Perfect Superstar – ตอนที่ 205 เพลงหลักวงเอ็มเอสเอ็น

ตอนที่ 205 เพลงหลักวงเอ็มเอสเอ็น

บริษัทเฟยสือเรคคอร์ด ในห้องทดลองฟัง

บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดเป็นบริษัทเก่าแก่ในวงการย่อมต้องมีรากฐานลึกล้ำมั่นคง ทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานถือได้ว่าเป็นของชั้นเยี่ยม ห้องทดลองฟังก็เหมือนกัน

ในห้องทดลองฟังแม้พื้นที่ไม่กว้างมาก แต่ตกแต่งอย่างเข้มงวดตรงตามมาตรฐานชั้นหนึ่งทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นพื้นห้อง ผนัง หรือระบบเสียงและภาพล้วนทันสมัย

มีเก้าอี้เฉพาะที่เข้ากัน ทั้งหมดรวมกันแล้วดูเหมือนมีโรงภาพยนตร์มาตรฐานระดับสูงอยู่ในบ้าน

วันนี้เป็นวันพิเศษ ในห้องทดลองฟังที่รองรับผู้ฟังได้ 24 คนไม่มีที่นั่งว่างหลงเหลืออยู่เลย ยังมีหลายคนที่ยืนอยู่ตรงทางเดิน บอกได้ว่าเบียดเสียดกันพอสมควร

แต่ละคนที่นั่งอยู่ล้วนแล้วแต่เป็นพนักงานระดับสูงของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดทั้งนั้น

ทั้งรองประธานอี้เซียงจวิน ผู้อำนวยการเพลงหลินจื้อเจี๋ย ผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ ผู้จัดการแผนกบริหาร นักแต่งเพลงที่เซ็นสัญญาอย่างฟ่านจวิ้นและอีกหลายๆ คนอยู่ในที่นั้นทั้งหมด รวมทั้งเหล่าตัวเอกของการทดลองฟังครั้งนี้…วงเอ็มเอสเอ็น

นอกจากนี้ เซี่ยกั๋วหยวน ประธานของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดก็มาด้วย

เซี่ยกั๋วหยวนปีนี้อายุห้าสิบกว่า เขาบริหารบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดมากว่ายี่สิบปี ตั้งแต่บริษัทรุ่งโรจน์ถึงขีดสุดจนกระทั่งถดถอย และกำลังจะรุ่งเรืองขึ้นใหม่อีกครั้ง มีอำนาจและความน่าเชื่อถืออย่างสูงในบริษัทแห่งนี้

ในวงการ ทุกคนให้คำนิยามแก่เซี่ยกั๋วหยวนว่าเป็นคนหลักแหลม แข็งแกร่ง และร้ายกาจ เส้นสายของเขามีอย่างมากมาย ดำเนินการเรื่องใดๆ ด้วยความรวดเร็ว แม้จะเป็นคนเก่าแก่แต่ก็สามารถยอมรับในเรื่องใหม่ได้

วงหญิงล้วนอย่างเอ็มเอสเอ็นตั้งขึ้นมาได้ ล้วนเป็นผลจากการผลักดันของเซี่ยกั๋วหยวนและหลินจื้อเจี๋ย ดังนั้นเขาจึงมาทดลองฟังเพลงหลักด้วยตัวเองในวันนี้

ไม่เช่นนั้นแค่เพลงเพลงเดียว ต่อให้เป็นเพลงหลัก ก็ยังไม่คู่ควรให้เขามาปรากฏตัวได้

ช่วงก่อน ภายในบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดมีความคิดเห็นต่ออัลบั้มแรกของวงเอ็มเอสเอ็นที่แตกต่างกัน คิดว่าเงินลงทุนนั้นมากเกินไป ทำให้เกิดความเสี่ยงที่มากขึ้นตามมา

โดยเฉพาะการเชิญลู่เฉินมาแต่งเพลงและช่วยทำเพลงนั้น ต้องจ่ายเงินมากถึงหนึ่งล้านหยวน

การปฏิบัติต่อนักแต่งเพลงหน้าใหม่คนหนึ่งเช่นนี้ ในบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดยังไม่เคยปรากฏมาก่อน

แม้ลู่เฉินจะเก่งกาจมีความสามารถล้นเหลือ อัลบั้มส่วนตัวของเขายังได้รับการยอมรับจากตลาด แต่ก็ยังมีคนคิดสงสัยไม่เชื่อมั่น ถึงขั้นคิดว่ามีการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจอยู่เบื้องหลัง

นี่ทำให้หลินจื้อเจี๋ยเกิดความกดดันอย่างมหาศาล จนช่วงหลังมานี้ที่เพลงของลู่เฉินได้ขึ้นติดชาร์ตอันดับเพลงจีนทุกเพลง กวาดชาร์ตเรียบจนสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ ความเคลือบแคลงใจทั้งหลายถึงได้ลดน้อยลง

แต่ก็ยังคงเหลืออยู่

วันนี้ที่เซี่ยกั๋วหยวนมานั่งอยู่ตรงนี้ ความจริงแล้วเพื่อช่วยหนุนหลังให้หลินจื้อเจี๋ย

นอกจากผู้บริหารระดับสูงของเฟยสือเรคคอร์ดแล้ว บริษัทยังเชิญผู้เชี่ยวชาญในวงการเพลงอีกหลายคนมาร่วมด้วย

หนึ่งในนั้นคือบรรณาธิการนิตยสารป็อบมิวสิคที่ชื่อเจินเจิน เธอสนิทสนมกับหลินจื้อเจี๋ย และสนใจในอัลบั้มแรกของวงเอ็มเอสเอ็นมาก วันนี้จึงได้รับเชิญมาด้วย

นอกจากนี้ยังมีดีเจประจำคลื่นวิทยุเพลงเพราะอีกสองคน และนักวิจารณ์ดนตรีที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งคน

ความพร้อมหน้าพร้อมตานี้ทำให้นักร้องสาววงเอ็มเอสเอ็นทั้งสาม มู่เสี่ยวชู ซูเจียเจีย และหนิงเถียนต่างตื่นตระหนก พวกเธอนั่งอยู่ในมุมหนึ่งของห้องทดลองฟัง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง

ความจริงเด็กสาวทั้งสามรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเพลงนี้มีความหมายและมีความสำคัญต่ออัลบั้มแรกของพวกเธอ!

ประตูห้องทดลองฟังถูกเปิดออก พนักงานของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดเดินนำชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามา

พวกมู่เสี่ยวชูนั่งอยู่ใกล้กับประตู จึงเห็นเขาก่อนใคร

พวกเธอรีบลุกขึ้นยืน พูดอย่างพร้อมเพรียงกับชายหนุ่มว่า “อาจารย์ลู่ สวัสดีค่ะ!”

เสียงใสกังวานของวงเอ็มเอสเอ็นทำให้ทุกคนในที่นั้นสะดุ้ง ทั้งเซี่ยกั๋วหยวน อี้เซียงจวิน และหลินจื้อเจี๋ย…

พวกเขาพากันลุกขึ้นยืน

ผู้มาถึงคือลู่เฉิน เขาคิดไม่ถึงว่าคนที่มาทดลองฟังเพลงในวันนี้จะมากมาย เขาตกใจมากเหมือนกัน

ลู่เฉินพยักหน้าให้พวกมู่เสี่ยวชูทั้งสามคน แล้วเขาก็หันไปพนมมือขอโทษหลินจื้อเจี๋ย “ขอโทษจริงๆ ครับที่ให้ทุกท่านรอนาน เมื่อกี้รถติดมาก”

หลินจื้อเจี๋ยหัวเราะ “คุณไม่ได้มาสายหรอก ผมขอแนะนำก่อน ท่านนี้คือท่านประธานบริษัท…”

เขาแนะนำเซี่ยกั๋วหยวนให้ลู่เฉินรู้จัก

ลู่เฉินมาที่บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับผู้บริหารสูงสุด

เขาได้ยินชื่อเสียงของเซี่ยกั๋วหยวนมานานแล้ว…เป็นผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง!

เซี่ยกั๋วหยวนจับมือกับลู่เฉิน ยิ้มพลางพูดว่า “คุณลู่เฉินยังหนุ่มแต่เก่งมาก บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดได้ร่วมงานกับคุณ เป็นความโชคดีของพวกเราโดยแท้!”

ความชมเชยเช่นนี้เป็นการยกย่องอย่างสูง ทำให้ลู่เฉินรู้สึกตื่นตระหนกนิดๆ

หลินจื้อเจี๋ยได้แนะนำอีกหลายคนให้เขารู้จัก

รวมทั้งบรรณาธิการของนิตยสารป็อบมิวสิค เจินเจิน ทุกคนล้วนเคารพและเกรงอกเกรงใจลู่เฉินทั้งนั้น

ความเคารพแบบนี้ไม่เพียงแต่ด้วยมารยาท ยังเป็นเพราะฐานะของลู่เฉินในวงการเพลงด้วย เขาไม่ได้เป็นเพียงผู้ชนะเลิศรายการขับร้องให้ก้องจีนเท่านั้น เขายังสามารถยืนหยัดสร้างผลงานของตัวเองขึ้นมาจนมีชื่อเสียงโด่งดัง

ตอนนี้ลู่เฉินเป็นซูเปอร์สตาร์แล้ว มีผลงานเพลงทั้งหมดสิบเอ็ดเพลงที่ติดอันดับเพลงจีนยอดนิยมพร้อมกัน!

นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ยังไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน เพียงพอต่อการได้รับความเคารพจากคนอื่น

หลังจากเสร็จพิธีรีตอง ลู่เฉินนั่งลงข้างเซี่ยกั๋วหยวน

ที่นั่งตรงนี้เก็บไว้ให้เขาโดยเฉพาะ

หลินจื้อเจี๋ยลงมือปรับตั้งอุปกรณ์ด้วยตัวเอง ก่อนเริ่มทดลองฟังเขาพูดว่า “ขอบคุณเพื่อนร่วมงานและเพื่อนในวงการทุกท่านที่มาร่วมทดลองฟังเพลงหลักในอัลบั้มแรกของวงเอ็มเอสเอ็น เพลงนี้ลู่เฉินเป็นผู้แต่งเนื้อร้องและทำนอง ทั้งยังร่วมเรียบเรียงเสียงประสานและทำหน้าที่โปรดิวเซอร์คู่กันกับผมด้วย หลังจากฟังจบแล้ว ขอคำชี้แนะจากทุกท่านด้วยครับ”

ในห้องทดลองฟังมีเสียงปรบมือดังขึ้นเปาะแปะ

หลินจื้อเจี๋ยยิ้มเล็กน้อย “เพลงนี้มีชื่อว่า ยังไม่ใช่คนรัก”

เขาพูดจบเอื้อมมือไปกดปุ่มบนแท่นควบคุม

ในห้องทดลองฟังเงียบเสียงลง

ทำนองเพลงดังขึ้น

‘ทำไมถึงต้องคุยกับเธอทั้งคืน

ทำไมเพิ่งบอกลาก็อยากเจออีก

ในบรรดาเพื่อน

เธอเป็นคนพิเศษที่สุด

ทำให้ฉันรู้สึกคุ้นเคยใกล้ชิด

ทำไมเธอต้องสนใจว่าใครเดินข้างฉัน

ทำไมเธอต้องแคร์ว่าใครปิ๊งฉัน

เธอบอกว่าเธอ

ทำอะไรให้ฉันมากกว่าคนอื่น

แต่ไม่บอกว่ามากกว่าตรงไหน

มากกว่าเพื่อน

แต่ไม่ถึงขั้นคนรัก

ความอ่อนหวาน ความกังวล

ความสุขผสมปนเปกัน

ต่อไปพวกเรา

จะเป็นอย่างไร

ฉันอยากรู้คำตอบจนแทบทนไม่ไหว

…”

เพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ เป็นเพลงที่ลู่เฉินเลือกให้เป็นเพลงหลักในอัลบั้มแรกของวงเอ็มเอสเอ็น

ความหมายของเพลงนี้มาจากคำในภาษาญี่ปุ่นที่ว่า ‘สถานะมากกว่าเพื่อน แต่ยังไม่ถึงขั้นคนรัก’ แสดงถึงความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เหนือกว่าการเป็นเพื่อนธรรมดา แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นคนรักกัน

เหมาะจะใช้บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวที่เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน!

ท่อนแรกของเพลงนี้แบ่งเป็นสามช่วง นักร้องทั้งสามของวงเอ็มเอสเอ็นแบ่งกันร้องคนละช่วง พวกเธอใช้น้ำเสียงอันหวานเชื่อมหรือเสียงอันสดใสของตัวเองถ่ายทอดการรอคอยและอารมณ์ที่ถลำลึกในความรักของเด็กสาว สะท้อนถึงความเพ้อฝันและความต้องการของเธอในช่วงเวลาอันน่าอึดอัดนี้

เสียงเพลงเข้าไปกระทบหูของทุกคนในที่นั้น!

เสียงร้องเพลงของมู่เสี่ยวชู ซูเจียเจีย และหนิงเถียน ที่ร้องได้เข้าถึงอารมณ์รักของเด็กสาววัยใสได้อย่างหมดเปลือก ทำนองอันไพเราะและการเรียบเรียงเสียงประสานที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี ดนตรีประกอบที่เรียบง่ายแต่น่าประทับใจ ทำให้ผู้ฟังหลงใหลคล้อยตาม

‘…

เข้ามาอีกนิด

จะให้เธอจูงมือ

ใจกล้าขึ้นอีกหน่อย

ฉันจะเดินไปกับเธอ!

ยังรออะไรอยู่

เวลาเหลือไม่มากแล้ว

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป

คงเป็นได้แค่เพื่อน!

เดินหน้าอีกหน่อย

ฉันก็จะพยักหน้าตกลง

วู่วามสักหน่อย

ฉันจะไม่หลบหนี!

แต่สามคำนี้

อย่าลังเลให้นานนัก

เพียงแค่เธอเอ่ยปาก

เธอก็จะมีฉัน~

…’

ท่อนที่ร้องร่วมกันเป็นท่อนพีคของเพลง ทั้งสามสาวร้องได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ!

ความสงวนท่าทีของวัยรุ่น มิตรภาพของหนุ่มสาว จิตใจที่อ่อนไหวของวัยแรกแย้ม

ความซื่อตรงกับความรู้สึก มอบกำลังใจเพื่อความกล้าหาญ วู่วามในการตามหารักแท้ ทำให้ผู้ฟังนึกย้อนกลับไปถึงวันวานในอดีต กลับไปนึกถึงคนที่เคยคลาดกัน เป็นความอ่อนหวานหรือความเศร้าโศก คงมีแต่ตัวเองเท่านั้นที่รับรู้ได้

ความรักอันแสนไกล ไม่มีสิ่งใดมากเกินไปกว่า เธออยู่ทางซ้าย ฉันอยู่ทางขวา

ความรักที่ควรค่าแก่การโหยหา ไม่มีสิ่งใดมากเกินไปกว่า มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ถึงขั้นเป็นคนรัก!

แม้ได้ฟังเพลงนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่เมื่อได้ฟังแบบฉบับที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว เสียงของพวกเธอยังทำให้ลู่เฉินประทับใจไม่รู้วาย

การเป็นคนหน้าใหม่ในวงการบันเทิง อีกทั้งยังเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด มู่เสี่ยวชู ซูเจียเจีย และหนิงเถียนมีหรือจะไม่ต้องรองรับแรงกดดันมหาศาล หลายคนจับจ้องที่พวกเธอ และคอยติดตามข่าวของพวกเธอ

การติดตามเช่นนี้ไม่ได้มีแค่ความหวังดีอย่างเดียว ยังมีคนที่คอยจะหัวเราะเยาะพวกเธออยู่ด้วย

วงเอ็มเอสเอ็นแบกรับความกดดันเอาไว้มากมาย หลังจากได้รับโน้ตเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ มาจากลู่เฉิน พวกเธอตั้งใจพยายามฝึกฝนครั้งแล้วครั้งเล่า ต่อให้มีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย พวกเธอก็ต้องแก้ใหม่อีกนับครั้งไม่ถ้วน

ตอนนี้ ความพยายามของเด็กสาวทั้งสามได้ผลิดอกออกผลอย่างงดงาม

แม้สุดท้ายแล้วยังต้องรอผลตอบรับจากตลาด แต่อย่างน้อยตอนนี้ภายในห้องทดลองฟัง ทั้งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดและแขกที่เชิญมาต่างตกสู่ภวังค์ของเสียงเพลง

ท่าทีสีหน้าของพวกเขาได้บอกทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว

‘เธอรีบตัดสินใจหน่อยได้ไหม พูดกับฉันว่าฉันรักเธอ’

วงเอ็มเอสเอ็นร้องท่อนสุดท้ายจบ ดนตรีจบลง เสียงปรบมือดังขึ้นกึกก้อง!

เซี่ยกั๋วหยวนเป็นคนแรกที่ยืนขึ้น ปรบมืออย่างแรง

ในบรรดาคนที่นั่งอยู่ทั้งหมด เขาอายุมากที่สุด เป็นคนที่ไม่น่าถูกเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ทำให้หวั่นไหวได้

เพราะคนที่เหมาะจะฟังเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ คือวัยรุ่น

แต่ประธานบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดฟังแล้วรู้ว่าเพลงนี้มีความจริงใจและมีค่า

มีค่าพอที่จะให้เขาชื่นชมและปรบมือให้!

ทั้งหลินจื้อเจี๋ย ลู่เฉิน และวงเอ็มเอสเอ็น ไม่ทำให้เขาผิดหวัง

คนอื่นลุกขึ้นยืนตาม ปรบมือให้กับเด็กสาวทั้งสามที่นั่งอยู่ด้านหลังด้วยเสียงอันดังสนั่น

“เพลงดี!”

“ดีมากจริงๆ ร้องได้เพราะมาก”

“เพลงนี้ติดชาร์ตแน่นอน อย่างน้อยติดหนึ่งในสิบอันดับ!”

เพลงนี้ทำให้คนในวงการอย่างพวกเขาคาดเดาได้ว่า อัลบั้มใหม่ที่มีศักยภาพทางการตลาดถึงขั้นโด่งดังขายดิบขายดีกำลังจะคลอดแล้ว วงเอ็มเอสเอ็นจะโด่งดังแน่นอน เหลือเพียงแค่รอเวลาเท่านั้น!

มู่เสี่ยวชู ซูเจียเจีย และหนิงเถียนได้รับคำชมเชยจากผู้ใหญ่อย่างคาดไม่ถึง พวกเธอยืนขึ้นทำตัวไม่ถูก ใบหน้าแดงเรื่อ จากนั้นก้มโค้งตัวแสดงความขอบคุณ

สุดท้ายสายตาของวงเอ็มเอสเอ็นหันกลับมาจ้องที่ลู่เฉิน

เพราะพวกเธอรู้ว่าใครคือคนที่ทำให้พวกเธอได้รับทั้งหมดนี้!

…………………………………………………………………………………….

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Perfect Superstar
Status: Ongoing
อ่านนิยายPerfect Superstarลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปี จำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาล วันหนึ่งเขาฝัน...เป็นความฝันที่ยาวนานมาก โลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้า ตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกัน นักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระ เขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝัน เมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมา เป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset