Perfect Superstar – ตอนที่ 219 ฮัมเพลงของเธอข้ามเขาข้ามสมุทร

ตอนที่ 219 ฮัมเพลงของเธอข้ามเขาข้ามสมุทร

บาร์เดย์ลิลลี่ กำลังอยู่ในช่วงที่บรรยากาศดีที่สุด

ที่นี่ไม่มีความเอะอะอึกทึกเหมือนย่านซานหลี่ถุน ไม่มีเสียงเพลงดังวุ่นวาย ยิ่งไม่มีนักดื่มที่เมามายและชอบตะโกนอย่างบ้าคลั่ง บรรดาลูกค้านั่งล้อมโต๊ะ บ้างพูดคุยกันเสียงเบา บ้างหลงใหลไปกับเสียงเพลง มุมหนึ่งคู่รักกำลังพลอดรักกันกระหนุงกระหนิง บริกรที่ฝึกมารยาทมาเป็นอย่างดีคอยยกอาหารเสิร์ฟตามโต๊ะเดินด้วยฝีเท้าอันแผ่วเบา

บนเวที นักร้องสาวเสียงใสกำลังร้องเพลงโฟล์กซอง เสียงขับขานเนื้อร้องบอกเล่าความรัก ความปวดใจ ความเศร้าสร้อย ราวกับอ้อยอิ่งไปตามสายน้ำ ลอยละล่องเข้าสู่โสตประสาทของทุกคน ทะลุไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ

ตรงเคาน์เตอร์บาร์ เฉินเฟยเอ๋อร์ดื่มเบิร์นนิงหมดไปสองแก้ว

เธอเริ่มเมาแล้ว

ค็อกเทลนี้มีชื่อที่แปลว่า ‘ไฟลุก’ เป็นสูตรที่เดวิดคิดค้นขึ้นมาเอง เครื่องดื่มสีแดงเหมือนเปลวไฟ คนที่คอไม่แข็งดื่มแก้วเดียวก็เมาแล้ว

เฉินเฟยเอ๋อร์ถือว่าคอแข็งอยู่ การเป็นนักร้องทำให้เธอดื่มเหล้าได้ไม่มาก เพื่อปกป้องลูกคอของเธอเอาไว้

แต่เกิดเป็นคน สิ่งสำคัญคือความสุข!

คืนนี้เธอมีความสุขมาก ดังนั้นจึงดื่มมากกว่าปกติ

นี่ทำให้ลู่เฉินกังวล

เขาเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของเธอเบาๆ ว่า “พี่เฟย ผมส่งพี่กลับบ้านดีไหม”

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครจำเธอได้ แต่ถ้าเธอเมาก็ไม่แน่

พรุ่งนี้อาจจะได้ขึ้นหน้าหนึ่งก็เป็นได้!

เฉินเฟยเอ๋อร์หันมา ปากของทั้งคู่เกือบโดนกัน

เธอไม่ได้หลบหลีก ดวงตาเป็นประกาย “ที่นี่บรรยากาศดีมาก ทำให้ฉันอยากร้องเพลงเลย”

ลู่เฉินถอยหลังไปเล็กน้อย ก่อนจะถามว่า “พี่อยากร้องเพลงเหรอ”

ถ้าเธอขึ้นเวทีร้องเพลง ทุกคนต้องจำเธอได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์!

เฉินเฟยเอ๋อร์พยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่!”

เธออยากร้องเพลง ไม่ใช่เพื่อคนอื่น แต่เพื่อตัวเธอเอง

ลู่เฉินอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง

เห็นพี่จางยังนั่งอยู่ตรงมุมหนึ่ง เขาคิดแล้วถามว่า “เพลงอะไร”

แม้ว่าคืนนี้จะถือว่าเป็นการนัดเดต แต่ผู้ช่วยและคนขับรถของเฉินเฟยเอ๋อร์ต่างอยู่กันพร้อมหน้า ตอนที่ทั้งสองคนเดินเล่นกันหลังมื้ออาหาร พวกเธอก็ตามอยู่ห่างๆ แน่นอนว่าตอนนี้พวกเธอก็อยู่ในบาร์เหมือนกัน

การเป็นนักร้องคนหนึ่ง โดยเฉพาะซูเปอร์สตาร์อย่างเฉินเฟยเอ๋อร์ เวลาออกไปข้างนอกหากไม่มีผู้ติดตาม อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องอันตรายอะไรเลย แค่ถูกคนจำได้ก็ยุ่งยากมากพอแล้ว

เฉินเฟยเอ๋อร์กระซิบข้างหูลู่เฉินสองพยางค์

เป็นชื่อเพลงเพลงหนึ่ง และเป็นหนึ่งในเพลงที่ลู่เฉินเขียนให้เธอลงอัลบั้มใหม่

ลมหายใจของเธอลอยเข้าหูลู่เฉินพร้อมกับกลิ่นสุราอ่อนๆ พาให้รู้สึกจั๊กจี้

ทำเอาลู่เฉินจิตใจล่องลอย จนเผลอพยักหน้าไป

ราวกับต้องมนต์สะกด

ลู่เฉินพาเฉินเฟยเอ๋อร์ไปที่หลังเวที

นักร้องที่เซ็นสัญญากับบาร์และคนดูแลสถานที่ในบาร์เดย์ลิลลี่ไม่ใช่กลุ่มที่ลู่เฉินคุ้นเคยแล้ว

วงเฮสิเทชั่นเซ็นสัญญากับบริษัทชิงอวี่มีเดีย ตอนนี้กำลังโด่งดังมีชื่อเสียง

ตัวเขาเองยิ่งไม่ต้องพูดถึง ส่วนหลี่หง เยี่ยเจิ้นหยาง หวังเสี่ยวไซว่ต่างออกไปหมดแล้ว คนเก่าไปคนใหม่มาเป็นเรื่องปกติที่สุดของการทำงานในบาร์แล้ว

แต่ตอนนี้นักร้องที่อยู่หลังเวทีทุกคนรู้จักลู่เฉิน และรู้สถานะของลู่เฉิน

เมื่อลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เข้ามา พวกเขาลุกขึ้นยืนทุกคน “พี่เฉินสวัสดีครับ/ค่ะ!”

พวกนักร้องรู้ว่าลู่เฉินมาที่บาร์ในคืนนี้ ดังนั้นจึงมีแต่ตื่นเต้นดีใจ ไม่มีใครตกใจ

ลู่เฉินยิ้มตอบ แล้วเอ่ยว่า “รอบต่อไป ให้ผมกับเพื่อนขึ้นไปร้องสักเพลงนะ!”

ได้ยินลู่เฉินพูดแบบนี้ เหล่านักร้องบางคนแปลกใจ บางคนดีใจ

นักร้องสาวหนึ่งในนั้นพูดขึ้น “ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้ว คืนนี้พวกเราโชคดีจริงๆ!”

เธอถึงกับมองเฉินเฟยเอ๋อร์ด้วยสายตาอิจฉาริษยา

ในแวดวงย่านโฮ่วไห่ ลู่เฉินได้กลายเป็นเหมือนตำนานความฝันเรื่องหนึ่งไปแล้ว

ถ้าไม่นับความก้าวหน้าในกิจการงานของลู่เฉิน แค่เพลงที่ออกมาจากมือของลู่เฉินก็ทำให้คนอื่นดังไปเยอะแล้ว เช่น วงเฮสิเทชั่น พี่น่า และวงเข็มทิศที่เพิ่งออกซิงเกิลเมื่อไม่นานมานี้

คนพวกนั้นก็เหมือนกับพวกเขา เดิมทีทำงานอยู่ในย่านโฮ่วไห่ ตอนนี้โด่งดังมีชื่อเสียง แล้วจะไม่ทำให้คนอิจฉาได้อย่างไร

เธอคิดว่าเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นเพื่อนร่วมวงการที่โชคดีมากๆ แบบนั้น

ไม่กี่นาทีต่อมา นักร้องที่อยู่บนเวทีร้องเพลงจบ ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ขึ้นเวที

เขาให้พนักงานดันเปียโนออกมา

ดูจากการจัดสถานที่ ลูกค้าในบาร์พากันตื่นเต้น…ลู่เฉินจะร้องเพลงแล้ว!

ลู่เฉินไม่ใช่นักร้องตัวเสริมในบาร์เหมือนเก่า เขามาที่บาร์แห่งนี้น้อยครั้งลงเรื่อยๆ ทำให้ลูกค้าคิดถึงภาพที่เขานั่งดีดกีตาร์ร้องเพลงอยู่บนเวที ได้แค่คุยโม้ถึงภาพวันเก่าๆ ให้เพื่อนที่มาใหม่ฟัง

วันนี้การปรากฏตัวของลู่เฉินเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนดีใจระคนประหลาดใจ เขาขึ้นเวทียิ่งทำให้คนตื่นเต้น

คืนนี้ลู่เฉินจะนำเพลงใหม่อะไรออกมานะ

ลู่เฉินเคยนำผลงานเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่มาร้องครั้งแรกในบาร์เดย์ลิลลี่หลายเพลง

ได้เป็นผู้ฟังที่ได้ฟังเพลงใหม่ของเขาก่อนใครเป็นเรื่องที่น่ายินดี และเป็นความทรงจำที่น่าระลึกถึง

ความตื่นเต้นส่วนความตื่นเต้น ทุกคนยังรักษามารยาทเอาไว้อย่างดี ไม่มีใครตะโกนโหวกเหวก

ทั้งบาร์เงียบเสียงลงทันใด

นี่เป็นเหตุผลที่ลู่เฉินยอมพาเฉินเฟยเอ๋อร์มาที่บาร์เดย์ลิลลี่ หากถูกจำได้ก็ไม่เป็นไร

เมื่อก่อนบาร์เดย์ลิลลี่ก็เคยเชิญนักร้องในวงการมาแสดง

เขานั่งลงตรงหน้าเปียโน แล้วพูดใส่ไมโครโฟนที่เพิ่งตั้งเสร็จว่า “สวัสดีครับทุกคน ไม่เจอกันตั้งนาน…”

ในบาร์เกิดเสียงโห่ดังขึ้น…นายยังจะพูดอีก?

แล้วเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ

ลู่เฉินหัวเราะด้วย “ผมรู้ว่าตอนนี้ผมไม่ค่อยได้มา วันนี้ผมเลยตัดสินใจจะชดเชยให้ทุกท่าน โดยพาเพื่อนอีกคนมาร่วมร้องเพลงใหม่ด้วยกันครับ!”

เป็นเพลงใหม่จริงๆ ด้วย!

เสียงปรบมือดังสนั่นไปทั่วทั้งบาร์

ลู่เฉินโค้งตัวแสดงความขอบคุณ จากนั้นผายมือทำท่าเชื้อเชิญเฉินเฟยเอ๋อร์

เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้ม เธอยืนอยู่กลางเวที ต่อหน้าไมโครโฟน

นี่เป็นใครกัน

ทุกคนมองหน้ากันไปมา ไม่มีใครจำเฉินเฟยเอ๋อร์ที่สวมแว่นตาและปลอมตัวอย่างแนบเนียนได้

มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้สึกคลับคล้ายคลับคลา

แต่ในเมื่อเป็นเพื่อนของลู่เฉิน ทุกคนก็พร้อมจะให้เกียรติ และปรบมือต้อนรับเธอ

เฉินเฟยเอ๋อร์ตอบเบาๆ “ขอบคุณค่ะ…”

เธอหันไปพยักหน้าให้ลู่เฉิน บอกให้เริ่มได้เลย

ลู่เฉินนั่งลงใหม่ แล้วเริ่มพรมนิ้วลงบนเปียโน

เสียงบรรเลงเปียโนน่าฟังยิ่ง ท่อนเริ่มต้นกระทบแก้วหูของทุกคน ทั้งบาร์เงียบกริบ

ลู่เฉินเล่นเปียโนได้พื้นๆ แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน หลังจากผ่านการฝึกฝนมาระยะหนึ่ง จะเล่นเพลงที่ค่อนข้างง่ายสักเพลงย่อมทำได้อย่างไม่มีปัญหา

เพลงนี้ไม่ซับซ้อน แต่สำหรับลูกค้าเก่าแก่ของบาร์กลับรู้สึกแปลกใหม่

เพราะเมื่อก่อนพวกเขาเห็นแต่ลู่เฉินดีดกีตาร์

แต่ไม่นานความสนใจของทุกคนในร้านก็หันเหไปที่เฉินเฟยเอ๋อร์

เพราะเธอเริ่มอ้าปากร้องเพลง

“คนที่อยากเจอแต่ยังรออยู่ มีไม่มาก

ต่อๆ กันจนทำให้หัวใจแหลกสลาย ไหลไปเป็นสายน้ำ

เดินอยู่คนเดียวท่ามกลางโลกมืดมน ต้องอยู่ให้ดี

แต่ยุ่งยากแค่ไหนก็ปล่อยวางไม่หมด ความหวังจะรัก

เมื่อได้พบกลับไม่บอกว่าควร ไม่คุ้มค่า

หลังจากใกล้ชิดก็ต่างฝ่ายต่างปล่อย ให้ผ่านไป

เดินอยู่คนเดียวท่ามกลางโลกมืดมน ต้องอยู่ให้ดี

แต่ยุ่งวุ่นวายแค่ไหนก็ปล่อยวางไม่หมด ความหวังจะรัก!

ฮัมเพลงของเธอข้ามเขาข้ามสมุทร

เหยียบคลื่นโต้ลมให้ลืมเธอยิ่งให้ลืมฉัน

แต่นี้ไปสายธารจะกลายเป็นเรื่องเล่า

ฟ้าดินดวงดาวกลืนกินหายไป

ฮัมเพลงของเธอข้ามเขาข้ามสมุทร

เหยียบคลื่นโต้ลมให้ลืมเธอยิ่งให้ลืมฉัน

แต่นี้ไปสายธารจะกลายเป็นเรื่องเล่า

ฟ้าดินดวงดาวกลืนกินหายไป~

…”

เพลงนี้มีชื่อเพลงว่า ‘ฝูงชน’ เฉินเฟยเอ๋อร์ร้องเพลงด้วยความเมา แม้จะร้องแบบไม่จริงจัง แต่ฝีมือการร้องเพลงของเธอไม่มีที่ติอยู่แล้ว นิ่งขรึมไม่โอ้อวด ร้องบทเพลงเหมือนการขับลำนำ งดงามดังทำนองสวรรค์

ทำนองดนตรีธรรมดากับการร้องแบบเรียบง่าย แต่กลับเหมือนสายน้ำแร่ฉ่ำเย็นหล่อเลี้ยงหัวใจจนอ่อนไหวล่องลอย ผ่อนคลายไปทั้งตัว ดำดิ่งอยู่ในโลกที่เสียงเพลงสร้างขึ้น

ทั้งบาร์ไม่มีเสียงใดๆ ไม่มีใครลุกเดิน ไม่มีใครพูดคุย สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่เฉินเฟยเอ๋อร์คนเดียว

เฉินเฟยเอ๋อร์ร้องได้เป็นตัวของตัวเองมาก ยิ่งซาบซึ้งตรึงใจ

ลู่เฉินเขียนเพลงให้เธอสามเพลง เพลงที่ทำให้เธอได้โชว์ลูกคอมากที่สุดคือเพลง ‘บุปผานารี’

แต่เธอกลับชอบเพลง ‘ฝูงชน’ มากที่สุด อาจเพราะหากพูดถึงเรื่องเทคนิคขั้นสูง เพลง ‘ฝูงชน’ สู้เพลง ‘บุปผานารี’ ไม่ได้ ไม่มีศักยภาพที่จะเป็นเพลงอมตะได้ แต่เธอรักมัน

ตอนที่เฉินเฟยเอ๋อร์ร้องถึงท่อนที่ว่า ‘ฮัมเพลงของเธอข้ามเขาข้ามสมุทร’ เธออดไม่ได้ที่จะหันไปมองลู่เฉิน

ด้วยสายตาอ่อนโยน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอกับลู่เฉินทำงานร่วมกัน แต่กลับเป็นครั้งแรกที่ร้องเพลงนี้ในที่สาธารณะ

เธอแค่อยากร้อง ที่นี่ ตอนนี้

“…

ความอ่อนโยนถูกเธอขับขานเป็นเพลง

เธอที่อยู่อีกฝั่งดูไม่ชัดเจน

ลมโชยนำเรือลำน้อยไม่ย้อนคืน

ต่อให้พิชิตมาได้ก็แค่ทะเลทราย

เมื่อรู้คุณค่าถึงจะหายากที่สุด

รักเธอทำให้ชีวิตมีความหมายมากกว่า

ความอ่อนโยนถูกเธอขับขานเป็นเพลง

ผู้คนมากมายรายล้อมหมุนเวียน

ฮัมเพลงของเธอข้ามเขาข้ามสมุทร

เหยียบคลื่นโต้ลมให้ลืมเธอยิ่งให้ลืมฉัน

แต่นี้ไปสายธารจะกลายเป็นเรื่องเล่า

ฟ้าดินดวงดาวกลืนกินหายไป

…”

เมื่อถึงท่อนที่เร้าใจ เสียงของเฉินเฟยเอ๋อร์ทะยานสูงขึ้น เส้นเสียงทั้งหมดถูกขับเค้นออกมา

อารมณ์ที่เจือปนอยู่ในเสียงเพลงก็เปลี่ยนเป็นเข้มข้น

ในที่สุดก็มีคนฟังออก “คล้ายเฉินเฟยเอ๋อร์เลยนี่”!

ไม่ใช่แค่คล้าย แต่ยิ่งดูยิ่งเหมือน พอมีคนทักขึ้น ทุกคนต่างก็รู้สึกไปในทำนองเดียวกัน

ตอนที่เฉินเฟยเอ๋อร์ร้องเพลงรอบที่สอง หลายคนทนนั่งอยู่ไม่ได้แล้ว

เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นในบาร์

เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มแล้วถอดแว่นตาที่ปิดบังใบหน้าของเธอออก

เธอรู้สึกดีมาก

ถ้าอย่างนั้นก็ให้ทุกคนเซอร์ไพรส์กันหน่อย!

ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป

เซอร์ไพรส์ของจริง!

ในบาร์เดย์ลิลลี่เหมือนมีระเบิดลูกใหญ่ระเบิดขึ้นเงียบๆ

หลายคนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง…คนที่ร้องเพลงอยู่ตรงหน้าพวกเขาที่แท้คือเฉินเฟยเอ๋อร์!

บางคนลุกขึ้นยืนแล้วนั่งกลับลงไปใหม่ ใบหน้าแดงฉาน

และก็มีเด็กสาวเบิ่งตาค้างยกมือขึ้นปิดปาก แอบควักโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายวิดีโอ

แต่อีกหลายคนยังคงนั่งดื่มด่ำกับเพลงอย่างตั้งใจ

เพราะมาได้ไม่ง่ายเลย ต้องรู้คุณค่าของมันมากเป็นพิเศษ!

…………………………………………………………………………………

หมายเหตุ: เพลงฝูงชน (人海) คำร้อง: เหิงชู / ทำนอง: เยี่ยนฉือ

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Perfect Superstar
Status: Ongoing
อ่านนิยายPerfect Superstarลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปี จำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาล วันหนึ่งเขาฝัน...เป็นความฝันที่ยาวนานมาก โลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้า ตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกัน นักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระ เขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝัน เมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมา เป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset