บทที่ 9 การทำพันธครั้งแรก
หนิงเถาได้ดึงเข็มออกจากหลังมือของเจียงหยีหลงและผลักเตียงของเขาทะลุผ่านหลุมดำข้างกำแพงไป จากนั้นเขาก็ปรากฏในคลินิกแห่งนภา
ในระหว่างกระบวนการทั้งหมดนั้นเขารู้สึกเหมือนตอนที่เขากำลังดันเตียงในโรงพยาบาลผ่านอุโมงค์มืดที่ไม่มีไฟ หลังจากหนึ่งหรือสองวินาทีเขาก็ได้เห็นวัตถุที่คุ้นเคยเช่นกระทางสามขาที่มีใบหน้ามนุษย์ตั้งอยู่บนโต๊ะโบราณและชั้นวางหนังสือเครื่องใช้
เขากลับมาที่คลินิกของตัวเองแล้ว
หนิงเถาได้หันหลังกลับไปมองทางที่เขาผ่านมา ก่อนที่เขาจะเห็นว่าหลุมดำที่เขาผ่านมานั้นได้หายไปแล้ว และกลับคืนเป็นผนังร้านตามเดิม โดยไม่รู้ตัวเขามองไปที่กุญแจคลินิกในมือของเขาและรู้ว่าถ้าเขาต้องการกลับไปยังสถานที่จากมา เขาก็ทำเพียงแค่ต้องใส่กุญแจเข้าไปในรูกุญแจที่ไหนก็ได้ มันก็จะพาเขากลับไปยังสถานที่เดิมเอง
จากนั้นใบหน้าบนกระทางสามขาตั้งใบหน้าปีศาจก็เปิดตาซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธออกมา ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกับใบหน้าของนักบุญ มันจะแสดงใบหน้าที่ยิ้มแย้มออกมาแทน ดังนั้นเมื่อหนิงเถาได้พาคนชั่วมาถึงที่นี้ เจ้ากระทางสามขาจึงได้แสดงสีหน้าปีศาจออกมา นี่คือคุณสมบัติของกระทางสามขา
หมอกควันได้ลอยขึ้นจากกระทางขาตั้ง ทันใดนั้นตัวคลินิกก็มีควันและหมอกเต็มไปหมด มันทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆได้ยากเป็นอย่างมาก
หนิงเถาได้หยุดเตียงของเจียงหยีหลงเอาไว้ในพื้นที่ว่างตรงกลางของคลินิก
ทันใดนั้นน้ำตาสองหยดก็ไหลออกมาจากมุมหนึ่งของดวงตาของเจียงหยีหลง ก่อนที่ตาของเขาก็เปิดขึ้น
หนิงเถาที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ได้พูดขึ้นอย่างเย็นชา “คุณหยุดแสร้งทำว่าตัวเองตกอยู่ในอาการโคม่าได้แล้ว ภรรยาคนปัจจุบันของคุณ ลูกสาวของคุณเจียงเฮา และพี่ชายของภรรยาคุณไม่ได้อยู่ที่นี่ มันมีแค่คุณและผมเท่านั้นที่อยู่ที่นี้”
เมื่อเจียงหยีหลงได้ยินแบบนั้น เขาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาในที่สุด ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นว่ารอบตัวของเขานั้นเต็มไปด้วยสิ่งแปลกๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมองควัน, คานบ้านเก่าๆ, โต๊ะทำงานแปลกๆ, และชั้นวางหนังสือพร้อมกับกระทางขาตั้งที่มีใบหน้าของมนุษย์ปีศาจ
เขาที่เห็นแบบนั้นก็ตกใจขึ้นมาทันทีและถามว่า “นี่! … นี่คือนรกใช่ไหม?”
หนิงเถาได้แสดงรอยยิ้มบางๆออกมา ก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “นี่ไม่ใช่นรก แต่มันเป็นสถานที่ไหนนั้นคุณไม่ต้องสนใจมัน มันอาจจะมีซักวันที่คุณอาจจะได้มาที่นี้อีกครั้ง รอให้ถึงวันนั้นผมจะบอกคุณเอง “
เจียงหยีหลงที่ได้ฟังแบบนั้นก็เกิดประกายของน้ำตาไหลออกมา ขณะที่เขาพูดว่า “ฉันไม่อยากตาย! ฉันไม่อยากตาย … “
“เงียบ!” หนิงเถาได้พูดตัดบทของเจียงหยีหลงอย่างไร้เยื่อใย
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะสำหรับเขาแล้วคนชั่วจะต้องได้รับการปฏิบัติด้วยวิธีที่ชั่วร้าย
เจียงหยีหลงที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้หยุดร้องไห้ทันที
หนิงเถาได้พูดเพิ่มเติมว่า “คุณเจียง! ผมขอพูดอะไรซักเล็กน้อยให้คุณฟัง คุณเป็นอัมพาตเนื่องจากโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน และถ้าครอบครัวของคุณดูแลคุณเป็นอย่างดี คุณอาจจะมีชีวิตรอดจากโรคนี้ไปได้ แน่นอนว่านั้นจะทำให้คุณนั้นนอนอยู่บนเตียงตลอดชีวิต ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่คุณจะต้องอุจจาระทั้งๆที่นอนอยู่บนเตียง และยิ่งคุณนอนนานวันเข้าโรคที่คุณเป็นอยู่ก็จะพัฒนาขึ้นเป็นโรคแผลกดทับในที่สุด… “
ยิ่งฟังเจียงหยีหลงก็ไม่สามารถหยุดร้องไห้ออกมาด้วยความกังวลได้
หนิงเถายังคงเลือกที่จะถูเกลือไปที่แผลของอีกฝ่ายมากขึ้น “นี้เป็นเพียงส่วนดีๆเท่านั้น แต่สำหรับคุณเจียงในตอนนี้ ผมคิดว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงๆ มันคงเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น ยิ่งเป็นภรรยาคนปัจจุบันแล้วด้วยยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ เพราะจากการที่ผมดูแล้วอีกฝ่ายดูเหมือนจะต้องการให้คุณตายๆไปมากกว่า ซึ่งมันตรงกันข้ามถ้าอดีตภรรยาของคุณอยู่ที่นี้ ผมเชื่อว่าเธอจะดูแลคุณด้วยดีอย่างแน่นอน…”
ยิ่งเจียงหยีหลงฟังมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งร้องไห้ออกมามากเท่านั้น “ฉันเสียใจ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ฉันขอโทษสำหรับเจียงเฮาและแม่ของเธอ และสำหรับทุกคนที่ฉันเคยทำร้ายมา … ฉันรู้แล้วว่าสิ่งที่ฉันทำมาตลอดนั้นเป็นสิ่งที่ผิด ฉันน่าจะรักครอบครัวให้มากกว่านี้ ฉันน่าจะห่วงใยพวกเขาให้มาก … “
“ มันยังไม่สายเกินไป! คุณยังคงมีโอกาสอยู่” หนิงเถายังคงพูดออกมาเรียบๆ
เจียงหยีหลงที่ได้ฟังแบบนั้นก็หันไปมองหนิงเถาด้วยความประหลาดใจ “คุณพูดอะไรนะ?”
“ ผมบอกว่ามันยังไม่สายเกินไป” หนิงเถาพูดต่อว่า “ผมสามารถรักษาคุณได้! ด้วยคลินิกนี้คุณเจียงยังคงมีโอกาสรักษาหายและต่ออายุไขของตัวเอง”
เจียงหยีหลงมองหนิงเถาด้วยความสงสัยในสายตาของเขา เขาเองก็เคยได้ยินมาบ้างว่าหมอเทวดาที่รักษาได้ทุกโรค แต่เขาไม่เคยเชื่อว่ามันจะมีเรื่องแบบนั้นจริงๆมาก่อน จนได้มาเจอกับตัวเองแบบนี้
“คุณไม่เชื่อผมพูดเหรอ?” หนิงเถาได้ถามออกมาหลังจากที่เขาได้อ่านใจของอีกฝ่าย
เจียงหยีหลงเป็นคนฉลาด เขารู้สถานการณ์ของเขาเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจะไม่แสดงความสงสัยบนใบหน้าของเขา แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อสิ่งที่ชายตรงหน้าพูดก็ตาม
หนิงเถาได้หยิบเอาบัญชีแยกประเภทของคลินิกออกมา ก่อนที่จะจับมือของเจียงหยีหลงไปว่างที่มัน
บาปที่หนึ่งของความตั้งใจชั่วร้ายปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเจียงหยีหลง เขาที่เห็นบาปที่ตัวเองทำไปก็ถึงกับอ้าปากค้างและสั่นเทาไม่หยุด มันทำให้ในตอนนี้เขาเชื่อสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาอย่างสนิทใจแล้ว เพราะภาพที่เขาเห็นในตอนนี้นั้นเป็นช่วงเวลาที่เขาได้ทำสิ่งเลวร้ายบางอย่างลงไปจริงๆ!
หนิงเถาปิดบัญชีแยกประเภทโดยไม่ได้พูดอะไรกับเจียงหยีหลง เขาเอามีดสำหรับตัดวัสดุดิบยาออกมา ก่อนที่จะลับคมมาตรงขอบเตียงพร้อมกับพูดพึมพำว่า “เฮ้อ! หวังว่าอาหารสำหรับเจ้าดำจะมีพอนะ? ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องเอาหัวใจของลูกค้ารายแรกไปเป็นอาหารอย่างแน่นอน… “
ในช่วงเวลานี้คลินิกเก่าแก่ที่ดูลึกลับได้ดังก้องไปด้วยเสียงลับมีด
เหงื่อเย็นๆได้ไหลออกมาจากหน้าผากของเจียงหยีหลง ภายในเวลาไม่ถึงสิบวินาทีเขาก็เริ่มเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำลงไป “ฉันผิดไปแล้ว! ฉันต้องทำอะไรเพื่อที่จะได้รับโอกาสที่คุณพูดถึงนั้น?” เขาถามออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
หนิงเถาเก็บมีดลงแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “คลินิกนี้มีกฎของตัวเอง ผมจะให้ใบสั่งยากับคุณและคุณต้องเซ็นชื่อลงบนนั้น เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลงแล้วผมจะรักษาโรคหลอดเลือดสมองของคุณ แต่จำไว้ทันทีที่คุณเซ็นใบสั่งยาของผมแล้ว คุณจะต้องดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้ในนั้นอย่างครบถ้วน ไม่อย่างนั้นเรื่องเลวร้ายกว่าตอนนี้จะตามมา และผมรับรองได้เลยว่ามันจะทำให้อาการโรคตอนนี้ของคุณเป็นเหมือนวันพักร้อนไปเลย!”
” ได้! ฉัน … ฉันจะลงนาม” เจียงหยีหลงรีบตอบกลับมา
หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้กลับไปที่โต๊ะทำงาน ก่อนที่เขาจะนำบัญชีแยกประเภทและใบสั่งยาออกมาเขียนเงื่อนไขของการกำจัดบาปตามบาปแต่ละชนิดที่บัญชีแยกประเภทกำหนดเอาไว้ ตัวอย่างเช่น เขาควรคุกเข่าต่อหน้าเจียงเฮาและแม่ของเธอ พร้อมกับขอโทษพวกเธอ และยังต้องส่งคืนทรัพย์สินที่เขาได้แย่งไปจากอีกฝ่ายระหว่างการหย่าล้างด้วย แน่นอนว่ามันยังมีดอกเบี้ยอย่างการชดเชยชาวบ้านที่เขาได้ทำลายลงไป การบริจาคเงินให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และสถานพยาบาล …
หนิงเถาใช้เวลา 15 นาทีกว่าจะเขียนเสร็จ จากนั้นเขาก็นำมันไปให้เจียงหยีหลง
เจียงหยีหลงมองไปที่ใบสั่งยาพร้อมกับเงื่อนไขที่อยู่ในนั้น “คือ … มันจะมากเกินไปหรือเปล่า?” เขาถามออกมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
“มันแล้วแต่ที่คุณจะคิด แต่คุณต้องรู้ว่าเงินที่ตัวเองมีนั้นมันมาจากการกระทำที่ชั่วร้ายในอดีต” หนิงเถาไม่ได้คิดจะรักษาน้ำใจหรืออะไรพวกนั้น เขาทำเพียงพูดออกมาตรงๆ “ทรัพย์สินทั้งหมดของคุณได้มาจากการขโมยจากผู้อื่น เงื่อนไขบนใบสั่งยานี้ไม่ใช้ลงโทษตัวคุณ แต่มันเป็นการแก้ไขและชดเชยสิ่งที่คุณได้ทำลงไปในอดีตต่างหาก แน่นอนว่าถ้าคุณไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ก็ได้ ผมก็แค่ทำเพียงส่งคุณกลับไปนอนรอความตายเท่านั้น “
“ผมสามารถนำเงินพวกนี้ให้คุณได้ไหม? แบบว่าหลังจากนั้นเราค่อยมาแบ่งครึ่งกัน?”
“ไม่มีทาง!” หนิงเถาตอบกลับมาอย่างเด็ดขาด จากนั้นเขาก็ทำท่าทางว่าจะเอาใบรับยากลับไป
เจียงหยีหลงที่เห็นแบบนั้นตื่นตระหนกและร้องว่า “รอก่อน … ฉันจะเซ็น!”
หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็กีดมีดลงไปบนนิ้วของอีกฝ่ายทันที
เลือดได้ไหลออกมาจากนิ้วนั้น แต่เจียงหยีหลงกับไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร
หลังจากนั้นหนิงเถาได้คว้ามือของเจียงหยีหลงที่มีเลือดออกแล้วถามด้วยเสียงลึกลับว่า “เจียงหยีหลง! เมื่อคุณเซ็นสัญญานี้แล้วคุณจะไม่สามารถหันหลังกับได้อีก คุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณต้องการเซ็นชื่อตัวเองลงไป?”
เจียงหยีหลงกัดริมฝีปากของเขาแน่นแล้วพูดว่า “เป็นคนขี้ขลาดที่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าป็นฮีโร่ที่ตายแล้ว … ฉัน … จะลงชื่อ!”
หนิงเถาได้ลงนามในชื่อของเจียงหยีหลงทันที และใบสั่งยานั้นก็สัมฤทธิ์ผลแทบจะพร้อมกัน
ชื่อของเจียงหยีหลงนั้นได้ถูกเขียนลงในบัญชีแยกประเภท
หลังจากศึกษาในช่วงกลางวันที่ผ่านมา หนิงเถารู้ว่าใบสั่งยาก็เหมือนกับใบเรียกเก็บเงินทั่วไป แต่มันจะแปลกตรงที่ลูกค้าจำเป็นจะต้องใช้เลือดของตัวเองแทนหมึกปากกา และด้วยการเซ็นชื่อลงไปในใบสั่งยานี้ รายชื่อนั้นก็จะปรากฏขึ้นบนบัญชีแยกประเภทเช่นกัน
และยังมีระยะเวลากำหนดเส้นตายในสัญญาที่ผู้จ่ายยาหรือเจ้าของคลินิกสามารถทำขึ้นมาได้ด้วย ในที่นี้หนิงเถาได้กำหนดระยะเวลาเอาไว้ที่ครึ่งเดือน
ที่เขาทำแบบนั้นก็เพราะเขาเองก็เหลือเวลาที่จะต้องจ่ายค่าเช่าไม่นานแล้วเหมือนกัน ถ้าจะเจาะจงก็คงอีก 29 วันก็จะถึงเวลาที่เขาต้องจ่ายค่าเช่าแล้ว ดังนั้นการกำหนดเวลาที่แน่นอนลงไปในสัญญาจะเป็นตัวการรันตีว่าลูกค้าของเขาจะทำตามที่ตัวเองสัญญาเอาไว้
“ฉัน! ฉันได้ลงนามแล้วที่นี้คุณก็รีบรักษาฉันได้แล้ว” เจียงหยีหลงกลัวว่าหนิงเถาอาจจะเปลี่ยนใจ ดังนั้นเขาจึงรีบทวงสัญญาทันที
หนิงเถาได้ตอบกลับอย่างเฉยเมยว่า “ไม่ต้องกังวลไป! ผมต้องขอเตือนคุณก่อนว่าคุณจะต้องทำตามเนื้อหาทั้งหมดในใบสั่งยานี้ให้เสร็จภายในครึ่งเดือน ไม่อย่างนั้นผมจะปล่อยให้คุณมีชีวิตอยู่แทนที่จะตาย!”
“ฉันจะทำ! ได้โปรดรีบรักษาฉันด้วย”
หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็ทำเพียงหยิบยาหนึ่งเม็ดออกมา ก่อนที่เขาจะนำมันเข้าไปในปากของเจียงหยีหลง
เจียงหยีหลงที่เห็นแบบนั้นก็เหมือนจะรู้ว่านี้จะต้องเป็นยาอายุวัฒนะที่ถูกพูดถึงในอดีตอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงรีบอ้าปากและกลืนมันลงไป
ขาตั้งกระถางธูปด้านของใบหน้าปีศาจเองก็ได้เปล่งเสียงแปลกๆออกมาราวกับเสียงร้องไห้ของผีนับพัน ควันในขาตั้งเองก็ออกมาเร็วขึ้นและหนาขึ้น ก่อนที่ควันพวกนั้นจะถูกม้วนเข้าหาเจียงหยีหลงและปกคลุมตัวของอีกฝ่ายทั้งหมด
“พระเจ้า! มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกัน? ถ้าฉันสามารถอยู่รอดต่อไปได้ ฉันขอสาบานว่าจะหาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของคลินิกนี้และความลับของกระถางธูปสามขานี้ให้ได้ ฉันจะไม่ยอมตายอย่างผีโง่งมเด็ดขาด! ” หนิงเถาได้สาบานกับตัวเองในใจ
ทางด้านเจียงหยีหลงเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเจออยู่กับอะไร เขาจึงทำได้เพียงส่งเสียงร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวและสลบไป
หนิงเถาไม่รอให้อีกฝ่ายฟื้นขึ้นมา เขาได้เปิดประตูที่ข้ามมิติและย้ายเตียงกลับไปยังที่เดิม เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วตรวจดูเวลา มันใช้เวลาไปทั้งหมด 52 นาที ในคลินิกของเขา แต่มันกับใช้เวลาเพียงแปดนาทีเท่านั้นในโลกแห่งจริง
เพื่อป้องกันคำถามที่อาจจะตามมา เขาได้ทำความสะอาดร่องรอยทั้งหมด รวมไปถึงรอยเลือดที่อยู่รอบนิ้วมือของเจียงหยีหลงด้วย
ในตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำก็ทำหมดแล้ว ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อเขาทำได้เพียงรอดูมันเท่านั้น