ดวงอาทิตย์กำลังส่องแสง รังสีความร้อนพุ่งลงมายังทะเลทรายที่กว้างใหญ่ราวกับลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วน
มีรูปปั้นทรายจำนวนมากอยู่ที่นี่ มันมีทั้งรูปปั้นมนุษย์และสัตว์อสูร บางรูปปั้นกำลังต่อสู้ บางรูปปั้นนอนราบอยู่บนพื้น
มีทั้งรูปปั้นขนาดใหญ่และรูปปั้นขนาดเล็ก แต่รูปปั้นขนาดเล็กที่สุดยังสูงถึงสามเมตร
พวกมันทำให้ทะเลทรายแห่งนี้ดูเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่
มันคือทะเลทรายหมื่นรูปปั้น
ทะเลทรายแห่งนี้มีรูปปั้นทรายจำนวนนับไม่ถ้วน ผู้คนของทะเลทรายตะวันตกรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
มันมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับล้านปี ทะเลทรายแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในเหตุการณ์สำคัญ
ในยุคของเทพปีศาจคลั่ง เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์มนุษย์กลายพันธุ์ หลังจากหนึ่งร้อยวันและคืน แม่น้ำโลหิตไหลรินจนกลายเป็นทะเลสาบ
ในยุคนั้นผู้คนบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นหลัก
แม้มนุษย์จะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แต่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือมนุษย์กลายพันธุ์ก็มีผู้เสียชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน
ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของพวกเขาเปลี่ยนสภาพแวดล้อมและทำให้เกิดทะเลทรายหมื่นรูปปั้นขึ้นในที่สุด
มันกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของการบ่มเพาะเนื่องจากมันเต็มไปด้วยทรัพยากร
รูปปั้นทรายทุกชิ้นเป็นทรัพยากรอมตะที่เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง
ไม่เหลือแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นี่อีกต่อไป หลังจากผ่านไปหนึ่งล้านปี แดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นถูกทำลายหรือถูกยึดครองไปหมดแล้ว
แต่ที่นี่มีวิญญาณป่าจำนวนนับไม่ถ้วน มันมีกระทั่งวิญญาณอมตะป่า
อย่างไรก็ตามที่นี่อันตรายมาก ไม่มีผู้ใดกล้ามาที่นี่โดยประมาท
สำหรับผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตก พวกเขามักจะเดินทางอ้อมสถานที่แห่งนี้
หนึ่งในเหตุผลสำคัญก็คือบรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลง!
ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางการเปลี่ยนแปลงอาศัยอยู่ที่นี่มานานนับพันปีแล้ว
พลังการต่อสู้ระดับแปดทำให้ผู้คนไม่กล้าเป็นศัตรูกับเขา
ทะเลทรายหมื่นรูปปั้นเป็นอาณาเขตของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ผู้อมตะที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของผู้อมตะระดับแปด นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินไป
ลึกลงไปใต้ทะเลทรายหมื่นรูปปั้น
วังขนาดใหญ่ซ่อนตัวอยู่ที่นี่
เสียงแห่งความเจ็บปวดทุกข์ทรมานดังขึ้น
“อ๊าก…”
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเงยหน้ากรีดร้อง ดูเหมือนเขาจะเจ็บปวดมากและแสดงออกด้วยท่าทางที่น่ากลัว
ทุกครั้งที่เขากรีดร้อง คลื่นเสียงของเขาจะแผ่พุ่งออกมา
แต่กำแพงวังแห่งนี้มีม่านแสงที่ช่วยดูดซับคลื่นเสียงทั้งหมด
ดังนั้นความปั่นป่วนที่เกิดจากบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงจึงไม่หลุดออกไปยังโลกภายนอก
เจ็บปวด!
ทุกข์ทรมมาน!
ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสกำลังทำร้ายร่างกายและจิตใจของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง
เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาแตกขณะที่เขากลิ้งไปมาอยู่บนพื้นอย่างน่าสังเวช
หากผู้อมตะคนอื่นเห็นสิ่งนี้ พวกเขาจะตกใจมาก สิ่งใดที่ทำให้บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงพบกับความทุกข์ทรมานและสูญเสียความสง่างามได้ถึงเพียงนี้?
โซ่เหล็กมากกว่าสิบเส้นมัดร่างของเขาผูกกับกำแพงรอบๆอย่างแน่นหนา
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงถูกคุมขังงั้นหรือ!?
“ไม่ ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ ข้าจะเป็นบ้าตาย ความเจ็บปวดครอบงำความมีเหตุผลของข้าและกำลังทำให้ข้าเป็นบ้า! หมื่นภัยพิบัติระดับแปดน่ากลัวเกินไป”
ความดื้อรั้นปรากฏขึ้นในดวงตาของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง
ด้วยการใช้สติสัมปชัญญะครั้งสุดท้าย บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงตัดสินใจ
ท่าไม้ตายอมตะตัดเนื้อ!
เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ ในช่วงเวลาสำคัญแม้เขาจะเจ็บปวดแต่ท่าไม้ตายนี้ยังไม่ล้มเหลว
กลิ่นอายระดับแปดปะทุขึ้น
ร่างของบรรพชนพันเปลี่ยแปลงขยายใหญ่ขึ้นจนดูเหมือนลูกชิ้นเนื้อก้อนใหญ่
ก้อนเนื้องอกปรากฏขึ้นด้านข้างลำคอของเขา
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกัดฟันแน่น ใบหน้าของเขาบวมขึ้นกระทั่งดวงตาก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้อีกต่อไป
ไม่นานหลังจากนั้นก้อนเนื้องอกที่ลำคอของเขาก็ระเบิดออก
เลือดและหนองสาดกระเซ็นไปทั่วขณะที่อสูรปีตัวหนึ่งกระโดดลงมาบนพื้น
“โฮ่ง โฮ่ง”
มันเริ่มเห่า
อสูรปีจอที่ปลดปล่อยกลิ่นอายไม่ธรรมดาปรากฏขึ้น
มันเป็นอสูรปีระดับสัตว์อสูรเดียวดายร่างสุนัข
เห็นอสูรปีจอที่อยู่บนพื้น บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ราวกับเขาสามารถวางภูเขาที่แบกอยู่ลง
ต่อมาร่างของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงก็เกิดเนื้องอกก้อนใหม่ขึ้นอีกครั้ง
ไม่นานมันก็ระเบิดออกพร้อมกับอสูรปีที่ปรากฏตัวขึ้น
อสูรปีหลายชนิดปรากฏตัวออกมา นอกจากอสูรปีระดับสัตว์อสูรเดียวดายยังมีอสูรปีระดับสัตว์อสูรบรรพกาล
หลังจากไม่นานอสูรปีเหล่านี้ก็รวมกลุ่มและเริ่มโจมตีบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงไม่แปลกใจ ตรงข้ามใบหน้าของเขากลับดูผ่อนคลายลง
ความเจ็บปวดของเขาลดลงอย่างมาก แม้มันจะยังอยู่แต่ตอนนี้มันอยู่ในระดับที่สามารถรับได้
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงคำรามขณะเผชิญหน้ากับฝูงอสูรปี
โซ่จำนวนมากพุ่งออกจากกำแพงราวกับสายฟ้า
ในเสี้ยวพริบตาอสูรปีทั้งหมดก็ถูกกำหราบ
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงพ่นลมหายใจออกมา “ในที่สุดข้าก็สามารถหายใจ”
เขาคว้าอสูรปีมะเส็งร่างอสรพิษเข้ามาและสังเกตมัน
อสูรปีมะเส็งยังส่งเสียงขู่และแลบลิ้นออกมา มันต้องการกัดบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงแต่ถูกยับยั้งและไม่สามารถขยับเขยื้อน
ครู่ต่อมาบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงจึงแสดงออกด้วยความตกใจ
“แม้ข้าจะใช้วิธีทั้งหมดไปแล้วแต่อสูรปีตัวนี้ยังแสดงความเกลียดชังต่อข้า มันต้องการให้ข้าตาย”
“ท่าไม้ตายอมตะตัดเนื้อของข้ามาจากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง เมื่อข้าใช้มัน รูปแบบชีวิตจะถูกสร้างขึ้นจากร่างกายของข้า ข้าสามารถใช้งานพวกมันเหมือนแขนขาเพราะพวกมันเกิดจากร่างกายส่วนหนึ่งของข้า”
“แต่อสูรปีเหล่านี้ไม่อยู่ในการควบคุมของข้า แม้ข้าจะใช้วิธีการทั้งหมดไปแล้ว มันก็ยังไร้ประโยชน์”
“หมื่นภัยพิบัติช่างน่ากลัวจริงๆ”
หน้าผากของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเต็มไปด้วยเหงื่อ
เขานึกถึงหมื่นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งเดือนก่อนและยังรู้สึกหวาดกลัว
ผู้อมตะระดับแปดต้องผ่านหมื่นภัยพิบัติสามครั้ง
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงพึ่งผ่านครั้งแรก
“หากไม่ใช่เพราะคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ที่ถูกทิ้งไว้โดยเทพปีศาจคลั่ง ข้าคงไม่รอดชีวิตจากหมื่นภัยพิบัติครั้งแรก แม้ตอนนี้ข้าจะผ่านมันมาแล้วแต่ข้ายังได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้าต้องใช้ท่าไม้ตายตัดเนื้อเพื่อลดความสูญเสีย”
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต้องการหาวิธีอื่น แต่หลังจากครึ่งเดือน เขาก็ถึงขีดจำกัดและไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป
เขาต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะตัดเนื้อเพื่อกำจัดบางส่วนของร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บอย่างไม่มีทางเลือก
ครั้งนี้เขาพบกับหมื่นภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งกาลเวลา บาดแผลบนร่างของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลา
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต้องกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาทั้งหมดโดยวิธีตัดเนื้อ
เนื้องอกเหล่านั้นกลายเป็นอสูรปีที่เต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ ดังนั้นพวกมันจึงไม่อยู่ในการควบคุมของเขาและกระทั่งกลายเป็นศัตรู
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงรู้สึกถึงการสูญเสียครั้งใหญ่
ค่าใช้จ่ายของมันมากเกินไป
ไม่เพียงมิติช่องว่างของเขาจะได้รับความเสียหาย การตัดเนื้อออกไปไม่ต่างจากการสูญเสียร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า นอกจากเขาจะสูญเสียร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลา เขายังสูญเสียร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย
การสูญเสียร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเป็นเรื่องใหญ่
หลังจากก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติ นอกจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของเขาจะไม่เพิ่มขึ้น เขายังขาดทุนเล็กน้อย
“แต่มันยังดีกว่าไม่สามารถก้าวข้ามภัยพิบัติ”
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงรู้สึกขมขื่น
เขาถอนหายใจยาว
มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
ในอดีตเขาบ่มเพาะและมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว กระทั่งไม่นานมานี้ที่เขาแทบไม่สามารถต่อต้านภัยพิบัติได้อีกต่อไป
รากฐานของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงไม่เติบโตและยังอ่อนแอลงง
“ข้าประมาทเกินไป”
“หนึ่งพันปีก่อน ด้วยการพึ่งพามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง ข้าคิดว่าตนเองสามารถเติบโตได้อย่างไร้อุปสรรค”
“ภัยพิบัติพิภพ ภัยพิบัติสวรรค์ ภัยพิบัติใหญ่ ข้าผ่านพวกมันทั้งหมดมาได้อย่างง่ายดาย แต่หมื่นภัยพิบัติกลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง!”
“ข้าประเมินพลังอำนาจของมันต่ำเกินไป หลายปีที่ผ่านมา ข้าหยิ่งจองหองมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว อาการบาดเจ็บในครั้งนี้เป็นทั้งพรและหายนะสำหรับข้า”
บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเป็นผู้อมตะระดับแปด เขาเป็นคนที่น่าทึ่งโดยธรรมชาติ
เขาทบทวนประสบการณ์ของตนและไตร่ตรองหลังจากการสูญเสียครังใหญ่
อย่างไรก็ตามในเวลานี้เสียงของผู้อมตะหญิงผู้หนึ่งพลันดังมาจากนอกวัง “สามี มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับป้ายวิญญาณของน้องซุ้ยป๋อ โคมไฟวิญญญาณของนางริบหรี่ลง นางไปที่ทะเลทรายแปรผัน แต่พวกเราไม่สามารถติดต่อนางได้ในเวลานี้ นี่เป็นเรื่องสำคัญ ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมาแจ้งท่านให้ทราบ!”