OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF
บทที่ 44 คลายปมในใจ
“ก่อนที่ป้าจะมาที่นี่ป้าก็หลงคิดไปว่าเธอจะต้องอยู่ในวัยสามสิบ สี่สิบ ไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าเธอจะอายุน้อยและมีความสามารถมากขนาดนี้” ถังเจิ้นพูดขึ้นขณะที่เธอยังพิจารณาหนิงเถาอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะมองข้างหลัง ข้างหน้า ด้านข้าง ตลอดเวลาเธอมักจะแสดงสายตาเหมือนพบนางเงือกชายบนชายหาด
หนิงเถารู้สึกไม่สบายใจกับสายตาแบบนั้น แต่เขาก็ยังตอบกลับไปอย่างสุภาพว่า ” ขอบคุณครับ”
“เธอมีแฟนไหม?” ถังเจิ้นไม่ปล่อยให้โอกาสดีๆแบบนี้หลุดไป
หนิงเถาที่ถูกโจมตีโดยไม่ได้ตั้งตัวนั้นก็ไม่ได้แสดงสีหน้าลําบากใจอะไรออกมา เขายังคงตอบกลับไปว่า “ยังไม่มีครับ”
“เยี่ยมมาก! ฮิฮิ! “ ถังเจิ้นถึงกับหลุดหัวเราะออกมา เมื่อเธอได้ยินว่าอีกฝ่ายยังโสด
หนิงเถาที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดีก็รู้สึกสับสนเล็กน้อยกับการแสดงออกมาของอีกฝ่าย
“แม่!” แต่ไม่ใช้สําหรับเจียงเฮา เพราะตอนนี้ใบหน้าเธอได้กลายเป็นสีแดงไปแล้ว “หนูคิดว่ามันไม่ใช้คําถามที่สมควรถามตั้งแต่เจอกันนะ??”
ถังเจิ้นดูเหมือนจะไม่สนใจเสียงพูดของลูกสาวตัวเอง เธอยังได้พูดขึ้นว่า “แม่ทําอะไรผิดไปเหรอ? สําหรับผู้หญิงแล้วสิ่งที่หน้ากลับที่สุดคือการแต่งงานกับคนที่ไม่ใช้ และไม่ใช้ว่าแม่เป็นหลักฐานที่มีชีวิตอยู่หรือไง? แม่พยายามช่วยคัดกรองให้ลูกอยู่นะ”
“แม่! ทําไมแม่ต้อง… ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้กับเรื่องการแต่งงานด้วย?” ใบหน้าของเจียงเฮายิ่งเปลี่ยนไปเป็นสีแดงมากขึ้น
เจียงหยีหลงเป็นคนที่น่าอึดอัดใจที่สุดในบ้านหลังนี้ เขาไม่ใช่คนโง่ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่เข้าใจความหมายของถังเงิน แต่เขาไม่กล้าคิดจะพูดอะไรออกมา เพราะกว่ามันอาจจะทําให้หนึ่งในคนเหล่านั้นไม่พอใจขึ้นมา
หนิงเถาหันกลับมามองเจียงหยีหลงและแสร้งทําเป็นไอแห้งๆออกมา
เจียงหยีหลงเข้าใจ เขาได้คุกเข่าต่อหน้าถังเจิ้นพร้อมกับกระแทกหน้าผากของเขาลงกับพื้น “ ถังเจิ้น! ฉันขอโทษกับสิ่งที่ฉันทําลงไป ฉันผิด ฉันรู้ตัวดังนั้นฉันจึงมาที่นี่เพื่อขออภัยโทษเธอกับทุกเรื่องที่ผ่านมา”
เห็นได้ชัดว่าถังเจิ้นยังรู้สึกโกรธกับเรื่องที่ผ่านมา
“ฉันขอโทษ. โปรดยกโทษให้ฉัน” เจียงหยีหลงได้พยายามขอร้องออกมา ในขณะเดียวกันเขาก็ได้ใช้หัวกระแทกหัวลงกับพื้น
เจียงเฮาที่ทนไม่ได้ที่จะดูฉากนั้นจึงพยายามพูดขึ้นว่า “แม่! ทําไมแม่ไม่…”
ก่อนที่เจียงเฮาจะจบประโยคของเธอ ถังเฉินก็ได้พูดขัดจังหวะขึ้นว่า “ลูกลืมไปแล้วหรือว่าเรามีชีวิตอยู่ยังไงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นแม่ยังเคยคุกต่อหน้าเขาเพื่อไม่ให้เขาหย่า และพยายามพูดถึงเหตุผลที่ว่าลูกยังเด็กและต้องการความรักจากพ่อ แต่ผลลัพธ์ที่แม่ได้รับคืออะไร? มันเต็มไปด้วยการดูถูกและการทําร้ายจิตใจอย่างไม่ใยดี เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยคํานึงถึงความรักในครอบครัวเลย! “
“ถังเจิ้น! ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดจริงๆได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย…” เจียงหยีหลงยังคงขอร้องและพูดจาหว่านล้อมออกมา ตลอดเวลาที่เขาพูดไปนั้นเขาก็ยังโขกหน้าผากของเขากับพื้นตลอดเวลา และนั้นทําให้ตอนนี้หน้าผากของเขาเกิดแตกและมีเลือดไหลออกมา
เกิดน้ําตาคลอในดวงตาของถังเจิ้น เธอได้รับความเจ็บปวดจากเจียงหยีหลงมามากในหลายปีมานี้ เธอเคยฝันถึงฉากที่อีกฝ่ายได้คุกเข่าและขอโทษเธอมาหลายครั้งต่อหลายครั้ง และตอนนี้ฉากนั้นมันก็เป็นจริงขึ้นมาแล้ว ที่จริงแล้วเธอไม่ได้ ไม่ต้องการยกโทษให้กับอีกฝ่าย แต่เป็นเพราะบาดแผลที่อีกฝ่ายทําเอาไว้กับเธอและลูกนั้นมันมากเกินไป ดังนั้นเธอจึงไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ
“แม่! หนูว่ามันมากพอแล้ว ดูพ่อตอนนี้สิ? ทําไมแม่ไม่แค่พยักหน้าและให้อภัยพ่อไป” ดวงตาของเจียงเฮาตอนนี้เริ่มที่จะเต็มไปด้วยน้ําตา
“ มันเป็นเวลาหลายปีแล้ว” ถังเจิ้นถอนหายใจออกมา มันไม่ใช่คําถามเกี่ยวกับการให้อภัยหรือการยกโทษให้ ถ้าคุณยืนยันว่าจะกลับตัวเป็นคนใหม่จริงๆ ฉันก็พร้อมที่จะยกโทษให้คุณ” จากนั้นเธอดูที่เจียงหยีหลงและพูดว่า “พอแล้ว! ฉันให้อภัยคุณ”
เจียงหยีหลงที่ได้ฟังแบบนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้งด้วยความโล่งอกแล้วก็พูดว่า “ขอบคุณนะ”
ในขณะที่คําพูดเหล่านี้จบลง ตัวของเจียงหยีหลงก็ได้สั่นอย่างกะทันหันและล้มลงกับพื้น
ถังเจิ้นที่เห็นแบบนั้นก็ตื่นตกใจเป็นอย่างมาก “เจียงหยีหลง? คุณเป็นอะไร? คุณฟื้นสิ?”
” พ่อ?” เจียงเฮาเองก็รีบวิ่งไปช่วยพยุงเจียงหยีหลงลุกขึ้นมา แต่เจียงหยีหลงยังคงหลับตาและไม่แสดงอาการว่าจะตื่นขึ้นในเร็วๆนี้ เธอที่เห็นแบบนั้นก็รีบหันไปหาหนิงเถาทันทีและพูดว่า ” หนิงเถา! นายช่วยมาดูพ่อของฉันหน่อยสิ!”
หนิงเถาทําเพียงตอบกลับไปว่า “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร! มันก็แค่เขาได้รับความกระทบกระเทือนและได้คลายปมในใจของตัวเองลง เขาแค่สลบไปเท่านั้นเองพักซักหน่อยก็จะดีขึ้นมาเอง”
เจียงเฮามองไปที่เจียงหยีหลงซึ่งใบหน้าของเขา เต็มไปด้วยเลือดและรู้สึกไม่สบายใจ “จริงเหรอ?”
“เธอไม่เชื่อฉันหรือไง?” หนิงเถาพูดต่อว่า “ฉันจะพาเขาไปนอนเพื่อพักก่อนละกัน”
จากนั้นเขาก็ยกตัวเจียงหยีหลงขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปข้างในบ้าน
เจียงเฮาต้องการติดตามไปด้วย แต่เธอก็ถูกแม่ของตัวเองเรียกเอาไว้ก่อน “ลูกอยู่ที่นี่ก่อน! พอดีว่าแม่มีเรื่องที่จะคุยกับลูก”
เจียงเฮาที่ได้ยินแบบนั้นก็ถามออกมาว่า “แม่จะถามหนูเรื่องอะไร”
“ เขาได้ฉีกเช็คที่เรามอบให้เขาเป็นไปจริงเหรอ?” ถังเจิ้นได้ ถามออกมาด้วยเสียงเรียบๆ
เจียงเฮาที่ได้ฟังแบบนั้นก็เหลียวมองแม่ของเธอ ก่อนที่จะตอบว่า “ใช่แล้ว! แม่ไม่เชื่อใจลูกสาวตัวเองหรือไง?”
ถังเจิ้นที่ได้ยินแบบนั้นก็ตีไปที่แขนของเจียงเฮาเบาๆ ก่อนที่จะพูดว่า “ลูกพูดแบบนั้นกับแม่ตัวเองได้ยังไง? แม่เป็นแม่ของลูกนะ? ”
เมื่อสถานการณ์มันออกมาเป็นแบบนี้ มันก็ทําให้เธอนึกย้อนไปถึงยังวัยเด็กของตัวเอง และเธอรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อมา ดังนั้นเธอจึงอดทนที่จะพูดเกลี้ยกล่อมแม่ของเธอว่า “เอาล่ะ! หนูผิดเอง! แล้วเรื่องที่แม่จะคุยกับหนูจริงๆคือเรื่องอะไร คงไม่ใช้แค่เรื่องนี้ใช้ไหม?”
ถังเจิ้นเอนตัวเข้าไปข้างหูของเจียงเฮาและพูดว่า “แม่คิดว่าหมอหนิงเองก็เป็นคนดีคนหนึ่ง เขาอายุยังน้อยและมีแนวโน้มในการพัฒนาตัวเองอีกมาก นอกจากนี้เขาสามาร ถต้านทานการล่อลวงของเงินได้ทุกการกระทําของเขานั้น เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของตัวเอง และยึดถือมิตรภาพที่ดี แม่นําพวกนี้มาคิดดูแล้วก็คิดว่าเขาเหมาะที่จะเป็นลูกเขยของแม่จริงๆ หนูคิดว่าไง? ”
“แม่…”
” หยุดพูดก่อน” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ถังเจิ้นก็ดูเศร้าใจมาก “ ที่สําคัญที่สุดคือเขาหล่อมาก แม้ว่าลูกจะไม่ต้องการเขา เขาก็ต้องมีผู้หญิงอีกหลายคนที่ต้องการเขาอยู่ดี!”
เจียงเฮาปิดปากเงียบ เธอไม่รู้ว่าเธอจะพูดอะไรได้อีกในเมื่อแม่ของเธอเล่นคิดไปไกลขนาดนั้น
ในห้องหนิงเถาได้วางเจียงหยีหลงลงบนเตียงไม้เก่าๆตัวหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเตียงนี้ไม่ได้ถูกใช้มานานหลายปีแล้ว ทําให้มันตอนนี้เต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่ต่างๆ
หนิงเถาได้นําบัญชีแยกประเภทออกมา ก่อนที่จะพบว่าชื่อของเจียงหยีหลงได้หายไปแล้ว นั้นหมายความอีกฝ่ายได้ทําตามสัญญาที่ให้เอาไว้สําเร็จ ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายตื่นขึ้น มาเขาก็จะลืมเรื่องทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นเกี่ยวกับตัวของหนิงเถาและคลินิกนภาไป
แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นการทําลายข้อตกลง ตามใบสั่งสําหรับบาปแห่งความชั่วร้าย แต่หนิงเถาก็ไม่แปลกใจเลย เขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งเจ้าสิ่งนี้ ได้แตกต่างจากข้อตกลงตามใบสั่งแพทย์สําหรับความตั้งใจทําดีที่หนิงเถาได้ทําให้กับโจวหยูเฟิง แต่ผลลัพธ์ที่เกิดกับเหมือนกัน ผู้ป่วยจะต้องสูญเสียความทรงจําที่เกิดในคลินิกนภาไป
จากนั้นข้อตกลงระหว่างหนิงเถาและเจียงหยีหลงก็เสร็จสมบูรณ์
หนิงเถาหันหลังเดินกลับออกไป มันไม่มีความสําคัญสําหรับ เขาอีกที่จะอยู่ที่นี้
ด้านนอกห้องนอนถังเจิ้นและเจียงเฮาสองแม่ลูกกําลังกระซิบอะไรบางอย่างกัน เมื่อพวกเธอเห็นว่าหนิงเถาออกมาแล้ว ถังเจิ้นก็เป็นฝ่ายที่เดินเข้ามาก่อนที่จะถามขึ้นว่า “หนิงเถา! ป้าขอถามได้ไหมว่าพ่อแม่ของหลานพักอยู่ที่ไหน พอดีว่าป้าจะไปขอบคุณพวกเขานะ”
“แม่!” เจียงเฮาพยายามที่จะหยุดการกระทําของแม่ตัวเอง แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ทันแล้ว
ถังเจิ้นได้จ้องมองที่เจียงเฮาจากนั้นกันกลับไปยิ้มให้หนิงเถา และพูดว่า “เอาละ! เธอบอกป่าได้ไหม? ”
” พ่อแม่ของผมได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้วครับ” หนิงเถา ตอบกลับมา
“อุ้ยตายจริง! ป้าไม่รู้เรื่องนี้เลย” ถังเจิ้นรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่ตัวเองพึ่งจะได้ยินและพูดเสริมว่า “ป้าขอโทษด้วยที่พูดเรื่องก่อนหน้านี้ออกไป”
“ไม่เป็นไรครับ” หนิงเถาพูดต่อว่า “ตอนนี้ธุระของผมที่นี้ก็หมดแล้ว ดังนั้นผมคิดว่าจะขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“ทําไมเธอถึงรีบกลับกัน??” ทันในนั้นถึงเจิ้นก็ได้ยกมือขึ้นมาติดที่หน้าผากแล้วพูดขึ้นว่า “อุ้ย! หัวของป้ามันรู้สึกเจ็บมากเลย! เธอเป็นหมอใช้ไหม? ทําไมเธอไม่เข้ามาดูอา การของป้าก่อนละ?”
หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออก
“แม่! ถ้าแม่ยังทําแบบนี้ต่อไป หนูจะไม่คุยกับแม่อีกแล้ว!” หนิงเถาอาจไม่ทราบเจตนาของถังเจิ้น แต่ไม่ใช้สําหรับเธอที่เป็นลูกสาว เธอรู้ความตั้งใจของแม่เธอดี
ถังเจิ้นจ้องที่เจียงเฮาด้วยสายตาตําหนิก่อนที่จะพูดว่า “พูดอะไร? แม่แค่รู้สึกปวดหัวขึ้นมาและต้องการให้หมอหนิงช่วยดูอาการเท่านั้น ทําไม? หรือว่าลูกสาวของแม่ไม่อยากให้แม่หายกัน?”
เจียงเฮาไม่รู้จะพูดอะไร
แหวน แหวน …
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของหนิงเถาก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูก่อนที่จะพูดว่า “เป็นหลินชิงวู่ ฉันคิดว่ามันเกี่ยวกับหลินชิงหัวแน่ ฉันขอตัวไปรับสายก่อนนะ”
“หลินชิงวู่คือใคร?” รูปลักษณ์ที่ดูเป็นมิตรก่อนหน้านี้ของถังเจิ้นได้หายไป ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยความประหลาดใจแทน
หนิงเถาไม่มีเวลาตอบในคําถามนี้ เขาเลือกที่จะเดินออกไปพร้อมกับโทรศัพท์ของเขา
เจียงเฮาที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้พูดขึ้นว่า ” แฟนสาวของเขา”
“อ๊ะ! เขามีแฟนแล้วเหรอ?” ถังเจิ้นที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกผิดหวัง
“ ไม่ใช้ว่าแม่เป็นคนพูดเองหรือว่ามีผู้หญิงอีกหลายคนที่ต้องการเขา ดังนั้นมันจะเป็นอะไรไปถ้าเขาจะมีแฟนแบบลับๆ?” เจียงเฮาตอบกลับ
ถังเจิ้นที่ได้ฟังแบบนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ดูราวกับว่าคําพูดสต็อกของเธอได้หมดลงแล้วในวันนี้
หนิงเถาหยุดอยู่ใต้ต้นวิลโลว์ข้างถนน ก่อนที่จะกดปุ่มตอบรับแล้วพูดว่า “สวัสดีคุณหลิน! เป็นเกียรติที่ได้รับโทรศัพท์ของคุณ”
” ทําไมคุณหมอหนิงถึงพูดอย่างสุภาพด้วยกัน?” เสียงของหลินชิงวู่ได้ดังมาจากอีกฝั่งของโทรศัพท์
หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นหัวเราะแล้วพูดว่า “เอาล่ะ! ผมจะทําให้มันเป็นเรื่องง่ายสําหรับเรา! สรุปแล้วเรื่องการนําตัวพี่ของคุณมารักษา พ่อแม่ของคุณเห็นด้วยไหม?”
“ ใช่! พ่อของฉันเห็นด้วย” หลินชิงวู่พูดต่อว่า “ คุณสามารถมาที่บ้านของฉันได้ทุกเวลา แต่พ่อของฉันได้พูดเอาไว้ว่า คุณต้องสัญญาว่าจะรักษาพี่ชายของฉันให้หาย ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ยอมให้คุณพาเขาออกไป”
หนิงเถาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดว่า “โอเค! ผมสามารถสัญญากับเขาได้ว่าจะรักษาพี่ชายของคุณให้หายดีเอง แต่ตอนนี้ผมอยู่ในชนบทในภูเขาผมจะไปที่บ้านของคุณเพื่อรับตัว พี่ชายของคุณหลังจากนี้อีกสองชั่วโมงก็แล้วกัน”
“คุณกําลังทําอะไรอยู่ที่นั่นเหรอ?” เสียงของหลินชิงวู่ เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้
หนิงเถาที่ได้ยินคําถามนี้ก็หันกลับไปมองเจียงเฮาและถังเจิ้นที่อยู่ไม่ไกล ก่อนที่จะตอบว่าดู ”เจียงเฮาพาผมมาเที่ยวบ้านเก่าของเธอนะ และเผอิญว่าผมเองก็มีธุระต้องจัดการที่นี้เหมือนกัน ”
“ผู้หญิงเหรอคะ?”
“ใช่! เธอเป็นเพื่อนของผมเอง”
“งั้นคุณกําลังทําอะไรอยู่ในบ้านเกิดของเธอกัน?”
“เรื่องนั้นผมคิดว่าเราค่อยคุยกันหลังจากที่เจอกันดีกว่า” หนิงเถาพูดจบก็ได้วางหูโทรศัพท์แล้วคิดกับตัวเองว่า ” ทําไมผู้หญิงถึงขี้สงสัยจัง?”
“เธอพูดว่าอะไรเหรอ?” เจียงเฮาที่เห็นว่าหนิงเถาคุยจบแล้ว ก็ได้เดินเข้ามาถาม
“ เธอบอกว่าพ่อของเธอเห็นด้วยแล้วที่จะนําพี่ของเธออกมารักษาข้างนอก ดังนั้นพวกเราไปบ้านของเธอกันเถอะ” หนิงเถาตอบกลับมาโดยที่เลือกที่จะไม่พูดถึงคําถามท้ายๆ
เจียงเฮาที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า “งั้นเราไปกันเถอะ”
ถังเจิ้นมองไปที่เจียงเฮาอย่างแปลกใจ ก่อนที่จะถามว่า “ลูกจะไปทําไมในบ้านคู่แข่งกัน?”
“มันเป็นเรื่องธุรกิจนะแม่! แม่อย่าถามเรื่องนี้เลย! แล้วแม่จะกลับไปในเมืองยังไง? จะไปกับหนูเลยหรือว่ากลับเอง?”
ถังเจิ้นมองไปหนิงเถาแล้วพูดว่า “ลืมไปเถอะ! เดียวแม่จะอยู่เที่ยวที่ต่ออีกซักพัก ยังไงแม่ก็ต้องไปเยี่ยมพวกเพื่อนเก่าๆ บ้าง และแม่จะกลับด้วยตัวเองลูกไม่ต้องเป็นห่วง” จากนั้นเธอพูดเสริมว่า “ลูกก็รู้ว่าหมอหนิงนั้นเป็นคนดีขนาดไหน? ลูกสมควรรีบจับเขาให้อยู่มัดนะ…”
เจียงเฮาไม่อยากได้ยินเรื่องพวกนี้อีก ดังนั้นเธอจึงรีบออกไปและกระตุ้นหนิงเถาว่า “ไปกันได้แล้ว”
เมื่อหนิงเถาและเจียงเฮาจากไป เจียงหยีหลงก็ได้เดินออกมาจากห้องนอนและทันเห็นฉากที่เกิดขึ้น เขามองไปทางหนิงเถาจนหายไป ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นว่า ”ชายคนที่อยู่ข้างลูกของฉันคือใครกัน?”