OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF – ตอนที่ 41 อารมณ์ที่เปลี่ยนไป

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

 

บทที่ 41 อารมณ์ที่เปลี่ยนไป

 

ข้างนอกมันทั้งมืดและมีลม ทําให้ยอดไม้ต่างก็ขยับตลอดเวลา แน่นอนว่ายังคงมีเสียงจากพวกสัตว์ตัวเล็กๆจํานวนมากที่แข่งเสียงกันไปมา

 

ในที่สุดซูหยาก็ขยับเข้ามาใกล้ตัวของหนิงเถาได้สําเร็จก่อนที่มีดทําครัวในมือขวาของเธอจะไปใกล้คอของอีกฝ่าย

 

ทันใดนั้นหนิงเถาก็ได้หันกลับมาและจับมือของเธอด้วยข้อมือขวา ก่อนที่จะดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขายังไม่ทันที่ซูหยาจะส่งเสียงร้องออกมาเขาก็ได้เอามีอซ้ายปิดปากเธอเอาไว้ในขณะนั้นเขาได้โน้มตัวไปที่ข้างหูของเธอแล้วกระซิบว่า “ฉันเอง! “

 

ซูหยาที่ได้ยินแบบนั้นก็ตัวแข็งไม่ทราบว่าจะทําอย่างไรเธอ ไม่สามารถมองใบหน้าของหนิงเถาได้ในตอนนี้แต่เธอจําเสียง ของเขาได้ เธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทําไมอีกฝ่ายถึงอยู่ในห้อง ของเธอตอนกลางคืน เธอรู้สึกกระวนกระวายใจเมื่อนึกถึงเรื่องพวกนี้ขึ้นมา และไหนจะการที่เธอต้องดมกลิ่นฮอร์โมนเพศชายของเขาในระยะใกล้แบบนี้อีก? มันเป็นเรื่องยากมากที่จะหยุดความคิดลามกต่างๆที่ปรากฏขึ้นมาในตอนนี้

ในช่วงเวลาที่บอบบางและตึงเครียดนั้นเอง ก็ได้มีชายคนหนึ่งโผล่ออกมาจากหน้าต่าง เขาแอบมองเข้าไปในห้องแล้วสอดลวดผ่านช่องว่างตรงกลางหน้าต่าง

 

คลิก.

 

มีเสียงเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย ก่อนที่กลอนหน้าต่างจะถูกดี

งออก

 

ชายข้างนอกหน้าต่างได้ยกมือขึ้นไปที่หน้าต่างแล้วดึงมันออกไปเบาๆ

 

ใบหน้าของชายนั้นค่อนข้างเบลอในความมืด แต่หนิงเถาสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ในสภาวะที่มองใบหน้าของชายผู้นั้นก็ชัดเจนราวกับตะเกียงที่ส่องแสง จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชายที่ชื่องูเหมิง!

 

ไม่ยากเลยที่จะเดาว่าหลังจากที่อีกฝ่ายได้สูญเสียตัวประกันที่สําคัญอย่างซูหยาไปแล้ว เขาต้องเจอกับอะไรบ้าง ดังนั้นการมาครั้งนี้อาจจะเป็นการมาปิดงานก็เป็นไปได้

 

ซูหยาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่การที่แอบเข้ามาในห้องแบบนี้ดูยังไงก็ไม่ใช้คนดี ดังนั้นเธอจึงได้กํามีดที่อยู่ในมือของตัวเองเอาไว้แน่

 

หนิงเถาที่เห็นการกระทําแบบนั้นของซูหยาก็ได้ปลดมีดออกมาจากมือของเธอ ก่อนที่เขาจะถือมันเอาไว้เอง 

 

ท่าทางของหนิงเถาทําให้เธอที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของเขารู้สึกมั่นคงและความตึงเครียดของเธอก็เริ่มจะผ่อนคลายลง 

 

หนิงเถาจับมีดทําครัวและค่อยๆผลักซุหยาออกไป จากนั้นเมื่อเขายืนพิงกําแพงข้างหน้าต่างเขาก็ยกมีดครัวขึ้นทีละน้อยด้วยมือขวา

 

ในระหว่างนั้นเองก็มีมือข้างหนึ่งได้ยืนเข้ามาพร้อมกับถือปืนเก็บเสียง

 

เขามีปืน!

 

ในโรงงานเหมืองก่อนหน้านี้เจียงเฮาได้ถามเขาว่า เขาจะทํายังไงถ้าอีกฝ่ายมีปืนอยู่ในมือ ในช่วงเวลานั้นเขาไม่สามารถตอบคําถามนี้ได้ แต่ตอนนี้เขาตอบคําถามนี้ได้แล้ว เพียงเสี้ยววินาทีเดียวหลังจากมือขวาของฉเหมิงเข้ามาในห้องผ่านหน้าต่างหนิงเถาได้หยิบมีดทําครัวในมือขวาของเขาขึ้นแล้วสับมันลงมาจากด้านบนทันที!

 

อัก!

ทันใดนั้นก็มีเสียงของมีดตัดผ่านกระดูกแล้วก็มีเลือดทะลักออกมา!

 

“อ๊าก!” ฉุเหมิงถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้!

 

หนิงเถาที่เห็นว่าแผนลอบโจมตีของตัวเองประสบความสําเร็จ เขาก็ได้กระโดดขึ้นและออกไปทางหน้าต่าง ในขณะที่เขายังอยู่ในอากาศเขาได้เตะอีกฝ่ายบริเวณหน้าอกไปหนึ่งที่ และนั้นทําให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น

 

ปัง!

 

งูเหมิงถูกเตะล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น

 

หนิงเถาได้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับยกมีดทําครัวอีกครั้งแล้วสับมันลง

 

“ไม่!” แม้แต่นักฆ่ามืออาชีพเลือดเย็นอย่างูเหมิงก็ตกใจกับความเด็ดขาดนี้ มันทําให้ในตอนนี้เขาเกิดความกลัวขี้นมาแล้ว

 

อัก!

 

มีดทําครัวในมือของหนิงเถาได้ลงไปบริเวณหัวเข่าซ้ายของอีกฝ่ายอย่างแรง ภายใต้ใบมีดที่คมทําให้หัวเข่าของูเหมิงถูกเปิดออกและเห็นกระดูกข้างในได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่านอกจากนี้ยังมีเลือดและเศษกระดูกที่แตกออกมา มันช่างเป็นฉากที่ทั้งน่าตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน!

 

แม้ว่าซูหยาซึ่งได้เดินไปที่หน้าต่างจะเห็นหนิงเถาและโจรที่แอบเข้ามาในห้องของเธอ แต่เธอก็เห็นเพียงร่างที่คลุมเครือของพวกเขาในความมืดเท่านั้น เธอไม่เห็นภาพอย่างที่หนิงเถาได้เห็น ซึ่งมันถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ไม่ต้องมาเห็นฉากนองเลือดที่อาจทําให้เธอเป็นลมได้

 

” หมอหนิง! นายสบายดีไหม?” เสียงของซูหยาเต็มไปด้วยความกังวล ความตึงเครียด และความกลัว พวกมันต่างก็ผสมกันเต็มไปหมด

 

“ ฉันสบายดี! แต่ดูเหมือนว่าโจรคนนี้เองจะสลบไปแล้ว” หนิงเถาตอบกลับไป

 

“ฉัน ฉันจะเปิดไฟนะ” ซูหยาได้พูดขึ้นมา

 

“ไม่ อย่าเปิดไฟ” หนิงเถารีบหยุดเธอ “เธอรออยู่ข้างในเงียบๆนั้นแหละดีแล้ว”

 

“แต่

 

“ซูหยาต้องการเห็นหนิงเถาและสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอก

 

” ทําตามที่ฉันพูด!” หนิงเถายังคงตะโกนสั่งเธอ

 

ซูหยาที่พึ่งจะถูกตะโกนกลับแบบนี้เป็นครั้งแรกก็รู้สึกตกใจอย่างมาก เธอรู้สึกว่าผู้ชายที่ชื่อหนิงเถาตรงหน้านั้นช่างแตกต่างจากชายที่เธอรู้จัก และนั้นทําให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา

 

หนิงเถาเองก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเขาเช่นกัน เขารู้ว่าเป็นพลังงานบาปในตัวเขาที่ได้ถูกระตุ้นขึ้นมาจากเหตุการณ์นี้ซึ่งมันเป็นเรื่องเข้าใจได้เมื่อเขาได้กลายเป็นผู้ฝึกตน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สาเหตุของโรคแต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของเขานั้นเอง

 

เมื่อซูหยากําลังตกใจอยู่นั้น หนิงเถาได้เดินย้อนกลับมาที่หน้าต่างยืน ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือเข้าไปหยิบมือที่ตกอยู่ในนั้นออกมา

 

มือที่ขาดของฉเหมิงยังคงถือปืนพกอยู่

 

ในเวลานี้ซูหยาก็ได้หายจากอาการตกใจแล้ว เธอจึงได้เดินไปที่โต๊ะข้างเตียงเพื่อที่จะเอื้อมมือไปกดสวิตช์ไฟ

 

เธอไม่เคยเป็นเด็กที่เชื่อฟังอยู่แล้ว

 

แสงอันสว่างไสวได้ขับไล่ความมืดออกไป และได้เปิดเผยทุกสิ่งที่ซ่อนอยู่ในนั้น

 

เลือด มือที่ขาด และหนิงเถาที่ถือมือที่ขาดเอาไว้ในมือของเขาพร้อมกับหน้าตาราบเรียบ

 

“อา” ซูหยาที่เห็นภาพทั้งหมดก็ได้ส่งเสียงออกมา จากนั้นความมืดก็เข้ามาในสายตาของเธอ

 

หนิงเถาได้ถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “ฉันบอกเธอแล้วว่าไม่ให้เปิดไฟ แต่เธอก็ไม่ฟังฉัน ตอนนี้เธอพอใจแล้วใช้ไหม?”

 

การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ทําให้หนิงเถาได้เปลี่ยนความคิดของเขา เดิมเขาวางแผนที่จะนําอูเหมิงที่นอนหมดสติไปยังห้องที่ผู้อํานวยการโจว และใช้สถานที่นั้นเป็นที่สอบสวนแต่ตอนนี้ซูหยาได้เป็นลบหมดสติไปแล้ว เขาจึงคิดจะพาอีกฝ่ายกลับไปคลินิกของเขาแทน

หนิงเถาได้ยกฎเหมิงลอยเข้ามาในหน้าต่าง ก่อนที่เขาจะยกซูหยาขึ้นจากพื้นและนําเธอไปนอนลงบนเตียงตามเดิม เมื่อทุกอย่างในห้องถูกจัดให้เข้าที่แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องนําตัวผู้ต้องหากลับไปยังคลินิกนภา

 

ทันทีที่ฉเหมิงได้มาถึงที่คลินิกนภา กระถางธูปใบหน้าบาปก็แสดงสีหน้าบึงและโกรธยิ่งกว่าตอนที่เจียงหยีหลงมาเสียอีก! ดูเหมือนว่าคนที่เขาพากลับมาครั้งนี้จะทําบาปมามากที่เดียว!

 

หนิงเถาวางอีกฝ่ายลงบนพื้น ก่อนที่จะเริ่มทําการรักษาบาดแผลทั้งหมด แน่นอนว่าเป็นเพียงขั้นพื้นฐานเท่านั้น

 

พลังจิตวิญญาณมีผลต่อการรักษาอย่างมาก ใช้เวลาไม่นานสีหน้าของอีกฝ่ายก็เริ่มปรากฏรอยเลือดขึ้นมาแล้ว

 

หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็ได้นําเอาบัญชีแยกประเภทใบไผ่ออกมา ก่อนที่เขาจะนํามือของนูเหมิงวางเอาไว้ด้านบน

 

ในกระบวนการของการวินิจฉัยบัญชีแยกประเภท หนิงเถาคิดในใจของเขาอย่างลับๆว่า “ฉันโจมตีชายแก่นั้นด้วยเข็มศักดิ์สิทธิ์ไปในครั้งนี้ก็เหมือนกันอีกฝ่ายพยายามเข้าไปในห้องของซูหยาโดยมีเจตนาร้าย ซึ่งฉันก็ได้ทําหน้าที่ป้องกันตัวเองและไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรทั้งนั้น ไม่รู้ว่าแบบนี้จะถือว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ป่วยได้ไหม? ”

 

ถ้าเป็นไปตามที่ตัวเองคิด การที่จะหาค่าเช่าก็เป็นอะไรที่ง่ายขึ้นมาก

 

อีกไม่กี่วินาทีต่อมาหนิงเถาก็ได้หยิบบัญชีแยกประเภทขึ้นและเปิดมันออกมาดู จากนั้นเขาก็ตกตะลึงไปทันที

 

มีบรรทัดง่ายๆบนบัญชีแยกประเภท “ไม่สอดคล้องกับวิถีแห่งสวรรค์, ไม่มีใบสั่งยา”

 

สิ่งแรกที่หนิงเถารู้สึกคือความหดหู เขามีความหวังที่ยิ่งใหญ่เมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาว่า แต่เมื่อความจริงปรากฏความหวังนั้นก็ได้ถูกทําลายลงไปไม่มีชิ้นดีนี่

 

“มันไม่สอดคล้องกับวิธีการของสวรรค์, ไม่มีใบสั่งยา” หนิงเถาอ่านมันอีกครั้ง ก่อนที่จะแสดงรอยยิ้มขมขื่นออกมาที่มุม

 

ปากของเขา “อย่าบอกนะว่าเพราะฉันเป็นเจ้าของคลินิกมันเลยไม่ตรงตามเงื่อนไข ถึงแม้ว่าการกระทําของฉันจะไม่มีความคิดชั่วร้ายเป็นการส่วนตัวก็ตาม เพราะฉันเป็นเพียงผู้ดําเนินการตามวิถีแห่งสวรรค์ แต่ฉันไม่สามารถเป็นตัวแทนของหนทางแห่งสวรรค์ได้? ”

 

อันที่จริงถ้าหนิงเถาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อย่างจริงจังเขาก็คงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับเฉินผิงดาว ถ้ามันสามารถใช้ลูกเล่นพวกนี้ได้ ทําไมอีกฝ่ายถึงต้องกังวลเกี่ยวกับการหาค่าเช่าและพยายามล่อลวงให้เขาเซ็นสัญญาเพื่อรับคลินิกนี้ต่อด้วย

 

ในขณะนี้ก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

 

หนิงเถาได้หยุดคิดเรื่องของตัวเอง ก่อนที่เขาจะหันมาให้ความสนใจชายที่นอนกองอยู่บนพื้นแทน

 

“เกิดอะไรขึ้น!” ฉุเหมิงได้ตื่นขึ้นมาแล้ว แต่เขาไม่สามารถมองเห็นเพราะมีอะไรมาปิดตาของเขาเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงได้ยกมือขึ้นเพื่อที่จะนํามันออก แต่ทันใดนั้นเองเขาพึ่งจะรู้ตัวว่ามือข้างขวาของตัวเองไม่มีแล้ว และมือข้างซ้ายเองก็อยู่ในสภาพแตกหัก!

 

” หยุดดิ้นได้แล้ว! ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดมืออีกข้างหนึ่งของนาย” หนิงเถาขู่ด้วยน้ําเสียงเย็นชา

 

“เป็นนายนั้นเอง!” นูเหมิงจดจําเสียงของหนิงเถาได้ ด้วยเหลือแค่มือซ้ายเพียงข้างเดียว ถึงแม้ว่ามันจะมีอาการกระดูกแตกแต่เขาก็ยังใช้มันเป็นจุดยันให้เขาสามารถลุกข์นมานั่งได้

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะขยับได้เข้าที่นั้นหนิงเถาก็ได้เตะ เข้าไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย

 

ปัง!

 

ฉเหมิงได้ลอยไปชนกับพื้นอย่างหนัก ความตกใจและความเจ็บปวดเกือบจะทําให้เขาสลบไปอีกครั้ง แต่เขาไม่ยอมแพ้เขา พยายามลุกนั่งอีกครั้ง น่าเสียดายที่การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้จะเป็นการใช้แรงทั้งหมดที่มีไปแล้ว ทําให้ถึงตอนนี้เขาต้องการจะลุกขึ้นมาร่างกายก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย

 

หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าแล้ววางเท้าข้างหนึ่งไว้ที่มือซ้ายของอีกฝ่าย

 

“อ๊าก!!” งูเหมิงได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็หยุดมันได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

 

“ฉันมีคําถามสองสามข้อสําหรับนาย! นายต้องตอบฉันตามความเป็นจริงถ้านายกล้าโกหกฉันแม้แต่น้อย ฉันรับรองว่าความตายจะเป็นทางสบายที่สุดแล้วที่นายจะได้เจอ!” หนิงเถาพูดออกมาอย่างเฉยเมย

 

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

Status: Ongoing
บทนำ นักศึกษาแพทย์ที่ยากจนคนหนึ่งได้เข้าไปช่วยชีวิตสุนัขสีดำที่ได้รับบาดเจ็บจากบนถนนโดยไม่ตั้งใจ แต่เขาไม่คิดว่านั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมหัศจรรย์พันธ์ลึก และทำให้เขาได้รู้จักกับคลินิกลึกลับอย่างคลินิกนภา ตัวคลินิกเองยังมีกฎที่เป็นข้อบังคับที่ว่าถ้าหากเขาไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ตรงเวลา จำนวนชีวิตน้อยๆของเขาจะต้องถูกหักออกไปทดแทนในส่วนที่ขาดไป เพื่อความอยู่รอดหนิงเถาผู้ที่พึ่งจะก้าวเข้ามาเป็นผู้ฝึกตนมือใหม่และโลกใบใหม่นี้ จะต้องพยายามหาความดีและความชั่วเพื่อนำมาเป็นค่าเช่า นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มธรรมดาผู้หนึ่งที่ได้รับหน้าที่เป็นทั้งนักบุญและปีศาจ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset