Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2901

ตอนที่ 2901 พายุที่อาณาจักรทวินทาวเวอร์

อาณาจักรทวินทาวเวอร์ ป่าเงา :

ทีมสอดแนมที่นำโดยแอสซาซินขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบสี่นั้นค่อยๆเดินอย่างช้าๆผ่านป่าดงดิบ

เนื่องจากป่าทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำตลอดทั้งปี ดังนั้นแม้ว่ามันจะเป็นฤดูร้อนที่มีแสงแดดจัด แต่แสงแดดก็จะยังไม่สามารถทะลุผ่านเมฆดำไปได้ ซึ่งนี่เองทำให้ภายในป่านั้นมืด และทัศวิสัยค่อนข้างย่ำแย่มากๆ และหากผู้เล่นไม่ระวังนั้น พวกเขาก็อาจจะหลงป่าได้เลย

“หัวหน้าเราอยู่ที่นี่ และตรวจสอบมาเป็นเวลานานแล้ว แต่เราไม่พบร่องรอยของกองทัพผู้รุกรานจากโลกอื่นเลย เราควรไปดูแผนที่อื่นๆกันแทนไหม ?” แอสซาซินขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบสองในชุดสีน้ำเงินที่สังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆอยู่อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

ตอนนี้สงครามในอาณาจักรนั้นมันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ดังนั้นกองกำลังจำนวนมากในอาณาจักรทวินทาวเวอร์จึงได้ส่งทีมสอดแนมมาเพื่อตรวจสอบกำลังพล และข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม และในบรรดาจุดประสงค์ทั้งหมดนั้น การตรวจสอบความแข็งแกร่งของกองกำลังของผู้เล่นจากโลกอื่นนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ

แถมกองกำลังจำนวนมากในอาณาจักรทวินทาวเวอร์นั้นก็ได้ออกประกาศรางวัลสำหรับผู้ที่มีข้อมูลพวกนี้ที่มีประโยชน์จริงๆในราคาที่สูงเสียดฟ้าอย่างมาก โดยรางวัลที่ว่านั้นก็คืออาวุธระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบ และเงินเป็นเครดิตจำนวนสองแสนเครดิต

ด้วยเหตุนี้เองแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนของอาณาจักรทวินทาวเวอร์จะย้ายไปที่จักรวรรดิมังกรดำ และจักรวรรดิรัตติกาล แต่มันก็ยังคงมีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอื่นๆจำนวนมากได้ญภัยเข้ามาแสวงหาโชคลาภ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผู้เชี่ยวชาญจากทีมนักผจญภัย

และกลุ่มนักผจญภัยจิ้งจอกทรายของพวกเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น

โดยทีมนักผจญภัยจิ้งจอกทรายของพวกเขานั้นถือว่าค่อนข้างมีชื่อเสียงเลยทีเดียวในจักรวรรดิรัตติกาล แม้ว่าทีมนักผจญภัยของพวกเขาจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้ผู้คนทั่วทั้งจักรวรรดิรัตติกาลเกรงใจ แต่ในแง่ของกำลังพลนั้น และเลเวลของคนในทีมนั้นทีมนักผจญภัยของพวกเขาก็สามารถจะติดสิบอันดับแรกของจักรวรรดิรัตติกาลได้อย่างง่ายดายเลย

เมื่อแอสซาซินในชุดสีน้ำเงินพูดจบได้ไม่นาน แอสซาซินรุ่นเยาว์ เลเวลหนึ่งร้อยสามสิบหกในทีมที่เคลื่อนที่ผ่านต้นไม้มาก็ได้หยุดลง และยืนอยู่บนกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง พลางมองไปยังป่าที่ว่างเปล่าในระยะไกล

ซึ่งท่าทีของแอสซาซินรุ่นเยาว์ผู้นี้นั้นมันก็ทำให้คนในทีมทั้งหมดหยุดชะงักลงในทันที และไม่กล้าที่จะขยับไปไหน

“เบลดฮาร์ท แถวนั้นมีอะไรผิดปกติงั้นหรอ ?” หัวหน้าที่ชื่อ ชางหู อดไม่ได้ที่จะกระซิบถามแอสซาซินรุ่นเยาว์ผู้นี้

ขณะเดียวกันคนอื่นๆในทีมเองก็ล้วนมองไปยังแอสซาซินรุ่นเยาว์ผู้นี้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

แม้ว่าแอสซาซินรุ่นเยาว์ที่ชื่อ เบลดฮาร์ท ผู้นี้จะเล่น God domain มาได้ไม่นานนัก แถมเลเวลของเขาก็ยังอยู่ต่ำสุดในทีม แต่ระดับของเทคนิคและสัญชาตญาณของเขานั้นแข็งแกร่งมากๆ โดยหลายครั้งเบลดฮาร์ทสามารถค้นพบสิ่งที่แม้แต่ ชางหู ซึ่งเป็นแอสซาซินขั้นสี่นั้นก็ไม่สามารถจะค้นพบได้

และก็ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เบลดฮาร์ทได้มาเข้าร่วมทีมสอดแนมในครั้งนี้

“ฉันไม่สามารถบอกได้อย่างแน่นอน แต่ฉันคิดว่ามันมีบางอย่างอยู่บริเวณนั้น …”
เบลดฮาร์ทกล่าวตอบชางหูด้วยความไม่แน่ใจ

“บางอย่างงั้นหรอ ?” เมื่อชางหูได้ยินดังนั้น เขาก็ได้เริ่มทำการตรวจสอบบริเวณที่
เบลดฮาร์ทกล่าวอย่างรอบคอบ

อย่างไรก็ตามแม้ว่าชางหูจะใช้สกิลตรวจสอบขั้นสูงร่วมในการตรวจสอบด้วย แต่เขาก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆเลย ข้างหน้านั้นมันดูเป็นป่าธรรมดาอย่างสิ้นเชิง และมันไม่มีแม้แต่สัญญาณของสิ่งมีชีวิตด้วยซ้ำ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลังจากนั้นไม่กี่นาที มันก็มีทีมยี่สิบคนปรากฎตัวขึ้นมา โดยทีมๆนี้นั้นก็แข็งแกร่งมากๆ เพราะทั้งทีมประกอบไปด้วยอาชีพขั้นสี่ทั้งหมด และพวกเขาทั้งหมดก็ล้วนมีเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบห้า หรือสูงกว่า พร้อมกันนั้นอุปกรณ์ที่แย่ที่สุดของพวกเขาก็ยังเป็นระดับดาร์คโกลเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบด้วย ขณะที่ผู้ที่นำทีมๆนี้มานั้นก็ดูเหมือนจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากเขาสวมใส่อุปกรณ์ระดับอีปิคถึงห้าชิ้น

“คนเหล่านี้น่าจะเป็นทีมสอดแนมในแนวหน้าของกองทัพจากโลกอื่น แต่อย่างไรก็ตามทำไมพวกเขาถึงมาปรากฎตัวขึ้นที่นี่กัน ?” แอสซาซินขั้นสามในชุดสีน้ำเงินกล่าวอย่างประหลาดใจ

ในปัจจุบันกองทัพผู้เล่นจากโลกอื่นนั้นได้ส่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเข้ามาก่อกวนและตรวจสอบสถานการณ์ภายในส่วนลึกอาณาจักรทวินทาวเวอร์ ดังนั้นนี่มันจึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากๆที่พวกเขาได้มาค้นพบทีมยี่สิบคนของผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ที่บริเวณนี้

เนื่องจากทีมแบบนี้นั้นสามารถจะตรงลึกเข้าไปและก่อวินาศกรรมในส่วนลึกของอาณาจักรทวินทาวเวอร์ได้ง่ายๆเลย เพราะท้ายที่สุดทีมแบบนี้นั้นมีทรงพลังมากๆ และกองกำลังทั่วไปในอาณาจักรทวินทาวเวอร์ก็จะไม่สามารถหยุดพวกเขาได้เลย

โดยในปัจจุบันมีการคาดการณ์กันว่า มันจะมีก็แต่เพียงกิลชั้นสูงหรือเหนือกว่าขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถรับมือกับทีมแบบนี้ได้

ในระหว่างที่ชางหู และคนอื่นๆกำลังสงสัยว่าทำไมทีมๆนี้ถึงมาปรากฎตัวขึ้นที่นี่ ทีมๆนี้ก็ได้หยุดลงบริเวณป่าที่ว่างเปล่า ราวกับว่ากำลังรอบางอยู่

หลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปมากกว่าสิบวินาทีมันก็ได้มีช่องว่างขนาดใหญ่ถูกเปิดขึ้นบริเวณป่าที่ว่างเปล่า ซึ่งสิ่งนี้มันทำให้ชางหู และคนอื่นๆตกตะลึงอย่างมาก

“วงเวทย์ ?”

สำหรับเรื่องวงเวทย์นั้นมันแทบจะไม่มีผู้เล่นคนใดใน God domain ที่ไม่รู้จัก แต่อย่างไรก็ตามฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้นมันก็ยังทำให้ชางหู และคนอื่นๆรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก

เนื่องจากพวกเขาไม่คิดเลยว่าวงเวทย์จะสามารถนำมาใช้ในลักษณะนี้ได้

นอกเหนือจากนี้แล้วเมื่อช่องว่างขนาดใหญ่นี้เปิดขึ้น ชางหูและคนอื่นๆก็ได้สังเกตเห็นผู้เล่นจำนวนมากที่อยู่ภายในนั้น โดยจากการประมาณอย่างคร่าวๆของพวกเขานั้นจำนวนก็น่าจะอยู่ที่หลายแสนคนเลย แถมในหมู่ผู้เล่นเหล่านี้ มันยังมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่จำนวนมากด้วย

“ทำไมถึงมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่มากมายขนาดนี้ ?!”

“มันจบแล้ว คราวนี้อาณาจักรทวินทาวเวอร์จบสิ้นแล้วอย่างแน่นอน !! กองทัพจากโลกอื่นมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่มากเกินไป ไม่ต้องพูดถึงการรวมผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่จากอาณาจักรทวินทาวเวอร์ และอาณาจักรสตาร์มูนเข้าด้วยกันเลย ต่อให้รวมผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่จากจักรวรรดิมังกรดำ และจักรวรรดิรัตติกาลเข้ามาด้วย ฉันคิดว่ามันก็จะยังคงมีจำนวนน้อยกว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของกองทัพจากโลกอื่นอยู่ดี”

“มหาอำนาจต่างๆในจักรวรรดิมังกรดำ และจักรวรรดิรัตติกาลนั้นประเมินทุกอย่างผิดไปอย่างสิ้นเชิง !!! คราวนี้ทวีปด้านตะวันออกของพวกเราถึงคราวล่มสลายแล้วแน่นอน !!!”

เมื่อมองไปยังกองทัพผู้เล่นจากโลกอื่นที่อยู่ในช่องว่างขนาดใหญ่นั้นชางหู และคนอื่นๆก็รู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก

แม้ว่าในทวีปหลักของ God domain จะมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่อยู่จำนวนมาก แต่จำนวนของพวกเขานั้นก็ยังเทียบไม่ได้กับจำนวนผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่จากโลกอื่นเลย

ในปัจจุบันอาณาจักรทั่วไปที่มีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่อยู่ราวสามร้อยถึงสี่ร้อยคนนั้นก็จะได้รับการยอมรับแล้วว่าเป็นอาณาจักรที่ทรงพลังมากๆ ขณะที่ในอาณาจักรขาดใหญ่นั้นเต็มที่จำนวนผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ที่มีอยู่ในอาณาจักรก็จะไม่เกินหนึ่งพันห้าร้อยคนแน่นอน

แม้ว่าตัวเลขนี้มันจะดูเหมือนมาก แต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่พวกเขาได้เห็นตรงหน้า เพราะตอนนี้สิ่งที่พวกเขาได้เห็นตรงหน้านั้นมันก็คือกองทัพนี้มีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่อยู่มากกว่าห้าพันคน ซึ่งด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้นั้น ไม่ต้องพูดถึงการทำลายอาณาจักรทวินทาวเวอร์ และอาณาจักรสตาร์มูนเลย พวกเขาน่าจะสามารถทำลายจักรวรรดิมังกรดำ และจักรวรรดิรัตติกาลได้อย่างไม่ยากเย็นด้วยซ้ำ

“หัวหน้า ตอนนี้เราจะเอายังไงกันดี ?” แอสซาซินขั้นสามในชุดสีน้ำเงินอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย และกล่าวถามว่า “เมื่อเป็นแบบนี้นั้น แม้แต่จักรวรรดิมังกรดำ และจักรวรรดิรัตติกาลก็จะไม่สามารถป้องกันตัวเองได้แน่นอน ….”

เมื่อได้ยินคำถามของแอสซาซินขั้นสามในชุดสีน้ำเงิน ชางหูก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น และกล่าวว่า “เราก็ทำได้แค่รีบไปแจ้งมหาอำนาจต่างๆในจักรวรรดิมังกรดำ กับจักรวรรดิรัตติกาลเพื่อให้พวกเขารีบรวมรวมผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่จากประเทศรอบข้างทั้งหมดมาให้ได้มากที่สุดเพื่อใช้ต่อต้านกองทัพนี้นั่นแหละ ไม่งั้นพวกเราทั้งหมดก็คงจะถูกกวาดล้างออกไปจากทวีปด้านตะวันออกอย่างแน่นอน”

“แต่มันยากมากๆเลยนะที่จะทำให้มหาอำนาจพวกนั้นฟังคำพูดของเราน่ะ …” แอสซาซินขั้นสามในชุดสีน้ำเงินกล่าวอย่างกังวล “ตอนนี้มหาอำนาจพวกนั้นกำลังพยายามที่จะจัดการกับสภาสิบแปดปีก และพวกเขาก็หวังให้อาณาจักรทวินทาวเวอร์ กับอาณาจักรสตาร์มูนซึ่งเป็นฐานหลักของสภาสิบแปดปีกนั้นถูกกวาดล้างไป ดังนั้นเราจะไปกล่อมพวกเขายังไงให้ยอมส่งกำลังคนมาเพื่อต้านทานที่นี่ ?”

“สิ่งที่คุณพูดมามันก็ถูก …” ชางหูยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “อย่างไรก็ตามเราก็ต้องลองดู เราจะเริ่มด้วยการกระจายข่าวนี้ออกไป ส่วนจะมีใครมากันไหม หรือใครจะเชื่อไหมคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามประสงค์ของพระเจ้าแล้วแหละ …”

ตัวชางหูเองนั้นก็ไม่ได้มีความหวังมากมายนักสำหรับเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็จำเป็นที่จะต้องลองดู เพราะท้ายที่สุดถ้ามีคนมายันกองทัพนี้ไว้ได้ มันก็น่าจะมีเวลาพอที่จะทำให้ผู้เล่นในทวีปหลักก้าวไปถึงขั้นสี่กันได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตามในขณะที่ชางหู กับคนอื่นๆกำลังเตรียมตัวจะออกไปจากที่นี่ และกลับไปที่จักรวรรดิรัตติกาลเพื่อกระจายข่าวนี้ออกไป มันก็มีเสียงดังขึ้นในบริเวณท้องฟ้าที่อยู่ไม่ไกลนัก ซึ่งนี่มันก็ทำให้ชางหู และคนอื่นๆอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ต้นตอของเสียง

โดยพวกเขาก็ได้สังเกตเห็นยักษ์เหล็กสีเลือดที่กำลังบินเข้ามาในบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว

“สภาสิบแปดปีก ?”

“ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่กัน ? พวกเขาค้นพบกองทัพผู้เล่นจากโลกอื่นกองทัพนี้แล้วงั้นหรอ ?….”
ชางหูนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างมาก ในขณะที่เขามองดูเรือเหาะมังกรสีเลือดที่กำลังบินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

ในปัจจุบันเรือเหาะมังกรสีเลือดนั้นนับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของสภาสิบแปดปีก และมันก็แทบจะไม่มีผู้คนใดใน God domain ที่ไม่รู้จักเลย และในเวลานี้เมื่อเรือเหาะมังกรสีเลือดเข้ามาที่นี่แบบนี้ มันก็มีความเป็นไปได้เดียวคือสภาสิบแปดปีกน่าจะค้นพบกองทัพผู้เล่นจากโลกอื่นกองทัพนี้แล้ว

และสิ่งที่ตอกย้ำสมมุติฐานนี้เลยก็คือเรือเหาะมังกรสีเลือดลำนี้นั้นได้มาหยุดอยู่ที่บริเวณท้องฟ้าเหนือป่าที่พวกเขาอยู่โดยไม่มีท่าทีที่จะถอยไปเลย

“นี่สภาสิบแปดปีกวางแผนจะโจมตีกองทัพผู้เล่นจากโลกอื่นงั้นหรอ ?” แอสซาซินขั้นสามในชุดสีน้ำเงินกล่าวอย่างตกตะลึงพลางจ้องมองไปยังเรือเหาะมังกรสีเลือดด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

“ก็มีความเป็นไปได้สูง อย่างไรก็ตามฉันคิดว่าสภาสิบแปดปีกน่าจะประเมินจำนวนผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของกองทัพผู้เล่นจากโลกอื่นต่ำเกินไป ไม่งั้นพวกเขาคงจะไม่ทำแบบนี้ และในตอนนี้เมื่อพวกเขาเริ่มโจมตีเมื่อไหร่ พวกเขาก็จะได้รับความสูญเสียครั้งใหญ่แน่นอน” ชางหูกล่าวพลางมองไปยังซือเฟิงที่เดินออกมาจากที่พักในเรือเหาะมังกรสีเลือดด้วยสีหน้าเป็นกังวล

ชื่อของแบล๊คเฟรมนั้นเป็นที่รู้จักกันดี หลังจากการต่อสู้ที่เมืองหินโบราณ และเขาก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปหลักของ God domain อย่างแน่นอน

แต่กระนั้นแม้ว่าแบล๊คเฟรมจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นห้า แต่เขาก็จะไม่สามารถเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่พร้อมกันมากกว่าห้าพันคนได้แน่นอน นี่ยังไม่ต้องพูดถึงพวกผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ที่เตรียมการมาอย่างดีเลย ….

อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะทันได้พูดอะไรต่อนั้น ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่เป็นนักเวทย์หลายร้อยคนก็ได้เริ่มร่ายเวทย์อัญเชิญขนาดใหญ่ ซึ่งวงเวทย์อัญเชิญนี้มันก็มีความซับซ้อนมากๆจนพวกเขาไม่สามารถจะบอกได้ว่ามันอยู่ในระดับไหน

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเวทย์นี้ถูกร่ายจนเสร็จ ชางหู กับคนอื่นๆก็ต้องตกตะลึงและตัวสั่นอย่างถึงที่สุด เพราะมันได้มีผีงูยักษ์เก้าหัวปรากฎตัวขึ้น

“ขั้นห้า !!?”

“นี่มันเป็นมอนสเตอร์ระดับโดเมนศักสิทธิ์ขั้นห้าแน่นอน !!!”

แม้ว่าชางหู และคนอื่นๆจะไม่รู้ว่ามอนสเตอร์ที่ผู้เล่นจากโลกอื่นอัญเชิญมานั้นอยู่ในประเภทไหน แต่จากออร่าที่มันแผ่ออกมา พวกเขาก็สามารถจะบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่ามอนสเตอร์ขั้นสี่เทียบกับมันไม่ได้แน่นอน และนอกเหนือจากมอนสเตอร์ระดับโดเมนศักสิทธิ์ขั้นห้าแล้ว มันก็ไม่มีความเป็นไปได้อื่นอีก ….

เมื่อเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ระดับนี้นั้น แม้แต่ผู้เล่นขั้นห้าสองถึงสามคนร่วมมือกันก็ยังยากจะฆ่ามันได้เลย

ซึ่งในตอนนี้มันก็ทำให้ชางหู และคนอื่นๆนั้นสิ้นหวังมากยิ่งขึ้นไปอีก

ดูเหมือนว่าช่องว่างระหว่างผู้เล่นจากโลกอื่น และผู้เล่นในทวีปหลักนั้นมันจะยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก และผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่มากกว่าห้าพันคนนั้นมันก็เป็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ….

อย่างไรก็ตามในขณะที่ชางหู และคนอื่นๆกำลังรู้สึกสิ้นหวังนั้น ซือเฟิงที่อยู่บนเรือเหาะมังกรสีเลือดกับมีท่าทีสบายมากๆ และเขาก็ได้ค่อยๆบินขึ้นไปบนท้องฟ้า พลางชักดาบแสงแห่งสองโลกออกมา

“หายไปซะ !!!”

ซือเฟิงตะโกน พลางกวัดแกว่งดาบแสงแห่งสองโลกในมือของเขาทันที

ดาบที่สาม การทำลายล้างศักสิทธิ์ !!!

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset