ตอนที่ 300 พิธีใหญ่
ย้อนกลับไปดูเพลงป็อบจีนในปี 2015 ผลงานที่พิเศษล้ำค่านั้นมีน้อยมาก
กระแสหลักของตลาดยังคงถูกเพลงเร็ว เพลงแนวบับเบิลกัมครอบครอง นักร้องชื่อดังพวกนั้นแม้จะออกอัลบั้มใหม่ไม่น้อย แต่ไม่มีอัลบั้มไหนที่นำเทรนด์หรือเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจได้เลย ศิลปินยุคใหม่ได้เดบิวต์จากรายการแข่งขันความสามารถที่มีไม่หยุดหย่อน เดินบนทางสายเก่าที่คนจำนวนนับไม่ถ้วนได้เหยียบย่ำผ่านไปแล้ว
นี่เป็นสิ่งที่เคยทำให้ผู้เขียนรู้สึกหนักใจ เพลงป็อบในประเทศจีนจะเดินไปในทิศทางไหน จะตกต่ำสู่ก้นเหวด้วยการคัดลอก ลอกเลียนแบบ เอนเอียงไปตามทิศทางลม หรือจะเดินโซเซไปข้างหน้าท่ามกลางความอ่อนเปลี้ย การค้นหาและการดิ้นรน
แต่เมื่อนักร้องนักแต่งเพลงหนุ่มคนหนึ่งปรากฏตัว ทำให้วงการเพลงป็อบที่จ่อมจมมานานมีสายลมที่สดชื่นพัดพามาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเพลงบัลลาดที่เน้นไปที่การรำลึกถึงอดีต หรือเพลงซอฟต์ร็อกที่ไม่ขาดกลิ่นอายของความเลือดร้อน ผลงานเพลงของเขาล้วนทำให้คนฟังตาลุกวาว ราวกับมีท่วงทำนองแห่งแรงบันดาลใจไม่มีที่สิ้นสุด ฉายแสงดังพระอาทิตย์ยามเช้าที่นำเอาความหวังและแสงสว่างมาให้!
ชื่อของนักร้องนักแต่งเพลงหนุ่มคนนี้ ทุกคนน่าจะคาดเดาได้ ในค่ำคืนก่อนงานประกาศรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ปี 2016 จะถูกจัดขึ้น ผู้เขียนคาดหวังจากใจจริงว่า คนหนุ่มสาวที่มีความสามารถอย่างแท้จริงจะได้รับเกียรติและการสนับสนุนมากขึ้น แบบนี้อนาคตของวงการเพลงป็อบถึงจะมีความหวัง…
เนื้อหาด้านบนเป็นเนื้อหาที่มาจากผู้ใช้บล็อกล่างฉาวซึ่งเป็นที่รู้จักในนามนักพเนจรแห่งทะเลสาบตะวันออก อาชีพหลักของเขาคือบรรณาธิการของนิตยสารแฟชั่นฉบับหนึ่ง ควบกับอาชีพนักเขียน นักวิจารณ์ภาพยนตร์และนักวิจารณ์ดนตรี สั่งสมประสบการณ์เฉพาะด้านมาอย่างสูง มีแฟนคลับติดตามบล็อกของเขามากกว่าสองล้านคน บทความนี้ได้รับความนิยมจากบรรดาชาวเน็ตในบล็อก
นักพเนจรแห่งทะเลสาบตะวันออกมีมุมมองต่อวงการเพลงป็อบในประเทศที่ไม่เหมือนใคร ทุกปีก่อนคืนประกาศรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ เขาจะปล่อยบทความออกมาเพื่อบอกเล่าความคิดของตัวเอง
นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องชี้ให้เห็นว่า นักพเนจรแห่งทะเลสาบตะวันออกก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’
บล็อกของเขาทำให้เกิดผลกระทบไปสู่วงการบันเทิงไม่น้อย
นักร้องนักแต่งเพลงหนุ่มที่นักพเนจรแห่งทะเลสาบตะวันออกกล่าวถึงเป็นพิเศษคนนั้นคือลู่เฉินอย่างไม่ต้องสงสัย วงการเพลงป็อบในปี 2015 ไม่มีศิลปินหน้าใหม่คนไหนโดดเด่นเตะตาเท่าลู่เฉินอีกแล้ว ความสามารถของเขาเหนือกว่าคนอาวุโสกว่าที่มีชื่อเสียงหลายคน เขายังทำให้เกิดกระแสเพลงบัลลาดในรั้วสถานศึกษา ผลงานเพลงในอัลบั้มแรกติดชาร์ตเพลงยอดนิยมทุกเพลง
นักพเนจรแห่งทะเลสาบตะวันออกชื่นชมยกย่องลู่เฉินแบบนี้ ทำให้คนอื่นสืบสาวราวเรื่องต่อไปอีก ทุกคนรู้กันดีว่าลู่เฉินได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่จากเวที ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ถึงสี่รางวัล แบบนี้เขาจะสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่อีกหรือไม่
เช่นว่าการได้รับรางวัลใหญ่หลายรางวัล?
แฟนคลับของลู่เฉินแน่นอนว่าเห็นดีเห็นงามกับงานนี้ แสดงออกว่าลู่เฉินคู่ควรจะได้รับรางวัลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่แฟนคลับของคู่แข่งของเขาไม่เห็นด้วย ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงก่อสงครามร้อนแรงในบล็อก ในฟอรัม และตามหน้าเว็บต่างๆ สงครามบนอินเทอร์เน็ตนี้กลับช่วยสร้างกระแสบรรยากาศให้กับรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ นี้ ชักนำให้คนเข้ามาสนใจมากขึ้น
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่โรงละครแห่งชาติ
สิ่งปลูกสร้างอันเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามยิ่งใหญ่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของถนนฉางอัน พื้นที่รวมทั้งหมดสิบแปดเฮกตาร์ พื้นที่อาคารเกินกว่าสองแสนตารางเมตร เงินทุนก่อสร้างสูงถึงสามพันห้าร้อยล้าน โครงสร้างหลักของตัวอาคารประกอบด้วยเหล็กกล้าห่อหุ้ม ภายในมีห้องโถงใหญ่บรรจุคนได้ห้าพันที่นั่ง ห้องแสดงคอนเสิร์ตที่จุคนได้สองพันสองร้อยที่นั่ง โรงละครที่จุคนได้หนึ่งพันที่นั่ง ห้องโถงกลางและห้องรับรอง
ที่พิเศษที่สุดคือ หลังคาของโรงละครแห่งชาติที่เป็นรูปครึ่งวงรี ห่อหุ้มด้วยไทเทเนียมสีโทนอ่อนเป็นมันเงา ด้านหน้าและด้านหลังเป็นผนังแก้วรูปทรงคล้ายสามเหลี่ยม ทั้งอาคารมองดูเหมือนถูกคนสร้างไว้บนผืนน้ำ ผู้ชมต้องเดินผ่านอุโมงค์ลอดใต้น้ำยาวหนึ่งร้อยเมตรเพื่อเข้าสู่ห้องโถงใหญ่
โรงละครใหญ่แห่งนี้ออกแบบทันสมัย โฉบเฉี่ยว มีแนวคิดที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นการผสมผสานระหว่างแบบดั้งเดิมกับแบบสมัยใหม่ ความโรแมนติกและความจริง ดังนั้นจึงถูกเรียกว่า…โรงละครแห่งเมือง หรือเมืองแห่งโรงละคร!
พิธีมอบรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ปี 2016 นี้ จะจัดขึ้นที่ห้องโถงใหญ่ของโรงละครแห่งชาติ!
