Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2899

ตอนที่ 2899 มรดกของเทพโบราณ

ในตอนนี้ทุกคนในห้องล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เมื่อซือเฟิงนำดวงตาของเทพโบราณออกมาโชว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโคลท์ชาโด้วที่ตอนนี้เธอมองไปยังซือเฟิงราวกับมองไปยังสิ่งศักสิทธิ์สักอย่าง

เทพโบราณ !

ในฐานะที่เป็นเทพที่นับว่าเก่าแก่ และโบราณที่สุดใน God domain นั้น ก็ต้องบอกเลยว่าพวกเขาคือตัวตนแรกๆที่ไปถึงขอบเขตพระเจ้าได้ และตัวตนระดับขอบเขตพระเจ้าในยุคหลังๆนั้นก็ล้วนไปถึงขอบเขตนี้ได้จากมรดกที่พวกเขาทิ้งไว้ทั้งนั้น

อย่างไรก็ตามหลังจากเข้าสู่ยุคโบราณของ God domain แบบเต็มๆนั้น เหล่าเทพโบราณพวกนี้ก็เริ่มหายไป ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมเทพโบราณพวกนี้หายไปนั้นก็ไม่มีใครรู้ และมันก็ไม่ได้มีการบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตามจากข้อมูลในห้องสมุดนั้นมันบ่งบอกอย่างชัดเจนเลยว่าเผ่ามนุษย์นั้นเริ่มยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ในยุคโบราณก็เนื่องมาจากมรดกที่เทพโบราณทิ้งเอาไว้ นอกเหนือจากนี้แล้วมันก็มีมนุษย์บางส่วนที่ก้าวไปถึงขอบเขตพระเจ้าได้จากมรดกที่เทพโบราณทิ้งเอาไว้ด้วย

ขณะเดียวกันดวงตาของเทพโบราณตรงหน้าพวกเขานี้มันก็ถือเป็นอีกหนึ่งมรดกของเทพโบราณ

และมรดกของเทพโบราณนี้มันก็สามารถจะทำให้คนๆหนึ่งกลายเป็นพวกขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าได้เลย !!!

อีกทั้งเมื่อเทียบกับมรดกของมนุษย์ที่เข้าถึงขอบเขตพระเจ้าได้แล้วนั้น มรดกแบบนี้มันจัดว่ามีประโยชน์กว่ามาก !!!

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมชายหนุ่มลึกลับนั่นถึงต้องการจะจัดการกับเทพีตกสวรรค์ขั้นสูงตนนี้ ที่แท้เธอก็มีมรดกของเทพโบราณนี่เอง …. นี่มันไม่ต้องพูดถึงผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าเลย แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นหกก็ยังจะยอมทุ่มทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสิ่งนี้แน่นอน” ซือเฟิงมองไปที่ดวงตาของเทพโบราณที่อยู่ในมือเขาด้วยอาการตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด

(ดวงตาของเทพโบราณ) (ไอเทมสิ้นเปลือง ระดับดีไวน์อาติแฟค)
มันมีมรดกของเทพโบราณถูกบันทึกไว้ภายใน โดยหากต้องการจะเปิดใช้งานนี้แต่ละครั้งคุณจะต้องมีคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่หนึ่งพันชิ้น ซึ่งคุณสามารถจะใช้มันได้ทั้งหมดเก้าครั้ง และมันจะหายไปหลังจากที่ใช้ครบ (การใช้ในปัจจุบัน 0 ครั้ง)

เมื่อได้อ่านข้อมูลทั้งหมดนั้นซือเฟิงก็แน่ใจได้ทันทีว่านี่มันคือมรดกของเทพโบราณที่แท้จริง และมันก็นับเป็นมรดกที่ทรงพลังที่สุดใน God domain ด้วย เพราะมรดกแบบนี้นั้นมันอยู่เหนือกว่ามรดกของมนุษย์ที่สามารถเข้าถึงขอบเขตพระเจ้าได้ และหากได้เรียนรู้มัน แม้ว่าจะเข้าใจแค่เพียงนิดเดียวก็ตาม แต่มันก็จะทำให้คนๆนั้นมีโอกาสสูงที่จะก้าวไปถึงขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าได้แน่นอน

และเขาก็สามารถจะบอกได้เลยว่าดวงตาของเทพโบราณที่อยู่ในมือเขานั้นมีมูลค่ามากกว่าไอเทมระดับตำนานนับสิบชิ้นด้วยซ้ำ ซึ่งนี่มันทำให้ซือเฟิงรู้สึกดีมากๆ เพราะว่ามันเท่ากับว่าการตัดสินใจใช้ขลุ่ยเรียกมังกรของเขานั้นคุ้มค่ามากๆ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นซือเฟิงก็ได้เลือกจะระงับความตื่นเต้นของตัวเองในเรื่องนี้ไว้ก่อน และหันไปตรวจสอบไอเทมอีกสามชิ้นที่เขาเก็บมาได้

แม้ว่าไอเทมอีกสามชิ้นที่เหลือจะมีมูลค่าน้อยกว่าดวงตาของเทพโบราณ แต่มันก็ยังคงแผ่ออร่า Divine Might ที่แข็งแกร่งมากๆออกมาจนทำให้ แม้แต่ไฟเออร์แดนซ์ กับคนอื่นๆที่เฝ้าดูอยู่นั้นก็รู้สึกกดดัน ….

“ถ้าเจอกันครั้งหน้า ชายหนุ่มลึกลับนั่นคงเล่นฉันหนักแน่ๆ …” ซือเฟิงที่ทำการตรวจสอบไอเทมทั้งสามชิ้นที่เหลืออดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง พลางหัวเราะออกมา

เนื่องจากไอเทมอีกสามชิ้นนี้ก็นับว่ามีความพิเศษอย่างมากเช่นกัน โดยสองชิ้นนั้นเป็นวัสดุระดับนักบุญที่แท้จริง และอีกหนึ่งชิ้นนั้นเป็นแหล่งพลังศักสิทธิ์จากเทพโบราณใน God domain

ซึ่งแหล่งพลังศักสิทธิ์จากเทพโบราณใน God domain นั้นมันมีความพิเศษตรงที่มันสามารถจะช่วยเพิ่มศักยภาพ และชนชั้นของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่ผู้เล่นได้ โดยมันนับเป็นไอเทมที่ช่วยในการปรับปรุงในเรื่องนี้ที่ดีที่สุดเท่าที่ซือเฟิงเคยค้นพบจากการเล่น God domain ในสองชีวิตของเขาเลย

พูดกันตามตรงการเก็บเกี่ยวของซือเฟิงในครั้งนี้นั้นมันมีมูลค่าเท่ากับเขาได้ไปฆ่า พวกมนุษย์ที่เข้าสู่ขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าสี่คนเลย ซึ่งมันนับเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อมากๆ..
และไอเทมทั้งหมดที่เขาฉกฉวยมานี้มันก็จะต้องเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มลึกลับคนนั้นอยากได้มากๆแน่นอน ดังนั้นหากเขาได้เจอกับชายหนุ่มลึกลับผู้นี้ในครั้งหน้า มันก็จะเป็นเหมือนที่เขากล่าวไปก่อนหน้านี้แน่นอน ซึ่งก็คือเขาโดนหนักแน่ ….

อย่างไรก็ตามหลังจากช่วงเวลาแห่งความตกตะลึงเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง ไฟเออร์แดนซ์ก็ได้เดินเข้ามารายงานซือเฟิงว่า “หัวหน้ากิล ตามข่าวล่าสุดที่ได้รับมาจากเหลียงจิง ดูเหมือนว่ากองทัพ NPC จากโลกอื่นจะเริ่มเดินทัพเข้ามาในทวีปหลักด้านตะวันออกของ God domain แล้ว โดยกองทัพ NPC นี้นั้นก็แบ่งออกเป็นหกสาย โดยแต่ละสายนั้นมี NPC ขั้นสี่อยู่มากกว่าสามหมื่นคน และมี NPC ขั้นสามอยู่มากกว่าสี่ล้านคน นอกเหนือจากนี้แล้ว NPC เหล่านี้ยังมีเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบหรือสูงกว่ากันทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจสอบโดยหน่วยข่าวกรองของเรานั้นดูเหมือนว่าจะมีกองทัพสายหนึ่งของ NPC พวกนี้ที่เล็งเป้ามาที่อาณาจักรทวินทาวเวอร์ และอาณาจักรสตาร์มูน โดยคาดว่ากองทัพนี้น่าจะใช้เวลาอีกประมาณสามถึงสี่วันก็จะเดินทางถึงอาณาจักรทวินทาวเวอร์”

“ในปัจจุบันนั้นมหาอำนาจต่างๆเริ่มเรียกรวมพลกันที่รอบนอกของอาณาจักรทวินทาวเวอร์แล้ว พร้อมกันนั้นพวกเขาก็ได้ส่งเหล่าผู้เชี่ยวชาญบางส่วนของตัวเองเข้ามาตรวจสอบและดูสถานการณ์ของกองทัพ NPC กองทัพนี้เพื่อเตรียมพร้อมจะรับมือ ขณะเดียวกันในส่วนของกองกำลังต่างๆในอาณาจักรทวินทาวเวอร์นั้น พวกเขาได้รวมพลกันไปเปิดศึกกับกองทัพ NPC นี้มารอบหนึ่งแล้ว และพวกเขาก็ได้รับความพ่ายแพ้กลับมา หลังจากการต่อสู้อันยาวนานหลายวัน”

“นอกเหนือจากนี้แล้ว จากที่เมลานโครอิคสไมล์รายงานมาดูเหมือนว่าสตาร์ลิ้ง และพันธมิตรที่เป็นมหาอำนาจต่างๆของสตาร์ลิ้งนั้นจะเริ่มพยายามดึงดูดผู้คนให้เข้าไปตั้งหลักในจักรวรรดิรัตติกาล และจักรวรรดิมังกรดำกัน ซึ่งนี่ทำให้สถานการณ์ล่าสุดของอาณาจักรทวินทาวเวอร์ และอาณาจักรสตาร์มูนตกอยู่ในความสุ่มเสี่ยงมากอันเนื่องมาจากการขาดกำลังคนอย่างรุนแรง”

เมื่อไฟเออร์แดนซ์รายงานจบ โคลท์ชาโด้วที่ยืนอยู่ข้างๆซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเช่นกัน “คนพวกนี้แม่งโง่กันจริงๆ !! แม้ว่าทางเลือกในการรักษาแนวรบของประเทศที่เป็นจักรวรรดิไว้จะนับเป็นตัวเลือกที่ดี แต่พวกเขาก็ไม่ควรจะยอมแพ้ในประเทศที่เป็นอาณาจักรสองแห่งอย่างรวดเร็วขนาดนี้ เพราะมันจะทำให้กองทัพ NPC จากโลกอื่นเข้ายึดประเทศสองแห่งนี้ได้โดยสูญเสียน้อยมากๆ และเมื่อเป็นแบบนั้น กองทัพ NPC พวกนี้ก็จะสามารถบำรุง และฟื้นฟูตัวเองจากทรัพยากรที่ได้มาจากสองอาณาจักรนี้จนแข็งแกร่งกว่าเดิมได้เลย และนี่มันก็จะทำให้กองทัพ NPC พวกนี้กลายเป็นยากจะรับมือยิ่งขึ้นไปอีกแทน …”

NPC นั้นไม่เหมือนกับผู้เล่น เมื่อ NPC ตายมันยากมากๆที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ ดังนั้นการเลือกจะยอมแพ้เกือบสิ้นเชิงในการต่อต้านกองทัพ NPC พวกนี้ในอาณาจักร มันจึงเป็นการกระทำที่โง่เขลามากๆ !!!

“ต้องบอกเลยว่าฉันไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่นะ ….” ซือเฟิงกล่าวอย่างสบายๆ “สำหรับพวกผู้เล่นนั้น ปัญหาจริงๆมันไม่ใช่เรื่องการตายแล้วเลเวลลดลง แต่ปัญหาจริงๆมันคือเมื่อตายแล้วมันจะมีอาวุธและอุปกรณ์บางส่วนของพวกเขา
ดรอปออกมา ซึ่งจุดนี้แหละที่มันนับเป็นความสูญเสียมหาศาลสำหรับผู้เล่น โดยเฉพาะสำหรับผู้เล่นบางคนที่มีไอเทมระดับสูง ดังนั้นเมื่อเจอกับการดึงดูดด้วยผลประโยชน์ต่างๆของมหาอำนาจ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ผู้เล่นหลายคนจะตัดสินใจทิ้งแนวรบของอาณาจักร และไปเตรียมรบที่แนวรบของจักรวรรดิ

“หัวหน้ากิล ในเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ ฉันคิดว่าเราควรจะนำกองกำลังหลักของกิลเราไปเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยนะ …” โคล่ากล่าวแนะนำ “โดยหากกองกำลังหลักของกิลเราสามารถเอาชนะในการต่อสู้บางส่วนได้ ฉันคิดว่ามันน่าจะช่วยหยุดคนบางส่วนในสองอาณาจักรนี้ไม่ให้ถอยไปยังแนวรบของจักรวรรดิได้”

แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดมากนัก แต่โคล่าก็รู้ดีว่า หากผู้เล่นของอาณาจักรสตาร์มูน และอาณาจักรทวินทาวเวอร์ส่วนใหญ่ย้ายไปยังจักรวรรดิโดยรอบนั้น มันก็จะเหมือนกับว่าสองอาณาจักรนี้ได้ขาดแขนไปข้างหนึ่งเลย

ดังนั้นพวกเขาจึงควรจะรีบเร่งดำเนินการส่งกองกำลังหลักของสภาสิบแปดปีกออกไปเข้าร่วมการต่อสู้ให้ไวที่สุด ซึ่งหากพวกเขาเอาชนะการต่อสู้ได้บางส่วน และพิสูจน์ให้เห็นว่าแนวรบของอาณาจักรก็สามารถจะต้านทานกองทัพ NPC จากโลกอื่นได้เช่นกัน มันก็น่าจะมีคนบางส่วนที่ยอมล้มเลิกความคิดในการย้าย และกลับเข้ามาเป็นกำลังในอาณาจักร …. เพราะท้ายที่สุดแล้วสำหรับบางคนนี่เป็นที่ที่พวกเขาอยู่มาตั้งแต่เริ่มต้น และการไปเริ่มต้นใหม่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“นั่นไม่จำเป็น …” ซือเฟิงส่ายหัว ก่อนที่เขาจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “การทำแบบนั้นมันนับเป็นการเสียเวลาเปล่า !! เรามีเรื่องใหญ่กว่านั้นให้ต้องทำ !!!”

“เรื่องใหญ่กว่านั้น ?” โคล่ารู้สึกสับสนกับคำพูดของซือเฟิง
“ไฟเออร์แดนซ์ นำทีมแอสซาซินของเธอไปตรวจสอบเส้นทางการบุกเข้าอาณาจักรทวินทาวเวอร์ และอาณาจักรสตาร์มูนของกองทัพ NPC และผู้เล่นจากโลกอื่นทั้งหมด โดยเมื่อได้รับข้อมูลที่ชัดเจนมาแล้วก็ให้มาแจ้งให้ฉันรู้ทันที !!!” ซือเฟิง
กล่าวออกคำสั่ง

เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง โคลท์ชาโด้วก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังเขาอย่างหวาดหวั่น “หัวหน้ากิล นี่คุณคิดจะ … คุณคิดจะทำทั้งหมดเลยงั้นหรอ ?”

ซือเฟิงพยักหน้า และพูดอย่างจริงจังว่า “ใช่แล้ว !! ปล่อยให้สตาร์ลิ้ง กับมหาอำนาจต่างๆพวกนั้นเล่นไป เราไม่ได้มีเวลามากมายที่จะมาเสียให้กับพวกเขา !!!”

สิ่งที่จะตัดสินผลลัพธ์ของสงครามครั้งนี้นั้นไม่ใช่จำนวนกำลังคน แต่มันเป็นจำนวนเหล่าแกนหลักผู้ทรงพลังของแต่ละฝ่ายต่างหาก

ในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง ใครก็ตามที่เน้นไปที่จำนวนกำลังคน แต่ไม่มีคุณภาพนั้นล้วนแต่ถูกทำลายลงจนย่อยยับกันทั้งหมด !!!

ขณะเดียวกันตอนนี้ผู้เล่นใน God domain ในปัจจุบันนั้นก็ยังไม่มีแนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นมากนัก และพวกเขาก็ไม่ได้รู้เลยว่าพลังของคนๆหนึ่งนั้นมันยิ่งใหญ่แค่ไหน !!!

“รับทราบ !” ไฟเออร์แดนซ์พยักหน้ารับคำสั่งอย่างตื่นเต้น ก่อนที่เธอจะจัดการรวมทีมแอสซาซินของเธอ และเริ่มแบ่งงานกันออกไปทำตามคำสั่งของซือเฟิงทันที

สำหรับคนอื่นๆนั้นซือเฟิงได้อนุญาติให้พวกเขาทั้งหมดไปพักได้ เพราะพวกเขาจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูตัวเอง หลังจากที่ดินแดนลับของเทพปีศาจได้ผลาญทั้งค่าสตามิน่า และค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของพวกเขาไปอย่างมาก

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้เลือกจะพักผ่อนอยู่ที่คฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมืองอย่างเงียบๆ

ในการต่อสู้ และพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากชายหนุ่มลึกลับนั้น มันทำให้เขาต้องเปิดใช้งานสกิลบางส่วนที่เมื่อเอฟเฟคของมันหมดลงแล้ว มันจะทำให้เขาตกอยู่ในสถานะอ่อนแอ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูตัวเองอย่างเร็วที่สุดเช่นกัน ซึ่งมันจะมีก็เพียงแต่ห้องลับที่มีมานาหนาแน่นที่สุดในคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมืองเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเขาในเรื่องนี้ได้

“สภาพแวดล้อมที่นี่มันน่าจะเพียงพอที่จะให้ฉันฟื้นฟูตัวเองจากสถานะอ่อนแอได้อย่างรวดเร็ว”

เมื่อซือเฟิงมาถึงห้องลับนั้น เขาก็ได้นำคริสตัลวิญญาณออกมา และกินมันเข้าไปทันที

หลังจากนั้นไม่นานตัวของซือเฟิงนั้นก็ค่อยๆเริ่มฟื้นตัวจากสถานะอ่อนแอ และพอเขาฟื้นตัวจากสถานะอ่อนจนเสร็จสมบูรณ์ เขาก็ได้จ่ายคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่หนึ่งพันชิ้นให้กับดวงตาของเทพโบราณเพื่อเปิดใช้งานมันทันที

ซึ่งเมื่อซือเฟิงทำแบบนี้นั้น หมอกสีม่วงที่ดูเหมือนกับมีชีวิตจริงๆก็ได้โผล่ออกมาจากดวงตาของเทพโบราณ ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าใส่ซือเฟิง และเข้าไปไปหลอมรวมกับวิญญาณของเขา

ทันใดนั้นซือเฟิงก็รู้สึกปวดหัวอย่างถึงที่สุด แถมเขายังรู้สึกแสบร้อนในสมองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยมันราวกับว่าความรู้จำนวนมหาศาลที่ดูเหมือนจะไร้ที่สิ้นสุดที่ถูกอัดฉีดเข้ามาในสมองของเขานั้น มันทำให้สมองของเขาเกิดการเผาไหม้ ….

อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปไม่กี่นาที ความรู้สึกนี้มันก็ค่อยๆจางหายไป ….

และเมื่อหมอกสีม่วงหลอมรวมเข้ากับวิญญาณของซือเฟิงได้อย่างสมบูรณ์ มันจึงเป็นอันว่าการเรียนรู้มรดกของเทพโบราณในครั้งนี้ของซือเฟิงนั้นเสร็จสมบูรณ์ ….

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset