Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1531 ทุ่งหยกร้อน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1531 ทุ่งหยกร้อน

แปลโดย iPAT  

 

ภาคใต้ ทิศตะวันออกเฉียงใต้

 

แม่น้ำมังกรเหลืองอยู่ทางเหนือขณะที่ภูเขาไป่โชวอยู่ทางใต้

 

เดิมทีมันเป็นเทือกเขาที่ทอดตัวยาวออกไปแต่ตอนนี้มันแยกออกจากกันและถูกแทนที่ด้วยร่องลึกใต้พิภพ

 

ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึง ห้าภูมิภาคจะกลายเป็นหนึ่ง ก้าวแรกคือความปั่นป่วนของปราณพิภพและการเชื่อมต่อของเส้นโลหิตปฐพี ภาคใต้มีเส้นโลหิตปฐพีอยู่มากที่สุด ดังนั้นแผ่นดินไหวจึงเกิดขึ้นบ่อยที่สุด

 

แผ่นดินไหวแต่ละครั้งถือเป็นหายนะของมนุษย์ แต่สำหรับผู้อมตะ พวกเขาได้รับผลประโยชน์

 

ทรัพยากรอมตะทุกประเภทรวมถึงวิญญาณอมตะป่าปรากฏขึ้นจากเส้นโลหิตปฐพี

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโลกของผู้อมตะภาคใต้เกิดความโกลาหลเป็นอย่างมาก

 

อันดับแรกคือการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ตามมาด้วยการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน ไม่ว่าจะเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ ปีศาจอมตะ หรือสมาชิกฝ่ายธรรมะ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลวู พวกเขาสูญเสียผู้อมตะไปถึงเจ็ดคน!

 

ผู้อมตะของภาคใต้เริ่มตื่นตัวเนื่องจากอันตราย พวกเขาพยายามอย่างหนักที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง

 

แผ่นดินไหวที่เกิดจากเส้นโลหิตปฐพีได้สร้างรอยแยกใต้พิภพมากมาย ผู้อมตะภาคใต้จำนวนนับไม่ถ้วนพยายามค้นหาทรัพยากรและชดเชยความสูญเสียไปพร้อมกับเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเขา

 

รอยแยกใต้พิภพที่เกิดใหม่แห่งหนึ่ง กลุ่มผู้ใช้วิญญาณกำลังสร้างค่ายกลวิญญาณระดับมนุษย์ขึ้นที่นี่

 

ผู้นำกลุ่มเป็นผู้ใช้วิญญาณหญิงระดับห้า

 

คิ้วของนางเรียวบาง ดวงตากระจ่างใสราวกับดวงจันทร์ ผิวของนางขาวราวหิมะ ขณะที่ริมฝีปากเป็นสีชมพูที่ดูอ่อนโยน เส้นผมสีดำของนางส่องประกายดุจแพรไหมที่ช่วยขับเน้นความงามของนาง

 

ตอนนี้นางอยู่ในชุดสีขาวที่เรียบง่าย นางดูสง่างามราวกับดอกกล้วยไม้ อ่อนโยนเหมือนน้ำ และปลดปล่อยกลิ่นอายของคนสูงศักดิ์ออกมา

 

นางไม่ใช่ผู้ใดนอกจากผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลเฉิง เฉิงซินซื่อ

 

ดวงตาที่งดงามของเฉิงซินซื่อปรากฏความงุนงงขณะที่นางมองไปยังพื้นที่ที่อยู่ตรงหน้า

 

สถานที่แห่งนี้อยู่ลึกลงไปใต้พิภพ มันเป็นพื้นดินสีดำที่แข็งเหมือนเหล็กและมีควันหลากสีสันลอยขึ้นมา

 

ผู้ใช้วิญญาณทุกคนรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ห่อหุ้มร่างกายและจิตวิญญาณของพวกเขาเอาไว้ นั่นทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก

 

“พลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติช่างน่าอัศจรรย์นัก” เฉิงซินซื่อถอนหายใจด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง

 

ชายหนุ่มชุดขาวที่ยืนอยู่ด้านข้างนางมีรูปลักษณ์ที่องอาจ ดวงตาและคิ้วแหลมคมราวกับดาบ นกอินทรีย์ตัวเล็กเกาะอยู่บนไหล่ของเขา นั่นคือเย่ฟาน

 

เย่ฟานกล่าว “สถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดา หากข้าจำไม่ผิด ที่นี่คือทุ่งหยกร้อน มันสามารถผลิตหยกร้อนที่เป็นทรัพยากรอมตะ มันมีมูลค่าสูงมาก!”

 

เย่ฟานยังคงรักเฉิงซินซื่อ ก่อนหน้านี้เขาช่วยนางจัดการเรื่องต่างๆของตระกูลเฉิง หลังจากเผชิญหน้ากับไป่หนิงปิงและเกือบถูกสังหาร เย่ฟานสามารถรักษาชีวิตและเติบโตขึ้นโดยการได้พบกับลั่วเว่ยหยินและกลายเป็นศิษย์ของเขา

 

เขาฝึกฝนอยู่ในสวรรค์สีดำและได้รับความรู้มากมายจากลั่วเว่ยหยิน

 

“ที่นี่เรียกว่าทุ่งหยกร้อนงั้นหรือ? ขอบคุณนายน้อยเย่สำหรับคำอธิบาย ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดบรรพชนอมตะของตระกูลเฉิงจึงต้องการให้ข้ามาปกป้องสถานที่แห่งนี้” เฉิงซินซื่อแสดงความขอบคุณ

 

เดิมทีนางมีพรสวรรค์และระดับการบ่มเพาะที่ค่อนข้างต่ำ แต่เพื่อทุ่งหยกร้อนแห่งนี้ ผู้อมตะตระกูลเฉิงจึงใช้วิธีการพิเศษเพื่อทำให้เฉิงซินซื่อก้าวเข้าสู่ระดับห้าโดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่าย

 

ความกังวลปรากฏขึ้นในดวงตาของเย่ฟาน

 

ศัตรูของเฉิงซินซื่อคือตระกูลฮั่วและตระกูลไท่

 

ทั้งสองตระกูลส่งผู้นำตระกูลที่มีการบ่มเพาะระดับห้ามาที่นี่ พวกเขาต้องการทุ่งหยกร้อนเช่นกัน

 

สำหรับเย่ฟาน ความเข้าใจของเขาเหนือกว่าขอบเขตมนุษย์ไปแล้ว เขาสามารถบอกได้อย่างชัดเจน

 

‘ทุ่งหยกร้อนเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ตระกูลที่สามารถยึดครองสถานที่แห่งนี้จะได้รับหยกร้อนจำนวนมากในแต่ละปี ตระกูลเฉิง ตระกูลฮั่ว และตระกูลไท่ ทั้งสามเป็นกองกำลังใหญ่ แต่กระทั่งผู้นำตระกูลของทั้งสามกองกำลังก็ยังเป็นตัวหมากเบี้ยของผู้อมตะที่อยู่เบื้องหลังการแข่งขันครั้งนี้เท่านั้น’

 

‘เห้อ…ตำแหน่งผู้นำตระกูลอาจดูสูงส่งและทรงอำนาจ แต่มันก็ยังเป็นเพียงเครื่องมือทางการเมืองสำหรับผู้อมตะ พวกเขาไม่มีอิสระในการตัดสินใจและตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากผู้บ่มสันโดษและปีศาจอมตะก็อาจมาที่นี่ได้เช่นกัน ระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ผู้นำตระกูลเฉิงรุ่นก่อนเฉิงเยี่ยนเฟยบิดารของคุณหนูซินซื่อก็เสียชีวิตที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นผู้นำตระกูลวูและกองกำลังอื่นก็เผชิญหน้ากับชะตากรรมเดียวกัน หากไม่ใช่ผู้อมตะ ไม่ว่าพวกเขาจะอัศจรรย์เพียงใด พวกเขาก็ยังเป็นเพียงมนุษย์’

 

คิดถึงเรื่องนี้ ช่วยไม่ได้ที่เย่ฟานจะปรารถนาที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

 

“รายงาน! ตระกูลฮั่วและตระกูลไท่ส่งกองกำลังจำนวนมากในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนเคลื่อนที่เข้ามาหาพวกเราโดยตรง!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้ใช้วิญญาณสายตรวจสอบเข้ามารายงาน

 

ผู้ใช้วิญญาณหญิงที่อยู่ด้านข้างเฉิงซินซื่อกล่าว “ท่านผู้นำกล่าวถูกต้อง พวกเราจัดตั้งค่ายกลวิญญาณเอาไว้แล้ว เราจะวางกับดักพวกเขา”

 

หญิงผู้นี้ก็คือเว่ยตี้ซินภรรยาของผู้นำตระกูลเว่ย นางเคยถูกฟางหยวนซื้อตัวมาเป็นทาสและมอบให้เฉิงซินซื่อ ตอนนี้นางเป็นผู้พิทักษ์ส่วนตัวของเฉินซินซื่อ นางมีความภักดีและต้องการตอบแทนความเมตตาของเฉินซินซื่อ

 

เฉินซินซื่อพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ค่ายกลวิญญาณถูกจัดตั้งไว้นานแล้ว เราเพียงต้องล่อลวงให้ทั้งสองตระกูลบุกเข้ามาและจัดการพวกเขาในครั้งเดียว”

 

ตระกูลเฉิง ตระกูลฮั่ว และตระกูลไท่ต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน พวกเขาต่างได้รับชัยชนะและพบกับความสูญเสียอย่างเท่าเทียม ดังน้นเฉิงซินซื่อจึงได้วางแผนที่จะจัดตั้งค่ายกลวิญญาณที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกนางเพื่อเอาชนะในการแข่งขันครั้งนี้ ผู้นำตระกูลอีกสองคนมีประสบการณ์และจะไม่สร้างความโกลาหลแม้พวกเขาจะจากไปเป็นครั้งคราว แต่เฉินซินซื่อยังเด็กและไร้ประสบการณ์ หากนางจากไปนานเกินไป มันจะสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ภายในกองกำลังของนาง นี่คือเหตุผลที่เฉินซินซื่อต้องเสี่ยงอันตรายอยู่ที่นี่

 

แน่นอนว่านางไม่ได้เสี่ยงโดยไม่มีแผนการรองรับ เฉินซินซื่อวางแผนหลังจากค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับศัตรูของนางมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตอนนี้นางมั่นใจกับชัยชนะของตระกูลเฉิงเป็นอย่างมาก

 

‘หากข้าสามารถเอาชนะสองผู้นำอาวุโสของตระดูลฮั่วและตระกูลไท่ที่นี่ ชื่อเสียงของข้าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อข้ากลับไปที่ตระกูล สิ่งต่างๆจะเปลี่ยนแปลงไป’ เมื่อนางคิดถึงเรื่องนี้ ริมฝีปากของนางก็ยกตัวขึ้นขณะที่นางกล่าวเสียงดัง “ข้าหวังว่าทุกคนจะทุ่มเทความพยายามและนำชัยชนะมาสู่ตระกูลเฉิง”

 

ทุกคนตอบรับอย่างแข็งขัน

 

เฉินซินซื่อมีเว่ยตี้ซินเป็นผู้พิทักษ์ของนาง ซ่งถู ซ่งเฮา และซ่งเฟิงเป็นผู้ช่วย นางยังมีเซียวเยี่ยนจากสนามประลองของตระกูลเฉิงซึ่งเป็นผู้ใช้วิญญาณคนนอกที่ได้รับคัดเลือกเข้ามาเป็นนายพลคนสำคัญ สำหรับเจาฉวน เขาทำหน้าที่แทนเฉิงซินซื่ออยู่ที่ฐานทัพใหญ่ของตระกูลเฉิง

 

เย่ฟานเป็นเหมือนผู้อาวุโสนอกที่ได้รับเชิญ เขาไม่ถือเป็นลูกน้องของเฉิงซินซื่อ

 

‘ตำแหน่งผู้นำทั้งเหน็ดเหนื่อยและยากลำบาก แต่คุณหนูซินซื่อได้เรียนรู้มากมาย ตอนนี้นางไม่อ่อนแอแล้ว นางกล้าหาญมาก’ เย่ฟานตกตะลึงกับท่าทางอันแน่วแน่และความสง่างามของเฉิงซินซื่อ

 

“ผู้นำตระกูลเฉิง นี่หมายความว่าอย่างไร?” ครู่ต่อมาผู้นำตระกูลไท่ก็มาถึง

 

จากนั้นผู้นำตระกูลฮั่วก็มาพร้อมกับคนของเขา เขาถามเฉิงซินซื่อ “สาวน้อย เจ้าพยายามยึดครองสถานที่แห่งนี้งั้นหรือ?”

 

เฉิงซินซื่อเผยรอยยิ้มบาง “ท่านผู้นำทั้งสอง เราเสียเวลามานานแล้ว ไม่ใช่ว่าเราควรจะตัดสินผู้ชนะกันที่นี่ตอนนี้งั้นหรือ?”

 

รูม่านตาของผู้นำตระกูลฮั่วหดเล็กลง

 

ผู้นำตระกูลไท่หัวเราะและชูนิ้วโป้งให้เฉิงซินซื่อ “ดี เจ้าเป็นผู้บังคับบัญชาที่ยอดเยี่ยม ความจริงก็คือข้าค่อนข้างหงุดหงิดกับการอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน วันนี้เราจะมาต่อสู้ตัดสินแพ้ชนะ!”

 

ทั้งสามฝ่ายส่งทหารเข้าสู่สนามรบ

 

เฉิงซินซื่อ เย่ฟาน และตัวตนระดับสูงคนอื่นๆยืนมองการต่อสู้อยู่ที่เดิม

 

“เปิดใช้ค่ายกล” เฉิงซินซื่อออกคำสั่ง

 

ผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งค่ายกลที่อยู่ด้านข้างนางลังเล “ยังเร็วเกินไปหรือไม่ที่จะเปิดใช้งานค่ายกลวิญญาณตอนนี้? พวกเขาจะมีเวลามากพอที่จะตอบสนอง”

 

เฉิงซินซื่อส่ายศีรษะ “ทำมันทันที”

 

ค่ายกลวิญญาณถูกกระตุ้นใช้งานและทำให้ผู้นำตระกูลฮั่วและตระกูลไท่ตื่นตระหนก

 

เฉินซินซื่อกล่าวเสียงดัง “ค่ายกลนี้สามารถปกป้องชีวิตของผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลฮั่วและตระกูลไท่เชิญออกมาต่อสู้”

 

หลังกล่าวจบคำ การแสดงออกของผู้นำตระกูลฮั่วและตระกูลไท่ก็เปลี่ยนแปลงไป

 

ผู้นำตระกูลไท่หัวเราะเสียงดัง “ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับความใจดีของผู้นำตระกูลเฉิงมานานแล้ว ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องจริง ตกลง เรามาต่อสู้จนถึงที่สุด”

 

ผู้นำตระกูลฮั่วก่นเสียงเย็นและคิดว่า ‘สาวน้อยผู้นี้ช่างน่าเกรงขามนัก นางกล่าวถึงความสามารถอันน่าเหลือเชื่อของค่ายกลวิญญาณออกมาเพื่อแก้ปัญหาความวุ่นวาย นอกจากนั้นหลังจากได้ยินถ้อยคำของนาง พวกเรายังจะสามารถทำลายค่ายกลวิญญาณนี้ได้อีกงั้นหรือ? ข้าประเมินนางต่ำเกินไปจริงๆ!’

 

‘เปรียบเทียบกับผู้นำตระกูลคนอื่นๆ คุณหนูซินซื่อใจดีที่สุด นางสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณรูปแบบโจมตี แต่นางกลับเลือกที่จะสร้างสิ่งนี้และลดความได้เปรียบของนางเอง ข้าต้องให้นางยืมมือในภายหลัง’ เย่ฟานคิด

 

เขาไม่ได้บอกเกี่ยวกับการเผชิญหน้าโดยบังเอิญของเขากับเฉิงซินซื่อและคนอื่นๆ

 

แต่หลังจากฝึกฝนในสวรรค์สีดำ เย่ฟานก็มั่นใจว่าผู้ใช้วิญญาณระดับห้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป

 

ค่ายกลวิญญาณช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้กับผู้ใช้วิญญาณและทำให้พวกเขาปลอดภัย

 

ในเวลาเดียวกันมันก็ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้ใช้วิญญาณของตระกูลเฉิง

 

ผู้ใช้วิญญาณของตระกูลไท่และตระกูลฮั่วพยายามตรวจสอบค่ายกลวิญญาณนี้แต่ก่อนที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จผู้ใช้วิญญาณของตระกูลเฉิงก็กลายเป็นฝ่ายได้เปรียบไปแล้ว

 

“ฆ่า!” เมื่อซ่งถู ซ่งเฮา และซ่งเฟิงเข้าสู่สนามรบ ผู้อาวุโสของตระกูลอื่นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา

 

ในไม่ช้าผู้อาวุโสสามคนของตระกูลฮั่วก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งออกจากสนามรบ

 

“บัดซบ!” ผู้นำตระกูลฮั่วกำหมัดแน่น “ข้าหว่านล้อมให้ตัวตนระดับสูงของตระกูลเฉิงล้มล้างเฉิงซินซื่อแล้ว แต่ผู้ใดจะคิดว่านางจะต้องการต่อสู้ในเวลานี้ ผู้นำตระกูลไท่ก็ใจร้อนเกินไป เขารับคำท้าและตกลงสู่แผนการของนาง หือ?”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้ใช้วิญญาณหญิงผู้หนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มคนตระกูลไท่ นางดูน่ากลัวมาก

 

นางต่อสู้อย่างกล้าหาญและอาละวาดในสนามรบอย่างไม่หยุดยั้ง

 

สามพี่น้องแซ่ซ่งต้องการหยุดนางแต่พวกเขากลับถูกส่งออกจากสนามรบโดยไม่สามารถทำสิ่งใด

 

ดวงตาของผู้นำตระกูลฮั่วเบิกกว้างขึ้น ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่า “ตระกูลไท่มีบุคคลที่น่าทึ่งเช่นนี้อยู่ด้วย แม้ข้าจะออกไปต่อสู้ด้วยตนเองแต่ข้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง”

 

ในช่วงเวลาาคับขัน เย่ฟานเข้าสู่สนามรบและยืนประจันหน้าผู้ใช้วิญญาณหญิงผู้นั้น “ท่านหญิง ขอทราบนามของท่านได้หรือไม่?”

 

ดวงตาของผู้ใช้วิญญาณหญิงส่องประกายราวกับสายฟ้าขณะที่นางประเมินเย่ฟาน การแสดงออกของนางเต็มไปด้วยความเข้มงวด นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ไท่รั่วหนาน!”

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset