Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1760 ความได้เปรียบอันท่วมท้น

บทที่ 1760 ความได้เปรียบอันท่วมท้น

 

ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราทรงพลังและอาจทําลายสมดุลของห้าภูมิภาค แต่ทุกท่าไม้ตายล้วนมีจุดอ่อนและข้อบกพร่อง

 

ฟางหยวนไม่เข้าใจท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดารามากนักแต่เขารู้จุดสําคัญจุดหนึ่ง

 

ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราต้องใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า

 

มันเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ฟงจิวเก้อทิ้งไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาคราวก่อน

 

ในชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้กลายเป็นเกลียวแสงสีดํา ที่ขนส่งเฉินอี้ จักรพรรดินีอสูรสายฟ้า ฟงจิวเก้อ และเทพธิดาจื่อเว่ยเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

โชคดีที่ฟางหยวนและจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และทําลายเกลียวแสงสีดําได้ทันเวลา พวกเขาสามารถป้องกันไม่ให้ผู้อมตะคนอื่นๆของวังสวรรค์ตามเข้ามา

 

หลังจากกําเนิดใหม่ ฟางหยวนรู้ตําแหน่งของเกลียวแสงสีดําทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะควบคุมพวกมัน

 

จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเข้ามาเป็นคนแรก นางถูกฟางหยวนและคนอื่นๆที่เตรียมพร้อมรออยู่แล้วสังหารทันที

 

เฉินอี้เป็นคนที่สองที่มาถึง แต่ฟางหยวนไม่มีเวลามากพอที่จะใช้ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป

 

ฟงจิวเก้อเป็นคนที่สาม

 

เขาเป็นเป้าหมายหลักของฟางหยวนเพราะวิญญาณท่องแดนอมตะอยู่กับเขา

 

จากการอนุมานของฟางหยวน เทพธิดาจื่อเว่ยควรจะเป็นคนที่สี่

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่มีกระดานหมากรุกกลุ่มดาว นางเป็นสมองของวังสวรรค์

 

นางเป็นคนสําคัญ แต่กระทั้งฟางหยวนจะสามารถสังหารนาง มันก็ยังส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อย

 

เพราะเหตุใด?

 

เนื่องจากสุสานอมตะของวังสวรรค์มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาจําศีลอยู่มากเกินไป หากเทพธิดาจื่อเว่ยเสียชีวิต คนที่สองจะเข้าแทนที่ ในอดีต เหตุใดเทพธิดาจื่อเว่ยจึงตื่นขึ้น? นั่นเป็นเพราะเจ้าวังสวรรค์คนก่อนซึ่งเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเสียชีวิต ดังนั้นเทพธิดาจื่อเว่ยจึงตื่นขึ้นเพื่อรับตําแหน่งต่อจากเขา

 

หากเทพธิดาจือเวียนกระดานหมากรุกกลุ่มดาวมาด้วย ฟางหวนอาจมีแรงจูงใจที่จะฆ่านาง

 

แต่น่าเสียดายที่กระดานหมากรุกกลุ่มดาวเป็นสิ่งสําคัญในการรักษาท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราเอาไว้ เทพธิดาจื่อเว่ยต้องทิ้งมันไว้ที่วังสวรรค์

 

ฟางหยวนมีประสบการณ์การต่อสู้จากชีวิตก่อนหน้า เขามั่นใจในความลับนี้

 

รู้เขารู้เราจะไม่มีวันพ่ายแพ้ ฟางหยวนคุ้นเคยกับเทพธิดาจื่อเว่ย นางมีประโยชน์ต่อเขา หากเขาฆ่านาง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่เขาไม่คุ้นเคยจะเข้าแทนที่และทําให้ความได้เปรียบในการกําเนิดใหม่ของเขาลดน้อยลง

 

อย่างไรก็ตามหากฟางหยวนปล่อยให้เทพธิดาจื่อเว่ยเข้ามาในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา วังสวรรค์จะมีสมาชิกที่ครอบครองพลังการต่อสู้ระดับแปดสามคน ขณะที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามียักษ์สวรรค์ มังกรหินแรกกําเนิด และตัวเขาเอง สถานการณ์จะกลายเป็นยากลําบาก

 

สิ่งสําคัญก็คือเฉินอี้มีไพ่ตายของเทพอมตะบัวสวรรค์!

 

ท่าไม้ตายอมตะเคลื่อนกรรมมีบทบาทสําคัญในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนยังจํามันได้ดีและไม่สามารถมองข้าม

 

นอกจากนี้เขายังต้องการลดความสูญเสียของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาซึ่งเป็นสมบัติของเขา

 

ดังนั้นเขาจึงต้องทําลายเกลียวแสงสีดําเร็วกว่าในชีวิตก่อนหน้า

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์ต่างตกตะลึงขณะที่ฟงจิวเก้อและเฉินยิ้มองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ

 

“นี่แตกต่างจากแผนการของเราอย่างสิ้นเชิง!”

 

“ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราล้มเหลว มีเพียงพวกเราที่อยู่ที่นี่”

 

“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี พวกเขาตอบสนองเร็วเกินไป”

 

“ตอนนี้เราต้องป้องกันและยื้อเวลา จนกว่าท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราจะสามารถใช้งานได้อีกครั้ง”

 

เฉินอี้และฟงจิวเก้อพูดคุยกันอย่างรวดเร็ว

 

ทั้งสองลอยอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะและหันหลังชนกันเพื่อป้องกันตนเอง

 

ฟงจิวเก้อถาม “จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าอยู่ที่ใด?”

 

เฉินอี้กลืนน้ําลายและรู้สึกลังเลเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้บอกฟงจิวเก้อเกี่ยวกับฉากที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ “ข้าไม่แน่ใจ ข้าไม่เห็นจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าตั้งแต่เข้ามา”

 

ฟงจิวเก้อพยักหน้า “จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าอาจรีบร้อนที่จะทําภารกิจ นางอาจแยกตัวออกไปทํางาน”

 

เฉินอี้รู้สึกสังหรณ์ร้ายแต่เขาไม่สามารถทําลายขวัญกําลังใจของฟงจิวเก้อ “ฟางหยวนเป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาจะไม่ยอมให้เราร่วมมือกันโดยง่าย จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าอาจติดพันอยู่กับศัตรูบางคน”

 

ฟงจิวเก้อมองโลกในแง่ดีมากกว่าเฉินอี้ เขายิ้ม “ท่านเฉินอี้ เราต่างมีพลังการต่อสู้ที่โดดเด่น ข้าสามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปด ขณะที่ท่านและจักรพรรดินีอสูรสายฟ้ามีพลังการต่อสู้ระดับแปดที่แท้จริง มันเป็นเรื่องยากที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะป้องกันพวกเราถูกต้องหรือไม่? บางทีเพียงพวกเราก็อาจสามารถทําลายแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา”

 

เฉินอี้หัวเราะ “น้องฟงกล่าวได้ถูกต้องแล้ว แต่สถานการณ์นี้เกินความคาดหมายของเรา เจ้าควรเตรียมพร้อมที่จะใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเพื่อหลบหนีตลอดเวลา”

 

ฟงจิวเก้อมองเฉินอี้และรู้สึกถึงความผิดปกติของฝ่ายหลัง

 

“แม้เฉินอี้จะเป็นอดีตผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ แต่เขาสูญเสียความกล้าหาญ ไม่แปลกใจเลยที่เขาล้มเหลวในภารกิจที่ทะเลทรายตะวันตกและทําให้เราสูญเสียทั้งเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์”

 

ฟงจิวเก้อประเมินเฉินอี้ ในชีวิตก่อนหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างฟงจิวเก้อกับเฉินอี้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะหลังจากฟงจิวเก้อใช้ท่าไม้ตายอมตะเพลงพรหมลิขิตเพื่อช่วยชีวิตเฉินอี้

 

ทั้งสองสนทนากันอย่างรวดเร็ว

 

แต่ฟางหยวนเริ่มลงมือแล้ว

 

คราวนี้เขาเคลื่อนไหวด้วยตนเองโดยปกปิดร่องรอยทั้งหมดเอาไว้

 

มังกรหินแรกกําเนิดเข้ามาแทนที่ตําแหน่งเดิมของฟางหยวนพร้อมกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่นํายักษ์สวรรค์ออกมา

 

ฟงจิวเก้อและเฉินอี้ทํางานร่วมกัน

 

เมื่อเวลาผ่านไปทั้งสองฝ่ายไม่สามารถทําสิ่งใดกันและกัน

 

เฉินอี้และฟงจิวเก้อขมวดคิ้วลึก

 

“มังกรหินแรกกําเนิดแข็งแกร่งและดุร้าย แต่ภัยคุกคามของมันต่ําที่สุด ผู้อมตะที่อยู่ในยักษ์สวรรค์มีทักษะการต่อสู้ไม่สูงมากนัก”

 

“ถูกต้อง กุญแจสําคัญคือฟางหยวน เขายังไม่ปรากฏตัว เขาอาจกําลังต่อสู้อยู่กับจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าหรือซ่อนตัวเพื่อหาโอกาสโจมตีพวกเรา”

 

“นอกจากนี้ยังมีค่ายกลวิญญาณอมตะ”

 

“เราต้องทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ มิฉะนั้นการติดอยู่ภายในค่ายกลจะเป็นอันตราย”

 

เฉินอี้และฟงจิวเก้อเปลี่ยนกลยุทธ์

 

ฟงจิวเก้อเริ่มใช้ท่าไม้ตายอมตะโดยมีเฉินอี้ปกป้องอยู่ด้านข้าง

 

เฉินอี้สกัดกั้นมังกรหินแรกกําเนิดและยักษ์สวรรค์เพียงลําพัง ขณะที่ฟงจิวเก้อเตรียมท่าไม้ตายอมตะและสามารถส่งเพลงแยก

 

ในชีวิตก่อนหน้า เพลงแยกไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ คราวนี้มันยิ่งไร้ประโยชน์

 

ฟางหยนวจะลืมเพลงแยกของฟงจิวเก้อได้อย่างไร?

 

กลยุทธ์ของเฉินอี้กับฟงจิวเก้อล้มเหลว มันยังทําให้ฟางหยวนมีโอกาสโจมตีและแยกคนทั้งสองออกจากกัน

 

วังสวรรค์

 

เทพธิดาจื่อเว่ยทํางานอย่างเต็มที่เพื่อสร้างท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราขึ้นอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่

 

“หากเราประสบความสําเร็จและได้รับวิญญาณสติปัญญา การกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะ ทางผ่านดาราจะกลายเป็นเรื่องง่าย เราจะไม่พบปัญญามากมายเช่นนี้” เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจ –

 

ผู้อมตะที่อยู่ด้านข้างยิ้ม “ท่านหญิงจื่อเว่ย แม้เราจะไม่ไป แต่พวกเขาสามคนก็มีพลังเพียงพอที่จะทําลายแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา”

 

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์ผ่อนคลายมาก

 

แต่เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้วลึกและรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ

 

“ถูกต้อง ฟงจิวเก้อมีพรสวรรค์ที่น่าฟัง เขาสามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปด เขามีประสบการณ์ในการบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามาแล้ว ครั้งนี้จะง่ายขึ้น แม้เขาจะล้มเหลวและถูกโจมตีอย่างรุนแรง เขาก็ยังมีวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตา เขาจะสามารถปกป้องตนเองได้อย่างแน่นอน” ผู้อมตะของวังสวรรค์วิเคราะห์

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

“พรวด!”

 

ฟงจิวเก้อกระอักเลือดออกมาและพยายามหลบหนี

 

ฟางหยวนไล่ล่าเขาด้วยเสียงหัวเราะที่น่ากลัว

 

ฟงจิวเก้อตกใจมาก “วิญญาณของข้าหายไปอย่างลึกลับเป็นไปได้อย่างไร? นี่เป็นวิธีบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมงั้นหรือ? มันเป็นวิธีของฟางหยวนหรือค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

ฟางหยวนใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณหลายครั้งแล้วแต่เขาสามารถขโมยวิญญาณระดับมนุษย์เท่านั้น

 

“เปรียบเทียบกับชีวิตก่อน ตอนนี้โชคของข้าต่ํามาก” ฟางหยวนรู้สึกหดหูเล็กน้อย

 

แม้ฟางหยวนจะใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชคมาแล้ว แต่โชคของเขาก็ยังไม่ถึงระดับเดียวกับชีวิตก่อนหน้า

 

“แม้ข้าจะได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือด แต่ข้ามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคเพียงไม่กี่ดวง ข้าไม่สามารถเพิ่มโชคของตนเองได้มากนัก นี่เป็นเหตุผลที่ข้ายังไม่สามารถขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะ

 

ฟางหยวนถอนหายใจ

 

“เขาสามารถขโมยวิญญาณอมตะ! สถานการณ์เลวร้ายเกินไป แม้ข้าจะมีวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตา แต่เขาอาจสามารถขโมยมัน!”

 

“ข้าควรใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเพื่อกลับไปหรือไม่? ข้าควรทิ้งเฉินอี้หรือไม่?

ฟงจิวเก้อลังเล

 

วังสวรรค์

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์กล่าวเสริม “เปรียบเทียบฟงจิวเก้อ เฉินอี้เป็นผู้อมตะระดับแปดที่แท้จริง เขาเป็นอดีตผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ เขามีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย เขายังเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะบัวสวรรรค์ เขามีวิธีการบนเส้นทางแห่งไม้ที่ทรงประสิทธิภาพ เฉินอี้ทั้งฉลาดและมีความสามารถ เขาสามารถพึ่งพาได้ เขาจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน”

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

ร่างกายของเฉินอี้เต็มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าของเขาปรากฏให้เห็นถึงความกังวลโดยไม่สามารถปกปิด

 

“บัดซบ!” เขาสาปแช่งอยู่ในใจ ค่ายกลวิญญาณอมตะแยกเขากับฟงจิวเก้อออกจากกัน ศัตรูของเขาก็หายตัวไปด้วย

 

เฉินอี้ติดอยู่ในภาพลวงตา แม้เขาจะทําลายมัน แต่ภาพลวงตาใหม่ก็ยังปรากฏขึ้นอย่างไม่รู้จบ

 

“เร็วขึ้น เร็วอีก!”

 

ข้าต้องออกไปจากที่นี่และรวมกลุ่มกับฟงจิวเก้อ!”

 

“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? เหตุใดมันถึงกลายเป็นเช่นนี้?”

 

เฉินอี้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไม้ เขามีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลไม่มาก

 

ในชีวิตก่อนหน้า เฉินอี้อยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบและสร้างปัญหาให้กับหยงกับฟางหยวน แต่คราวนี้เขากลับเป็นฝ่ายได้รับความทุกข์ทรมานจากค่ายกลวิญญาณอมตะของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

นี่เป็นวิธีจัดการเฉินอี้ของฟางหยวน

 

วังสวรรค์

 

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากล่าวได้ถูกต้อง แต่ข้ายังรู้สึกไม่สบายใจ” เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจ

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์ไตร่ตรอง “มันไม่ควรเป็นเช่นนั้น แม้ฟงจิวเก้อและเฉินอี้จะพบปัญหา แต่จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง นางเป็นตํานานที่เคยสร้างปัญหาให้กับเทพปีศาจจิตวิญญาณ ครั้งก่อนฟางหยวนสามารถรอดมาได้เพราะกําแพงภูมิภาค แต่ครั้งนี้จักรพร รดินีอสูรสายฟ้าจะสามารถใช้พลังที่แท้จริงของนาง ฮ่าฮ่า บางที่ผู้อมตะมากกว่าสิบคนอาจตายไปแล้วในมือของนาง ฟางหยวนต้องวิ่งไปรอบๆราวกับสุนัขที่ถูกไล่ล่า!”

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์มั่นใจมาก

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

ฟางหยวนไล่ล่าฟงจิวเก้อ ขณะเดียวกันเขาก็ค้นวิญญาณจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า

 

เขาทํางานหลายอย่างพร้อมกัน นี่เป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ของเขา

 

หลังจากใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณหลายครั้ง แม้เขาจะไม่ได้รับวิญญาณท่องแดนอมตะ แต่เขายังได้รับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเสียงสามดวงจากฟงจิวเก้อ

 

พลังการต่อสู้ของฟงจิวเก้อลดลงอย่างมากแต่เขายังไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก

 

ฟางหยวนใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณเป็นหลัก เขาไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป เพราะเกรงว่าวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตาจะทํางานด้วยตัวมันเอง

 

เมื่อวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตาทํางาน เทพธิดาจื่อเว่ยจะสัมผัสได้ถึงตําแหน่งของฟงจิ๋วเก้อ

 

ครั้งนี้ฟางหยวนจะไม่ทําเรื่องผิดพลาดซ้ําๆ

 

โอ้ มีผู้อมตะจํานวนมากที่พยายามบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา”

 

ฟางหยวนได้รับข้อมูลมากมายจากการค้นวิญญาณของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า

 

ข้อมูลเกี่ยวกับการบ่มเพาะของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้ามีค่าแต่ฟางหยวนไม่สนใจมัน ตอนนี้สถานการณ์ของวังสวรรค์สําคัญกว่ามาก

 

ฟางหยวนสรุป “นี่หมายความว่าท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดารายังสามารถใช้งานอีกครั้ง ข้าต้องรีบยุติการต่อสู้นี้

 

“ไม่มีทางเลือกแล้ว หากสถานการณ์นี้ยังดําเนินต่อไป วิญญาณท่องแดนอมตะ วิญญาณอมตะเกราะโชคชะตา และวิญญาณอมตะดวงอื่นๆอาจถูกฟางหยวนขโมยไป” ฟงจิวเก้อตัดสินใจใช้วิญญาณท่องแดนอมตะ

 

“อย่าหวัง!” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชาและกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะ

 

วิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติ!

 

นี่เป็นวิญญาณอมตะที่ฟางหยวนได้รับมากจากเต่าเพชรบรรพกาลที่อยู่ในร่องลึกใต้พิภพของ

 

ภาคใต้

 

มีหลายวิธีในการตอบโต้วิญญาณท่องแดนอมตะ แต่หลังจากกําเนิดใหม่ ฟางหยวนมีสองทางเลือกสําหรับเรื่องนี้

 

หนึ่งคือวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ อีกหนึ่งคือวิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติ

 

วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติอยู่ในมือของผู้อมตะวังสวรรค์หลิห่าว ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนซุ่มโจมตีกลุ่มผู้อมตะภาคใต้และสามารถจับพวกเขา หลิวห่าวเป็นหนึ่งในนั้น

 

น่าเสียดายที่วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติระเบิดตัวเอง ฟางหยวนไม่ได้รับมัน

 

สําหรับวิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติ มันอยู่กับผู้อมตะตระกูลถั่วของภาคใต้ ลั่วหรัน

 

ในชีวิตก่อนหน้า ลั่วหรันประสบความสําเร็จในการใช้วิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติต่อต้านค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ

 

มันยากเกินไปสําหรับฟางหยวนที่จะได้รับวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ ในช่วงเวลานี้หลิวห่าวยังไม่ปรากฏตัว

 

แต่วิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติสามารถหาได้ง่ายตามข้อมูลที่เขามี

 

ต่อหน้าวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ แม้วิญญาณท่องแดนอมตะของสามารถใช้งาน แต่ผู้อมตะที่ใช้งานวิญญาณท่องแดนอมตะจะถูกส่งไปยังพื้นที่ที่ผู้ใช้วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติกําหนด

 

สําหรับวิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติ มันจะทําให้การใช้วิญญาณท่องแดนอมตะล้มเหลว

 

ฟงจิวเก้อตกใจมากเมื่อตระหนักว่าฟางหยวนเตรียมวิธีการนี้เอาไว้

 

ใบหน้าของฟงจิวเก้อกลายเป็นซีดขาว

 

ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

ฟางหยวนหัวเราะอย่างเต็มที่แต่ลอบถอนหายใจอยู่ภายใน “มันไม่ง่ายเลย ในที่สุดข้าก็ได้รับวิญญาณท่องแดนอมตะ!”

 

Related

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset