ตอนที่ 333 เล่นใหญ่แล้ว!
‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เซ็นสัญญาตัวแทนกับเอสพีจีในวันที่ 5 เดือนมีนาคม ออกอากาศทางช่องเคจีเอสในวันที่ 25
เวลาห่างกันแค่ยี่สิบวันเท่านั้น ถือว่าประสิทธิภาพในการทำงานของเอสพีจีสูงมาก การออกอากาศซ้ำของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่ประเทศจีนยังไม่ทันสิ้นสุดลง ในวันที่ 25 และ 26 ทางเคจีเอสก็ออกอากาศติดต่อกันสี่ตอนแล้ว
เอสพีจีซื้อลิขสิทธิ์ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เพราะมีจุดประสงค์อื่น เพื่อประหยัดเวลาและต้นทุน จึงไม่ได้ทำการตลาดใดๆ ต่อละครเรื่องนี้ แค่ประกาศข้อมูลที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์ทางการและบล็อกเท่านั้น
เฉกเช่นกัน เคจีเอสก็ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เลย ยกเว้นตัวอย่างละครที่ฉายสองสามวันก่อนออกอากาศ ก็ไม่มีความเอิกเกริกใดๆ ทั้งสิ้น ดูเหมือนจะทำแบบลับๆ ล่อๆ มากกว่า
สามารถพูดได้ว่าทุกแง่มุมที่เชื่อมโยงกัน นอกจากลู่เฉินแล้ว ไม่มีใครคาดหวังต่อการแสดงออกของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในประเทศเกาหลีใต้อย่างแท้จริง แม้ว่าแฟนคลับทั้งหลายจะประกาศคำขวัญอย่างชัดเจนแล้ว อย่างมากก็แค่ปากแข็งเท่านั้น
ตลาดละครโทรทัศน์ของประเทศเกาหลีใต้ ใช่ว่าจะงัดได้ง่ายเสียที่ไหน!
หลังจากละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ออกอากาศสี่ตอนแรกแล้ว เรตติ้งก็ออกมาทันที
ครั้งนี้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
2.83% 3.07% 5.58% 6.12% เรตติ้งเฉลี่ยคือ 4.4%!
เรตติ้งละครของประเทศเกาหลีใต้แตกต่างจากประเทศจีน สถานีโทรทัศน์ใหญ่ทั้งสามจะผลัดกันเป็นเจ้าบ้าน ไม่เหมือนกับประเทศจีนที่แย่งกันเป็นใหญ่ ละครเรื่องหนึ่งมีเรตติ้ง 1% ก็สามารถจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองได้แล้ว
เรตติ้งเฉลี่ย 4.4% ถือว่าพอใช้ได้ แต่ไม่อาจเทียบกับละครยอดนิยมที่ไม่ทันไรก็มีเรตติ้ง 10% ขึ้นไปได้อย่างสิ้นเชิง!
อย่างเช่นละครย้อนยุคฟอร์มใหญ่เรื่อง ‘อำนาจราชินี’ ของช่องเอ็มบีซี ที่กำลังได้รับความนิยมมากในขณะนี้ เรตติ้งล่าสุดเกือบจะถึง 30% เมื่อเทียบกับละครสวยไฉไลที่ลงทุนด้วยเงินหมื่นล้านวอนแล้ว ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นแค่ลูกเป็ดขี้เหร่ตัวหนึ่งเท่านั้น
แต่ระดับการให้ความสำคัญต่อละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ของเอสพีจีและเคจีเอส กลับเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
เรตติ้งเฉลี่ย 4.4% ถือว่าไม่สูง แต่ตอนที่หนึ่งได้ 2.83% พอถึงตอนที่สี่ได้ 6.12% เรตติ้งเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า ระดับการเพิ่มขึ้นเช่นนี้ทำให้คนรู้สึกตกใจจริงๆ
ควรทราบว่าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นละครต่างประเทศ และเป็นละครจีนที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมในตลาดเกาหลีมาโดยตลอด ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีการลงทุนโปรโมตใดๆ กับการเพิ่มขึ้นขนานใหญ่แบบนี้ภายในระยะเวลาสั้นๆ แค่สองวัน แสดงให้เห็นว่าละครเรื่องนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นละครยอดฮิต!
จากผลงานเรตติ้งในตอนนี้ ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้สร้างสถิติใหม่เหนือกว่าละครจีนประเภทเดียวกันที่เคยออกอากาศในประเทศเกาหลีใต้แล้ว ทั้งยังมีศักยภาพสูงมากที่จะเพิ่มขึ้นอีกในระยะหลัง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เคจีเอสได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับหน่วยงานในเครือแล้วพบว่า ผู้ชมให้คะแนน ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ สูงมาก ได้ผลการประเมินในด้านบวกมากกว่า 90%!
และในอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในฟอรัมที่เกี่ยวข้องกับละครโทรทัศน์ ก็มีการพูดถึงละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ด้วย
“นี่คือละครจีนเรื่องแรกที่ฉันเคยดู รู้สึกดีอย่างคาดไม่ถึง!”
“พระเอกหล่อมาก นางเอกก็สวยมากเหมือนกัน ฝีมือการแสดงของทั้งสองคนไม่เลว เป็นละครน้ำดีที่คู่ควรต่อการแนะนำ”
“โครงเรื่องก็ดีมาก พวกคุณสังเกตไหม ว่าชื่อของตัวละครมีความเป็นเกาหลีมาก ยกเว้นฉากหลังแล้ว รู้สึกเหมือนเป็นละครที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่งของเกาหลี ไม่ใช่ละครจีน”
“แต่ก่อนฉันเคยดูละครจีนสองสามเรื่อง เทียบกันไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
“ขอสปอยล์หน่อยนะ นี่คือละครเศร้านะจ๊ะ”
“พวกสปอยล์ไปตายซะ…”
เรตติ้งที่ไม่คาดคิดกับคำวิจารณ์ที่ดี ทำให้ทางเอสพีจีรู้สึกเหมือนได้สมบัติล้ำค่าในทันใด
ดังนั้นเอสพีจีจึงเจรจากับเคจีเอสใหม่อีกครั้ง เพื่อวางแผนโปรโมตใหม่สำหรับ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ โดยเฉพาะ
เคจีเอสปรับเวลาการออกอากาศใหม่ เลื่อนละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไปออกอากาศในช่วงเวลายอดนิยม เปลี่ยนการออกอากาศจากสองวันสี่ตอนเป็นสามวันสามตอน ขยายเวลาการออกอากาศออกไป
ด้วยเงินลงทุนโปรโมต ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จึงเป็นที่รู้จักในประเทศเกาหลีใต้มากขึ้นทันที
และประสิทธิภาพก็ได้ผลชะงัด!
วันที่ 1 เดือนเมษายนตอนที่ห้าได้เรตติ้ง 9.37% วันที่ 2 ตอนที่หกได้เรตติ้ง 12.79%!
คืนวันอาทิตย์ที่ 3 เดือนเมษายน เคจีเอสออกอากาศ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นตอนที่เจ็ด
ตอนที่ซ่งเจียอี๋และหยางเยี่ยนนีมาถึงห้องมัลติมีเดียตรงเวลา ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นคนนั่งเต็มห้อง แทบจะไม่มีที่นั่งว่างเลย!
ทั้งสองสบตากันทำตัวไม่ถูก ทันใดนั้นความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างเข้มข้นพลันเกิดขึ้นในใจทันที
ไม่ทราบว่าละครจีนได้รับความนิยมในเกาหลีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน
หญิงสาวทั้งสองกระทั่งรู้สึกได้อย่างฉับพลันว่า เด็กฝึกหัดเหล่านี้มองพวกเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
คืนวันเดียวกัน เรตติ้งละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ทะลุถึง 15.86%
นอกจากเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นแล้ว การดูย้อนหลังของละครเรื่องนี้ก็ยังเพิ่มปริมาณสูงขึ้น เหมือนกับทีวีดิจิทัลความละเอียดสูงของประเทศจีน ผู้ชมโทรทัศน์ในประเทศเกาหลีใต้ใช้กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลที่มีฟังก์ชันดูย้อนหลัง ผู้ชมหลายคนย้อนดูสองสามตอนแรกของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน
นี่คือสัญญาณการเริ่มระเบิดเรตติ้งของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’!
ตอนบ่ายวันต่อมา ตอนที่ซ่งเจียอี๋กับหยางเยี่ยนนีเพิ่งจะฝึกซ้อมเสร็จและเตรียมตัวจะพักผ่อนนั้น ก็ถูกผู้รับผิดชอบการฝึกซ้อมของศูนย์ฝึกเรียกไปที่ออฟฟิศ โดยมีผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งของเอสพีจีรออยู่ที่นั่นแล้ว
อีกฝ่ายมาแจ้งซ่งเจียอี๋กับหยางเยี่ยนนีว่า ทั้งสองคนถูกเลือกให้กลับไปประเทศจีน เพื่อเตรียมตัวร่วมงานถ่ายทำละครใหม่ของลู่เฉิน!
พอได้ยินข่าวนี้ ซ่งเจียอี๋กับหยางเยี่ยนนีแทบไม่อยากจะเชื่อ
หลังจากยืนยันว่าเป็นความจริง ทั้งสองคนรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาไหล!
พวกเธอพยายามและยืนหยัดฝึกฝนอย่างยากลำบาก ในที่สุดก็ได้รับผลตอบแทนแล้ว
ขณะเดียวกัน ข่าวเรตติ้งละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศเกาหลีใต้ ได้ถูกแพร่กระจายไปที่ประเทศจีนอย่างรวดเร็ว
เรตติ้งของตอนล่าสุดทะลุ 15% ยังเหลืออีกสิบสามตอนที่ยังไม่ได้ออกอากาศ ดังนั้นเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศเกิน10% ได้กลายเป็นความจริงแล้ว และจะไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่นอน!
ละครจีนมาแรงในประเทศเกาหลีใต้ตั้งแต่เมื่อไรกัน
บุคคลในวงการมากมายรู้สึกสะดุ้งตกใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก ต่างทยอยสืบข่าวกับสตูดิโอลู่เฉินกันยกใหญ่
ส่วนแฟนคลับของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ ต่างคึกคักกันเจี๊ยวจ๊าว!
พวกเขาไม่ค่อยแน่ใจในความหมายที่แท้จริงเกี่ยวกับความฮอตของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในประเทศเกาหลีใต้ แต่กลับมั่นใจว่าลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ต้องรักษาสัญญาของตัวเองแน่นอน
“ครั้งนี้เล่นใหญ่เกินไปแล้ว!”
ในห้องอัดเสียงของเฟยสือเรคคอร์ด ลู่เฉินพูดกับเฉินเฟยเอ๋อร์ “คุณต้องชดใช้ค่าสินสอดแล้วนะ!”
ตอนแรกทำไปเพื่อโต้กลับบัญชีวีไอพี ‘สำรวจบันเทิง’ นั่น เดิมทีที่ลู่เฉินแสนอแนวคิดคือละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้เรตติ้ง 10% เขาก็จะจับฉลากรางวัลที่หนึ่ง สอง และสามให้กับแฟนคลับ รางวัลที่หนึ่งคือท่องเที่ยวสุดหรูที่ประเทศเกาหลีใต้สิบท่าน รางวัลที่สองคือท่องเที่ยวสุดสนุกจำนวนหนึ่งร้อยท่าน และรางวัลที่สามคือมอบของที่ระลึกจำนวนหนึ่งพันชิ้น
ผลสรุปคือเฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะเยาะเย้ยกับเรื่องนี้มาก เธอเปลี่ยนจากรางวัลที่หนึ่ง สอง สาม ให้เป็นจับฉลากรางวัลท่องเที่ยวแบบคู่รักจำนวนหนึ่งพันคน!
การประกาศแยกกันสองครั้ง มอบความเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมาก
การเซอร์ไพรส์ที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ลู่เฉินถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้าง
ความจริงลู่เฉินอยากจะบอกแฟนสาวของตัวเองเหลือเกิน ในโลกแห่งความฝันของเขา ละครต้นฉบับเกาหลีเรื่องนี้ได้รับเรตติ้งที่ประเทศเกาหลีใต้มากกว่า 40% ขึ้นไป
ถึงแม้สถานการณ์จะไม่เหมือนกัน แต่เขาเชื่อว่าได้เรตติ้งเฉลี่ย 20% อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน
นี่หมายความว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายนับสิบล้าน เงินที่ได้จากการขายลิขสิทธิ์ให้เอสพีจียังไม่เพียงพอเลย!
และเหตุผลของเฉินเฟยเอ๋อร์ก็ง่ายมาก อยากจะเล่นก็ต้องเล่นให้ใหญ่ไปเลย!
ถ้าหากสามารถบุกพื้นที่ที่ประเทศเกาหลีใต้ได้จริงๆ ต่อให้ทุ่มเงินมากกว่านี้ก็คุ้มค่า
ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้เธอขอเหมาจ่ายคนเดียว
เงินหลักสิบล้านแค่นี้ ยังไม่พอค่าสินสอดของราชินีเฉินด้วยซ้ำ!
สำหรับการหยอกล้อของลู่เฉิน เธอจึงทำเป็นเชิดใส่เขาด้วยท่าทางดูแคลน
…………………………………………………………………………
