Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1007

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1007 ภัยพิบัติใหญ่

แปลโดย iPAT 

 

“เทพธิดาหลี่ซาน ท่านสามารถติดต่อพี่สาวของท่านหรือไม่?” ฟางหยวนถาม

 

สถานการณ์ปัจจุบันยิ่งมีกำลังเสริมมากเท่าใดก็ยิ่งดีเท่านั้น

 

นางมารผลาญสวรรค์ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงพันธมิตร อย่างไรก็ตามในสถานการณ์อันตราย ไห่ลั่วหลันกับเทพธิดาหลี่ซานจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนางมารผลาญสวรรค์เช่นนั้นหรือ?

 

เทพธิดาหลี่ซานรู้ว่านี่เป็นแผนการของฟางหยวน แต่นางก็ไม่สามารถทำสิ่งใดนอกจากกรอกตาและพยายามติดต่อนางมารผลาญสวรรค์

 

ทันใดนั้นใบหน้าของนางกลับกลายเป็นซีดเผือด นางส่ายศีรษะ “เห้อ…ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาอัศจรรย์เกินไป มันปิดผนึกวิธีการสื่อสารของข้าเช่นกัน”

 

ฟางหยวนพยักหน้าแต่ไม่กล่าวสิ่งใด เขาคิด ‘ดูเหมือนมีเพียงต้องทะลวงค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาออกไป พวกเราจึงจะสามารถติดต่อพันธมิตร’

 

ในความเป็นจริงกระทั่งนางมารผลาญสวรรค์จะสามารถเดินทางมา ฟางหยวนก็ยังไม่ไว้ใจให้นางอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล

 

แต่หากนางอยู่ข้างนอก มันจะอันตรายเกินไปและเป็นเรื่องไม่เหมาะสมหากเขาจะกีดกันไม่ให้นางเข้ามา

 

ตัดเรื่องของนางมารผลาญสวรรค์ออกไปก่อนสำหรับเวลานี้

 

ด้วยความช่วยเหลือจากไห่ลั่วหลัน ไท่เป่ยหยุนเฉิง และเทพธิดาหลี่ซาน นั่นทำให้นิกายเงาไม่สามารถโค่นล้มฟางหยวน

 

อีกด้านหนึ่งในการต่อต้านวังสวรรค์ อิงอู๋เซี่ยที่มีการบ่มเพาะระดับเจ็ดยังไม่สามารถทำสิ่งใด

 

ในขณะที่สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน ภัยพิบัติก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ภัยพิบัติร่วงหล่นลงมาอย่างต่อเนื่องและไม่ซ้ำรูปแบบ

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่แสงสีทองพลันส่องสว่างลงมาจากท้องฟ้า

 

หนามสีทองนับหมื่นตกลงมาอย่างไม่รู้สิ้นสุด

 

“ภัยพิบัติใหญ่!” สมาชิกนิกายเงาตกตะลึง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่คือภัยพิบัติวัชระทองคำ” ภายในหอคอยดวงตาสวรรค์ เจ้าวังลูบเคราและหัวเราะอย่างมีความสุข

 

ภัยพิบัตินี้เป็นภัยพิบัติที่พบได้ยาก มันกระทั่งเหนือกว่าภัยพิบัติของสุดยอดกายาทั้งสิบ!

 

ภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ผู้อมตะต้องเผชิญ มันอาจเป็นหายนะหรือโชคลาภ หากพวกเขาไม่สามารถก้าวข้าม พวกเขาจะตาย ในทางตรงข้ามหากพวกเขาสามารถก้าวผ่าน รากฐานของพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นพร้อมกับระดับการบ่มเพาะที่เพิ่มสูงขึ้น

 

ผู้อมตะระดับหกจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพิภพทุกสิบปีและเผชิญหน้ากับภัยพิบัติสวรรค์ทุกร้อยปี หลังจากสามร้อยปี พวกเขาจะบรรลุระดับเจ็ด

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพิภพทุกสิบปี ภัยพิบัติสวรรค์ทุกห้าสิบปี และภัยพิบัติใหญ่ทุกหนึ่งร้อยปี หลังจากสามร้อยปีพวกเขาจะบรรลุระดับแปด

 

ผู้อมตะระดับแปดจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติสวรรค์ทุกสิบปี ภัยพิบัติใหญ่ทุกห้าสิบปี และหมื่นภัยพิบัติทุกหนึ่งร้อยปี หากสามารถผ่านหมื่นภัยพิบัติสามครั้ง พวกเขาจะบรรลุระดับเก้า

 

ภัยพิบัติพิภพ ภัยพิบัติสวรรค์ ภัยพิบัติใหญ่ และหมื่นภัยพิบัติ คือระดับความรุนแรงของภัยพิบัติที่เพิ่มสูงขึ้น

 

ภัยพิบัติพิภพและภัยพิบัติสวรรค์อันตรายมาก แต่ภัยพิบัติใหญ่ยิ่งอันตรายกว่า ผู้อมตะส่วนใหญ่ตกตายเพราะภัยพิบัติเหล่านี้ ดังนั้นผู้อมตะทุกคนจึงต้องฝึกฝนและระวังตัวตลอดเวลา

 

สำหรับหมื่นภัยพิบัติ มันเป็นเรื่องยากมากที่ผู้อมตะจะรอดชีวิตไปจากมัน แต่ผู้ที่สามารถก้าวข้ามก็จะมีอนาคตที่สดใส ผู้คนจะยกย่องและให้ความเคารพแก่พวกเขา

 

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานมีเพียงสิบคนที่สามารถก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติสามครั้งและกลายเป็นเทพอมตะ

 

โป้ชิงสามารถก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติสองครั้ง ผู้คนคิดว่าเขาจะกลายเป็นเทพอมตะคนต่อไป อย่างไรก็ตามเขากลับล้มเหลวในครั้งที่สาม

 

ในยุคปัจจุบัน ที่ภาคเหนือ ปีศาจอมตะเซี่ยหูกำลังเตรียมตัวเผชิญหน้ากับหมื่นภัยพิบัติครั้งแรก เขาต้องการหลอมรวมวิญญาณโชคชะตาท้าทายสวรรค์เพราะเรื่องนี้ สำหรับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู และเหยากวง พวกเขายังห่างไกลจากหมื่นภัยพิบัติ

 

แม้พวกเขาจะแก่มากแล้ว แต่พวกเขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อชะลอเวลาในมิติช่องว่างของตน ผู้อมตะบางคนกระทั่งใช้วิธีหยุดเวลาในมิติช่องว่างของพวกเขาอย่างสมบูรณ์

 

แต่ในกรณีนั้นมิติช่องว่างของพวกเขาก็จะไม่สามารถผลิตพลังงานอมตะเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นหากปราศจากภัยพิบัติ พวกเขาก็จะไม่ได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าและไม่สามารถยกระดับการบ่มเพาะ

 

ข้อบกพร่องอีกประการของวิธีหยุดเวลาก็คือพวกเขาไม่สามารถหยุดเวลาได้นานนักและต้องเสียค่าสใช้จ่ายมหาศาลเพื่อรักษาสภาวะหยุดเวลาของพวกเขาเอาไว้

 

ในปัจจุบันผู้อมตะส่วนใหญ่มักเลือกใช้วิธีชะลอเวลา

 

ยิ่งการบ่มเพาะสูงเท่าใด ภัยพิบัติก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้อมตะวังสวรรค์จะเข้าสู่การจำศีลในเวลาปกติ

 

การจำศีลถือเป็นวิธีการชะลอเวลาที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง

 

ในสถานการณ์ปัจจุบัน บนท้องฟ้าคือภัยพิบัติใหญ่

 

ภับพิบัติวัชระทองคำ!

 

แม้พวกมันจะไม่ได้พุ่งเข้าโจมตีพวกเขา แต่ผู้อมตะวังสวรรค์ยังต้องระวังตัว

 

วัชระทองคำพุ่งผ่านก้อนเมฆสีดำพร้อมเสียงแตกหัก

 

กลุ่มก้อนเมฆสีดำเริ่มเบาบางลงภายใต้การปะทะ

 

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ สมาชิกนิกายเงาถึงกับขมวดคิ้วลึก

 

“เยี่ยมมาก” ผู้อมตะวังสวรรค์เผยรอยยิ้มมีความสุข ในที่สุดกลยุทธ์ของพวกเขาก็เริ่มเห็นผลลัพธ์

 

“แม้พวกเราจะไม่ทำสิ่งใด พวกเขาก็อาจแพ้ภัยตนเอง ฮ่าฮ่าฮ่า” ไป่เฉิงเทียนหัวเราะ

 

เจ้าวังกล่าวอย่างลึกซึ้ง “ฝ่ายตรงข้ามอาจแข็งแกร่งแต่พวกเขาจะเหนือกว่าสวรรค์ได้อย่างไร? มนุษย์ควรเคารพสวรรค์พิภพ หากเปรียบเทียบ ผู้อมตะก็ไม่ถือเป็นสิ่งใด กระทั่งผู้อมตะระดับเก้าก็ไม่สามารถอยู่ยงคงกระพัน เคารพสวรรค์พิภพ ทำตามเจตจำนงสวรรค์ นี่คือเส้นทางที่ถูกต้อง!”

 

เผชิญหน้ากับภัยพิบัติใหญ่ ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาค่อยๆสูญเสียพลังอำนาจของมันไปอย่างช้าๆ

 

“เราไม่สามารถต่อต้านมัน!”

 

ค่ายกลวิญญาณที่ถูกควบคุมโดยมนุษย์มีความยืดหยุ่นมากกว่าเขตแดนที่ไร้การควบคุมในแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่

 

ดังนั้นกลุ่มเมฆสีดำจึงเปิดช่องให้วัชระทองคำพุ่งผ่านลงมา

 

วัชระทองคำจำนวนมากร่วงหล่นลงมายังคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลัง

 

เจ้าวังสวรรค์หัวเราะเย้ยหยัน เขารู้ว่านิกายเงาต้องการใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อกดดันวังสวรรค์

 

เจ้าวังบังคับหอคอยดวงตาสวรรค์และพยายามหลบเลี่ยง

 

“วิญญาณชะตากรรมอยู่ในหอคอยดวงตาสวรรค์ หนึ่งในวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณชะตากรรมคือเจตจำนงสวรรค์ ภัยพิบัตินี้กำเนิดจากเจตจำนงสวรรค์เช่นกัน ดังนั้นเราจะได้รับความเสียหายน้อยกว่าฝ่ายตรงข้าม” เจ้าวังกล่าว

 

ความหมายของเขาชัดเจนมาก เมื่อค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาเกิดรูช่วงโหว่ เขาจะใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะโจมตีมันอย่างรุนแรง

 

สมาชิกวังสวรรค์คนอื่นๆไม่คัดค้าน

 

“โอ้ ไม่ ตอนนี้พวกเราต้องอดทนมากขึ้น มิฉะนั้นค่ายกลวิญญาณจะไม่สามารถคงอยู่จนถึงตอนจบ!”

 

“ภัยพิบัติใหญ่แล้วอย่างไร? พวกเราได้เห็นจุดจบของตงฟางชางฟานมาแล้ว ภัยพิบัติใหญ่อยู่ในการคาดหมายของพวกเราตั้งแต่แรก!”

 

“สละคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่นๆและปกป้องเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์!”

 

สมาชิกนิกายเงาแสดงออกด้วยความเด็ดเดี่ยว หลังจากทั้งหมดพวกเขาเตรียมตัวมานานแล้ว

 

เหนือเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ แสงสีชมพูส่องประกายขึ้น

 

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของผู้คนรู้สึกอบอุ่น

 

อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงมันไม่ใช่แสง

 

มันคือกลุ่มก้อนของความปรารถนา

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทุกหลังล้วนมีความเชี่ยวชาญและความพิเศษที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นคุกทมิฬ มันสามารถกักขังสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลเอาไว้ภายใน หากคุกทมิฬยกระดับขึ้น มันจะสามารถกักขังกระทั่งสัตว์อสูรแรกกำเนิด

 

ความพิเศษของหอคอยดวงตาสวรรค์ระดับเก้าคือการโจมตีด้วยพลังอำนาจแห่งโชคชะตาที่ไม่มีสิ่งใดสามารถป้องกันหรือต่อต้าน น่าเสียดายที่ตอนนี้มันไม่สามารถใช้การโจมตีชนิดนี้ได้อีก

 

สำหรับเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ที่นิกายเงาพยายามยึดครองมันก็มีความพิเศษเช่นกัน

 

นั่นก็คือการดูดซับพลังงานแห่งความปรารถนาจากอดีตจนถึงปัจจุบันเพื่อใช้ประโยชน์

 

เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายใต้การครอบครองของเผ่ามนุษย์วิหคมาหลายชั่วอายุคนในสวรรค์สีเขียว ดังนั้นมันจึงเต็มไปด้วยพลังแห่งความปรารถนา

 

แม้ท่าไม้ตายพรจากสวรรค์จะดูดกลืนพลังแห่งความปรารถนาไปเป็นจำนวนมาก แต่มันยังเหลืออยู่มากกว่าครึ่ง สิ่งสำคัญก็คือเผ่ามนุษย์วิหคไม่รู้วิธีใช้งานสิ่งนี้

 

นิกายเงามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะรู้ต้นกำเนิดของมัน

 

พลังแห่งความปรารถนามีอนุภาพสูงมาก มันสามารถปิดกั้นฝนวัชระทองคำและช่วยปกป้องค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา

 

“ช่างเป็นภัยพิบัติที่น่าอัศจรรย์นัก ในระยะเวลาสั้นๆ สนามรบแห่งความโกลาหลกลับได้รับความเสียหายอย่างหนัก” ไห่ลั่วหลันอุทาน

 

ใบหน้าของเทพธิดาหลี่ซานกลายเป็นซีดขาว

 

ภัยพิบัติครั้งนี้น่ากลัวเกินไป หากนางเผชิญหน้ากับมันเพียงลำพัง นางจะไม่สามารถทนได้ถึงสามครั้ง

 

แต่ความจริงก็คือมีวัชระทองคำนับหมื่นที่ร่วงหล่นลงมาและยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

 

ฟางหยวนหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ากำลังรอสิ่งนี้อยู่ ตอนนี้ข้าจะแสดงพลังอำนาจที่แท้จริงของสนามรบแห่งความโกลาหลให้ทุกคนได้ประจักษ์!”

 

ความคิดดาราระเบิดขึ้นในใจของฟางหยวน

 

เขาเพ่งสมาธิและความสนใจทั้งหมดกับสนามรบแห่งความโกลาหล

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้สามารถใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อปิดผนึกการโจมตีของศัตรูและส่งพวกมันกลับไป

 

แต่การใช้วิธีนี้จำเป็นต้องทุ่มเทสมาธิกับมัน ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่ได้ใช้งานมันเพราะเขาต้องบังคับคฤหาสน์วิญญาณอมตะและจัดการศัตรูในเวลาเดียวกัน

 

แต่ตอนนี้เขามีไท่เป่ยหยุนเฉิงและคนอื่นๆ ขณะที่เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์กำลังยุ่งอยู่กับการต่อต้านภัยพิบัติ ดังนั้นฟางหยวนจึงมีเวลาใช้ทักษะพิเศษของสนามรบแห่งความโกลาหลในที่สุด

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset