Perfect Superstar – ตอนที่ 118 จุดจบและจุดเริ่มต้น

ตอนที่ 118 จุดจบและจุดเริ่มต้น

เพล้ง!

กาน้ำชาดินเผาปั้นด้วยมือที่มียี่ห้อ ตกลงบนพื้นอย่างหนักหน่วง แตกละเอียด เศษกาน้ำชาเครื่องปั้นกระจายไปทั่วทุกทิศ

เลขาสาวสวยที่นั่งอยู่หน้าห้องผู้จัดการได้ยินเสียงที่เกิดขึ้น หันหลังกลับไปมอง ผ่านรอยแยกของประตูเธอเห็นใบหน้าที่อวบใหญ่ของเจ้านายกำลังโกรธเกรี้ยว สีหน้าอันบิดเบี้ยวทำให้เธอตื่นตระหนก

เลขาสาวรีบหันหลังกลับมา แสร้งทำเป็นกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับงานบนโต๊ะ กลัวถูกจับได้ว่าเธอแอบมองและจะกลายเป็นแพะรับบาป

หลายวันมานี้ดูเหมือนว่าเจ้านายของเธออารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย

เธอถูกดุด่าอยู่หลายครั้ง รู้สึกว่าก้นของเธอนั่งไม่ติดที่

งานที่ทำอยู่นี้เป็นงานที่ดี อย่างน้อยเธอจะได้เจอดาราทุกวัน

เวลานี้จินหงเหว่ยที่อยู่ในห้องทำงาน ไม่รู้ถึงความคิดของเลขาสาวคนใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามา

ใบหน้าของเขาเดือดแค้นไม่มีที่ระบายออก เส้นเลือดผุดขึ้นแถวหน้าผากจนเป็นสีเขียว สีหน้าแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าความดันโลหิตพุ่งสูง หลังจากได้ปากาน้ำชาทิ้งแล้วดูเหมือนอารมณ์จะเย็นลง

สถานที่แตกต่างกันบ่มเพาะคนออกมาได้ไม่เหมือนกัน เขานั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทเอเจนซี่จวี่ซิงเขามานานแล้ว และจินหงเหว่ยก็อยู่ในวงการมานาน รู้ว่าต้องเก็บอารมณ์ไม่แสดงออก น้อยมากที่เขาจะโมโหเกรี้ยวกราดได้ขนาดนี้

แต่สองวันมานี้เขาได้รับความพ่ายแพ้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน รู้สึกแย่กว่าตอนที่ถานหงฟ้องร้องยกเลิกสัญญากับเขาเสียอีก!

จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด มาจากนักร้องหน้าใหม่เพียงคนเดียว

ลู่เฉิน!

ชื่อนี้พักหลังจินหงเหว่ยพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ทุกครั้งจะต้องกัดฟันพูด

ลู่เฉินปฏิเสธความปรารถนาดีของเขาแต่แรก ปฏิเสธการเซ็นสัญญากับบริษัทจวี่ซิง

หลังจากถูกรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองคัดออกจากการแข่งขันแล้ว ยังไม่สนใจต่อการยื่นข้อเสนอของเขา ดื้อดึงที่สุด

คนหน้าใหม่แบบนี้ จินหงเหว่ยหลายปีมานี้พบน้อยมาก ศิลปินหน้าใหม่ส่วนใหญ่รู้ว่าอำนาจของบริษัทจวี่ซิงล้นฟ้าขนาดไหน ไม่มีใครกล้าเล่นตัวต่อหน้าเขา ทุกคนต่างยินยอมและร้องขออย่างนอบน้อม

ธุรกิจบันเทิงที่รุ่งโรจน์สร้างชื่อเสียง มีวัยรุ่นไม่กี่คนที่จะต้านทานความล่อตาล่อใจนี้ไปได้

อำนาจและเส้นสายของจินหงเหว่ย ทำให้การเฟ้นหาคนของเขาไม่เคยไม่ประสบความสำเร็จ!

แต่กลับพลาดจากลู่เฉินถึงสองครั้ง

ส่วนการปฏิเสธของเขา จินหงเหว่ยไม่ได้ใส่ใจนัก เอาเป็นว่าเขาได้เอาคืนแล้ว คางคกสามขานั้นหายาก ในเมืองหลวงจะหาชายหนุ่มรูปหล่อไม่ยากเลย มีอยู่เต็มไปหมด!

จินหงเหว่ยได้ค้นพบหลิงเสี่ยวซูอย่างรวดเร็ว ฝ่ายหลัง หลังจากที่ได้เป็นศิลปินในสังกัดของบริษัทจวี่ซิงแล้ว เขาก็ถูกผลักดันขึ้นมาภายในชั่วพริบตา

บางครั้งจินหงเหว่ยยังคิดว่า ถ้าลู่เฉินได้รู้ว่าเขาพลาดเส้นทางที่จะโด่งดังแล้ว เขาจะต้องเสียใจภายหลังมาก แล้วยังคิดจะย้อนกลับมา ขอให้ตัวเองให้อภัยเขาหรือไม่ ให้โอกาสเขาอีกครั้ง?

สุดท้ายเขาคิดผิด ทั้งยังผิดอย่างมหันต์

ลู่เฉินถูกรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองคัดออกไปแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่ได้หายตัวไป ยังเข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลงรายการขับร้องให้ก้องจีนของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง จนมีชื่อเสียง อาศัยเพลงผลงานอันโดดเด่นของตัวเองได้รับอันดับหนึ่งของผู้เข้าประกวดรอบ16 คนด้วย

ไม่เพียงแค่นี้ ลู่เฉินยังเขียนเพลงให้วงเฮสิเทชั่นอีกสามเพลง ซึ่งทั้งสามเพลงนี้ติดอันดับเพลงจีนยอดนิยม หนึ่งในนั้นคือเพลงในฤดูใบไม้ผลิ ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งสองสัปดาห์ซ้อน!

ความสามารถอันโดดเด่นเช่นนี้ ดีกว่าหลิงเสี่ยวซูเป็นไหนๆ!

หลิงเสี่ยวซูเป็นคนที่จินหงเหว่ยปลุกปั้นขึ้นมา พื้นฐานของเขาเป็นอย่างไร จินหงเหว่ยรู้ดีเป็นที่สุด

เมื่อจินหงเหว่ยรู้สึกเสียใจ แผนการชั่วร้ายที่เขาใช้กับลู่เฉินก็ถูกคนเปิดโปงทั้งหมด!

ความจริงที่ถูกเปิดเผยในเว็บบล็อกหลางเฉา ทำให้จินหงเหว่ยรู้สึกเหมือนถูกจับแก้ผ้าประจานกลางแจ้ง คลิปวิดีโอการแข่งขันรอบออดิชั่นที่เปิดเผยออกมา เหมือนเป็นสายฟ้าที่ฟาดตอนกลางวันแสกๆ สะเทือนจนเขาตกตะลึงอ้าปากค้าง

เรื่องแบบนี้แพร่งพรายออกไปได้ยังไง?

ประสบการณ์อันโชกโชนของจินหงเหว่ยบอกเขาว่า ตัวเองตกเข้าสู่กับดักบางอย่างเข้าแล้ว

ไม่เช่นนั้นจะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เหรอ!

แต่ใครก็ตามที่วางแผนกับดักนี้ จินหงเหว่ยเดาไม่ถูกเลย

เพราะศัตรูคู่แค้นของเขามีมากมาย

จากนั้นสถานีโทรทัศน์เซียงหนานกับทีมรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองออกมาขอโทษลู่เฉิน ยอมรับความผิด ทั้งยังขอโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย จางเสี่ยวอันถูกถอดออกจากตำแหน่งงานทั้งหมด เฉินเจินหนีและจวงเฮ่าถูกให้ออกจากการแข่งขัน!

ทั้งสามคนล้วนมีสายสัมพันธ์กับจินหงเหว่ย หรือบอกได้ว่าถูกเขาบ่อนทำลาย

แน่นอนว่าการพูดแบบนี้จินหงเหว่ยเหมือนถูกใส่ร้าย จากเดิมที่เรื่องราวไม่มีพยานหลักฐาน ใครจะรู้ว่าคลิปวิดีโอจะถูกคนขโมยออกไปปล่อย ทำให้เกิดพายุมรสุมครั้งนี้?

จินหงเหว่ยเองก็ตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างใหญ่หลวง

ทางสถานีโทรทัศน์เซียงหนานปฏิบัติต่อเขาด้วยท่าทีเย็นชาเฉยเมย ผู้บริหารระดับสูงหลายคนปฏิเสธการรับโทรศัพท์ของเขา ผู้ที่ร่วมมือกันอย่างบริษัทมีเดียเฉิงเถียนไม่พอใจเป็นอย่างมาก แม้แต่ภายในบริษัทจวี่ซิงยังเกิดความเห็นที่ไม่เป็นไปในทางเดียวกัน

แม้นี่ยังไม่ถึงขั้นเลวร้ายที่สุด เขาอาศัยเส้นสายที่รู้จัก ความสัมพันธ์อันแตกแยกก็ยังพอมีทางแก้ใขให้กลับฟื้นคืนมาได้ รอจนเรื่องราวทุกอย่างผ่านไปก่อน

แต่เขาจะต้องจ่ายตอบแทนเป็นมูลค่าที่สูง ทั้งชื่อเสียงในวงการที่ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างมาก

เมื่อสักครู่จางเสี่ยวอันโทรศัพท์มาหาเขา โวยวายใส่เขาเพื่อขอคำอธิบาย

เขาจะให้คำอธิบายอะไรได้ แน่นอนว่าเขาต้องเฉไฉไปเรื่อย สุดท้ายก็ถูกฝ่ายนั้นตำหนิอย่างรุนแรงแบบไม่ไว้หน้า

เป็นอย่างนี้แล้วอารมณ์ของจินหงเหว่ยจะดีได้อย่างไร

เขาเกลียดลู่เฉินเข้ากระดูกดำ

เรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ ถ้าไม่หาโอกาสเอาคืน ต่อไปเขาคงไม่มีหน้าอยู่ในวงการนี้ได้อีก

คอยดูก็แล้วกัน!

คิดอย่างนี้แล้วจินหงเหว่ยก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาเปิดหาเบอร์โทรศัพท์จากเฟยซวิ่นแล้วกดโทรออก

กริ๊ง กริ๊ง

ลู่เฉินที่นั่งอยู่บนชั้นสองของร้านเคเอฟซี หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อออกมา

แสงแดดยามบ่ายแทงลุกระจกเข้ามาโดนลำแขนของเขาจนรู้สึกแสบร้อน

คนที่โทรศัพท์มาหาลู่เฉินก็คือหวังจิ้งแห่งสตูดิโอเนี่ยผาน ฝ่ายหลังกำลังอยากจะถามความคิดเห็นของเขาเรื่องทำนองผลงานเพลงของลู่เฉิน เพราะนี่เป็นอัลบั้มส่วนตัวของเขา ต้องเคารพความเห็นของเขาเป็นอันดับแรก

อัลบั้มแรกของลู่เฉินจัดทำอย่างเข้มงวดที่สตูดิโอเนี่ยผาน ช่วงเวลานี้เขาไปที่สตูดิโอเกือบทุกวัน ช่วยทำดนตรีประกอบเพลงและร้องเพลงอัดเสียง

อัลบั้มที่โดดเด่นอัลบั้มหนึ่ง จะต้องใช้ความใส่ใจและความอดทนทำมันขึ้นมา

คุยกับหวังจิ้งเสร็จแล้ว ลู่เฉินเงยหน้าขึ้นมามองดูใบหน้าอันคุ้นเคยของใครคนหนึ่ง “เฉินซิน!”

ร้านเคเอฟซีร้านนี้เป็นร้านที่ลู่เฉินเคยทำงานมาก่อน และเฉินซินก็เป็นเพื่อนร่วมงานของเขา

“ลู่เฉิน ฉันได้ยินจากเสี่ยวจางว่านายกลับมาแล้ว…”

เฉินซินผู้ใส่ชุดพนักงานประจำร้านเอ่ยต่ออย่างดีใจ “สัปดาห์ก่อนฉันเห็นนายในโทรทัศน์ด้วย นายเข้าประกวดร้องเพลง ร้องได้เพราะมากๆ เพื่อนร่วมงานหลายคนก็ได้ดู”

ความดีใจที่พบกันอีกครั้งแผ่ขยายอยู่บนใบหน้าของเธอ แต่นอกเหนือจากนี้ไม่มีอย่างอื่น

เธอเคยรู้สึกดีกับลู่เฉินนิดหน่อย เพียงแต่ทั้งคู่ไม่มีความสัมพันธ์เกินเลย และหลังจากลู่เฉินลาออกไป ความรู้สึกที่มีอยู่เบาบางก็ได้จางหายไปตามกาลเวลา

เห็นลู่เฉินในโทรทัศน์ เฉินซินรู้ว่าเธอกับเขาอยู่กันคนละโลก ไม่น่าจะสานความสัมพันธ์ต่อได้

ดังนั้นเมื่อพบกับลู่เฉิน ความรู้สึกของเธอเหมือนได้พบกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน

“นายทำไมถึงกลับมาที่นี่อีกล่ะ”

ลู่เฉินยิ้ม… “ฉันตั้งใจมาหาเธอโดยเฉพาะ…”

“หา?”

เฉินซินใจเต้นแรง แล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามของลู่เฉินอย่างอดไม่ได้

“นายมาหาฉันมีเรื่องอะไรเหรอ”

เวลาบ่ายยามนี้ ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ลูกค้าจึงมีไม่มาก ดังนั้นเธอจึงสามารถพูดคุยกับลู่เฉินได้ แต่คงได้ไม่นานนัก ไม่อย่างนั้นผู้จัดการร้านมาเห็นเข้าจะโดนหักเงินเดือน

“เรื่องเป็นแบบนี้…”

ลู่เฉินบอกว่า “ช่วงนี้ฉันเปิดสำนักงานของตัวเองขึ้นมา เชิญพี่สาวของฉันมาช่วยงานด้วย พี่สาวฉันอยากได้พนักงานคนหนึ่งเป็นผู้ช่วย ไม่รู้ว่าเธอจะยินดีไปทำงานกับฉันทางนั้นไหม?”

ลู่ซีเคยบอกไว้ก่อนแล้วว่าอยากจะหาผู้ช่วยคนหนึ่งที่เป็นพนักงานเอกสารได้ด้วย ความต้องการของเธอคือต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น ต้องการคนอายุน้อย ไม่เพียงแต่ต้องสวย ยังต้องนิสัยดี อดทนกับความลำบาก เรียนรู้สิ่งใหม่ แบบนี้ถึงจะดีที่สุด

ลู่เฉินนึกถึงเฉินซินขึ้นมาทันที

ลู่เฉินกับเฉินซินเคยร่วมงานกันมาประมาณปีหนึ่ง รู้ว่าเธอคนนี้มาจากเมืองชวนสู่ แม้การศึกษาจะไม่สูงนักแต่นิสัยไม่เลว อดทนและปกติไม่ชอบซุบซิบนินทากับคนอื่น

เหมาะกับความต้องการของลู่ซีเป็นพิเศษ

สิ่งเดียวที่ทำให้ลู่เฉินลำบากใจก็คือ เฉินซินมีความรู้สึกดีๆ ให้กับเขา

วันที่เขาลาออก ภาพในความทรงจำที่เฉินซินวิ่งตามเขาออกมา เขาเลยไม่อยากเข้าไปให้ยุ่งยาก

ครั้งนี้เขาบังเอิญมาซื้อของย่านนี้ เดินผ่านร้านนี้ คิดแล้วคิดอีกจึงเดินเข้ามา

ได้พบกับเฉินซินอีกครั้ง ท่าทีของฝ่ายนั้นทำให้ลู่เฉินเข้าใจแล้วว่าหญิงสาวคนนี้ได้ละทิ้งความรู้สึกในอดีตไปแล้ว

อย่างนี้ก็ไม่มีปัญหา

เฉินซินตกใจกับคำเชื้อเชิญของลู่เฉิน “ให้ฉันไปเป็นผู้ช่วย?”

ลู่เฉินยิ้ม “ใช่แล้ว เป็นผู้ช่วยของพี่สาวฉัน เธอเป็นผู้จัดการของสำนักงาน และเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉัน”

เฉินซินเข้าใจแล้ว รู้สึกเก้อเขิน

“ฉันไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย จะทำได้เหรอ?”

ลู่เฉินตอบอย่างตั้งใจว่า “ไม่รู้ก็เรียนได้ ความจริงแล้วพี่สาวของฉันกำลังเรียนรู้อยู่เหมือนกัน ฉันเองก็ด้วย”

“เพียงแค่พยายามเรียนรู้ ฉันว่าคงไม่มีปัญหา!”

เฉินซินไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง “ฉันยินดีจะเรียนรู้ แต่ฉันกลัวว่าจะเรียนได้ไม่ดี”

ลู่เฉินตอบว่า “ยินดีเรียนรู้ก็พอแล้ว ส่วนเรื่องเงินเดือนคือสามพันหยวน ประกันสังคมมาตรฐาน เงินรางวัลและโบนัสคิดต่างหาก มีค่าอาหารและที่พักเสริมให้ห้าร้อยหยวน”

เงินเดือนที่ลู่เฉินเสนอให้กับเธอ อ้างอิงตามมาตรฐานของร้านเคเอฟซี นอกจากเงินรางวัลโบนัสแล้วอย่างอื่นไม่ต่างกัน

เสนอให้มากกว่านี้ลู่เฉินไม่มีปัญญาจ่าย และไม่มีความจำเป็นมากขนาดนั้น

ถ้าเฉินซินไม่ยินยอม ก็ไม่เป็นไร

เฉินซินกัดริมฝีปาก ตอบอย่างขันแข็งว่า “ฉันจะลองดูก็แล้วกัน!”

ลู่เฉินยิ้ม “เธอไม่ต้องรับปากเร็วนัก ลองไปคิดดูก่อนแล้วค่อยบอกกับฉันก็ยังไม่สาย”

เฉินซินส่ายหน้า “ไม่ ฉันคิดดีแล้ว งานที่นี่ฉันไม่อยากทำแล้ว”

ลู่เฉินตะลึง กลับคำทันที “ถ้าอย่างนั้นยินดีต้อนรับเธอเข้าสู่ออฟฟิศลู่เฉิน!”

เขายื่นมือออกไปให้เฉินซิน

เธอยิ้มตาหยีจับมือกับเขา แล้วปล่อยอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองคนจับมือกันเป็นครั้งแรก

………………………………………………………………………

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Perfect Superstar
Status: Ongoing
อ่านนิยายPerfect Superstarลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปี จำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาล วันหนึ่งเขาฝัน...เป็นความฝันที่ยาวนานมาก โลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้า ตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกัน นักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระ เขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝัน เมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมา เป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset