ตอนที่ 126 สนับสนุน
ลู่เฉินถูกใส่ร้ายคราวที่แล้ว สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งยังไม่พูดอะไร
แต่ถ้าคิดว่าสถานีโทรทัศน์ไม่ให้ความสำคัญกับลู่เฉิน หรือไม่มีท่าทีสนใจถามไถ่เขามาตลอดล่ะก็ ถือว่าเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ โดยเฉพาะกรณีที่แตะต้องผลประโยชน์ของพวกเขา
เป็นเสือถ้าไม่แสดงอำนาจ ก็จะถูกมองว่าเป็นแมวป่วย
หากสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งมังกรที่ยึดครองพื้นที่อยู่ในเมืองหลวงโกรธขึ้นมา ก็สามารถผลักภูเขาพลิกทะเล ยิ่งใหญ่ทรงพลัง
รายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ที่เมืองปี้ไห่ ตอนกลางคืนเวลาห้าทุ่มสิบห้านาที สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งออกประกาศสู่สาธารณะในบล็อกล่างฉาว เป็นประกาศหนึ่งที่ค่อนข้างรุนแรง
ในประกาศที่มีเนื้อหายาวเหยียดนี้กล่าวว่าสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งสังเกตเห็นกระแสความคิดเห็นของผู้คนที่มีต่อลู่เฉินผู้เข้าประกวดรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ด้วยเหตุนี้จึงตรวจสอบอย่างเคร่งครัดและจริงจัง
หลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างจริงจังของทีมงานรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ แล้ว ขอยืนยันว่าลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดเป็นของลู่เฉินผู้เข้าประกวดจริง (รวมทั้งสิทธิ์ที่ไม่จำกัดในการถ่ายโอนลิขสิทธิ์ที่มีอยู่) เว็บไซต์ลงทะเบียนลิขสิทธิ์แบ่งเป็น ‘ห้องสมุดดนตรีจีน’ ภายในประเทศกับยูนิเวอร์แซลมิวสิกกรุ๊ปของสหรัฐอเมริกา ทั้งสองเว็บไซต์นี้ล้วนเป็นองค์กรลิขสิทธิ์เพลงที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด
ทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งจึงมั่นใจว่า ผลงานเพลงสร้างสรรค์ของลู่เฉินไม่มีพฤติกรรมขโมยคัดลอกผลงานคนอื่นมาเป็นผลงานของตัวเองอย่างสิ้นเชิง แต่ในโพสต์บล็อก ‘เรื่องราวของฉันกับฤดูใบไม้ผลิ’ ของ ‘เหล่าไห่นักร้องพเนจร’ ที่อยู่ในบล็อกล่างฉาวกลับมีปัญหารุนแรงทำให้ข้อเท็จจริงเกิดความสับสน ชาวเน็ตเข้าใจผิด บิดเบือนความจริง
เพื่อเป็นการปกป้องชื่อเสียงและเกียรติยศของผู้เข้าประกวดรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ฝ่ายสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งกับตัวของลู่เฉินจึงขอแจ้งรายงานความผิดของบล็อกล่างฉาว และขอให้ทางบล็อกล่างฉาวตรวจสอบอย่างเป็นธรรมและเปิดเผย!
ส่วนท้ายสุดของประกาศนี้แนบเอกสารเพื่อยืนยันลิขสิทธิ์ทั้งหมดสิบเพลง มีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษกำกับ
นี่คือมีทั้งเหตุผลและหลักฐาน มีทั้งรูปภาพและความจริง!
เมื่อประกาศของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งที่ผ่านบัญชีวีไอพถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับความคิดเห็นและการแชร์ต่อเป็นจำนวนมากในทันที
ในบล็อกล่างฉาวเกิดความฮือฮาขึ้นทันที เพราะทุกคนคาดไม่ถึงว่าสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งจะสนับสนุนลู่เฉินเป็นการใหญ่ขนาดนี้!
ความจริงคนที่เข้าใจรายการประกวดหรือรายการวาไรตี้โชว์เป็นอย่างดีต่างก็รู้ว่า สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งให้การสนับสนุนลู่เฉินเพราะไม่ได้ต้องการปกป้องชื่อเสียงของเขา แต่แท้จริงแล้วเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองต่างหาก ก็เหมือนกับผู้ใดกล้าย้อนศรเกล็ดมังกร ผู้นั้นต้องตาย
เวลาห้าทุ่มสามสิบห้านาที มีการประกาศในหน้าต่างป็อปอัปหน้าแรกของบล็อกล่างฉาว
เนื้อหาของประกาศไม่ยาวมาก บัญชีทางการของบล็อกล่างฉาวตรวจสอบโพสต์บล็อก ‘เรื่องราวของฉันกับฤดูใบไม้ผลิ’ ของเจ้าของบล็อก ‘เหล่าไห่นักร้องพเนจร’ หลังจากได้รับการรายงานความผิดจากบัญชีวีไอพีของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งแล้ว พบว่ามีปัญหาการกระทำผิดจริง ดังงนั้นจะจัดการลบข้อความนี้ออกทันที
จากการตรวจสอบทางด้านเทคนิค แหล่งที่มาของ IP ‘เหล่าไห่นักร้องพเนจร’ มาจากเมืองฮู่ไห่ ตรงกับ IP บล็อกชื่อดังของ ‘ก๊วนข้าวปั้น’ ทุกประการ และบัญชีของ ‘ก๊วนข้าวปั้น’ ก็ถูกปิดไปชั่วคราวแล้ว
ถ้าหากการประกาศก่อนหน้านี้ของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งคือการส่งเสียงเรียกร้องให้โจมตีกลับ เช่นนั้นประกาศจากบัญชีทางการของบล็อกล่างฉาวก็คือการฆ่าตัดหัวแม่ทัพแล้วแย่งธงมาโดยตรง ตัดหัวของผู้ร้ายลงมาได้ภายในพริบตา!
แม้แต่เนื้อหนังก็ลอกออกมาอย่างสะอาดไม่มีอะไรเหลือ
ก๊วนข้าวปั้นคือบล็อกวีไอพีที่มีแฟนคลับเจ็ดแสนห้าหมื่นคนอยู่ในบล็อกล่างฉาว เป็นบัญชีการตลาดที่มีชื่อเสียงมาก
เหล่าไห่นักร้องพเนจรเป็นฉายาของเขา หลายคนจึงรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกใช้เข้าแล้ว
ไหนบอกว่าตัวเองเป็นนักร้องพเนจรเร่ร่อนอยู่ในเมืองหลวงมายี่สิบกว่าปีไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆ กลายเป็นบัญชีวีไอพีชื่อดังไปได้
แบบนี้มันหลอกลวงกันชัดๆ!
เดิมทีเหล่าแฟนคลับบัญชีน้อยใหญ่ที่ช่วยกันแชร์บทความ ‘เรื่องราวของฉันกับฤดูใบไม้ผลิ’ ต่างก็ลบโพสต์บล็อกของตัวเอง ยกเลิกการกดไลก์ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
ทว่ามีบางคนที่ตอบสนองช้าหรือออฟไลน์ไปแล้ว ผลสรุปคือถูกพื้นที่แสดงความคิดเห็นลบหายไปอย่างรวดเร็ว…ไม่อายเหรอไง
ส่วนบล็อกของก๊วนข้าวปั้นยิ่งถูกแฟนคลับของลู่เฉินกับแฟนคลับขาจรนับพันนับหมื่นด่าซะเละ!
เนื่องจากบัญชีของก๊วนข้าวปั้นถูกปิดไปแล้ว ดังนั้นต่อให้เขาอยากจะลบความคิดเห็นหรือลบโพสต์บล็อกก็ทำไม่ได้ จึงได้แต่มองตัวเองถูกคนเฆี่ยนตีอย่างรุนแรงต่อหน้าต่อตา
บัญชีวีไอพีกลายเป็นบัญชีร้างเสียส่วนใหญ่
แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ตรงกันข้าม บล็อกของลู่เฉินกลับฟื้นฟูสู่ภาวะปกติ มีแฟนคลับขาจรจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจผิดและทยอยมาขอโทษเขา ทั้งยังกดไลค์เป็นแฟนคลับของเขา บรรยากาศของพื้นที่แสดงความคิดเห็นเกิดความคึกคักปรองดองกัน
เดิมทีมีพวกสร้างกระแสลบที่เป็นปรปักษ์กับลู่เฉิน แต่ก็หายเกลี้ยงไปภายในพริบตาเดียว
กระแสบนอินเทอร์เน็ตก็เป็นแบบนี้ มักจะมาไวไปไวเสมอ เว้นเสียแต่ว่ามีคนคอยส่งเสริมสนับสนุน มิฉะนั้นเวลาในการสร้างกระแสจะสั้นมาก จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ที่ถูกจับได้แบบจับให้มั่นคั้นให้ตาย
เวลาห้าทุ่มสี่สิบเจ็ดนาที ถานหงที่มีแฟนคลับมากกว่ายี่สิบล้านคนพูดในบล็อกของตัวเอง
เขาแสดงการสนับสนุนลู่เฉินอย่างเต็มที่ผ่านบล็อก หวังว่ากรณีถูกกล่าวหาว่าขโมยผลงานจะไม่มีผลกระทบต่อการแสดงความสามารถในการแข่งขันที่เมืองปี้ไห่คืนนี้ ไม่อย่างนั้นคงน่าเสียดายมากจริงๆ
ถานหงยังรู้สึกเสียใจอย่างลึกซึ้งต่อชาวเน็ตมากมาย เพราะชาวเน็ตเหล่านี้ถูกหลอกให้เข้าใจผิดง่ายมาก คนหลอกลวงแต่งเรื่องที่น่าประทับใจก็ซาบซึ้งแล้ว ผลสรุปเป็นแค่การกล่าวหาเด็กหนุ่มที่มีความสามารถยอดเยี่ยมคนหนึ่ง
แท้จริงแล้วช่องโหว่ที่ใหญ่ที่สุดของโพสต์บล็อก ‘เรื่องราวของฉันกับฤดูใบไม้ผลิ’ ก็คือหลังจากที่นักร้องเร่ร่อนพเนจรสร้างผลงานเพลงออกมา ไม่มีการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ก็ไม่เป็นไร ทว่ากลับไม่มีการขอบันทึกลงเว็บไซต์กับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ ซึ่งขัดต่อหลักเหตุผลทั่วๆ ไป
ต่อให้เป็นฉบับร่าง ขอเพียงลงบันทึกในเว็บไซต์ใหญ่อย่างเฟยซวิ่น ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากก็สามารถยืนยันได้มากพอว่าเป็นผลงานของตัวเอง และก็ยังมีผลบังคับใช้ในชั้นศาลอีกด้วย
ความรู้พื้นฐานทั่วไปเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์แบบนี้ ไม่มีนักร้องคนไหนที่ไม่รู้ และความจริงของเรื่องนี้แค่คิดดูก็รู้แล้ว แต่ชาวเน็ตทั่วไปไม่เข้าใจ จึงเกิดการแพร่ข่าวว่าเป็นการขโมยผลงานของคนอื่น
ถานหงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องที่คล้ายกันแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก อย่าได้ทำลายพลังในการคิดสร้างสรรค์ภายในประเทศอีกต่อไป
หากดูอย่างผิวเผินแล้ว บทความนี้ของถานหงโพสต์ช้าไปนิด และเนื้อหาก็น่าสงสัยเช่นกัน
ความจริงก็คือในขณะที่เขาเสียใจกับความมีจิตใจดีงามของชาวเน็ตที่ไม่รู้ความจริง เขายังตบหน้าคนในวงการที่แชร์โพสต์เหล่านั้นอย่างรุนแรง…พวกเขาไม่รู้เรื่อง แล้วพวกคุณก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันเรอะ
เว้นเสียแต่ว่าจะมีเจตนาอย่างอื่น!
คนเหล่านี้ไม่มีใครสักคนกล้าออกมาตอบโต้ ต่อให้โดนตบหน้าจนฟันร่วงก็คงได้แต่กลืนเลือดเข้าไป
แฟนคลับของถานหงมีมากมาย เมื่อรักใครก็ต้องรักสิ่งของของเขาด้วย ทำให้ความนิยมในบล็อกล่างฉาวของลู่เฉินพุ่งสูงขึ้นอีกแล้ว หลังจากสมัครบัญชีเข้าใช้งานเพียงสองสามชั่วโมงก็ถูกจัดอันดับรายชื่อคนดังหน้าแรก!
หลังจากนั้นเฉินเฟยเอ๋อร์ หลินจื้อเจี๋ย และเจินเจินก็โพสต์บล็อกให้กำลังใจสนับสนุนลู่เฉิน
ในวันที่สอง มีพาดหัวข้อข่าวที่สามของหนังสือพิมพ์บันเทิงแห่งหนึ่งเขียนว่า คณะกรรมการใหญ่รายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ให้การสนับสนุนเด็กใหม่!
ตอนเช้าของวันเดียวกัน ลู่เฉินก็โพสต์บล็อกอันหนึ่ง
เวลานี้คลื่นลมสงบลงแล้ว เพราะการสนับสนุนของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งและถานหงกับคนใหญ่คนดังในวงการ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นในบล็อก โพสต์หรือว่าฟอรัม คำครหาที่ไม่ดีต่อลู่เฉินจึงหายเข้ากลีบเมฆไป
โพสต์ในบล็อกของเขา อย่างแรกคือขอบคุณสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ขอบคุณถานหง เฉินเฟยเอ๋อร์ และคณะกรรมการทั้งสี่คน
จากนั้นลู่เฉินบอกว่า หลังจากผ่านกระแสที่พุ่งเป้ามาที่ตัวเองในบล็อกล่างฉาวติดต่อกันถึงสองครั้ง เขาเข้าใจจิตใจที่โหดร้ายของคนและความซับซ้อนบนโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นจึงขอขอบคุณและซาบซึ้งต่อเหล่าแฟนคลับที่เชื่อมั่นและสนับสนุนตัวเองมาโดยตลอด
เขาอยากบอกกับแฟนคลับทุกคนว่า ถึงแม้ตัวเองจะถูกต่อว่าและเข้าใจผิด ถูกดูถูกสาปแช่งก่นด่า…
แต่เขาก็ยังจะไล่ตามความฝันในโลกดนตรี ด้วยหัวใจที่ยืนหยัดไม่เปลี่ยนแปลง!
คืนพรุ่งนี้ รายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ คือรอบสุดท้ายของการเดินทางแข่งขันทั่วประเทศ ลู่เฉินจะมอบผลงานเพลงใหม่ให้แก่ผู้สนับสนุนทุกคน
ขอให้ทุกคนรอคอย ขอบคุณครับ!
สุดท้ายเขาก็ @ ไปที่สถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ทีมรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ถานหง เฉินเฟยเอ๋อร์ หลินจื้อเจี๋ย เจินเจิน รวมทั้งทีมสนับสนุนลู่เฉิน ซึ่งก็คือทีมบัญชีวีไอพีของขุนศึกตระกูลลู่
บทความที่ค่อนข้างยาวของลู่เฉินมีชื่อว่า ‘ขอบคุณ’ หลังจากโพสต์ออกไปแล้วก็ถูกแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก
บัญชีวีไอพีและบัญชีน้อยใหญ่ที่ถูก @ ต่างให้กำลังใจหรือตอบข้อความกลับมาสนับสนุน
ภายในเวลาสั้นๆ สองสามชั่วโมง จำนวนความคิดเห็นของโพสต์บล็อกก็มีมากกว่าหนึ่งแสน!
และสิ่งที่เหล่าแฟนคลับของลู่เฉินพูดคุยกันมากที่สุด ก็คือผลงานเพลงใหม่ที่เขาจะนำออกมา จึงได้แต่รอคอยการเฉลยปริศนา
…
คืนวันที่ 20 เดือนสิงหาคม เขตแข่งขันในโซนปี้ไห่ของรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ คือการเดินทางแข่งขันทั่วประเทศรอบสุดท้าย จัดขึ้นภายในโรงยิมปี้ไห่ ดำเนินการถ่ายทอดสดให้กับผู้ชมหลายร้อยล้านทั่วประเทศตรงตามเวลา
ภายในโรงยิมปี้ไห่บรรจุผู้ชมได้ห้าพันคน หลังจากผ่านการปรับแต่งชั่วคราวแล้ว ก็กลายเป็นเวทีการแสดงขนาดใหญ่ได้
ที่นั่งห้าพันเต็มทุกที่นั่ง กล้องทั้งยี่สิบตัวพร้อม ทีมงานทุกคนของรายการประจำที่ ตอนที่นาฬิกาจับเวลากระโดดมาถึงเวลาหนึ่งทุ่มสามสิบนาที เพลงประจำรายการ ‘เดินไปร้องไป’ ก็ดังขึ้นภายในโรงยิม
พิธีกรเดินขึ้นมาบนเวทีอย่างเฉิดฉาย อ่านโฆษณาสั้นๆ ด้วยความเร็วสุดยอด จากนั้นจึงเชิญคณะกรรมการขึ้นมาบนเวที
ถานหง เฉินเฟยเอ๋อร์ หลินจื้อเจี๋ย เจินเจิน…
กรรมการตัดสินชื่อดังทั้งสี่ที่ผู้ชมทั่วประเทศรู้จักต่างทยอยขึ้นเวทีทีละคน การปรากฏตัวของแต่ละคนทำให้เกิดเสียงปรบมือและโห่ร้องอย่างคึกคักสนุกสนาน โดยเฉพาะราชาและราชินีทั้งสองคนซึ่งได้รับการสรรเสริญเยินยออย่างบ้าคลั่ง
ต่อไปนี้ ก็คือการจับฉลากลำดับการแข่งขันที่ทุกคนต้องตื่นเต้น
นักร้องทั้งสิบคนของทีมร้องทัวร์ปะทะกับผู้แข่งขันที่แข็งแกร่งทั้งสิบคนของทีมปี้ไห่ช่างชู โชคชะตาของพวกเขาถูกควบคุมอยู่ในปุ่มกดเล็กๆ ของกรรมการทั้งสี่คน
ถานหงกดปุ่มเป็นคนแรกเพื่อเลือกคู่แข่งขันคู่แรกในค่ำคืนนี้
หน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏรูปภาพของผู้เข้าแข่งขันทั้งยี่สิบคนอย่างรวดเร็ว แบ่งออกเป็นซ้ายขวาและเลื่อนลงไป
จนกระทั่งถานหงกดปุ่มอีกครั้ง หยุด!
ผู้เข้าแข่งขันคู่แรกปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว จางจวิ้นหวาทีมร้องทัวร์จะปะทะกับหลินเหม่ยหรูทีมปี้ไห่ช่างชู
ทั้งสองคนแยกกันขึ้นเวที ต่างหยิบเพลงที่ถนัดแสดงของตัวเองออกมา จากนั้นก็ให้คะแนนโดยกรรมการที่อยู่ในงานและผู้ชมที่อยู่นอกงาน
ผู้ที่ได้คะแนนสูงจะชนะ และได้ตำแหน่งผู้แข็งแกร่งสิบอันดับแรกทั่วประเทศ
ผู้แพ้ก็ต้องตกรอบ การแข่งขันไม่มีรอบแก้ตัว เพราะฉะนั้นจึงโหดกว่าปกติ
กฎเกณฑ์แบบนี้ไม่ยุติธรรมอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนักร้องที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสองคนอาจจะได้ปะทะกัน จากนั้นหนึ่งคนในนั้นก็ต้องถูกเตะออกไป ถ้าไม่ใช่ทีมสิบผู้แข็งแกร่งช่างชู ก็เป็นทีมร้องทัวร์
แต่นี่คือการเพิ่มความตื่นเต้นและเพิ่มการรับชมมากขึ้น เพิ่มหัวข้อสนทนาของรายการได้มากขึ้น
ตลอดการแข่งขัน มีนักร้องจำนวนไม่น้อยที่ตกรอบไปอย่างน่าเสียดายมากจริงๆ
ใช่ว่าพวกเขาไม่เก่ง แต่โชคไม่ดีที่ไปเจอคู่แข่งที่เก่งกว่า จึงไม่มีโชคได้เดินหน้าต่อไป
และลู่เฉินก็คือหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
…………………………………………………………………………
นิยายเรื่องนี้เข้าร่วมโปรโมชั่น
อัปเพิ่มต่อ +1
เพิ่มตอนจากปกติ เวลา 18:00 น. ตลอดช่วงแคมเปญ
18-31 ส.ค. 64 เท่านั้น!
ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
Ink Stone