ฟ้าค่อยๆ มืดลง ด้านนอกจัตุรัสพักผ่อนด้านหน้าโรงละครแห่งชาติมีเสียงผู้คนคึกคัก พรมแดงทอดตัวจากกลางจัตุรัสไปสิ้นสุดที่ทางเข้าอุโมงค์ทางเดินใต้น้ำ ตรงนั้นมีฉากแบ็กดรอปอันใหญ่ไว้เซ็นชื่อตั้งขวางอยู่
ด้านข้างของพรมแดงทั้งสองด้านถูกกั้นด้วยรั้วรักษาความปลอดภัย นักข่าวจากสื่อแต่ละสำนักถือขาตั้งกล้องและกล้องถ่ายรูปตัวใหญ่นั่งยองอยู่ด้านใน ด้านนอกเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพร้อมรบเต็มยศ คนที่มุงดูเป็นพันเป็นหมื่นคนคิดหาวิธีที่จะเพิ่มความสูง ไม่อย่างนั้นนอกจากคนที่เบียดไปอยู่ด้านหน้าได้แล้ว คนที่อยู่ข้างหลังคงได้เห็นแค่ทะเลหัวมนุษย์
ที่ลานจัตุรัสพักผ่อนด้านตะวันออกติดกับลานจอดรถ เป็นเขตที่กีดกั้นคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปแล้ว ตรงนี้เป็นที่ที่ดาราศิลปินที่มีชื่อเสียงและแขกกิตติมศักดิ์จะมาถึง เพื่อรอเริ่มต้นเดินพรมแดงเข้างาน
เทียบกับพิธีมอบรางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ ของสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน ที่นี่สถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนและสถานีวิทยุกระจายเสียงประชาชนกลางแห่งประเทศจีนร่วมมือกันจัดงานมอบรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือความโอ่อ่าสง่างามล้วนชนะขาด แค่เช่าใช้โรงละครแห่งชาติก็พอให้งานประเภทเดียวกันที่จัดขึ้นภายในประเทศงานอื่นดับแสงไปเลย!
อีกอย่างช่องสามซึ่งเป็นช่องวาไรตี้และช่องสิบห้าซึ่งเป็นช่องดนตรีของสถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน ได้ถ่ายทอดสดพิธีอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วย
ลู่เฉินเป็นหนึ่งในแขกกิตติมศักดิ์ที่จะได้เดินพรมแดง
ในที่นี้เขาเห็น ‘คนคุ้นเคย’ จำนวนไม่น้อย ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนแปลกหน้า คนที่เขารู้จักจริงๆ นั้นมากันหลายคน เช่น ถานหง เลี่ยวเจี่ย ฉินฮั่นหยาง…ยังมีสามสาววงเอ็มเอสเอ็น
วงเอ็มเอสเอ็นได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลศิลปินกลุ่มหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ความจริงพวกเธอเข้าวงการช้าเกินไป ที่ได้รับการเสนอชื่อหลักๆ เป็นผลจากการโปรโมตครั้งใหญ่ของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด แน่นอนว่าอัลบั้มของวงเอ็มเอสเอ็นขายดีมาก ถึงพอถูไถผ่านเข้ารอบ
ล้วนเป็นคนในวงการทั้งนั้น ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก ไม่ว่าจะมาจากบ้านไหนตระกูลไหน ทุกคนต่างทักทายกันอย่างสุภาพเกรงอกเกรงใจกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เพื่อฆ่าเวลาอันน่าเบื่อระหว่างที่รอคอย
มองดูแล้วเหมือนกลุ่มดาวกำลังส่องแสงทอประกาย แค่หลับตาเลือกใครออกมาสักคน คนนั้นจะต้องมีแฟนคลับในบล็อกล่างฉาวหลายล้านคน!
ลู่เฉินที่อยู่ท่ามกลางผู้คน แน่นอนว่าเป็นจุดสนใจจุดหนึ่ง
อย่างแรกเพราะเขารูปร่างสูงใหญ่กว่ามาตรฐาน ทั้งยังสวมชุดสูทตัดเย็บด้วยฝีมืออันประณีตราคาสูง ความหล่อเหลาทำให้ดาราสาวหลายคนสนใจ ทำให้คนไม่มีทางมองผ่านเขาไปได้เลย
อย่างที่สอง ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ นำมาซึ่งความนิยมในตัวลู่เฉิน คนที่อยู่ในนี้มีน้อยมากที่ไม่รู้จักเขา
ลู่เฉินที่เข้าวงการเมื่อปี 2015 ความสามารถทางดนตรียิ่งน่าจับตามอง ศิลปินหน้าใหม่ที่ทั้งหน้าตาดี เก่งกาจ และได้รับความนิยมรวมอยู่ในคนเดียวกันอย่างเขานั้น จะไม่ให้ถูกจับตามองนั้นยากนัก!
แน่อนว่าเหล่าดาราศิลปินให้ความสำคัญกับสถานะของตัวเอง แม้ตั้งใจอยากจะพูดคุยกับลู่เฉินไม่กี่ประโยค แต่ก็ไม่อาจเข้าหาได้ตรงๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ลู่เฉินจึงถูกถานหงและเลี่ยวเจี่ยพาไปแนะนำให้หลายคนได้รู้จัก
พี่ชายทั้งสองมองลู่เฉินเป็นน้องชายคนเล็ก ดูแลเขาเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อวนครบหนึ่งรอบเส้นสายของลู่เฉินก็ขยายมากขึ้น กับเหล่าซูเปอร์สตาร์ที่เมื่อก่อนได้แต่มองแต่ไม่กล้าเข้าใกล้ก็ได้พูดคุยกันอย่างออกรส
จนกระทั่งเฉินเฟยเอ๋อร์ปรากฏตัว
“อ้าว น้องสะใภ้มาแล้ว!”
เลี่ยวเจี่ยที่ปากไม่มีหูรูดเอ่ยล้อเล่นออกมา “มาๆ ปล่อยลู่เฉินให้เธอแล้ว!”
ความสัมพันธ์ของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ คนในวงการที่รู้เรื่องมีไม่น้อย ในวงการบันเทิงข่าวสารแพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว หลายเรื่องที่ปิดบังกันไม่อยู่
แต่ทั้งสองยังไม่ได้ประกาศความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ นอกเสียจากมีจุดประสงค์อื่น ไม่อย่างนั้นใครก็ไม่กล้าพูดให้คนนอกฟัง
นี่เป็นกฎที่เป็นที่รู้กันของวงการ เคารพซึ่งกันและกันก็เพื่อตัวเอง
มีแค่เลี่ยวเจี่ยผู้ซึ่งเอะอะมะเทิ่งคนนี้ ที่กล้าล้อเล่นกับทั้งสองต่อหน้าคนจำนวนมาก
และยังเอาจริงเอาจังกับเขาไม่ได้เสียด้วย
เฉินเฟยเอ๋อร์ถลึงตาใส่เลี่ยวเจี่ยอย่างหงุดหงิด แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจเขาอีก กลับหันไปคุยกับถานหง
ความสัมพันธ์ของถานหงกับเฉินเฟยเอ๋อร์คนทั้งวงการรู้ดี ถานหงเป็นอาจารย์ของฝ่ายหลัง และเป็นรุ่นพี่ที่น่าเชื่อถือ ถ้าไม่ได้ถานหงดูแล กิจการของเฉินเฟยเอ๋อร์คงไม่ก้าวหน้าอย่างราบรื่นได้ขนาดนี้
แต่ต่างกับเฉินเฟยเอ๋อร์ที่กำลังจะเปลี่ยนสไตล์เพลง ถานหงที่ยังอีกนานกว่าจะถึงวัยเกษียณค่อยๆ ก้าวออกจากวงการบันเทิงและวงการเพลง ให้เวลาและกำลังส่วนใหญ่ไปกับครอบครัวและกิจการงานอื่น
มีเพียงงานสำคัญอย่างงานมอบรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ หรือ ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ แบบนี้ถึงจะได้เห็นเขา
ถานหงคุยกับเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่กี่ประโยคก็ลากตัวลู่เฉินเข้ามา
เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียวก็ถึงเวลาหนึ่งทุ่มตรง งานเดินพรมแดงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ!
ดาราแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายเข้าแถวตามลำดับที่กำหนดไว้แล้ว ภายใต้การจัดการของพิธีกร ทั้งหมดเดินเป็นคู่ๆ บนพรมแดงเพื่อแสดงถึงศักดิ์ฐานะและเกียรติยศ ได้รับการจับจ้องจากคนเป็นพันเป็นหมื่นและแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปที่สาดกระทบใบหน้า
คณะกรรมการจัดงานของรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ได้จัดให้ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เดินคู่กันบนพรมแดง
คืนนี้เฉินเฟยเอ๋อร์สวมชุดกระโปรงยาวสีขาวงดงาม ผ่านการแต่งหน้าอย่างพิถีพิถันมาแล้วสวยงามกว่าสิ่งใดในโลก เธอควงแขนลู่เฉินอย่างใจกว้าง ทั้งสองเดินเคียงคู่กันอย่างรู้ใจกัน
เมื่อแสงไฟสปอตไลต์ดวงใหญ่สว่างขึ้น กลุ่มคนตะโกนเสียงดังแปดหลอดว่า “เอินซี! จวิ้นซี!”
ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์มองหน้ากันแล้วยิ้ม พร้อมกันนั้นก็หยุดเดิน หันซ้ายหันขวาโพสท่า เพื่อให้ความสะดวกแก่นักข่าวและแฟนคลับที่อยู่ในสถานที่นั้นได้ถ่ายรูป
นักข่าวสายบันเทิงที่อยู่ข้างพรมแดงกดชัตเตอร์รัวๆ เหมือนลมพัด ถ่ายรูปคู่ของทั้งสองคนให้ลงไปอยู่ในกล้อง
บรรดานักข่าวในที่นั้นบอกได้ว่าเป็นคนมีความรู้กว้างไกล หนุ่มหล่อสาวสวยในวงการบันเทิงมีมากมาย พวกเขาเห็นมานักต่อนักแล้ว แต่ค่ำคืนนี้ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ที่ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน คำว่ากิ่งทองใบหยกยังดูธรรมดาเกินไป ตามคำสมัยใหม่ต้องเรียกว่าคู่จิ้นแห่งปีถึงจะถูก!
คนหนึ่งสูงใหญ่หล่อเหลา อีกคนสาวสวยพราวเสน่ห์ เคยมีข่าวลือคู่กันและยังเป็นคู่พระนางจากละครดัง การเข้าคู่กันนี้ช่างสมบูรณ์แบบ หากเอาลงหน้าเว็บบันเทิงจะต้องดึงดูดสายตาและได้รับการกดเข้าดูแน่นอน
ที่น่าเสียดายคือ ไม่เหมือนศิลปินดาราที่เดินเหมือนหอยทากคลานอยู่บนพรมแดง ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์หยุดแค่ไม่กี่วินาทีก็เดินหน้าต่อ ทำให้นักข่าวที่ถ่ายช็อตเด็ดไม่ทันร้องเสียดาย
ทั้งสองเดินไปจนสุดพรมแดง จากนั้นต่างคนต่างเซ็นชื่อของตัวเองลงบนแบ็กดรอป
สุดท้ายเดินเข้าสู่โรงละครแห่งชาติผ่านทางอุโมงค์ทางเดินใต้น้ำ
ห้องโถงใหญ่จุคนได้ห้าพันคน แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายได้นั่งประจำที่ของตัวเองแล้ว
งานพิธีครั้งยิ่งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น!
……………………………………….
