Perfect Superstar – ตอนที่ 183 วงเอ็มเอสเอ็น

นครปักกิ่ง อุทยานศิลปะสมัยใหม่

ศูนย์กลางของอุทยานศิลปะสมัยใหม่ก่อตั้งขึ้นในปี 2001 ตั้งอยู่ระหว่างสวนสาธารณะไห่ติ้งกับมหาวิทยาลัยปักกิ่ง มีพื้นที่เกือบ 700 ไร่ เป็นสถานที่สำคัญของศิลปะยุคใหม่ในเมืองหลวงแห่งหนึ่ง

ผ่านการพัฒนามาสิบกว่าปี อุทยานศิลปะยุคใหม่เป็นแหล่งรวมของสำนักงานชื่อดังเกี่ยวกับ การละครและภาพยนตร์ ดนตรี วรรณกรรม และศิลปะสวยงานด้านต่างๆ ทั้งบริษัทน้อยใหญ่และสตูดิโอต่างๆที่มากกว่าพันแห่ง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่ศิลปินมารวมตัวกัน

บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดตั้งอยู่ในอุทยานศิลปะสมัยใหม่เช่นกัน

ในห้องประชุม หลินจื้อเจี๋ยนวดคลึงหว่างคิ้วอย่างอ่อนล้า แววตาปรากฏความวุ่นวายใจ

คนที่นั่งร่วมโต๊ะประชุมสองฝั่งคือรองประธานบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด ผู้จัดการแผนกบริหาร ผู้จัดการแผนกโฆษณา และนักประพันธ์เพลงรวมทั้งฝ่ายผลิตเพลงหลายคนอยู่กันพร้อมหน้า

หัวข้อหลักของการประชุมในวันนี้คือบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดเพิ่งสร้างเกิร์ลกรุ๊ปขึ้นมา…วงเอ็มเอสเอ็น กลุ่มนักร้องสาวสวยกำลังวางแผนทำอัลบั้มของพวกเธอ

วงนักร้องสาวสวยเอ็มเอสเอ็น มีสมาชิกทั้งหมดสามคนคือเอ็ม เอส เอ็น เป็นตัวแทนชื่อแซ่ของพวกเธอ พวกเธออายุแค่ประมาณ 20 ปี ทั้งรูปร่างหน้าตาและความสามารถในการร้องเพลงล้วนโดดเด่น

หลินจื้อเจี๋ยเป็นผู้จัดให้มีการประชุม แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางควบคุมการประชุมได้ดีนัก

แผนการออกอัลบั้มที่กำหนดโดยผู้กำกับเพลงมีการคัดค้านกันอย่างรุนแรง รุนแรงมาก!

เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เกินความคาดหมายของหลินจื้อเจี๋ย แต่เขาอดทนได้ดีมาตลอดไม่ท้อถอยเพียงเพราะประสบความยากลำบาก

“ผมข้อย้ำอีกครั้ง การเชิญลู่เฉินมาช่วยทำอัลบั้มนี้เป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ความคิดสร้างสรรค์ของเขาเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว คู่ควรแก่ความเชื่อมั่น”

วงเกิร์ลกรุ๊ปเอ็มเอสเอ็น เป็นแผนที่บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดตั้งขึ้นเพื่อตลาดวัยรุ่น ตั้งวงเกิร์ลกรุ๊ปขึ้นมาใหม่

สำหรับบริษัทเรคคอร์ดเก่าแก่แห่งนี้ การก่อตั้งวงเกิร์ลกรุ๊ปขึ้นมาไม่ง่ายเลย หลายปีก่อนพวกเขาสร้างวงเกิร์ลกรุ๊ปหลายวงแต่ก็ล้มเหลว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทอย่างใหญ่หลวง

สิ่งที่เรียกว่าคนที่โดนงูกัดจะกลัวเชือกไปหลายสิบปี ถ้าไม่ใช่เพราะการก่อตั้งวงนักร้องกำลังได้รับความนิยมอยู่ตอนนี้ เมื่อนักร้องบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ปกำลังเป็นจุดขายที่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดคงจะต้องตัดสินใจตั้งกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ขึ้นมา

วงเอ็มเอสเอ็นมีสมาชิก 3 คน ล้วนแต่เป็นคนที่หลินจื้อเจี๋ยคัดมากับมือ เพื่อการเปิดตัวแล้วโด่งดัง เขาวางแผนครอบคลุมทั้งการจัดทำเพลงและการโฆษณาอย่างรอบด้าน

สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออัลบั้มของวงเอ็มเอสเอ็น!

หลินจื้อเจี๋ยคิดไม่ถึงว่าวิธีการของเขาจะถูกฝ่ายที่อยู่ในบริษัทขัดขวาง

“ผู้อำนวยการหลิน…”

รองประธานแห่งบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดอี้เซียงจวินหัวเราะ “ลู่เฉินเป็นนักร้องที่ดีเด่นคนหนึ่ง แต่ผลงานเพลงเป็นเพลงโฟล์คซองเป็นหลัก ไม่เหมาะกับสไตล์เพลงวงเอ็มเอสเอ็น แล้วก็…”

หญิงกลางคนวัยสี่สิบกว่า ใช้มือนิ้วเคาะลงบนโต๊ะ เน้นย้ำว่า “ผลงานเพลงของเขาราคาเริ่มต้นที่สามแสนห้าหมื่นหยวน ราคาขนาดนี้ใครจ่ายไหว? ฉันเชื่อว่าบริษัทของเรามีนักแต่งเพลงหลายคนที่ออกผลงานที่ดีได้อยู่แล้ว”

สายตาของเธอเหลือบไปมองนักแต่งเพลงหลายคนที่ได้เซ็นสัญญา ดวงตาส่องประกายเกื้อหนุน

ฝ่ายหลังยืดตัวตรงขึ้น หนึ่งในนั้นคือชายสวมแว่นตาดำแต่งกายภูมิฐานพยักหน้าพูดว่า “เพียงแค่บริษัทต้องการ พวกเราจะร่วมมือกันพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อออกผลงานเพลงชั้นยอดออกมาให้ได้”

เงียบไปครู่หนึ่ง เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ “อย่างน้อยก็ไม่ด้อยกว่าคนอื่น!”

ชายคนนี้ชื่อฟ่านจวิ้นเป็นหนึ่งในนักแต่งเพลงที่เซ็นสัญญากับบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด มีผลงานเพลงโด่งดังในวงการ เคยเขียนเพลงที่โดดเด่นออกมาแล้วมากมาย แต่หลายปีมานี้ออกผลงานดีๆ น้อยลง

ฟ่านจวิ้นทำความร่วมมือกับบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดมาเกือบ 20 ปี มีสถานะสูงส่งในบริษัทเก่าแก่แห่งนี้ ทั้งยังได้รับการหนุนหลังจากอี้เซียงจวิน เขาไม่ต้องกลัวที่จะขัดแย้งกับหลินจื้อเจี๋ย

ในใจของฟ่านจวิ้นไม่พอใจการทำอัลบั้มของหลินจื้อเจี๋ย

ความคิดของหลินจื้อเจี๋ยคือการเชิญคนนอกเข้ามาควบคุมกำกับการทำอัลบั้มแรกของวง เอ็มเอสเอ็น ทั้งยังให้ทำเพลงหลักด้วย ส่วนพวกเขาคนที่ทำงานมานานกลับให้เป็นแค่มือรอง

ถ้าเชิญนักร้องระดับซูเปอร์สตาร์มา ฟ่านจวิ้นจะไม่โต้แย้งเลย

ลู่เฉินเป็นใครกัน?

แค่นักร้องที่เพิ่งเข้าวงการมาไม่นาน โชคดีขายอัลบั้มได้เป็นเทน้ำเทท่า เรียกราคาสูงอย่างน่าตกใจถึงสามแสนห้า ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย

ฟ่านจวิ้นจะยอมได้ยังไง เขาทำงานอยู่ในวงการนี้มาตั้งหลายปี ผลงานเป็นที่รู้โดยทั่วกัน แล้วจะยอมอ่อนข้อให้ผู้น้อยที่ด้อยกว่าได้เหรอ?

หลินจื้อเจี๋ยยังคงยืนยัน เขากล้าเป็นปฏิปักษ์…ไปที่ไหนเขาก็หากินได้อยู่แล้ว!

“นั่นสิ นั่นสิ…”

ฟ่านจวิ้นแข็งกร้าวเต็มที่ คนอื่นพากันคล้อยตาม ต่างหาเหตุผลร้อยแปดมาคัดค้าน

เหตุผลของพวกเขาหนีไม่พ้นราคาที่ลู่เฉินเรียกแพงเกินไป ประสบการณ์น้อยแนวเพลงไม่ถูกเป็นต้น

เกือบจะชี้หน้าหลินจื้อเจี๋ยหาว่าเขาพูดเหลวไหลแล้ว

หลินจื้อเจี๋ยสีหน้ามึนตึงเรียบเฉย

บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดเป็นบริษัทอัดเสียงขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านมรสุมมานับครั้งไม่ถ้วน เกือบจะล้มละลายแล้วยังลุกขึ้นยืนได้ใหม่ ตอนนี้ที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงได้ไม่ง่ายเลย

หลายปีมานี้ บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดพยายามสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แปลกใหม่ให้พัฒนาตามยุคสมัย แก่งแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากบริษัทสื่อต่างๆ ที่กำลังรุ่งเรืองจนได้รับคะแนนความนิยมดี

แต่การต่อสู่ในตลาดรุนแรงเข้มข้น ในสายตาของคนนอกที่มองมารู้สึกว่าเป็นบริษัทใหญ่โตที่เข้มแข็ง แต่หลินจื้อเจี๋ยรู้ดีที่สุดว่าตอนนี้มีปัญหาอะไร

ประการแรกคือนักร้องศิลปินชักหน้าไม่ถึงหลัง

นักร้องที่เซ็นสัญญากับบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดมีไม่น้อย คนที่อยู่ในชั้นแนวหน้ามีหลายคน แต่ทั้งหมดเป็นนักร้องจากยุค 90 ทั้งนั้น การจะดำรงคงไว้นั้นทำได้ แต่หากจะพัฒนานั้นยากเย็น ในบรรดาคนหนุ่มสาวยังขาดเสน่ห์เฉพาะตัว

แน่นอนว่าบริษัทเห็นความสำคัญของการบ่มเพาะคนรุ่นไหม แต่จนถึงตอนนี้คนที่จะขึ้นมาเป็นเสาหลักได้ยังไม่มี!

ในสถานการณ์เช่นนี้ หลินจื้อเจี๋ยจึงผลักดันการก่อกำเนิดของวงเอ็มเอสเอ็น

แต่กลับประเมินการต่อต้านจากคนในบริษัทต่ำเกินไป

หลินจื้อเจี๋ยรู้ดีว่าการที่เป็นผู้อำนวยการเพลง เขาได้รุกล้ำผลประโยชน์ของใครบางคน ดังนั้นจึงถูกคนอื่นมองว่าก้าวก่ายงานชาวบ้าน

ประสบกับการต่อต้านเช่นนี้เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว!

ครื้น~

ตอนนั้นเองที่โทรศัพท์บนโต๊ะสั่นขึ้นมา

หลินจื้อเจี๋ยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ขอโทษนะ ผมขอรับโทรศัพท์ก่อน”

เขารีบลุกขึ้นออกไปจากห้องประชุม ออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก

บรรยากาศในห้องประชุมผ่อนคลายลงทันใด อี้เซียงจวินกับหัวหน้าฝ่ายทั้งหลายพูดคุยกัน ฟ่านจวิ้นกับบรรดาผู้จัดการส่วนตัวของนักร้องคุยเล่นหยอกล้อกัน ราวกับชัยชนะอยู่ในกำมือ

ทุกคนคัดค้านอย่างรุนแรงเช่นนี้ แผนของหลินจื้อเจี๋ยต้องจบสิ้น

ทั้งหมดจะกลับคืนสู่หนทางเส้นเดิม

ผ่านไปครู่หนึ่งหลินจื้อเจี๋ยก็กลับมา

เขาไม่ได้นั่งลงที่เดิม แต่กลับโบกโทรศัพท์ต่อหน้าทุกคนบอกว่า “เรื่องนี้เอาไว้ก่อนเถอะ!”

อี้เซียงจวินขมวดคิ้วแย้งว่า “ผู้อำนวยการหลิน แบบนี้ไม่ดีมั้ง? ทุกคนงานยุ่งมาก ฉันคิดว่ายังไงก็ต้องสรุปวิธีใหม่ออกมา เพื่อไม่ให้เสียเวลา พรุ่งนี้บริษัทจะปิดยาวในวันหยุดวันชาติจีน!”

เธอคิดว่าหลินจื้อเจี๋ยกำลังเล่นเกมถ่วงเวลา จึงเตรียมตัวจะขอแรงสนับสนุนจากผู้ใหญ่หลายคนในบริษัท

หลินจื้อเจี๋ยหัวเราะ “ผมเองก็อยากสรุปออกมาเลย แต่คุณเฉินเฟยเอ๋อร์กำลังมาที่นี่ เชื่อว่าทุกคนก็รู้ว่าอัลบั้มใหม่ของเธอให้บริษัทของเราเป็นผู้จัดทำ”

เฉินเฟยเอ๋อร์กับบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดได้ร่วมมือทำงานร่วมกันมานานมากแล้ว อัลบั้มของเธอทุกอัลบั้มล้วนสำคัญกับบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดที่สุด ต้องไม่ให้เกิดเรื่องผิดพลาดหรือชักช้าเลยแม้แต่น้อย

ความสำคัญในเรื่องนี้ อี้เซียงจวินคาดคะเนได้

แต่เธอยังคลางแคลงใจ “ผู้อำนวยการหลิน เฉินเฟยเอ๋อร์มาเพื่ออัลบั้มใหม่ของเธอ?”

ไม่เห็นมีการประกาศจากบริษัทเลย!

หลินจื้อเจี๋ยพยักหน้า “ไม่ผิดหรอกเธอมากับลู่เฉิน เพราะคุณเฉินเฟยเอ๋อร์ได้เลือกเพลงสองเพลงของลู่เฉินที่แต่งให้ลงในอัลบั้ม เป็นเพลงหลักและเพลงรองในอัลบั้มใหม่!”

อะไรนะ? !

คนที่อยู่ในนี้ทั้งหมดประหลาดใจ

เฉินเฟยเอ๋อร์ถึงกับเลือกผลงานเพลงของลู่เฉินเป็นเพลงหลักของอัลบั้มใหม่ถึงสองเพลง!

เธอเป็นถึงซูเปอร์สตาร์ราชินีนักร้องเชียวนะ!

ลู่เฉินเก่งกาจมาจากไหน?

ฟ่านจวิ้นใบหน้าร้อนผ่าว รู้สึกขายหน้า

อัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ ฟ่านจวิ้นรู้มานานแล้ว

ฟ่านจวิ้นเคยมีความคิดที่ทะเยอทะยานแม้กระทั่งว่าจะได้ทำเพลงหลักให้กับอัลบั้มนี้ ถ้ามันเกิดขึ้นจริง กิจการของเขาและชื่อเสียงก็จะได้ก้าวขึ้นสู่ความสูงส่งอีกครั้ง

แต่ฟ่านจวิ้นรู้ดีว่า ตัวเองยังฝีมือไม่ถึงหากแค่ทำเพลงกลุ่มหรือทำทำนองให้อาจจะยังพอไหว แต่การเขียนเพลงใหม่ทั้งเพลงนั้นอย่าได้หวัง

คิดไม่ถึงเลยว่าเพลงหลักของเฉินเฟยเอ๋อร์จะเลือกผลงานเพลงของลู่เฉินคนที่เขาดูแคลน

นอกจากนี้ ลู่เฉินยังแต่งเพลงหลักให้กับเฉินเฟยเอ๋อร์ได้ แสดงว่าการจะทำอัลบั้มให้วงเอ็มเอสเอ็นนั้นไม่ได้ยากเย็น

เหตุผลที่พวกเขาใช้คัดค้านในตอนแรก กลายเป็นเรื่องขำขันไปเสียได้!

ไม่ว่าจะเป็นฟ่านจวิ้นหรืออี้เซียงจวินต่างรู้สึกเหมือนถูกตบหน้ากลางที่ประชุม

เห็นสีหน้าของหลายๆ คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว หลินจื้อเจี๋ยรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อวานผู้ช่วยของเฉินเฟยเอ๋อร์ได้แจ้งเขามาว่า วันนี้ช่วงเช้าเฉินเฟยเอ๋อร์จะมาที่บริษัทเฟยสือเรคคอร์ด

หลินจื้อเจี๋ยเพิ่งรู้ถึงเหตุผลที่เธอมาในคราวนี้

ความจริงแล้วเขาก็ประหลาดใจเช่นกัน คิดไม่ออกว่าทำไมเฉินเฟยเอ๋อร์ถึงเลือกลู่เฉิน

ด้วยตำแหน่งของเฉินเฟยเอ๋อร์ในวงการ จะเชิญนักแต่งเพลงชั้นเซียนใครก็ได้ ไม่มีนักแต่งเพลงคนไหนปฏิเสธเธอได้

ถ้ารู้ว่าอัลบั้มชุดนี้ เฉินเฟยเอ๋อร์มีแนวคิดเปลี่ยนสไตล์ การทำเพลงจะยิ่งยากลำบากขึ้น หากประสบความสำเร็จ ก็จะส่งผลมากมายตามมา!

ลู่เฉินเขียนเพลงอะไรกันแน่ ถึงทำให้ราชินีสาวประทับใจได้ถึงเพียงนี้?

หลินจื้อเจี๋ยสงสัยเหลือทน!

แต่ดูภายนอกเขาไม่ได้แสดงออก พูดแค่ว่า “อัลบั้มของวงเอ็มเอสเอ็น เอาไว้ค่อยคุยกันวันหลัง ผมไปต้อนรับคุณเฉินเฟยเอ๋อร์ก่อน ประธานอี้จะไปด้วยกันไหม?”

ครั้งนี้ไม่มีใครเสนอข้อโต้แย้งออกมาอีก นักแต่งเพลงนักแต่งทำนองหลายคนมองหน้ากันไปมา

อี้เซียงจวินรู้สึกเหมือนตัวเองกลืนแมลงวันเข้าไป จะคายก็คายไม่ออก

เธอได้แต่ฝืนยิ้มแล้วตอบว่า “ไปด้วยกันเถอะ”

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Perfect Superstar
Status: Ongoing
อ่านนิยายPerfect Superstarลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปี จำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาล วันหนึ่งเขาฝัน...เป็นความฝันที่ยาวนานมาก โลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้า ตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกัน นักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระ เขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝัน เมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมา เป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset