Perfect Superstar – ตอนที่ 206 พระเอก

ตอนที่ 206 พระเอก

“ลู่เฉิน ครั้งนี้โชคดีที่ได้คุณมาช่วย…”

ในออฟฟิศของผู้อำนวยการเพลงแห่งบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด หลินจื้อเจี๋ยหัวเราะคิกๆ พูดกับลู่เฉิน “ยินดีที่ได้ร่วมงานกัน!”

เพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ เป็นเพลงหลักของอัลบั้มแรกของวงเอ็มเอสเอ็น ที่ลู่เฉินเป็นผู้แต่ง ทั้งยังร่วมเรียบเรียงเสียงประสานและควบคุมการผลิตเพลงคู่กับหลินจื้อเจี๋ย เพิ่งลองเปิดในห้องทดลองฟังเป็นครั้งแรก ได้รับคำชื่นชมจากผู้บริหารระดับสูงและเพื่อนร่วมวงการ

เพลงนี้เหมาะกับจุดเด่นของวงเอ็มเอสเอ็น แม้ตลอดเวลาที่ทำเพลงหลินจื้อเจี๋ยจะมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมมาโดยตลอดก็ตาม แต่จนถึงตอนนี้ที่ผลสำเร็จปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาถึงได้วางใจอย่างแท้จริง

ผู้อำนวยการเพลงแห่งบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดคนนี้มีประสบการณ์ช่ำชอง เคยเป็นโปรดิวเซอร์ทำเพลงมาแล้วหลายอัลบั้ม ผู้ที่ร่วมงานด้วยมีแต่ดาราไอดอลระดับซูเปอร์สตาร์ทั้งนั้น เรียกได้ว่าเผชิญกับลมมรสุมมานักต่อนักจนคุ้นเคยแล้ว ตามหลักแล้วเขาไม่ควรต้องเคร่งเครียดถึงขนาดนี้

เหตุผลคือช่วงก่อนหน้านี้ในบริษัทเกิดความเห็นที่ไม่ตรงกัน ทำให้เขารู้สึกกดดันถึงขีดสุด

โดยเฉพาะเมื่อหลินจื้อเจี๋ยตัดสินใจว่าจะขอเพลงจากลู่เฉิน นำมาซึ่งคำครหามากมาย

ลู่เฉินตั้งราคาสามแสนห้าหมื่นหยวนต่อเพลง ขายเพลงให้บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดด้วยราคาเป็นมิตรก็ยังตั้งสามแสนหยวน ไหนจะบวกค่าเหนื่อยทำเพลงอีก ทั้งหมดเป็นราคาของนักแต่งเพลงขั้นเทพ

เขาเป็นเพียงคนหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการมา มีสิทธิ์เรียกราคาสูงขนาดนี้ได้เหรอ

มีบางคนถึงขนาดสงสัยว่าหลินจื้อเจี๋ยรับสินบนใต้โต๊ะ! จนกระทั่งผลงานเพลงของลู่เฉินล้วนขึ้นไปติดอันดับเพลงยอดนิยม คำครหานี้ถึงได้ซาลงในบริษัท

ยังมีบางคนที่คิดว่าหลินจื้อเจี๋ยคว้าวงเอ็มเอสเอ็นกับอัลบั้มแรกของพวกเธอไว้แน่น เป็นการกระทำที่แย่งอำนาจหน้าที่ของผู้อื่น

บางคนรอหัวเราะเยาะกับความล้มเหลวของเขา!

การทดลองฟังในวันนี้ผ่านไปอย่างราบรื่น อนาคตของวงเอ็มเอสเอ็นสดใสมั่นคง หลินจื้อเจี๋ยต้องขอบคุณลู่เฉินมากกว่าใคร

เขานับถือสายตากับการตัดสินใจอันเฉียบคมของตัวเองด้วย

ลู่เฉินยิ้ม “พี่หลินไม่ต้องเกรงใจครับ อัลบั้มส่วนตัวของผมยังต้องพึ่งพี่อีกมาก!”

อัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ สิ้นสุดการระดมทุนไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้แผ่นซีดีและของที่ระลึกอื่นได้ปล่อยให้ทางบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดเป็นผู้จัดทำ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี สัปดาห์หน้าจะได้ส่งออกไปทั่วประเทศ

ขั้นตอนเหล่านี้ หลินจื้อเจี๋ยลงแรงไปไม่น้อย

หลินจื้อเจี๋ยหัวเราะเสียงดัง “พวกเราทำธุรกิจ จะปฏิเสธลูกค้าได้ยังไง พูดว่าช่วยเหลืออะไรกัน…”

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “แต่ผมมีเรื่องที่จะให้คุณช่วยจริงๆ”

ลู่เฉินถามอย่างสงสัย “เรื่องอะไรครับ”

หลินจื้อเจี๋ยอมยิ้ม “ทางเราเตรียมตัวถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลงหลักของวงเอ็มเอสเอ็น ตอนนี้ยังขาดพระเอกมิวสิควิดีโอ”

พระเอกมิวสิควิดีโอเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’?

ลู่เฉินคิดไม่ถึงว่าหลินจื้อเจี๋ยจะอยากให้เขามาแสดงเป็นพระเอกมิวสิควิดีโอของวงเอ็มเอสเอ็น!

ที่บอกว่ามีเรื่องให้ช่วยเหลือนั้นน่าขำสิ้นดี มีศิลปินมากมายที่อยู่ภายใต้เรือธงของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด ถ้าจะหาคนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับลู่เฉิน ทั้งยังมีรูปลักษณ์ดีพร้อมสักคนเป็นเรื่องง่ายดาย

งานดีๆ แบบนี้มีแต่คนแก่งแย่งกันอยากได้ ผลประโยชน์จากบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดจะส่งมาถึงลู่เฉินได้ยังไง

ลู่เฉินไม่เชื่อ “พี่หลิน อย่าล้อเล่นเลยครับ”

หลินจื้อเจี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ไม่ได้ล้อเล่น คุณเป็นคนแต่งเพลงนี้ แถมยังมีคุณสมบัติตามที่เราต้องการ มีจุดโปรโมตที่ทำให้โด่งดังได้ ผมคิดว่าคุณเหมาะที่สุด!”

ที่แท้ต้องการให้ช่วยโปรโมตนี่เอง!

ลู่เฉินเข้าใจแล้ว บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดทุ่มเทเต็มที่เพื่อให้วงเอ็มเอสเอ็นมีชื่อเสียง

ด้วยสถานะและชื่อเสียงของเขา การแสดงเป็นพระเอกมิวสิควิดีโอให้กับวงเอ็มเอสเอ็นเป็นวิธีการโปรโมตที่ดีมาก

ลู่เฉินคิดเล็กน้อย ก่อนจะถามว่า “จะเริ่มถ่ายเมื่อไหร่ครับ”

หลินจื้อเจี๋ยตอบว่า “วันมะรืนนี้ถ่ายทำ คุณพอจะมีเวลาว่างไหม? อย่างมากไม่เกินสองวันก็ถ่ายเสร็จ ฉากหลักทั้งหมดอยู่ในมหาวิทยาลัย ดังนั้นไม่เสียเวลามากมาย”

“ส่วนค่าตอบแทนการแสดง พวกเราจำกัดจำนวนเงินไว้ สามหมื่นคุณคิดว่าไง”

มิวสิควิดีโอไม่เหมือนกับโฆษณา ละคร หรือภาพยนตร์ อย่างบทพระเอกที่ลู่เฉินรับเล่นให้กับวงเอ็มเอสเอ็น ปกติแล้วมักจะคิดกันในราคามิตรภาพ สามหมื่นนั้นถือว่าไม่เลวเลย

ถ้าเลือกศิลปินของทางบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดเอง คงไม่เสียค่าใช้จ่าย

ลู่เฉินเข้าใจสถานการณ์ดี เขาพยักหน้ารับปาก “ค่าตอบแทนผมไม่มีปัญหา แต่ผมมีเงื่อนไขหนึ่งอย่าง…”

เรื่องแบบนี้ปกติแล้วต้องผ่านการเจรจากับลู่ซี แต่เพราะเงินจำนวนไม่มาก ทั้งยังเป็นการช่วยเหลือด้วยมิตรภาพ ดังนั้นเขาจึงรับปาก หลังจากนั้นค่อยให้พี่สาวมาจัดการเรื่องสัญญาทีหลัง

แน่นอนว่าลู่เฉินไม่ถึงกับไม่มีข้อเรียกร้อง เขาต้องมีเงื่อนไขอยู่แล้ว

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม ราชวิทยาลัยดนตรีภาคเหนือ

ราชวิทยาลัยดนตรีภาคเหนือเป็นหนึ่งในสามวิทยาลัยดนตรีที่มีชื่อเสียงของเมืองปักกิ่ง เทียบเท่ากับวิทยาลัยดนตรีแห่งปักกิ่งและวิทยาลัยดนตรีกลาง เป็นสถาบันสอนดนตรีระดับสูงของประเทศ เป็นที่รู้จักในด้านการเปิดกว้างต่อการเรียนรู้และการเรียนรู้อย่างอิสระ

ราชวิทยาลัยดนตรีภาคเหนือให้ความสำคัญกับการปฏิบัติการทางสังคม หลังจากนักศึกษาสำเร็จการศึกษาออกไป ส่วนมากจะเข้าทำงานตามบริษัทสื่อมีเดียต่างๆ มีอิทธิพลกว้างขวางในวงการบันเทิง

เฟยสือเรคคอร์ดเป็นบริษัทหนึ่งที่เปิดทำการมาอย่างยาวนาน มีความสัมพันธ์อันดีกับราชวิทยาลัยดนตรีภาคเหนือ

มิวสิควิดีโอเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ของวงเอ็มเอสเอ็นจึงเลือกมาถ่ายทำที่ราชวิทยาลัยดนตรีภาคเหนือแห่งนี้

บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดให้ความสำคัญกับมิวสิควิดีโอเพลงนี้มาก จัดหาทีมงานฝีมือดีมาอย่างครบครัน แค่ตากล้องที่ถ่ายทำก็ใช้ถึงสามคน ยังมีช่างแต่งหน้า ช่างไฟ ฝ่ายคอสตูมดูแลเสื้อผ้า ฝ่ายอุปกรณ์ และฝ่ายอื่นๆ อีก

ในห้องเรียนที่เป็นขั้นบันไดลาดลงมา ลู่เฉินนั่งอยู่ตรงหน้าเปียโนหลังหนึ่ง

เขาสวมชุดนักศึกษา กำลังจดจ่อกับการเล่นทำนองเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ แสงแดดยามเช้าลอดผ่านใบไม้ทะลุเข้ามาทางกระจกหน้าต่าง สาดส่องใบหน้าและเรือนร่างของเขาให้ยิ่งดูคมเข้มมากขึ้น

สมาชิกวงเอ็มเอสเอ็นทั้งสาม มู่เสี่ยวชู ซูเจียเจีย และหนิงเถียนนั่งอยู่ที่โต๊ะแถวหน้าสุด ใบหน้ายิ้มแย้มชื่นชมบทเพลงที่ลู่เฉินบรรเลง

มู่เสี่ยวชูอยู่ตรงกลาง มีซูเจียเจียและหนิงเถียนประกบซ้ายขวา

นี่คือฉากที่สองของการถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’

ในเนื้อหามิวสิควิดีโอ มู่เสี่ยวชูเป็นนางเอกคู่กับลู่เฉิน ซูเจียเจียกับหนิงเถียนเป็นเพื่อนสนิทของเธอ

เดิมทีบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดเลือกหนิงเถียนเป็นนางเอก เพราะเธอสวยและรูปร่างดีที่สุด

แต่หลินจื้อเจี๋ยคิดว่ามู่เสี่ยวชูดูอ่อนหวาน ใสบริสุทธิ์กว่า เหมาะกับคอนเซ็ปต์หลักของเพลง ดังนั้นสุดท้ายจึงเลือกเธอเป็นนางเอก

ดนตรีเพิ่งบรรเลงไปได้ครึ่งเพลง ลู่เฉินเงยหน้าขึ้นหันมองไปทางที่นั่ง สบตากับมู่เสี่ยวชูพอดี

เขายิ้ม ขยิบตาให้เธออย่างซุกซน

ฝ่ายหลังก้มหน้าลงอย่างเขินอาย ไม่กล้าสบตากับลู่เฉิน เขินอายราวกับกระต่ายขี้ตื่น

แม้รู้ว่านี่เป็นเพียงการแสดง แม้รู้ว่ากล้องสองตัวกำลังจับภาพของตัวเองอยู่ ในใจของลู่เฉินกลับรู้สึกถึงความแปลกประหลาดบางอย่าง นึกถึงกลอนสองประโยคขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ

เธอก้มหน้าอย่างอ่อนโยน เหมือนดอกบัวที่ขวยเขิน!

เสียงเปียโนสดใสเหมือนสายน้ำไหล ที่พัดเป็นระลอกคลื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เหมือนอารมณ์ของลู่เฉินในตอนนี้

ผู้กำกับมิวสิควิดีโอ ‘ฟางฮุ่ย’ ที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องเรียนถึงกับกัดริมฝีปาก เพราะกลัวตัวเองจะตะโกนออกมา

ฉากนี้เยี่ยมยอดไปเลย!

ฟางฮุ่ยเป็นผู้กำกับจากนอกบริษัทที่ทางเฟยสือเรคคอร์ดจ้างมา ในวงการนี้เธอถนัดกำกับการถ่ายทำภาพยนตร์ที่แสดงออกถึงความรู้สึกอันละเอียดอ่อนของผู้หญิง และกำกับผลงานมิวสิควิดีโอมาแล้วหลายเพลง มีประสบการณ์ช่ำชอง

ตอนแรกฟางฮุ่ยไม่อยากมา เพราะมิวสิควิดีโอนี้ทั้งพระเอกและนางเอกเป็นศิลปินหน้าใหม่ทั้งคู่ ไม่มีประสบการณ์ทางการแสดงมาก่อน จะต้องทำให้เธอเสียเวลาเป็นอย่างมากแน่นอน

เธอทำงานเคร่งครัดมาก เข้มงวดกับผลงานของตัวเองทุกชิ้น

แต่เนื่องจากเซี่ยกั๋วหยวนประธานของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดออกหน้าเชื้อเชิญ ฟางฮุ่ยจึงต้องยอมรับงานนี้

เธอคิดไม่ถึงว่าการถ่ายทำจะราบรื่นได้ถึงเพียงนี้

ประการแรก นางเอกมู่เสี่ยวชู ดูออกว่าเธอไม่มีประสบการณ์ทางการแสดงเลยสักนิด ตอนเริ่มต้นทำพลาดอยู่หลายครั้ง ความผิดที่พลาดนั้นเป็นความผิดง่ายๆ ที่ไม่ควรเกิดขึ้น

แต่เธอหัวไวมาก หลังจากตักเตือนและชี้แนะ เธอจะไม่ทำพลาดซ้ำในจุดเดิมอีก

ที่สำคัญคือ มู่เสี่ยวชูยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอยู่ เป็นการแสดงบทบาทที่ตัวเองเป็น เธอถ่ายทอดอารมณ์ความรัก ความหวังที่จะถูกรักของนางเอก แต่ไม่กล้าสารภาพความในใจต่อพระเอกได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก

ฟางฮุ่ยรู้สึกว่าเธอคิดอะไรกับลู่เฉิน…

พูดถึงลู่เฉิน ฟางฮุ่ยไม่อยากเชื่อว่าลู่เฉินเพิ่งเข้าวงการ ทั้งยังไม่มีประสบการณ์ทางการแสดงมาก่อน ยามอยู่ต่อหน้ากล้องเขาแสดงได้ไม่มีที่ติ การเคลื่อนไหว สายตาล้วนทำได้พอเหมาะพอดี

ความสามารถทางการแสดงของลู่เฉินอาจเป็นพรสวรรค์ ความสามารถทางด้านนี้ของเขาทำให้ฟางฮุ่ยหัวใจเต้นรัวเร็ว!

ช่างเป็นคนที่เกิดมาเพื่อเป็นนักแสดงจริงๆ

ฟางฮุ่ยมองว่าการแสดงของลู่เฉินในวันนี้เป็นเรื่องที่น่าประทับใจที่สุดของเธอ

ผู้กำกับสาวเกิดความคิดบางอย่างขึ้น

“คัต!”

เมื่อลู่เฉินบรรเลงเพลงจบ ในที่สุดฟางฮุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืน พร้อมกับร้องออกมาว่า “ผ่านแล้ว!”

ถ้ายังรักษาระดับการแสดงได้ดีอย่างนี้ ไม่ต้องใช้เวลาถึงสองวัน วันนี้ก็ถ่ายทำได้เสร็จ

ห่างจากฟางฮุ่ยไปไม่มาก หลี่เฟยอวี่ยังถือกล้องถ่ายไปเรื่อยไม่หยุด

การถ่ายทำของเขาใช้อินเทอร์เน็ต 4 จี เพื่อถ่ายทอดทุกการเคลื่อนไหวสู่ห้องออกอากาศสดใน ‘จิงอวี๋ทีวี’!

เงื่อนไขที่ลู่เฉินเสนอตอนรับปากแสดงมิวสิควิดีโอเพลงนี้ คือหวังว่าบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดจะอนุญาตให้เขาออกอากาศสดระหว่างการถ่ายทำได้

ลู่เฉินเซ็นสัญญากับเว็บไซต์จิงอวี๋ทีวีเอาไว้สองปี ตามเงื่อนไขของสัญญา ทุกเดือนเขาจะต้องออกอากาศสดให้ได้เวลามากพอ และพูดคุยสื่อสารกับเหล่าแฟนคลับอยู่เสมอ

แม้ข้อจำกัดของสัญญาจะมีวิธีหลีกเลี่ยงได้ อีกทั้งสัญญาฉบับนี้ยังไม่เหมาะสมกับลู่เฉินในตอนนี้ที่ชื่อเสียงเพิ่มขึ้นไม่หยุด แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่คิดจะเลิกออกอากาศสดผ่านช่องทางออนไลน์

เพราะลู่เฉินไม่ลืมว่าอะไรที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาสู่จุดนี้ได้ กลุ่มแฟนคลับส่วนใหญ่ของเขาล้วนมาจากห้องออกอากาศสดทั้งนั้น และเพราะรางวัลสนับสนุนที่เหล่าแฟนคลับมอบให้เขาทำให้เขาผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อตอนเริ่มต้นมาได้

ถึงลู่เฉินจะมีเวลาออกอากาศน้อยลงเรื่อยๆ เหล่าแฟนคลับของเขาก็ไม่ขุ่นเคืองใจ ยังซื้ออัลบั้มของเขากันอย่างคึกคัก และร่วมในการระดมทุนของเขาด้วย

เกิดเป็นคนต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณ!

ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ที่เงื่อนไขทุกอย่างเป็นใจ ลู่เฉินจะปรากฏตัวในห้องออกอากาศสดของตัวเอง ไม่เพียงแต่การร้องเพลง อย่างการถ่ายทำมิวสิควิดีโอในตอนนี้ ก็ทำให้บรรดาแฟนคลับดีใจและรู้สึกแปลกใหม่ได้ไม่แพ้กัน

นี่เป็นการตอบแทนที่เขามอบให้แฟนคลับที่สนับสนุนเขามาโดยตลอด!

ลู่เฉินลุกขึ้นยืน โบกมือไปทางกล้องของหลี่เฟยอวี่

อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน!

…………………………………………………………………………………….

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Perfect Superstar
Status: Ongoing
อ่านนิยายPerfect Superstarลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปี จำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาล วันหนึ่งเขาฝัน...เป็นความฝันที่ยาวนานมาก โลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้า ตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกัน นักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระ เขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝัน เมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมา เป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset