Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2461

มรดกของป้อมปราการ

หุบเขาดาว ป้อมปราการแสงดาว :

ภายในป้อมปราการที่ทรุดโทรมนั้น มันเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตสายธาตุที่มีเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยสิบ ซึ่งในตอนนี้นั้นกองกำลังสิงโตเงินก็กำลังทำการผลักดันมอนสเตอร์เหล่านี้เพื่อจะเข้าไปยังใจกลางป้อมปราการ แม้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ และแกรนลอร์ดจำนวนมากขึ้น ในขณะที่พวกเขาตรงลึกเข้าไปในป้อมปราการ แต่การฆ่ามอนสเตอร์เหล่านี้ก็กลายเป็นเรื่องง่ายแล้ว เมื่อแม๊คอาฟรี่นั้นได้ใช้ม้วนคัมภีร์อัญเชิญฮีโร่ขั้นสี่ แถมทั้งกองกำลังยังได้รับบัฟจากป้อมปราการอีกด้วย

หลังจากทำการล่าและกำจัดมอนสเตอร์อยู่ในป้อมปราการเพียงหกชั่วโมง สมาชิกทุกคนในกองกำลังก็ได้เห็นว่าแถบค่า EXP ของพวกเขานั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยความเร็วในการเก็บเลเวลของพวกเขาที่นี่นั้นมันสูงกว่าในแผนที่ปกติหลายเท่า

นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตสายธาตุเหล่านี้ยังดรอปไอเทมไว้มากมายรวมไปถึงอุปกรณ์ระดับเหล็กลึกลับเลเวลหนึ่งร้อยสิบอีกจำนวนมากด้วย และหากพวกเขาโชคดีแม้แต่อุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน กับเซ็ทอุปกรณ์ก็จะดรอปออกมา

อุปกรณ์เหล่านี้จัดเป็นอุปกรณ์ชั้นยอดสำหรับสมาชิกในกองกำลังสิงโตเงิน ผู้เล่นที่มีเลเวลสูงสุดในหมู่พวกเขานั้นมีเลเวลหนึ่งร้อยหก ในขณะที่หลายคนยังคงอยู่ในเลเวลหนึ่งร้อยห้า ทำให้ปัจจุบันการจะได้รับอาวุธและอุปกรณ์เลเวลหนึ่งร้อยสิบมานั้นจัดเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับพวกเขามากๆ

โดยทั่วไปแล้วค่าสถานะของเซ็ทอุปกรณ์เหล่านี้นั้นก็จะดีกว่าอุปกรณ์ทั่วไปในระดับเดียวกันอย่างน้อยครึ่งหนึ่งด้วย ซึ่งหากผู้เล่นสามารถรวบรวมครบเซ็ทได้ พวกเขาก็จะได้รับพลังที่มากขึ้นกว่าการสวมใส่อุปกรณ์ตามปกติอย่างมาก

ยกตัวอย่างเช่น เซ็ทอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบที่มอนสเตอร์ของป้อมปราการแสงดาวดรอปออกมา แม้ว่าเซ็ทไฮเด้นบลูนี้จะเป็นเพียงเซ็ทระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบ แต่หากรวบรวมมันมาได้หกชิ้นจากแปดชิ้น และได้สวมใส่มัน มันก็จะช่วยเพิ่มความเร็วในการร่ายของผู้เล่นได้ถึงยี่สิบเปอเซ็นต์ และมันยังจะเพิ่มเอฟเฟคเวทย์ของผู้สวมใส่อีกยี่สิบห้าเปอเซ็นต์ และเมื่อสวมใส่ครบแปดชิ้นนั้นมันก็จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการใช้สกิลเวทย์ขึ้นอีกสองเปอเซ็นต์ และเพิ่มระยะการร่ายอีกยี่สิบเปอเซ็นต์

ซึ่งการสวมใส่เซ็ทนี้จะทำให้ค่าความเสียหายที่ผู้เล่นนักเวทย์สามารถทำได้นั้นสูงกว่าผู้ที่สวมใส่อุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบทั่วไปอย่างมาก !!

แม้ว่าในอนาคตพวกเขาจะไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยสิบแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองจะได้รับอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบมาคนละกี่ชิ้น และมันก็มีแนวโน้มว่าจะมีแต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของกิลขึ้นไปเท่านั้นจึงมีสิทจะได้รับอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบมาสวมใส่เต็มตัว การได้รับอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบมาให้ครบเซ็ทนั้นมันยากเกินกว่าความสามารถของผู้เชี่ยวชาญเพียงแค่คนเดียวอย่างมาก

โชคดีที่แม๊คอาฟรี่นั้นได้ประกาศไปแล้วว่าเขาจะจัดการประมูลภายในของอาวุธและอุปกรณ์ทั้งหมดที่กองกำลังได้รับมาจากป้อมปราการแสงดาว ซึ่งนั่นมันก็หมายความว่าพวกเขาทุกคนนั้นมีสิทจะได้รับเซ็ทอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อย โดยมันก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคะแนนสะสมกิลที่พวกเขามี

นี่เป็นเหตุผลที่สมาชิกของกองกำลังสิงโตเงินนั้นได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการกำจัดมอนสเตอร์ของป้อมปราการแสงดาว แม้ว่าซือเฟิงจะยังคงไม่พูดอะไรสักคำ แต่เอาจริงๆพวกเขาก็แอบหวังให้ทีมของซือเฟิงไม่เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ เพราะมันจะทำให้พวกเขาสามารถเก็บสิ่งมีชีวิตสายธาตุที่เหลือไว้เป็นของตัวเองได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วนั้นแม้ว่าป้อมปราการจะมีมอนสเตอร์จำนวนมาก แต่มันก็มีเซ็ทอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงินไม่เพียงพอสำหรับทุกคนแน่นอน

“หัวหน้ากิล เราจะปล่อยมอนสเตอร์พวกนั้นให้กับเผ่าศักสิทธิ์จริงๆงั้นหรอ ?” อควาโรสถาม ขณะที่เธอเฝ้ามองกองกำลังสิงโตเงินกำลังไล่ล่ามอนสเตอร์อยู่ในถนนสายหลักของป้อมปราการ

เซ็ทอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน และอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบอาจไม่สำคัญสำหรับเธอและผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆที่ร่วมต่อสู้กับซือเฟิง ตั้งแต่มายังทวีปด้านตะวันตก แต่อย่างไรก็ตามมันก็จะจัดว่าสำคัญมากเลยสำหรับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆของสภาสิบแปดปีก เพราะท้ายที่สุดแล้วมันยังไม่มีแม้แต่อุปกรณ์ทั่วไป เลเวลหนึ่งร้อยสิบปรากฎขึ้นในตลาดแม้แต่ชิ้นเดียว ไม่ต้องพูดถึงอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบเลย ….
พวกเขานั้นมีข้อได้เปรียบอย่างมากในปัจจุบัน อันเนื่องมาจากพวกเขานั้นมีเรือเหาะมังกรสีเลือด และในปัจจุบันวงเวทย์ของป้อมปราการก็ได้ทำการปราบปรามค่าสถานะพื้นฐานของมอนสเตอร์ในป้อมปราการทั้งหมดแล้ว ดังนั้นนี่มันจึงเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมเลยสำหรับพวกเขาที่จะรวบรวมอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน และเซ็ทอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบไปให้กับสมาชิกในกิล การปล่อยมอนสเตอร์เหล่านี้ไปให้กับกองกำลังสิงโตเงินทั้งหมดนั้น มันก็จัดว่าเป็นการสิ้นเปลืองอย่างมาก

“นั่นไม่จำเป็น แม้ว่ามอนสเตอร์เหล่านี้จะดรอปไอเทมจำนวนมาก แต่มันก็มีเพียงแค่แกรนลอร์ดเท่านั้นที่จะดรอปพวกไอเทมระดับลึกลับขั้นเงิน และโอกาสในการดรอปก็ไม่ใช่หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ด้วย เนื่องจากกองกำลังสิงโตเงินนั้นยินดีจะช่วยเรากวาดล้างป้อมปราการ ดังนั้นเราจึงควรจะปล่อยให้พวกเขาได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ไป” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ เมื่อเขาเห็นว่าไอเทมระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบนั้นล่อลวงอควาโรสอย่างมาก “ถ้าเราพยายามจะกวาดล้างทั้งปป้อมปราการด้วยตัวเองนั้น มันจะใช้เวลานานมาก นอกจากนี้เรายังมีสิ่งที่สำคัญกว่าให้ต้องไปจัดการ”

ตามสัญญาที่ซือเฟิงทำกับอดอล์ฟ กองกำลังสิงโตเงินนั้นอยู่ที่นี่เพื่อช่วยสภาสิบแปดปีกยึดป้อมปราการเท่านั้น และตอนนี้พวกเขาก็ได้เข้ายึดป้อมปราการแสงดาวได้แล้ว ฉะนั้นทั้งกองกำลังจึงไม่ได้มีเหตุผลจะต้องสู้ต่อเลย ในตอนนี้กองกำลังนี้สามารถเลือกจะหันหลังกลับและจากไปได้ทันที ความจริงที่ว่ากองกำลังสิงโตเงินนั้นเต็มใจจะกวาดล้างมอนสเตอร์ภายในป้อมปราการนั้นนับเป็นข่าวดีสำหรับซือเฟิง

หากสภาสิบแปดปีกต้องกวาดล้างมอนสเตอร์ทั้งหมดภายในป้อมปราการด้วยตัวเอง เขาจะไม่มีเวลาเหลือมากพอที่จะสามารถวางโครงสร้างการป้องกันของป้อมปราการได้

“สิ่งสำคัญกว่างั้นหรอ ?” หลังจากครุ่นคิด อควาโรสก็ถามว่า “พวกเราจะบุกโจมตีบอสผู้พิทักษ์ที่เหลืองั้นหรอ ?”

ช่วงเวลาที่อควาโรสกล่าวถึงบอสผู้พิทักษ์ โคล่าและผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆของสภาสิบแปดปีกก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น พวกเขานั้นไม่ได้มีโอกาสจะต่อสู้กับเบเฮโมทแสงดาวโดยตรง ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงอยากจะลงมือเองมากๆ

“ไม่ ..” ซือเฟิงตอบพลางส่ายหัว “เราจะไปเข้ายึดคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการกัน !!!”

“คฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการ ? หัวหน้ากิล ไม่ใช่ว่าหัวหน้าได้รับโทเค่นลอร์ดมาแล้วหรอ ?” อควาโรสถามอย่างสงสัย

โทเค่นลอร์ดแห่งป้อมปราการนั้นจำเป็นอย่างมากต่อการใช้ควบคุมป้อมปราการโดยรวม และมันก็จัดเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าไปมีอำนาจเหนือคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครอง ซึ่งโดยปกตินั้น เมื่อพวกเขาได้รับโทเค่นมาแล้ว พวกเขาก็น่าจะได้รับอำนาจนี้มาโดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกับบอกพวกเขาว่า พวกเขายังคงต้องการเข้ายึดคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครอง

“ฉันมีโทเค่นลอร์ดแห่งป้อมปราการก็จริง แต่ฉันยังไม่ได้เข้าควบคุมคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการ ในความเป็นจริง ฉันยังไม่สามารถควบคุมมันได้แม้แต่ส่วนเดียวเลยด้วยซ้ำ” ซือเฟิงอธิบายด้วยรอยยิ้มขมขื่น

ป้อมปราการนี้นั้นมันถูกสร้างขึ้มาตั้งแต่ก่อนการทำลายล้างครั้งใหญ่ และมันไม่ได้เหมือนกับป้อมปราการที่ทันสมัยกว่า เมื่อคนๆหนึ่งได้รับโทเค่นลอร์ดแห่งป้อมปราการสำหรับป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นหลังการทำลายล้างครั้งใหญ่นั้น คนผู้นั้นจะมีอำนาจควบคุมคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการอย่างเต็มที่ แต่นั่นมันไม่ได้เป็นแบบเดียวกันกับป้อมปราการโบราณ

การจะเข้ายึดคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองให้ได้นั้นมันยากกว่าการที่จะเข้ายึดป้อมปราการให้ได้หลายเท่า มูลค่าที่แท้จริงของป้อมปราการเหล่านี้นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับไอเทมที่ดรอปจากมอนสเตอร์ประจำท้องถิ่น หรือไอเทมที่บอสผู้พิทักษ์ดรอปไว้ แต่สิ่งที่มีค่าอย่างแท้จริงของมันคือมรดกโบราณที่ถูกเก็บไว้ในคฤหาสของลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการ

อาวุธและอุปกรณ์นั้นจัดว่าเป็นเรื่องรองไปเลย เมื่อเทียบกับมรดกโบราณพวกนี้

มรดกส่วนใหญ่ที่มนุษย์โบราณทิ้งไว้ที่จะทำให้ผู้คนไปถึงขั้นสามได้อย่างง่ายๆนั้นสูญหายไปตามกาลเวลาแล้ว ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบันทั้งผู้เล่น และ NPC จึงมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆในการจะทำเควสเลื่อนขั้นขึ้นไปยังขั้นสามหรือสูงกว่า

เนื่องจากป้อมปราการแสงดาวนั้นเป็นป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นก่อนการทำลายล้างครั้งใหญ่และอยู่รอดมาได้ ดังนั้นมันจึงควรจะมีมรดกระดับสูงขั้นหรือสูงกว่าเหลืออยู่ไม่มากก็น้อย

มรดกเหล่านี้นั้นจัดเป็นสมบัติที่แท้จริงภายในป้อมปราการ

ในระยะนี้ของเกมนั้น ผู้เล่นทุกคนล้วนรู้ดีว่ามันยากแค่ไหนกว่าจะไปถึงขั้นสามได้ อย่างไรก็ตามผู้เล่นส่วนใหญ่ยังคงไม่รู้เช่นกันว่าจริงๆแล้วขั้นสามนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางใน God domain เมื่อพวกเขาทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามเรียบร้อยนั้น พวกเขาจะค่อยๆได้รับรู้เองว่าเมื่อเวลาผ่านไป ว่าการพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองนั้นมันจะยากขึ้นมาก

เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ?

เหตุผลนั้นง่ายมาก …

หลังจากมาถึงขั้นสามแล้วผู้เล่นจะไม่ได้รับคำแนะนำใดๆจากระบบเกี่ยวกับวิธีการเพิ่มความแข็งแกร่งเลย ….

ยกตัวอย่างเช่นสกิลและเวทย์ขั้นสาม สิ่งเหล่านี้นั้นนับเป็นรากฐานสำหรับพลังของผู้เล่นขั้นสาม หากผู้เล่นอาศัยแค่คะแนนสกิลมรดกเพื่อรับเอาสกิลและเวทย์ขั้นสาม พวกเขาจะไม่ถือว่าเป็นผู้เล่นขั้นสามที่แท้จริง ในการจะเป็นผู้เล่นขั้นสามอย่างแท้จริงนั้น ผู้เล่นจะต้องมีสกิลและเวทย์อย่างน้อยสิบอย่างแตกต่างกันในคลังสกิลของตน

นอกจากนี้ผู้เล่นยังต้องรู้วิธีการควบคุมร่างมานาของตัวเองด้วย ซึ่งนับเป็นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง และวิธีการควบคุมร่างมานาแบบนี้นั้นก็มีความสำคัญมากกว่าสกิลและเวทย์ขั้นสามด้วย

แม้ว่าซือเฟิงจะเป็นปรมาจารย์นักเวทย์แล้ว และการควบคุมกับความเข้าใจเกี่ยวกับวงเวทย์ของเขานั้นก็เหนือกว่าผู้เล่นคนอื่นๆอย่างมาก แต่เขาก็สามารถควบคุมร่างมานาของตัวเองได้แค่ขั้นพื้นฐานเท่านั้น ซึ่งนี่มันก็จัดว่าดีมากแล้ว เพราะท้ายที่สุด แม้แต่ผู้เล่นในทวีปด้านตะวันตกที่มุ่งเน้นไปที่การควบคุมมานาก็ยังเทียบกับซือเฟิงไม่ได้เลยในเรื่องนี้ ความเข้าใจของพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นมันเทียบเท่ากับเด็กแรกเกิดเท่านั้น

นี่คือสาเหตุที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามในปัจจุบันนั้นไม่สามารถจะเทียบกับ NPC ขั้นสามได้

อย่างไรก็ตามมรดกมากมายภายในป้อมปราการโบราณแบบนี้จะเกี่ยวข้องกับการควบคุมร่างมานา โดยมันจะทำให้มนุษย์ที่ไม่มีข้อได้เปรียบทางกายภาพนั้นสามารถจะอยู่รอดในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรงและอันตรายได้ ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ทำให้ป้อมนี้นั้นอยู่รอดมาจากการทำลายล้างครั้งใหญ่ด้วย

“หัวหน้ากิลแล้วเราจะเข้ายึดคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองได้ยังไง ?” อควาโรสถาม เธอตระหนักว่าซือเฟิงนั้นไม่ได้ล้อเล่น เมื่อดูจากสีหน้าจริงจังของเขา

หากพวกเขาไม่สามารถจะเข้ายึดคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองได้ ป้อมปราการแห่งนี้ก็จะไม่ต่างจากไม่มีเจ้าของเลย และหากสิ่งนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงก่อนที่มันจะถูกเปิดให้สาธารณชนเข้ามาโดยอัตโนมัติ สภาสิบแปดปีกก็จะตกอยู่ในตำแหน่งที่น่าอึดอัดมากๆ

“มันง่ายมาก สิ่งที่เราต้องทำก็คือผ่านการทดสอบของมรดกในคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองให้ได้ หากเราล้มเหลว เราจะควบคุมป้อมปราการได้แค่ผิวเผินเท่านั้น แม้ว่าจะมีโทเค่นลอร์ดแห่งป้อมปราการก็ตาม” ซือเฟิงตอบ

พูดง่ายๆก็คือโทเค่นลอร์ดแห่งป้อมปราการนั้นเป็นเพียงตั๋วสำหรับเข้าไปทดสอบเพื่อรับเอามรดกของป้อมปราการแสงดาวเท่านั้น และผู้เล่นจะสามารถควบคุมป้อมปราการได้มากแค่ไหน มันก็จะขึ้นอยู่กับมรดกที่พวกเขาสามารถจะเปิดใช้งานได้

การทดสอบเพื่อรับเอามรดกของป้อมปราการโบราณต่างๆนั้นมันก็มีความยากแตกต่างกันไป โดยเรียงลำดับตั้งแต่ ทั่วไป ยาก นรก อาชูร่า และพระเจ้า ซึ่งยิ่งความยากของการทดสอบมีมากเท่าไหร่ รางวัลที่จะได้รับก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามการจะพิชิตการทดสอบให้ได้ก็จะต้องใช้ผู้เล่นมากขึ้นด้วย ยิ่งไปกว่านั้นการทดสอบเพื่อรับเอามรดกเหล่านี้ยังมีคูลดาวน์หนึ่งสัปดาห์ด้วย

จากนั้นซือเฟิงก็พาอควาโรสและคนอื่นๆมุ่งหน้าไปยังคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการแสงดาว

ขณะนี้มันได้มีวงเวทย์ห่อหุ้มคฤหาสถ์เอาไว้ และแม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายก็จะไม่สามารถฝ่ามันเข้าไปได้เลย ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นในปัจจุบัน และมีเพียงแค่เฉพาะผู้เล่นที่ถือโทเค่นลอร์ดแห่งป้อมปราการพร้อมกับพรรคพวกของเขาที่ได้รับอนุญาติเท่านั้นจึงจะผ่านวงเวทย์นี้เข้าไปได้

หลังจากเดินทางมาถึงทางเข้าคฤหาสถ์ ซือเฟิงก็ได้นำโทเค่นออกมา และเริ่มร่ายเวทย์ และเขาก็ได้ภาวนาในใจอย่างเงียบๆว่าอย่าให้การทดสอบเพื่อรับเอามรดกของป้อมปราการแสงดาวนั้นมันมีความยากมากเกินไปเลย ….

เขาไม่เพียงแต่จะเลือกเข้ายึดป้อมปราการแสงดาว เพราะว่ามอนสเตอร์ที่นี่จัดการได้ง่ายกว่าที่ป้อมปราการอื่นๆ แต่เหตุผลส่วนใหญ่จริงๆที่เขาตัดสินใจแบบนี้นั้นก็คือความจริงที่ว่ามันเป็นหนึ่งในป้อมปราการขนาดเล็กไม่กี่แห่งในหุบเขาดาว ซึ่งคฤถาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองที่นี่นั้นก็น่าจะมีการทดสอบที่ไม่ยากมากนักเพื่อรับเอามรดกและสิทในการควบคุมป้อมปราการมากขึ้น ถ้าเขาพยายามยึดป้อมปราการที่แข็งแกร่งกว่านี้ เขากลัวว่าตัวเองและพรรคพวกจะไม่สามารถเข้ายึดคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการได้ ….

เมื่อซือเฟิงร่ายเวทย์ที่ถูกบันทึกไว้ในโทเค่นเรียบร้อย วงเวทย์ขนาดใหญ่ที่ซ้อนทับกันสี่ชั้นและมีสีม่วงก็ปรากฎขึ้นที่ประตูหลักของคฤหาสถ์ จากนั้นประตูทองขนาดมหึมาก็ปรากฎออกมา และเมื่อประตูนี้ค่อยๆเปิดออก พวกเขาทั้งหมดก็ล้วนสัมผัสได้ถึงออร่าแห่งความโบราณอย่างชัดเจน

อึก !!! นี่มันไม่ใช่แค่ป้อมปราการขนาดเล็กทั่วไปงั้นหรอ ?!! ทำไมการทดสอบเพื่อรับมรดกถึงมีความยากเป็นโหมดอาชูร่า ?!

ซือเฟิงนั้นตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เมื่อเขาเห็นประตูทอง ….

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset