ตอนที่ 274 เจ๋ง อันธพาล อวดดี หล่อระเบิด
วันที่ 23 และวันที่ 24 เดือนกุมภาพันธ์ สถานีโทรทัศน์ไห่จินออกอากาศ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ตอนที่สิบสามและตอนที่สิบสี่ในช่วงเวลายอดนิยม
ภายใต้การรอคอยของ ‘แฟนละครรักนี้ชั่วนิรันดร์’ เรตติ้งพุ่งทะลุ 2%!
นี่เป็นผลงานที่เยี่ยมยอด และเป็นละครแนวรักของคนเมืองเรื่องแรกที่มีเรตติ้งทะลุ 2% นับตั้งแต่ปี 2012!
เพราะฉะนั้นจึงเกิดความฮือฮาทั้งในและนอกวงการอีกครั้ง
ถึงแม้หลายคนจะคาดเดาล่วงหน้าแล้ว แต่ตอนที่ปาฏิหาริย์ของเรตติ้งนี้ปรากฏออกมาจริงๆ ก็ยังมีหลายคนรู้สึกตกใจและไม่อยากจะเชื่อ การวิจารณ์ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ อย่างร้อนแรงจึงกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เป็นปกติไปแล้ว
ยอดรวมเงินลงทุนของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ มูลค่ากว่าสิบล้าน บวกกับค่าโฆษณาที่ไม่เกินสิบห้าล้าน สำหรับละครเรื่องยาวยี่สิบตอน ถือว่าเป็นต้นทุนการผลิตที่ต่ำมาก
และนักแสดงในละครส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กหน้าใหม่ที่ยังไม่โด่งดังมีชื่อเสียง นักแสดงนำสองคนก็ไม่ใช่นักแสดงอาชีพ ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นดารานักร้อง ประสบการณ์ทางการแสดงมีไม่เยอะ
ส่วนตัวของละครเรื่องนี้ ลู่เฉินเป็นคนแต่งเรื่องราวขึ้นมา ไม่เกี่ยวกับนิยายลิขสิทธิ์ยอดนิยม
สิ่งที่ทำให้คนพูดไม่ออกมากที่สุดคือ ความดราม่าของเรื่อง ไม่ใช่ละครหนุ่มหล่อสาวสวยที่ฮิตในปัจจุบัน และไม่ใช่ละครที่ตอนจบมีความสุขเหมือนซินเดอเรลล่ากับท่านประธานเผด็จการ ถึงแม้ตอนจบจะยังไม่ปล่อยออกมา ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นเรื่องเศร้า
ละครแบบนี้กลับดัง และดังระเบิดระเบ้อ
“นี่คือละครความรักบริสุทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วยน้ำตา…”
มีคนเขียนบล็อกว่า “ดูละครเรื่องนี้แล้วไม่เคยพิจารณาถึงตรรกะความรักที่อยู่ข้างใน เพราะไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมสองคนเป็นพี่น้องกันตั้งแต่เด็ก โตมาถึงกลายเป็นคนรักกันได้”
“แต่เพลง ฉาก และฝีมือการแสดงของนักแสดงก็มากพอให้ทุกคนที่ดูต้องเจ็บปวดหัวใจ”
“เรื่องราวเริ่มต้นอย่างเบาบาง ความเศร้าที่สะสมกลับปะทะไปที่จุดไคลแมกซ์ของเรื่อง ค่อนข้างตึงเครียด ฟังกี่ร้อยรอบก็ไม่เบื่อ ฉากหมู่บ้านตอนเป็นเด็ก และฟาร์มหลังจากโตแล้ว เหมือนกับโลกในนิทานมาก”
“นักแสดงไม่ว่าจะเป็นตอนเด็ก หรือว่าโตแล้ว ล้วนน่ารัก สวย หล่อ ไม่ว่าอย่างไรก็คือน่ามอง และไม่ว่านักแสดงนำหรือตัวประกอบ ฝีมือการแสดงต่างยอดเยี่ยม แสดงความรู้สึกออกมาได้ในระดับที่น่าพอใจมาก!”
“ในสังคมที่มีความหลากหลายและพิลึกพิลั่นอย่างในทุกวันนี้ เต็มไปด้วยความรักที่ฉาบฉวย แม้แต่หน้าจอทีวีก็ยังมีความยั่วยวนและการแข่งขันเต็มไปหมด ผู้คนจึงเกิดความสับสนมากขึ้นและไม่รู้ว่าควรจะตามใครดี”
“ฉันในตอนนี้ไม่มีความอดทนพอที่จะดูละครเรื่องหนึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ และเริ่มหัวเราะเยาะตัวเองที่ดูละครไอดอลกินสมองมากเกินไป แต่ตอนที่ติดตามละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ รู้สึกเหมือนถูกชะล้างความสงบและเศร้าสร้อยออกไป ราวกับฝนที่เพิ่งตกมีอากาศสดชื่นมาก!”
“ฉันชอบละครเรื่องนี้ แบบนี้แหละ ไม่หวังตอนจบที่สมบูรณ์แบบ แต่จะดูให้จบแน่นอน!”
เจ้าของบล็อกที่ใช้ชื่อว่าซื่อปิงเป็นคนเขียนโพสต์ยาวๆ นี้ ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงอะไร เธอเป็นสมาชิกธรรมดามากๆ ในบล็อกล่างฉาว ไม่ใช่แม้แต่บัญชีวีไอพี จำนวนแฟนคลับก็เพียงไม่กี่สิบคน
แต่หลังจากที่โพสต์ของเธอถูกคนแชร์ต่อ จำนวนแฟนคลับก็เพิ่มเป็นร้อยเท่า มี ‘แฟนละครรักนี้ชั่วนิรันดร์’ ทิ้งข้อความไว้ไม่ขาดสาย แสดงทัศนคติที่เหมือนกับเธอ เช่นนั้นหากมองในมุมกว้างก็รู้ว่าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้รับความนิยมสูง
ในบล็อกล่างฉาว จำนวนสมาชิกกลุ่มแฟนคลับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ พุ่งทะลุหนึ่งล้าน ดังนั้นบัญชีทางการจึงเปิดบอร์ดแสดงความคิดเห็นสำหรับละครเรื่องนี้โดยเฉพาะ ดึงดูดความสนใจได้จำนวนมาก
และความฮอตทั้งหมดของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็ทำให้ละครไอดอลหรือละครแนวรักคนเมืองที่ออกอากาศในช่วงเดียวกันของประเทศถูกเบียดอย่างรุนแรง แม้แต่ละครฟอร์มใหญ่อย่าง ‘หัวใจฉันโบยบิน’ ของสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน ก็พ่ายแพ้ยับเยินเมื่อปะทะกับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่ออกอากาศในช่วงเดียวกัน เรตติ้งลดลงมาอยู่ที่ 0.35%
สิ่งนี้ทำให้การโปรโมตละคร ‘หัวใจฉันโบยบิน’ อย่างยิ่งใหญ่ของสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน กลายเป็นเรื่องตลกทั้งหมด!
ส่วนผู้ที่ดีใจที่สุดและหดหู่ใจที่สุดก็คือสถานีโทรทัศน์ไห่จินที่ได้สิทธิ์ในการออกอากาศละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ครั้งแรก
เรตติ้งของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ทะลุถึง 2% ขณะที่อีกหกตอนที่เหลือยังไม่ได้ออกอากาศ แนวโน้มการรับชมต่อก็เพิ่มสูงขึ้น เรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศของทั้งเรื่องนี้ทะลุ 1% แน่นอนแล้ว หากจะบุกถึง 1.5% กระทั่งมากกว่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
สัญญาการพนันของทั้งสองฝ่ายยึดเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศ 0.25% เป็นหลัก ทุกครั้งที่เพิ่มขึ้น 0.10% ราคาซื้อขาดต่อหนึ่งตอนจะเพิ่มอีกหนึ่งแสน เมื่อคำนวณจาก 1.5% สถานีโทรทัศน์ไห่จินจะต้องจ่ายเงินแต่ละตอนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งล้านสองแสน และยี่สิบตอนก็เท่ากับยี่สิบสี่ล้านถ้วน!
ด้านหนึ่งสถานีโทรทัศน์ไห่จินสามารถทำกำไรก้อนโตเพราะความฮอตของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ อีกด้านหนึ่งก็ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจนเจ็บตัว…ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนนั้นซื้อตอนละหนึ่งล้านก็ได้กำไรแล้ว
สถานีโทรทัศน์ไห่จินเจ็บปวดแต่ก็มีความสุข และบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ทุกคนก็ได้ผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสิ้น รวมทั้งฝ่ายลงทุน ผู้กำกับ นักแสดง เป็นต้น
แฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์และลู่เฉินขยายวงกว้างมากขึ้น นักโฆษณาและโปรโมเตอร์จัดงานแสดงก็มาหาพวกเขาเยอะแยะเหมือนดั่งปลาที่ว่ายข้ามแม่น้ำ โดยเฉพาะค่าตัวของลู่เฉินที่เพิ่มสูงขึ้น บรรลุขั้นที่เมื่อก่อนนี้เขายากจะจินตนาการได้
ก่อนที่ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จะออกอากาศ แค่ทุ่มเงินหนึ่งล้าน ก็มากพอให้ลู่เฉินเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้หนึ่งปี ตอนนี้ราคาที่ลู่ซีแจ้งกับคนนอกเริ่มต้นที่ห้าล้านเป็นอย่างน้อย ราคาที่ต่ำไปจากนี้ขอเลี่ยงไม่คุยจะดีกว่า
หนำซ้ำผู้คนที่มาหาลู่เฉินเพื่ออยากร่วมงาน อยากให้เขาไปแสดงภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ กระทั่งอยากให้เขาออกหนังสือก็เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย!
สำหรับคนที่จุกจิกน่ารำคาญ ลู่เฉินให้ลู่ซีจัดการทั้งหมด ส่วนตัวเองยังอยู่ที่จินหลิง เพื่อทำงานใส่เสียงและดนตรีประกอบละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ อีกสองสามตอนสุดท้ายให้เสร็จ
วันที่ 30 เดือนมกราคม วันเดียวกับที่ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ตอนที่สิบห้าออกอากาศ ในฟอรัมฟ้าบันเทิงซึ่งเป็นเว็บบอร์ด BBS ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ไอดีแมวร่อนเร่ซึ่งเป็นที่รู้จักได้เขียนโพสต์ ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก
หัวข้อโพสต์นี้ก็น่าสนใจมาก มีชื่อว่า ‘เจ๋ง อันธพาล อวดดี หล่อระเบิด’
ในโพสต์ไม่มีตัวหนังสือสักคำ แมวร่อนเร่โพสต์วิดีโอ GIF ความละเอียดสูงที่ตัดต่ออย่างสวยงามแล้วตอนหนึ่ง
ในวิดีโอสั้นๆ สามสิบวินาทีนี้ ลู่เฉินก็คือตัวเอก
เห็นเขาสวมชุดเกราะขี่ม้า มือถือหอกเงินขี่ม้าบุกไปข้างหน้า ฆ่ากองทัพขนาดใหญ่ของพวกซยงหนูอย่างกล้าหาญ ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างดุเดือด แสดงบทบาทที่แตกต่างไปจากละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ให้ทุกคนเห็นอย่างสิ้นเชิง!
วิดีโอตอนนี้ถ่ายออกมาสวยงามมาก ภาพโคลสอัปและการเคลื่อนย้ายมุมกล้องจัดการได้อย่างเหมาะเจาะ โชว์ความกล้าหาญและมาดของทหารกล้าออกมา ผู้คนรู้สึกเลือดร้อนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกของฉากเหมือนกับหนังใหญ่มาก
ไอดีแมวร่อนเร่นี้มีชื่อเสียงมากในฟอรัมฟ้าบันเทิง ฐานะค่อนข้างลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงทำอาชีพอะไร เขาแฉข้อมูลในฟอรัมบันเทิงเป็นประจำ แฉข้อมูลทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในวงการ
อย่างเช่นซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งนอกใจคู่รัก ไอดอลคนหนึ่งด่าแฟนคลับอย่างสะใจ ดาราตัวท็อปคนหนึ่งเป็นเกย์…
ความจริงหลายคนก็รู้ แมวร่อนเร่น่าจะเป็นนักการตลาดออนไลน์ แต่โพสต์ของเขาก็มีลักษณะพิเศษร่วมกัน นั่นก็คือคำพูดที่มีหลักฐาน ข้อมูลที่แฉออกมามักจะเป็นเรื่องจริง น้อยมากที่จะปั้นน้ำเป็นตัวหรือหาแก่นความจริงไม่ได้ ดังนั้นจึงถูกชาวเน็ตมองว่าเป็นแสงประทีปของฟอรัมฟ้าบันเทิง ยอดกดดูและคอมเมนต์มักจะสูงมากเสมอ
ตอนแรกแมวร่อนเร่ก็เคยสนับสนุนลู่เฉิน แถมยังตบหน้าสถานีโทรทัศน์เซียงหนานและกรรมการสองสามคนของรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ จนเกิดความฮือฮาในอินเทอร์เน็ต มีผลกระทบที่ใหญ่มาก
โพสต์วิดีโอนี้ก็เกี่ยวกับลู่เฉินเหมือนเดิม เวลาสั้นๆ สองสามนาทีก็สามารถดึงดูดการตอบกลับได้เป็นจำนวนมาก
“ว้าว สุดยอดจริงๆ!”
“นี่คือเอฟเฟกต์ใช่ไหม รู้สึกเหมือนจะไม่ใช้นักแสดงแทน หล่อมากๆ!”
“คนนี้คุ้นหน้าจัง…”
“เหอะๆ ไม่รู้จักลู่เฉินเหรอ ราชาเพลงบัลลาด นักแต่งเพลงยอดเยี่ยม พระเอกละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’!”
“ผู้เชี่ยวชาญในวงการบอกว่า สองสามช็อตนี้ไม่ได้ใช้นักแสดงแทนแล้วก็ไม่มีเอฟเฟกต์พิเศษ เป็นความสามารถส่วนตัวล้วนๆ!”
“ฉันขอพูดสามคำ…หล่อจริงๆ!”
“สร้างกระแส…”
“น่าจะสร้างกระแส แต่ใครบอกฉันได้บ้าง ว่าลู่เฉินกำลังถ่ายหนังอะไร”
“ใช่แล้ว ใกล้จะปีใหม่แล้ว ยังไม่ได้ยินว่าเขาเปิดละครเรื่องใหม่นะ!”
“น่าจะเป็นโฆษณา หรือไม่ก็มิวสิควิดีโอ”
คนที่ตอบกลับ เก้าในสิบล้วนเป็นคำชมและอุทาน
ทุกคนเคยดูหนังย้อนยุค นักแสดงชื่อดังที่รับบทนายทหารนักรบก็มีมากมาย แต่การแสดงเป็นนายทหารเล็กๆ ของลู่เฉิน ให้ความรู้สึกแก่ทุกคนเหมือนกับหัวข้อของแมวร่อนเร่จริงๆ…เจ๋ง อันธพาล อวดดี หล่อระเบิด!
วิดีโอนี้ถูกคนย้ายไปอยู่ในบล็อก แมวร่อนเร่ก็โพสต์เนื้อหาเดียวกันในบล็อกส่วนตัว
ดังนั้นวิดีโอจึงแพร่ขยายออกไปบนอินเทอร์เน็ตเหมือนไวรัส ปรากฏอยู่ในกลุ่มเฟยซวิ่นอีกหลายกลุ่ม นำมาซึ่งความสงสัยของชาวเน็ตมากมายนับไม่ถ้วน และหัวข้อ ‘เจ๋ง อันธพาล อวดดี หล่อระเบิด’ ก็กลายเป็นคำค้นหายอดนิยมในหน้าแรกของบล็อกทันที
คนที่สายตาเฉียบแหลมล้วนมองออก นี่คือการสร้างกระแสทางการตลาด แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่รู้ความจริงเรียกร้องขอคำตอบ
ลู่เฉินถ่ายหนังเรื่องอะไร
“นายถ่ายหนังเรื่องอะไร”
ตอนที่รับสายของเฉินเฟยเอ๋อร์ ลู่เฉินเพิ่งเห็นวิดีโอที่ถูกแชร์ไปในบล็อกหลายแห่ง
เขาพูดอย่างขมขื่นว่า “นี่คือบทดารารับเชิญในหนัง ‘ฮั่นอู่ตี้จอมราชัน’ ของผมครับ”
“บทนักแสดงรับเชิญเหรอ”
เฉินเฟยเอ๋อร์รู้ว่าลู่เฉินรับเล่นบทนักแสดงรับเชิญในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งตอนที่อยู่จินหลิง จึงเข้าใจทันที “งั้นก็คือการปล่อยข่าวเพื่อสร้างกระแส ว่าแต่เป็นช็อตของนายทั้งหมดได้ยังไง”
การปล่อยข่าวขณะที่ถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ เป็นวิธีสร้างกระแสที่ใช้บ่อย
ลู่เฉินลูบจมูกไปมา “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน”
ฉากที่เขาถ่ายทำทั้งหมด ส่วนใหญ่อยู่ในวิดีโอที่มีความยาวแค่ครึ่งนาทีนี้แล้ว
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มกล่าวว่า “น่าจะเป็นเพราะตอนนี้นายกำลังดัง เงินสองแสนนั่นพวกเขาใช้คุ้มจริงๆ!”
ลู่เฉินยิ้มเจื่อน “นั่นสิ”
เขารับบทดารารับเชิญในภาพยนตร์ ‘ฮั่นอู่ตี้จอมราชัน’ ใช้เวลาถ่ายทำครึ่งวันก็รู้สึกติดใจแถมยังทำเงินได้ง่ายอีก คิดว่าตัวเองเอาเปรียบเกินไปด้วยซ้ำ คาดคิดไม่ถึงว่าคนอื่นจะฉลาดมากเหมือนกัน!
ฉากที่ลู่เฉินแสดงทั้งหมด แท้จริงแล้วไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับหนังมากเท่าไรนัก เพราะว่าตัวละครหลักคือฮั่นอู่ตี้ แม้แต่นายทหารม้าฮั่วชวี่ปี้งก็เป็นแค่ตัวประกอบ
แต่กองถ่ายภาพยนตร์ ‘ฮั่นอู่ตี้จอมราชัน’ ก็มีไอเดียเจ๋ง ทำวิดีโอสั้นๆ ออกมาสร้างกระแส ฉลาดหลักแหลมมาก
แน่นอนลู่เฉินไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ เพราะนี่ก็คือการโปรโมตให้ตัวเขาเองเช่นกัน!
และวิดีโอนี้ ก็ทำให้การแสดงความคิดเห็นในบล็อกของลู่เฉินระเบิดขึ้นอีกครั้ง
…………………………………………………………………………
