ตอนที่ 2749 ความลับของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่
“นี่มันบ้าคลั่งสุดๆ เขาบ้าคลั่งไปแล้วจริงๆ !!! ….”
หลังจากวางสาย หยวนเทียนซินก็พูดไม่ออก เขาไม่เคยคิดเลยว่าซือเฟิงจะดื้อรั้นขนาดนี้ ซือเฟิงจะสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างง่ายดายตราบใดที่เขายอมขายข้อมูลพวกนี้ในราคาที่เหมาะสม แต่เขาก็ยังคงปฎิเสธที่จะทำเช่นนั้น
“ลุงหยวน ตอนนี้มหาอำนาจต่างๆได้เริ่มร่วมมือกันอย่างลับๆแล้ว และเมื่อพวกเขาพบว่าสภาสิบแปดปีกยังไม่เต็มใจจะยอมขายข้อมูลแบบดีๆ พวกเขาก็จะดำเนินการอย่างแน่นอน” เพอเพิ้ลเจดกล่าว ขณะที่เธออ่านรายงานที่ลูกน้องของเธอส่งมา
สถานการณ์ในปัจจุบันของสภาสิบแปดปีกอาจกล่าวได้ว่าเลวร้ายมากๆ
จากรายงานนี้มันระบุว่ามีมหาอำนาจมากกว่าสิบห้ากลุ่มแล้วที่ได้ตกลงที่จะร่วมมือกันจัดการกับสภาสิบแปดปีก
“ลืมมันไปเถอะ ยังไงซะเขาก็เป็นคนที่มักทำอะไรตามใจตัวเองอยู่แล้ว และการปะทะกันระหว่างมหาอำนาจต่างๆกับสภาสิบแปดปีกก็จะต้องดำเนินไปอีกระยะหนึ่งแน่นอน เมืองกิลทั้งสามเมืองของสภาสิบแปดปีกนั้นมันยากเกินกว่าที่จะเข้าโจมตีและยึดครองให้ได้ เราจะมารอดูกันว่าถึงที่สุดใครจะทนอยู่ได้ถึงจุดจบ” หยวนเทียนซินกล่าวพลางส่ายหัว จากนั้นดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า “นอกจากนี้เรายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าให้ต้องจัดการ หากเราประสบความสำเร็จในปฎิบัติการที่กำลังจะมาถึงนี้ ศาลาลับก็จะได้ขึ้นอยู่เหนือกว่ามหาอำนาจทั้งหมด และแม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังจะต้องกลัวเรา”
“อืมมม ฉันจะไปเตรียมการที่จำเป็นต่อ ….” เพอเพิ้ลเจดกล่าวด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุข
ขั้นสี่นั้นไม่ได้เป็นจุดสิ้นสุดของ God domain มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
ศาลาลับได้รอคอยช่วงเวลานี้มานานมากแล้ว และในที่สุดกิลก็จะสามารถตอบสนองความปราถนาอันยาวของกิลได้ ….
จักรวรรดิรัตติกาล สถานที่พักกิลของสตาร์ลิ้ง :
“ฮ่าๆๆ !!! ดี !!! ดีมาก !!! นี่แหละคือสิ่งที่สภาสิบแปดปีกทำเสมอ !!! ใช่แล้ว การยั่วยุมหาอำนาจต่างๆนี่แหละ !!!” ลู่ชิงหลัวหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เมื่อเขาได้รับข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุดของสภาสิบแปดปีก
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกปวดหัวอย่างมากในการจะหาวิธีจัดการกับสภาสิบแปดปีก อย่างไรก็ตามตอนนี้สภาสิบแปดปีกได้ริเริ่มที่จะยั่วยุมหาอำนาจต่างๆด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงจะทำลายสภาสิบแปดปีกได้ง่ายขึ้นมาก
ในขณะที่ลู่ชิงหลัวกำลังเฉลิมฉลองเรื่องนี้อย่างเต็มไปด้วยความสุข ชายที่ดูแข็งแกร่งในชุดคลุมสีดำ และพันผ้าพันแผลที่เต็มไปด้วยรูนก็ได้เข้ามาในออฟฟิศของเขา
“ขออภัยที่ให้รอนานนายน้อยลู่ ….” ชายวัยกลางคนกล่าวขณะที่เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของลู่ชิงหลัว จากนั้นเขาก็พูดต่อด้วยเสียงต่ำว่า “เราได้แก้ไขปัญหาส่วนใหญ่ที่นั่นไปแล้ว ตอนนี้เรารอเพียงแค่ด้านของคุณเท่านั้น”
“ดี ! คุณมาในเวลาที่สมบูรณ์แบบจริงๆ !! ในครั้งนี้แม้แต่สวรรค์ก็ยังต้องการจะให้สภาสิบแปดปีกตาย !!!” ลู่ชิงหลัวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นมากๆ เมื่อได้เห็นชายวัยกลางคนผู้นี้ “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ฉันจะกล่อมให้เพื่อนเก่าคนนั้นช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่แน่นอน”
“ขอบคุณมาก นายน้อยลู่ ….” ชายวัยกลางคนผู้นี้กล่าว “ตราบใดที่ปฎิบัติการนี้สำเร็จ เหล่าลอร์ดของเราก็จะช่วยนายน้อยลู่ปราบปรามศัตรูทั้งหมดของคุณเป็นการตอบแทนด้วย !!!”
“ฉันเชื่อคุณ เพราะท้ายที่สุดตอนนี้ไม่มีใครที่จะเข้าใจ God domain ดีไปกว่าคุณ
แล้ว” ลู่ชิงหลัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ไม่ว่าจะเป็นชายวัยกลางคนตรงหน้าของเขาคนนี้ หรือผู้ที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังเขา ลู่ชิงหลัวนั้นล้วนให้ความไว้วางใจอย่างมากต่อพวกเขา ในสายตาของคนเหล่านี้ มหาอำนาจต่างๆนั้นมีความสำคัญน้อยมากๆ และหากมีเวลามากเพียงพอ คนเหล่านี้ก็จะสามารถจัดการกับห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดได้ด้วยซ้ำ นั่นเป็นเพราะห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นไม่ได้เข้าใจ God domain เลย ที่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดคิดว่าพวกเขารู้เกี่ยวกับ God domain นั้น มันก็เป็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น
จักรวรรดิออร์ค สถานที่พักกิลสภาสิบแปดปีก :
“หัวหน้ากิล นอกเหนือจากคนๆหนึ่งแล้ว มันก็ไม่มีมหาอำนาจใดที่ติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อข้อมูลเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่เลย (ดินแดนมรดกขั้นสี่ ขี้เกียจพิม มันรวมอยู่ในข้อมูลของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่อยู่ละ ตอนแรกคนเขียนมันเขียนแยกกัน ตอนหลังเขียนรวม)” ยู่หลานกล่าว ขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิงที่กำลังเรียบเรียงข้อมูลของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ ตอนนี้เธอนั้นรู้สึกเป็นกังวลมากถึงมากที่สุด “วัดจากการกระทำทั้งหมดของพวกเขาแล้ว ดูเหมือนว่ามหาอำนาจต่างๆไม่ได้วางแผนจะซื้อข้อมูลแน่นอน”
เนื่องจากมหาอำนาจต่างๆเหล่านี้ไม่ได้มีเจตนาจะซื้อข้อมูล ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาจะดำเนินการในขั้นต่อไปมันก็ชัดเจนแล้ว พวกเขาจะต่อสู้เพื่อมัน ….
พวกเขาจะทำสงครามแห่งการล้างผลาญกับสภาสิบแปดปีก ซึ่งมันจะกินเวลานานหลายวัน และหลายสัปดาห์ ในขณะเดียวกันคู่ต่อสู้ของสภาสิบแปดปีกในตอนนี้นั้นก็ไม่ใช่แค่มหาอำนาจหนึ่งหรือสองกลุ่มอีกต่อไป แต่เป็นมหาอำนาจเกือบทั้งหมดในทวีปด้านตะวันออก ….
“มีคนโง่ที่พยายามจะซื้อมันจริงๆงั้นหรอ ?” ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดของยู่หลาน
ความจริงเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีมหาอำนาจใดที่กล้าเข้ามาซื้อข้อมูลของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ในราคานี้ และที่เขาทำการเรียบเรียงข้อมูลของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่นี้อยู่นั้น เขาก็ทำไว้เพื่อมอบไว้ให้กับกิลของเขาเท่านั้น
เพราะท้ายที่สุดตอนนี้มันมีสมาชิกสภาสิบแปดปีกจำนวนหนึ่งแล้วที่มีความแข็งแกร่ง และเลเวลที่มากพอในการจะท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ สิ่งที่พวกเขาขาดคือความรู้เกี่ยวกับวิธีการค้นหาดินแดนมรดกขั้นสี่ และกระบวนการในการจะได้รับมรดกขั้นสี่เท่านั้น
“….” ยู่หลานนั้นพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เมื่อได้เห็นการตอบสนองของซือเฟิง อย่างไรก็ตามหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พูดว่า “หัวหน้ากิลรู้จักคนๆนี้นะ ….”
“ฉันรู้จักคนๆนี้งั้นหรอ ? ใช่หยวนเทียนซินจากศาลาลับรึปล่าว ?” หลังจากครุ่นคิด ซือเฟิงก็รู้สึกว่าในบรรดาคนที่เขารู้จักนั้น น่าจะมีเพียงหยวนเทียนซินแห่งศาลาลับเท่านั้นที่จะสามารถซื้อข้อมูลของเขาได้ สำหรับฟรอสต์ฮีฟเว่น กิลพึ่งจะใช้คริสตัลเจ็ดลูมินาลี่จำนวนมากไปในการแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งสำรองของสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน God domain ดังนั้นกิลน่าจะเหลือคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ไม่ถึงห้าพันชิ้นแน่นอน
“ไม่ใช่ มันเป็นโคลท์ชาโด้ว จากไมโทโลจี้ ….” ยู่หลานพูดพลางส่ายหัว จากนั้นเธอก็ถามอย่างลังเลว่า “หัวหน้ากิล หัวหน้าจะขายให้เธอจริงๆหรอ ?”
เนื่องจากการแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งสำรองในครั้งที่ผ่านมา มันทำให้สภาสิบแปดปีกนั้นถูกไมโทโลจี้ล๊อคเป้าเรียบร้อย หากพวกเขาขายข้อมูลเกี่ยวกับเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ให้ไมโทโลจี้ตอนนี้ สภาสิบแปดปีกก็จะเสียเปรียบอย่างไม่น่าเชื่อ
“แน่นอน ทำไมฉันจะไม่ขายมันละ ?” ซือเฟิงตอบโดยไม่ลังเล “เราได้ประกาศความตั้งใจที่จะขายข้อมูลไปแล้ว ดังนั้นเราจึงไม่สามารถจะกลับคำพูดของเราได้ ไม่งั้นมหาอำนาจต่างๆจะมีเหตุผลมากขึ้นในการกำหนดเป้าหมายมาที่เรา”
แถมตอนนี้เขาก็ต้องการคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่อย่างเร่งด่วน
เขาไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถรวบรวมคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ได้มากพอที่จะขึ้นไปเหนือกว่าสามอันดับแรกในการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมที่ Upper Zone ได้ไหม แม้ว่าเขาจะพอมีวิธีที่จะทำให้ตัวเองได้รับคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่จำนวนมากอยู่ เพียงแต่ว่าวิธีที่เขามีมันต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก และอย่างดีที่สุดสองเดือนข้างหน้าที่จะถึงนี้ เขาก็จะสามารถเข้าสู่ยี่สิบอันดับแรกได้เท่านั้น
การได้รับคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่มาห้าพันชิ้นตอนนี้ มันจะช่วยเขาได้อย่างมาก
“อย่างไรก็ตาม ไวท์เฟเธอร์ระบุว่าเราจะไม่สามารถพูดถึงธุรกรรมครั้งนี้กับใครได้ ….” ยู่หลานกล่าว “พวกเขาต้องการให้เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราทั้งสองฝ่ายเท่านั้น และพวกเขาก็ต้องการจะเซ็นสัญญาเพื่อป้องกันในเรื่องนี้ด้วย”
“นั่นไม่มีปัญหา แม้ว่าพวกเขาจะไม่พูดขึ้นมา แต่ฉันก็จะขอให้พวกเขาเซ็นสัญญาในข้อตกลงการรักษาความลับที่จำกัดไม่ให้พวกเขาแบ่งปันข้อมูลกับบุคคลภายนอกอยู่แล้ว” ซือเฟิงกล่าว
ข้อมูลของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่นั้นมันเป็นเหมือนกับมันฝรั่งร้อน ในตอนนี้ใครก็ตามที่ถือมันอยู่จะต้องประสบกับโชคร้ายแน่นอน ไม่เว้นแม้แต่ซุเปอร์กิลอย่างไมโทโลจี้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่ไมโทโลจี้จะไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกรู้ถึงการทำธุรกรรมครั้งนี้
“ทำสำเนาก๊อปปี้ทุกอย่างนี่ และส่งมันให้กับพวกเขา” ซือเฟิงสั่งในขณะที่เขาส่งข้อมูลที่เขาเรียบเรียงเสร็จแล้วของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ให้ยู่หลาน
“ทุกอย่าง ?” ยู่หลานรู้สึกประหลาดใจ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของซือเฟิง
ผู้เล่นใน God domain ส่วนใหญ่ยังคงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่มากนัก อันที่จริงแม้แต่สมาชิกสภาสิบแปดปีกส่วนใหญ่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้อะไรมากนักเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากพวกเขาขายข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขามีให้ไมโทโลจี้ มันจะคล้ายกับการที่พวกเขาทิ้งข้อได้เปรียบทั้งหมดที่พวกเขามีไป
“อืมมม ทุกอย่าง … เนื่องจากอีกฝ่ายเต็มใจจะจ่ายในราคามหาศาลเพื่อแลกกับข้อมูลนี้ ดังนั้นฉันก็ไม่สามารถจะขี้เหนียวได้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเรื่องนี้มันจะไม่ได้เป็นความลับตลอดไปอยู่แล้ว แถมตอนนี้อย่างน้อยเราก็จะให้มหาอำนาจกลุ่มหนึ่งได้เรียนรู้ว่าจินตนาการของพวกเขามันไร้สาระแค่ไหน เมื่อพวกเขาได้รู้เรื่องนี้ ….”
ข้อมูลเกี่ยวกับเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่อาจจะมีค่ามาก แต่นั่นมันก็แค่เฉพาะในตอนนี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของมหาอำนาจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งประสบความสำเร็จในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ ข้อมูลที่เขามีมันก็จะกลายเป็นไร้ค่า
ใช่แล้ว พูดกันตามตรงคือมันไม่ได้สำคัญเลยว่าเขาจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ไปมากแค่ไหน มูลค่าที่แท้จริงของข้อมูลที่เขามีคือมันจะช่วยให้ผู้ที่ได้รับมันไปสามารถสร้างผู้เล่นขั้นสี่คนแรกของตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วก็เท่านั้น …. นอกเหนือจากนั้นโดยเฉพาะเรื่องข้อมูลจริงๆ มันไม่ได้จัดเป็นความลับเลย ….
นี่เป็นเพราะการค้นหาดินแดนมรดกขั้นสี่ และการแก้ไขปัญหาที่จะพบในดินแดนมรดก นั้นเป็นปัญหาที่ผู้เล่นจะต้องแก้ไขด้วยตัวเอง ข้อมูลเดียวที่เขาสามารถจะให้ได้คือวิธีการค้นหาดินแดนมรดกขั้นสี่เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นใครๆก็สามารถค้นหาดินแดนมรดกของพวกเขาได้ด้วยข้อมูลนี้ ส่วนที่เหลือมันก็ยังขึ้นอยู่กับโชคของพวกเขา
เพราะท้ายที่สุดดินแดนมรดกขั้นสี่นั้นไม่มีตำแหน่งที่คงที่ พวกมันจะปรากฎขึ้นแบบสุ่มใน God domain
ดินแดนมรดกขั้นสี่ทั้งหมดนั้นตั้งอยู่ในช่องว่างระหว่างทวีปหลัก และสิ่งที่ผู้เล่นจะต้องทำเพื่อค้นหาดินแดนมรดกเหล่านี้ก็คือค้นหาประตูที่ปรากฎขึ้นแบบสุ่มซึ่งจะสามารถเทเลพอร์ตพวกเขาไปยังดินแดนมรดกได้
นอกเหนือจากข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการค้นหาดินแดนมรดกขั้นสี่แล้ว ข้อมูลที่มีค่าอื่นๆที่เขาให้ไปก็คือขั้นตอนการเรียนรู้มรดกของคนๆหนึ่งในระหว่างการทำเควสเลื่อนขั้น ซึ่งด้วยข้อมูลนี้ มันจะช่วยให้คนๆหนึ่งที่เข้าสู่ดินแดนมรดกนั้นไม่ต้องตามืดบอดหาวิธีการเอง สำหรับเรื่องการเรียนรู้หรือจะทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ไปได้สำเร็จมากแค่ไหน มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เขาไม่สามารถจะช่วยเรื่องนี้ได้
ในขณะเดียวกันวิธีการที่เขาให้ไว้เพื่อค้นหาดินแดนมรดกขั้นสี่ นั่นก็คือการเข้าไปในแผนที่เป็นกลางที่อันตรายมากๆที่มีเลเวลอย่างน้อยหนึ่งร้อยสามสิบ และยิ่งแผนที่เป็นกลางอันตรายมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งมีโอกาสจะค้นพบดินแดนมรดกขั้นสี่ได้มากขึ้นเท่านั้นจากการค้นหา เพราะท้ายที่สุดในแผนที่เหล่านี้มันจะมีโอกาสมากที่สุดที่จะค้นพบดินแดนมรดกขั้นสี่ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
หากเขาไม่ยอมมอบข้อมูลเหล่านี้ไปให้ผู้ซื้อ ไอ้ที่เขาประกาศขายข้อมูลนั้นมันก็จะเท่ากับการหลอกลวงเลยด้วยซ้ำ ….
หลังจากที่ได้อ่านข้อมูล ยู่หลานก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง ….
“นี่คือความลับของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่งั้นหรอ ?” ยู่หลานรู้สึกอยากจะหัวเราะ เมื่อได้เห็นข้อมูล
ขณะนี้มหาอำนาจต่างๆได้พยายามอย่างยิ่งที่จะค้นหาข้อมูลของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ อย่างไรก็ตามหากพวกเขาได้เรียนรู้รายละเอียดที่แน่นอนของข้อมูล …. พวกเขาจะพูดไม่ออกแน่นอน ….
เพราะท้ายที่สุดแล้วจากข้อมูลที่ซือเฟิงรวบรวมมา มันไม่มีอะไรเลยที่จะสามารถช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ได้ และสิ่งที่ตลกที่สุดก็คือมหาอำนาจต่างๆคิดว่าพวกเขาจะมีช่วงเวลาที่ง่ายขึ้นในการสร้างผู้เล่นขั้นสี่ ตราบเท่าที่พวกเขาได้ข้อมูลนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงมีความเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าพวกเขาควรจะทำสงครามกับสภาสิบแปดปีก ในความเป็นจริงด้วยการกำหนดเป้าหมายมาที่สภาสิบแปดปีกจะทำให้มหาอำนาจต่างๆเสียเวลาอันมีค่าไปโดยเปล่าประโยชน์ ทั้งๆที่พวกเขาควรจะเอาเวลานี้ไปปรับปรุงตัวเอง
“ถูกต้อง นี่คือข้อมูลของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ ….” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ “ฉันยังพร้อมจะประกาศให้มหาอำนาจที่คิดจะเคลื่อนไหวจะปราบปรามเรารู้ด้วยนะว่า จากการทำแบบนี้ มันทำให้พวกเขาได้ถูกกำจัดออกจากการต่อสู้แย่งชิงอำนาจใน God domain แล้ว !!!”
ขณะที่ซือเฟิง และยู่หลานกำลังพูดคุยกัน เหลียงจิงก็เดินเข้ามาในห้อง ….
“หัวหน้ากิล อันยีลดิ้งโซล และจักรพรรดิคริมสันพร้อมแล้ว พวกเขาสามารถจะเคลื่อนไหวได้ทันทีที่หัวหน้าออกคำสั่ง” เหลียงจิงกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ดี ! ให้พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวได้เลย !!!” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า “มันถึงเวลาแล้วที่จะทำให้พวกผู้ที่ถูกเรียกว่ามหาอำนาจเหล่านี้ได้รู้ว่าการกระทำของพวกเขามันน่าหัวเราะแค่ไหน !!!”