอียดอ่อนมาก และฉันไม่สามารถเสี่ยงที่จะเปิดเผยตัวตนของฉันได้ ดังนั้นเราควรระวังให้มากในเรื่องพวกนี้”
หนิงเถาไม่ได้สังเกตเห็นกล้องวงจรปิดจริงๆ ด้วยคําอธิบายของเจียงเฮามันก็ทําให้เขาเข้าใจอะไรหลายๆอย่างเขาได้ส่ง “ดิน” สีน้ำเงินที่เขาได้รับจากภาพวาดให้เธอ คราวนี้เขาก็ได้กําจัดเผือกร้อนนี้ไปได้แล้ว เขาใส่มันลงในถุงพลาสติก
“แคปซูลอยู่ที่ไหน” เจียงเฮาถามหลังจากที่เธอเห็นเพียง แค่ดินสีน้ำเงิน
“มันอยู่ใน” ดิน ” นั้น “ หนิงเถาตอบ
เจียงเฮาที่ได้ยินแบบนั้นก็เปิดถุงออกและดูเหมือนว่าเธอจะต้องการเอา “ดิน” สีน้ำเงินออกมา แล้วเปิดมันออกเพื่อดูแคป
หนิงเถารีบหยุดเธอโดยเร็ว “อย่าแตะต้องมัน! เราไม่รู้แน่ชัดว่ามันคืออะไร และหลินชิงหัวเองก็มีโรคแปลกๆเพราะมัน”
เจียงเฮาที่ได้ยินแบบนั้นก็รับหดมือกลับและพยายามละงับความอยากสัมผัส ” ดิน” เอาไว้ “ขอบใจนายที่เตือนฉัน! อีกเดียวฉันจะส่งเจ้าสิ่งนี้ไปให้สถาบันการศึกษาวิทยาศาสตร์” เธอพูดต่อว่า “ฉันคิดว่ารายงานการตรวจสอบจะออกมาเร็วๆนี้ ฉันเดาว่ามันต้องมีความลับบางอย่างที่เก็บไว้ในอุปก ณ์อิเล็กทรอนิกส์นี้ หลักฐานที่นายพบในครั้งนี้มีความสําคัญมากกับรูปคดี ”
“ ฉันไม่ได้มีโอกาสคุยกับเธอก่อนหน้านี้ ดังนั้นตอนนี้ฉันจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เธอฟัง” หนิงเถาพูดต่อว่า “หลินชิงวู่และฉันได้พบกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฒ่าก่อนหน้านี้ ในตอนแรกพวกเราก็ไม่ได้สงสัยเขานึกว่าเป็นพนักงานคนหนึ่ง แต่เมื่อฉันพบเจ้าสิ่งนี้! อีกฝ่ายก็ตัดสินใจเข้ามาทําร้ายฉันและหลินชิงวู่ทันที”
“นายได้รับบาดเจ็บไหม?” สิ่งที่สาคัญที่สุดสําหรับ เธอคือข้อมูลเกี่ยวกับชายชรา แต่สิ่งที่เธอโพล่งออกมากับเป็นความกังวลของเธอที่มีต่อหนิงเถา
“มันเป็นเพียงแค่แผลเล็กน้อย ฉันไม่เป็นไรมาก”
“ดีแล้ว! แต่ยังไงฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่ฉันไม่สามารถปกป้องนายได้ “ เจียงเฮารู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเธอเองที่ขอให้เขามาช่วยการสิบคดีนี้ และเธอยังได้รับปากเขาเอาไว้ว่าจะไม่ทําให้เขานั้นตกอยู่ในอันตรายและจะรับประกันความปลอดภัยส่วนบุคคลของเขา อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้คาดหวังว่าเพียงแค่ผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมง เขาก็ต้องอยู่ในอันตรายถึงสองครั้ง
หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “ เธอไม่ต้องขอโทษ ฉันสงสัยว่ากล้องวงจรปิดจะยังคงทํางานได้ตามปกติไหม? เพราะถ้ามันยังทํางานได้เราก็มีหวังว่าจะรู้ตัวคนร้ายและลงมือจับเขาก่อนที่เขาจะลงมือซ้ำอีกครั้ง จากความรู้สึกที่อีกฝ่าย ปล่อยออกมา ฉันแน่ใจว่าเขาอันตรายยิ่งกว่าพี่ชายเหมิงอะไรนั้นเสียอีก”
เจียงเฮาที่ได้ฟังแบบนั้นพยักหน้าและพูดว่า “ได้! งั้นเราออกไปกันเถอะ”
จากนั้นหนิงเถาก็เดินตามเจียงเฮาออกจากห้องของผู้หญิง เมื่อเขากลับมาที่ประตูห้องทํางานของหลินชิงหัว ตํารวจได้เข้ามารายงานด้วยความประหม่าว่า “หัวหน้าวู เราเจอบางอย่างครับ!”
วูเวยผู้ที่กําลังจดบันทึกอยู่ถึงกับได้หยุดการกระทําของตัวเองและถามว่า “มันคืออะไร?”
ตํารวจรายนั้นได้ตอบว่า “เราพบศพสี่ศพในทุ่งยาด้านหลังของห้องแล็บ! ศพสามศพอยู่ในชุดรักษาความปลอดภัยอีกชุด หนึ่งชุดที่เขาสวมอยู่ได้หายไปครับ”
การจ้องมองของวูเวยได้เปลี่ยนไปที่เจียงเฮาที่ยืนอยู่ที่ประตู ซึ่งดูเหมือนว่าเธอเองก็กําลังมองหาทิศทางนี้เช่นกัน
เจียงเฮาได้พยักหน้าออกไปเล็กน้อย
“ดีมาก! ให้คนสองคนไปปิดล้อมฉากอาชญากรรมนั้นเอาไว้ก่อน” วูเวยได้พูดสั่งต่อว่า “ฉันจะเรียกทีมนิติเวชมาที่นี้ด่วนที่สุด ”
เจียงเฮาเองก็ได้เดินตามตํารวจที่เขามารายงานไป ขณะที่เธอเดินจากเธอก็ได้มองไปยังหนิงเถาด้วยสายตาแปลกๆ
หนิงเถาได้รับข้อความนั้นและได้ติดตามเธอไป
หลินชิงวู่ดูเหมือนจะต้องการเรียกหนิงเถา แต่เธอแค่ขยับริมฝีปากของเธอเบาๆและไม่พูดอะไรออกมา