Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2566

ตอนที่ 2566 แง้มปาก

เมื่อเห็นท่าทีของซือเฟิง บลูเรนโบว์และผู้อาวุโสโกลด์ก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ

“นี่เขายังคิดจะสู้ต่ออีกงั้นหรอ ?” บลูเรนโบว์เต็มไปด้วยความสับสน เมื่อซือเฟิงไม่แสดงเจตนาที่จะถอยกลับ

ความแตกต่างระหว่างพลังการต่อสู้ของพวกเขานั้นชัดเจนสำหรับทุกคนที่เห็น ตอนนี้กอทัพผู้รุกรานจากโลกแห่งความมืดนั้นแข็งแกร่งเกินกว่ากองกำลัง NPC ของสภาสิบแปดปีกแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากท่าทีของซือเฟิงที่เลือกจะสู้ต่อ บลูเรนโบว์ก็พยายามที่จะทำความเข้าใจ

ในระหว่างการสืบสวน ดาร์ครัปโซดี้นั้นได้รับข้อมูลของสภาสิบแปดปีกมาจำนวนหนึ่งจากมหาอำนาจต่างๆในทวีปหลักของ God domain และพวกเขาก็ได้รู้ว่ากิลมีไพ่ที่น่าทึ่งมากมาย และแหวนแห่งกอสเปล ซึ่งเป็นเครื่องมือโดเมนก็เป็นหนึ่งในนั้น และเมื่อเปิดใช้งานในสนามรบขนาดใหญ่ มันก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าให้ผลที่น่าอัศจรรย์มากๆ แหวนแห่งกอสเปลนั้นไม่เพียงแต่จะมีสกิล AOE จำนวนมากเท่านั้น แต่มันยังมีพลังอย่างมหาศาลด้วย

อย่างไรก็ตามผลของแหวนนี้ควรจะมีกำจัดมาก เพราะปัจจุบันสภาสิบแปดปีกกำลังเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่ และองครักษ์ส่วนตัวขั้นสามซึ่งน่าจะมีค่าความต้านทานสกิลของแหวนสูงพอสมควร

ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีมอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่มากกว่าห้าสิบตัวที่เข้าร่วมการต่อสู้ แม้ว่าแหวนแห่งกอสเปลจะสามารถปราบปรามพวกมันได้ แต่ NPC ขั้นสามจำนวนมากกว่าหนึ่งพันเล็กน้อยนี้ก็ไม่น่าจะสามารถหยุดมันได้ทั้งหมด แถมมอนสเตอร์เหล่านี้ยังมีกองกำลังองครักษ์ส่วนตัวขั้นสามมากกว่าสามพันคนคอยสนับสนุนด้วย

แม้แต่เกรซฟูลโมนาร์ช และเพอเพิ้ลรากษสที่เฝ้ามองอยู่จากที่ซ่อนในระยะปลอดภัยก็ยังรู้สึกสับสน

“แบล๊คเฟรมกำลังพยายามทำอะไรกัน ?”
“นี่เขากำลังจะเริ่มการต่อสู้ขั้นแตกหักงั้นหรอ ?”

พวกเขาพึ่งจะได้เห็นความแข็งแกร่งของโลกแห่งความมืด และพวกเขาก็ไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าจะได้เห็นสงครามขนาดใหญ่ระหว่างสภาสิบแปดปีกกับโลกอื่น

พวกเขานั้นตกตะลึงอย่างมาก หลังจากที่ได้เห็นพลังต่อสู้ของสภาสิบแปดปีก ไม่มีใครคาดคิดเลยว่ากิลจะมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะยืนหยัดต่อสู้กับกองทัพของผู้เล่นจากโลกอื่นทั้งหมดได้ ยิ่งไปกว่านั้นสภาสิบแปดปีกยังขัดขวางผู้เชี่ยวชาญของโลกแห่งความมืดได้สำเร็จ ความแข็งแกร่งของกิลพวกเขานั้นมันไม่น่าเชื่อเลย

เมื่อพวกเขานึกถึงความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรระหว่างเขตแสงสุดขีดกับเขตหนึ่งของสภาสิบแปดปีก พวกเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หากสภาสิบแปดปีกต้องการ ด้วยการใช้กองอัศวินของพวกเขาเพียงอย่างเดียว พวกเขาก็จะสามารถกวาดผ่าน
ดาร์คเดนทั้งหมดได้สบายๆเลย

ในทางตรงกันข้ามฝ่ายตรงข้ามในปัจจุบันของสภาสิบแปดปีกนั้นเป็น NPC ขั้นสาม และมอนสเตอร์ขั้นสี่อย่างแท้จริง แถมด้วยความแตกต่างอย่างมากระหว่างพลังการต่อสู้และจำนวนของทั้งสองฝ่าย การถอยกลับไปที่เมืองป่าหินจึงควรจะเป็นเคลื่อนไหวที่ฉลาดที่สุดของสภาสิบแปดปีก อัศวินขั้นสามทุกคนนั้นเป็นดั่งรากฐานของสภาสิบแปดปีกในตอนนี้ และหากพวกเขาถูกฆ่าไปเป็นจำนวนมากหรือทั้งหมด สภาสิบแปดปีกก็จะตกอยู่ในสถานะพิการเลย

สภาสิบแปดปีกได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว เมื่อข่าวการสู้รบแพร่กระจายออกไป มหาอำนาจต่างๆที่ต้องการจะเข้ายึดเมืองป่าหินจะเริ่มถอยกลับแน่นอน และผู้เล่นทั้งหมดจากโลกแห่งความมืดก็จะไม่กล้าที่จะประมาทสภาสิบแปดปีกอีก ในความเป็นจริงพวกเขาอาจหลีกเลี่ยงการทำให้สมาชิกกิลของสภาสิบแปดปีกในป่าใบไม้ผลิขุ่นเคืองด้วยซ้ำ

ในขณะที่เกรซฟูลโมนาร์ชและเพอเพิ้ลรากษสกำลังเต็มไปด้วยความสับสน อยู่ๆบางอย่างเหนือหุบเขาก็เปลี่ยนไป

มันค่อยๆมีเงาของโลกหนึ่งเข้ามาแทนที่พื้นที่โดยรอบบริเวณ และภายในเวลาไม่ถึงสามวินาที เงาของโลกนี้ก็ปกคลุมไปทั่วสนามรบ และมันยังโอบล้อมเพอเพิ้ลรากษส กับเกรซฟูลโมนาร์ชที่เฝ้าดูจากระยะไกลได้ด้วยซ้ำ

ซึ่งทันทีที่พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังของเงาของโลกนี้ ทั้งเกรซฟูลโมนาร์ช และเพอเพิ้ลรากษสก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกรอบๆนี้ พวกเขารู้สึกราวกับว่าตอนนี้ พวกเขากลายเป็นศัตรูกับสภาพแวดล้อมด้วย เพราะไม่เพียงแต่ร่างกายของพวกเขาจะเริ่มอ่อนแอลง แต่พวกเขายังสูญเสียค่าสถานะพื้นฐานไปบางส่วนด้วย

ขณะเดียวกันพลังนี้ก็ดูเหมือนจะส่งผลต่อองครักษ์ส่วนตัวขั้นสาม และมอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่ทั้งหมดด้วย เพราะทั้งหมดชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด และออร่าของทั้งหมดก็อ่อนแอลงอย่างมาก

“นี่เขาทำอะไรกัน ?” บลูเรนโบว์อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง เมื่อเธอรู้ว่าองครักษ์ส่วนตัวขั้นสาม และมอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่ถูกปราบปรามมากแค่ไหน

เธอเคยประสบกับผลกระทบของโดเมนมาก่อน ซึ่งมันมีแนวโน้มที่จะอ่อนแอกว่าบาเรียเวทย์มนต์มากๆ เพราะยิ่งเป้าหมายแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ผลที่โดเมนจะสามารถปราบปรามมันได้ก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น แต่โดเมนจากเครื่องมือของซือเฟิงกับทำลายทุกสิ่งที่เธอคิดว่ารู้เกี่ยวกับโดเมนก่อนหน้านี้ทั้งหมด

โดยปกติแม้แต่วงเวทย์ขั้นกลางก็ไม่สามารถจะปราบปรามมอนสเตอร์ขั้นสี่ในเลเวลแบบนี้ได้ แต่ภายในโดเมนของซือเฟิง ออร่าของมอนสเตอร์เหล่านี้กับอ่อนแอลงอย่างมาก โดเมนนี้สามารถจะเทียบกับวงเวทย์ขั้นสูงได้เลย และมันก็มีขนาดใหญ่มากจนปกคลุมไปทั่วทั้งหุบเขา เธอไม่เคยได้เห็นโดเมนที่ทรงพลังมากขนาดนี้มาก่อนเลย

อย่างไรก็ตามก่อนที่ใครจะทันได้ตอบสนองได้ ซือเฟิงก็เปิดใช้งานอีกหนึ่งสกิลของแหวนแห่งกอสเปล

“Ring of Brilliance!”

เมื่อเขาพูดจบ แสงไฟก็กระเพื่อมไปทั่วสนามรบทำให้ผู้เล่นสายความมืดทุกคนในพื้นที่ตกตะลึง

“อึก !! นี่มันเป็นการโกงชัดๆ !!” เมจิคแฟลชอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งออกมา เมื่อจ้องมองไปที่กองอัศวินของสภาสิบแปดปีกตอนนี้

ตอนนี้ความรุนแรงของออร่าของอัศวินเหล่านี้นั้นพุ่งสูงขึ้นมาก และตอนนี้พลังที่พวกเขามีและแผ่ออกมา มันก็ทำให้รู้สึกราวกับว่าพวกเขาเป็นกองกำลังมอนสเตอร์ขั้นสี่อย่างแท้จริง และสภาพจิตใจของอัศวินก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาดูไม่เหมือนกับเมื่อครู่ที่ผ่านมา

การพัฒนาอย่างกระทันหันนี้ทำให้เกิดความโกลาหลในหมู่พวกระดับสูงของกิลและทีมนักผจญภัยต่างๆซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ควบคุมเหล่ามอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่ และองครักษ์ส่วนตัวขั้นสาม และตอนนี้พวกเขาก็สั่งให้องครักษ์ส่วนตัว กับมอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่หยุดการเคลื่อนไหวลงพลางมองไปยังกองอัศวินและจดจ่ออยู่ซึ่งกันและกัน ความเงียบนั้นได้เข้าปกคลุมกองทัพผู้รุกรานจากโลกแห่งความมืด และตอนนี้เจตนาฆ่าฟันหรือความเย้ยหยันของพวกเขาก็ไม่ได้เผยออกมาให้เห็นแล้ว

“คุณต้องการจะสู้ต่อไหม ?” ซือเฟิงถามอย่างใจเย็น หลังจากที่จ้องมองไปที่ผู้เล่นสายความมืดตรงหน้าเขา คราวนี้ไม่มีผู้เล่นสายความมืดคนใดกล้าพูด พวกเขาทำเพียงจ้องมองกลับไปด้วยท่าทางที่โกรธและไม่เต็มใจเท่านั้น

สู้ ?

นี่มันเหมือนกับการฆ่าตัวตายมากกว่า !!!

พวกเขาได้เปิดเผยไพ่ที่พวกเขามีออกมาด้วยความมุ่งมั่นเพื่อจะใช้มันลดช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งของพวกเขากับกองกำลังสภาสิบแปดปีก แต่ตอนนี้ด้วยแหวนแห่งกอสเปล ไม่เพียงแต่ช่องว่างจะไม่ลดลง แต่มันกลับเพิ่มขึ้นแทน ….

เนื่องจากไม่มีใครตอบคำถาม ซือเฟิงจึงหันไปหาดอร์นโดมิแน้นซ์ ซึ่งยังคงเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆอยู่

“หัวหน้ากิลดอร์น เนื่องจากคุณสามารถพูดแทนครึ่งโลกของโลกแห่งความมืดได้ บอกฉันหน่อยได้ไหมว่าคุณต้องการจะสู้ต่อไปไหม ?” ซือเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม

สีหน้าของดอร์นโดมิแน้นซ์เปลี่ยนเป็นซีดเผือด เมื่อเขาได้ยินคำถาม และเขาก็สูญเสียคำพูดไปอย่างสิ้นเชิง

หากเขาเลือกจะต่อสู้ต่อไป เขาจะต้องเสียสละตัวเองและกิลของเขาสำหรับเรื่องนี้ แถมเขายังได้ใช้องครักษ์ส่วนตัวขั้นสามทั้งหมดของเวิร์ลโดมิเนชั่นเพื่อผลักดันให้กิลและทีมนักผจญภัยอื่นๆเริ่มเคลื่อนไหว และหากองครักษ์ส่วนตัวขั้นสามคนใดคนหนึ่งของเวิร์ลโดมิเนชั่นตายลง มันก็จะนับเป็นความสูญเสียอย่างมากแล้ว และหากทั้งหมดตายลง เวิร์ลโดมิเนชั่นได้จบสิ้นแน่นอน

อย่างไรก็ตามศักศรีดิ์ของเวิร์ลโดมิเนชั่นในโลกแห่งความมืดจะไม่เหลือเลยแน่นอน หากพวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ….

เมื่อเห็นท่าทีของซือเฟิง บลูเรนโบว์และผู้อาวุโสโกลด์ก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ

“นี่เขายังคิดจะสู้ต่ออีกงั้นหรอ ?” บลูเรนโบว์เต็มไปด้วยความสับสน เมื่อซือเฟิงไม่แสดงเจตนาที่จะถอยกลับ

ความแตกต่างระหว่างพลังการต่อสู้ของพวกเขานั้นชัดเจนสำหรับทุกคนที่เห็น ตอนนี้กอทัพผู้รุกรานจากโลกแห่งความมืดนั้นแข็งแกร่งเกินกว่ากองกำลัง NPC ของสภาสิบแปดปีกแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากท่าทีของซือเฟิงที่เลือกจะสู้ต่อ บลูเรนโบว์ก็พยายามที่จะทำความเข้าใจ

ในระหว่างการสืบสวน ดาร์ครัปโซดี้นั้นได้รับข้อมูลของสภาสิบแปดปีกมาจำนวนหนึ่งจากมหาอำนาจต่างๆในทวีปหลักของ God domain และพวกเขาก็ได้รู้ว่ากิลมีไพ่ที่น่าทึ่งมากมาย และแหวนแห่งกอสเปล ซึ่งเป็นเครื่องมือโดเมนก็เป็นหนึ่งในนั้น และเมื่อเปิดใช้งานในสนามรบขนาดใหญ่ มันก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าให้ผลที่น่าอัศจรรย์มากๆ แหวนแห่งกอสเปลนั้นไม่เพียงแต่จะมีสกิล AOE จำนวนมากเท่านั้น แต่มันยังมีพลังอย่างมหาศาลด้วย

อย่างไรก็ตามผลของแหวนนี้ควรจะมีกำจัดมาก เพราะปัจจุบันสภาสิบแปดปีกกำลังเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่ และองครักษ์ส่วนตัวขั้นสามซึ่งน่าจะมีค่าความต้านทานสกิลของแหวนสูงพอสมควร

ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีมอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่มากกว่าห้าสิบตัวที่เข้าร่วมการต่อสู้ แม้ว่าแหวนแห่งกอสเปลจะสามารถปราบปรามพวกมันได้ แต่ NPC ขั้นสามจำนวนมากกว่าหนึ่งพันเล็กน้อยนี้ก็ไม่น่าจะสามารถหยุดมันได้ทั้งหมด แถมมอนสเตอร์เหล่านี้ยังมีกองกำลังองครักษ์ส่วนตัวขั้นสามมากกว่าสามพันคนคอยสนับสนุนด้วย

แม้แต่เกรซฟูลโมนาร์ช และเพอเพิ้ลรากษสที่เฝ้ามองอยู่จากที่ซ่อนในระยะปลอดภัยก็ยังรู้สึกสับสน

“แบล๊คเฟรมกำลังพยายามทำอะไรกัน ?”
“นี่เขากำลังจะเริ่มการต่อสู้ขั้นแตกหักงั้นหรอ ?”

พวกเขาพึ่งจะได้เห็นความแข็งแกร่งของโลกแห่งความมืด และพวกเขาก็ไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าจะได้เห็นสงครามขนาดใหญ่ระหว่างสภาสิบแปดปีกกับโลกอื่น

พวกเขานั้นตกตะลึงอย่างมาก หลังจากที่ได้เห็นพลังต่อสู้ของสภาสิบแปดปีก ไม่มีใครคาดคิดเลยว่ากิลจะมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะยืนหยัดต่อสู้กับกองทัพของผู้เล่นจากโลกอื่นทั้งหมดได้ ยิ่งไปกว่านั้นสภาสิบแปดปีกยังขัดขวางผู้เชี่ยวชาญของโลกแห่งความมืดได้สำเร็จ ความแข็งแกร่งของกิลพวกเขานั้นมันไม่น่าเชื่อเลย

เมื่อพวกเขานึกถึงความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรระหว่างเขตแสงสุดขีดกับเขตหนึ่งของสภาสิบแปดปีก พวกเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หากสภาสิบแปดปีกต้องการ ด้วยการใช้กองอัศวินของพวกเขาเพียงอย่างเดียว พวกเขาก็จะสามารถกวาดผ่าน
ดาร์คเดนทั้งหมดได้สบายๆเลย

ในทางตรงกันข้ามฝ่ายตรงข้ามในปัจจุบันของสภาสิบแปดปีกนั้นเป็น NPC ขั้นสาม และมอนสเตอร์ขั้นสี่อย่างแท้จริง แถมด้วยความแตกต่างอย่างมากระหว่างพลังการต่อสู้และจำนวนของทั้งสองฝ่าย การถอยกลับไปที่เมืองป่าหินจึงควรจะเป็นเคลื่อนไหวที่ฉลาดที่สุดของสภาสิบแปดปีก อัศวินขั้นสามทุกคนนั้นเป็นดั่งรากฐานของสภาสิบแปดปีกในตอนนี้ และหากพวกเขาถูกฆ่าไปเป็นจำนวนมากหรือทั้งหมด สภาสิบแปดปีกก็จะตกอยู่ในสถานะพิการเลย

สภาสิบแปดปีกได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว เมื่อข่าวการสู้รบแพร่กระจายออกไป มหาอำนาจต่างๆที่ต้องการจะเข้ายึดเมืองป่าหินจะเริ่มถอยกลับแน่นอน และผู้เล่นทั้งหมดจากโลกแห่งความมืดก็จะไม่กล้าที่จะประมาทสภาสิบแปดปีกอีก ในความเป็นจริงพวกเขาอาจหลีกเลี่ยงการทำให้สมาชิกกิลของสภาสิบแปดปีกในป่าใบไม้ผลิขุ่นเคืองด้วยซ้ำ

ในขณะที่เกรซฟูลโมนาร์ชและเพอเพิ้ลรากษสกำลังเต็มไปด้วยความสับสน อยู่ๆบางอย่างเหนือหุบเขาก็เปลี่ยนไป

มันค่อยๆมีเงาของโลกหนึ่งเข้ามาแทนที่พื้นที่โดยรอบบริเวณ และภายในเวลาไม่ถึงสามวินาที เงาของโลกนี้ก็ปกคลุมไปทั่วสนามรบ และมันยังโอบล้อมเพอเพิ้ลรากษส กับเกรซฟูลโมนาร์ชที่เฝ้าดูจากระยะไกลได้ด้วยซ้ำ

ซึ่งทันทีที่พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังของเงาของโลกนี้ ทั้งเกรซฟูลโมนาร์ช และเพอเพิ้ลรากษสก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกรอบๆนี้ พวกเขารู้สึกราวกับว่าตอนนี้ พวกเขากลายเป็นศัตรูกับสภาพแวดล้อมด้วย เพราะไม่เพียงแต่ร่างกายของพวกเขาจะเริ่มอ่อนแอลง แต่พวกเขายังสูญเสียค่าสถานะพื้นฐานไปบางส่วนด้วย

ขณะเดียวกันพลังนี้ก็ดูเหมือนจะส่งผลต่อองครักษ์ส่วนตัวขั้นสาม และมอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่ทั้งหมดด้วย เพราะทั้งหมดชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด และออร่าของทั้งหมดก็อ่อนแอลงอย่างมาก

“นี่เขาทำอะไรกัน ?” บลูเรนโบว์อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง เมื่อเธอรู้ว่าองครักษ์ส่วนตัวขั้นสาม และมอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่ถูกปราบปรามมากแค่ไหน

เธอเคยประสบกับผลกระทบของโดเมนมาก่อน ซึ่งมันมีแนวโน้มที่จะอ่อนแอกว่าบาเรียเวทย์มนต์มากๆ เพราะยิ่งเป้าหมายแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ผลที่โดเมนจะสามารถปราบปรามมันได้ก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น แต่โดเมนจากเครื่องมือของซือเฟิงกับทำลายทุกสิ่งที่เธอคิดว่ารู้เกี่ยวกับโดเมนก่อนหน้านี้ทั้งหมด

โดยปกติแม้แต่วงเวทย์ขั้นกลางก็ไม่สามารถจะปราบปรามมอนสเตอร์ขั้นสี่ในเลเวลแบบนี้ได้ แต่ภายในโดเมนของซือเฟิง ออร่าของมอนสเตอร์เหล่านี้กับอ่อนแอลงอย่างมาก โดเมนนี้สามารถจะเทียบกับวงเวทย์ขั้นสูงได้เลย และมันก็มีขนาดใหญ่มากจนปกคลุมไปทั่วทั้งหุบเขา เธอไม่เคยได้เห็นโดเมนที่ทรงพลังมากขนาดนี้มาก่อนเลย

อย่างไรก็ตามก่อนที่ใครจะทันได้ตอบสนองได้ ซือเฟิงก็เปิดใช้งานอีกหนึ่งสกิลของแหวนแห่งกอสเปล

“Ring of Brilliance!”

เมื่อเขาพูดจบ แสงไฟก็กระเพื่อมไปทั่วสนามรบทำให้ผู้เล่นสายความมืดทุกคนในพื้นที่ตกตะลึง

“อึก !! นี่มันเป็นการโกงชัดๆ !!” เมจิคแฟลชอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งออกมา เมื่อจ้องมองไปที่กองอัศวินของสภาสิบแปดปีกตอนนี้

ตอนนี้ความรุนแรงของออร่าของอัศวินเหล่านี้นั้นพุ่งสูงขึ้นมาก และตอนนี้พลังที่พวกเขามีและแผ่ออกมา มันก็ทำให้รู้สึกราวกับว่าพวกเขาเป็นกองกำลังมอนสเตอร์ขั้นสี่อย่างแท้จริง และสภาพจิตใจของอัศวินก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาดูไม่เหมือนกับเมื่อครู่ที่ผ่านมา

การพัฒนาอย่างกระทันหันนี้ทำให้เกิดความโกลาหลในหมู่พวกระดับสูงของกิลและทีมนักผจญภัยต่างๆซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ควบคุมเหล่ามอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่ และองครักษ์ส่วนตัวขั้นสาม และตอนนี้พวกเขาก็สั่งให้องครักษ์ส่วนตัว กับมอนสเตอร์อัญเชิญขั้นสี่หยุดการเคลื่อนไหวลงพลางมองไปยังกองอัศวินและจดจ่ออยู่ซึ่งกันและกัน ความเงียบนั้นได้เข้าปกคลุมกองทัพผู้รุกรานจากโลกแห่งความมืด และตอนนี้เจตนาฆ่าฟันหรือความเย้ยหยันของพวกเขาก็ไม่ได้เผยออกมาให้เห็นแล้ว

“คุณต้องการจะสู้ต่อไหม ?” ซือเฟิงถามอย่างใจเย็น หลังจากที่จ้องมองไปที่ผู้เล่นสายความมืดตรงหน้าเขา คราวนี้ไม่มีผู้เล่นสายความมืดคนใดกล้าพูด พวกเขาทำเพียงจ้องมองกลับไปด้วยท่าทางที่โกรธและไม่เต็มใจเท่านั้น

สู้ ?

นี่มันเหมือนกับการฆ่าตัวตายมากกว่า !!!

พวกเขาได้เปิดเผยไพ่ที่พวกเขามีออกมาด้วยความมุ่งมั่นเพื่อจะใช้มันลดช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งของพวกเขากับกองกำลังสภาสิบแปดปีก แต่ตอนนี้ด้วยแหวนแห่งกอสเปล ไม่เพียงแต่ช่องว่างจะไม่ลดลง แต่มันกลับเพิ่มขึ้นแทน ….

เนื่องจากไม่มีใครตอบคำถาม ซือเฟิงจึงหันไปหาดอร์นโดมิแน้นซ์ ซึ่งยังคงเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆอยู่

“หัวหน้ากิลดอร์น เนื่องจากคุณสามารถพูดแทนครึ่งโลกของโลกแห่งความมืดได้ บอกฉันหน่อยได้ไหมว่าคุณต้องการจะสู้ต่อไปไหม ?” ซือเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม

สีหน้าของดอร์นโดมิแน้นซ์เปลี่ยนเป็นซีดเผือด เมื่อเขาได้ยินคำถาม และเขาก็สูญเสียคำพูดไปอย่างสิ้นเชิง

หากเขาเลือกจะต่อสู้ต่อไป เขาจะต้องเสียสละตัวเองและกิลของเขาสำหรับเรื่องนี้ แถมเขายังได้ใช้องครักษ์ส่วนตัวขั้นสามทั้งหมดของเวิร์ลโดมิเนชั่นเพื่อผลักดันให้กิลและทีมนักผจญภัยอื่นๆเริ่มเคลื่อนไหว และหากองครักษ์ส่วนตัวขั้นสามคนใดคนหนึ่งของเวิร์ลโดมิเนชั่นตายลง มันก็จะนับเป็นความสูญเสียอย่างมากแล้ว และหากทั้งหมดตายลง เวิร์ลโดมิเนชั่นได้จบสิ้นแน่นอน

อย่างไรก็ตามศักศรีดิ์ของเวิร์ลโดมิเนชั่นในโลกแห่งความมืดจะไม่เหลือเลยแน่นอน หากพวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ….

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset