Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1824 ไข่ที่ร่วงหล่นจากฟ้า

บทที่ 1824 ไข่ที่ร่วงหล่นจากฟ้า

 

มรดกโชคของตนเองอธิบายเกี่ยวกับโชครูปแบบต่างๆเอาไว้อย่างครอบคลุม

 

โดยทั่วไปสีของโชคที่พบเห็นได้บ่อยครั้งมักมีเจ็ดสีหลักคือ ดํา เทา ขาว แดง ทอง ฟ้าและม่วง

 

โชคมีรูปแบบที่แตกต่างกันทุกประเภทตามสถานการณ์และเงื่อนไขของแต่ละบุคคล

 

ตัวอย่างเช่นร่างแยกของฟางหยวนที่มีโชคแตกต่างกันไป

 

หม้อปรุงโชคเกิดจากการรวมตัวกันของวิญญาณอมตะช่วงเวลาแห่งโชค วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชควิญญาณอมตะโชคอีสุนัข วิญญาณอมตะปราณโชค และวิญญาณอมตะดวงอื่นๆความสามารถของวิญญาณอมตะเหล่านี้เป็นเพียงแง่มุมหนึ่งของหม้อปรุงโชค

 

แต่ความสามารถหลักของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้คือการปรุงโชค

 

มันสามารถเปลี่ยนแปลงโชคได้ตามความปรารถนาของผู้ใช้งาน

 

ตัวอย่างเช่นหากฟางหยวนมีโชคโลงศพสีดํา นั่นหมายความว่าเขากําลังเผชิญหน้ากับอันตรายถึงชีวิต เขาสามารถใช้หม้อปรุงโชคเปลี่ยนโชคโลงศพสีดําให้เป็นโชคดอกท้อหรือโชคชนิดอื่นตามความต้องการ

 

หม้อปรุงโชคคือจุดสูงสุดในมรดกโชคของตนเอง

 

“อย่างไรก็ตามข้าเป็นผู้อมตะระดับแปดขณะที่หม้อปรุงโชคเป็นเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับหก มันแทบไม่ส่งผลกระทบต่อโชคของข้า”

 

“แต่ร่างแยกของข้าแตกต่างออกไป ระดับเจ็ดคือจุดสูงสุด ขณะที่ร่างแยกส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์

 

“ด้วยการใช้หม้อปรุงโชคก่อนหน้านี้ มันสามารถเปลี่ยนโชคให้กับร่างแยกของข้าได้ทันที

 

แน่นอนว่าฟางหยวนต้องการยกระดับหม้อปรุงโชคแต่ตอนนี้วิญญาณความเสียใจยังอยู่ในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า

 

ฟางหยวนสามารถสั่งให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคระดับหกแต่ในการเลื่อนระดับพวกมันขึ้นสู่ระดับเจ็ด เขายังขาดองค์ประกอบสําคัญบางอย่างถ้ําสวรรค์นักรบอสูร

 

ร่างแยกเฉินตู้ของฟางหยวนเดินไปอย่างช้าๆ

 

ผู้คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับสายน้ํา

 

นี่คือตลาดของผู้ใช้วิญญาณที่ใหญ่ที่สุดในเมือง” เฉินตู้สังเกตและคิด

 

ตอนนี้เขาเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง เขายังเด็กมาก

 

เขามาที่นี่เพื่อรวบรวมข้อมูลและทําความเข้าใจสภาพแวดล้อม

 

“ผู้ใช้วิญญาณต้องการทรัพยากรในการบ่มเพาะ แต่ตอนนี้ข้ายากจนมาก สิ่งสําคัญที่สุดของข้าคือการหาเงิน”

 

เจิ้นที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์และไร้เดียงสาแต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ในฐานะร่างแยกของฟางหยวนซึ่งเป็นผู้อมตะ มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะมองหาโชคลาภของผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์

 

แต่หลังจากสังเกตเห็นบางสิ่ง เฉินตู้กลับรู้สึกขมขื่น

 

“แม้ที่นี่จะมีวิญญาณแต่วิญญาณเหล่านี้ใช้เพื่อบํารุงสัตว์อสูรหรือพืชอสูรเท่านั้น ไม่มีการใช้วิญญาณสําหรับการต่อสู้ด้วยตัวผู้ใช้วิญญาณ”

 

ฟางหยวนเดินไปรอบๆและพบวิญญาณเพียงไม่กี่ชนิด ร้านค้าส่วนใหญ่ขายสัตว์หรือพืช

 

“ไม่แปลกใจเลย ถ้ําสวรรค์นักรบอสูรมีท่าไม้ตายอมตะกลืนกินสิ่งมีชีวิต มันในเรื่องง่ายที่ผู้ใช้วิญญาณจะหลอมรวมกับสัตว์หรือพืช

 

“หากเป็นโลกภายนอก พวกเขาต้องจ่ายมากกว่าสิบเท่าเพื่อให้ได้รับสิ่งนี้

 

“วิธีการหลอมรวมกับสัตว์หรือพืชเป็นการบ่มเพาะของผู้คนที่นี่ มันเป็นความตั้งใจของถ้ําสวรรค์นักรบอสูร”

 

เจ้าของถ้ําสวรรค์นักรบอสูรสร้างวิธีการบ่มเพาะรูปแบบนี้ขึ้นมาเพราะเขาต้องการควบคุมสี่งมีชีวิตที่อยู่ภายในถ้ําสวรรค์ของเขา

 

ท้ายที่สุดถ้ําสวรรค์นักรบอสูรก็มีผู้คนจํานวนมาก

 

ฟางหยวนต้องการยึดครองสถานที่แห่งนี้ เขาไม่สามารถใช้วิธีการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณทั่วไปเขาต้องผสานตัวเข้ากับถ้ําสวรรค์นักรบอสูร

 

การเป็นผู้ใช้วิญญาณที่สามารถหลอมรวมกับสัตว์หรือพืชเป็นจุดเริ่มต้นของมัน

 

เมื่อเขาสามารถหลอมรวมกับสัตว์หรือพืช เขาจะสามารถต่อสู้และเข้าร่วมกับสมาคม

 

ในถ้ําสวรรค์นักรบอสูรมีสมาคมนักรบอสูรเป็นกองกําลังเดียวของมัน

 

หากเจิ้นสามารถเข้าสู่สมาคมนักรบอสูร เขาจะได้รับตําแหน่งนักรบฝึกหัดระดับต่ําสุดก่อนจะก้าวเข้าสู่ระดับเหนือขึ้นไปของสมาคมคือทูตอสูร นักรบอสูร และราชาอสูร

มันเป็นโครงสร้างที่เรียบง่าย

 

แต่ตอนนี้ไม่เพียงเฉินปู่ตู้จะขาดวิญญาณ เขายังขาดสัตว์หรือพืชที่ใช้ในการหลอมรวม โดยเฉพาะอย่างหลังที่มีราคาแพงมาก

 

หลังจากรวบรวมข้อมูลเพียงพอแล้ว เจิ้นต์ก็เริ่มวางแผน

 

“ตามแผนการของข้า ในเวลาหนึ่งเดือน ข้าจะมีเงินเพียงพอที่จะซื้อวิญญาณ

 

“หลังจากอีกหนึ่งเดือน ข้าจะสามารถซื้อสัตว์อสูรระดับต่ําสุด”

 

“ข้าจะซื้อหนูฟันเหล็กและใช้มันสักพัก สัตวอสูรตัวนี้ถูกมองข้ามจากทุกคนแต่คุณค่าของมันเหมาะสมกับราคา

 

“ด้วยความแข็งแกร่งที่เพียงพอ ข้าจะเข้าร่วมสมาคมนักรบอสูรและรับภารกิจเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว

 

“หือ?”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เจิ้นตูได้ยินเสียงตะโกน “ระวังข้างบน!”

 

เขารีบเงยหน้าขึ้นและเห็นเงาสีดําร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า

 

สูงขึ้นไปบนท้องฟ้าชายชราผู้หนึ่งพยายามบังคับนกตัวใหญ่ที่เขาขี่เพื่อคว้าจับเงาร่างสีดําดังกล่าวแต่ดูเหมือนมันจะสายเกินไป

 

“มันคือสิ่งใด?”

 

“วิ่ง!”

 

คนรอบข้างแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว

 

เจิ้นเร่งฝีเท้าและวิ่งเข้าไปหลบอยู่ใต้หลังคาร้านค้าแห่งหนึ่ง

 

“ตูม!”

 

แทบจะในทันทีที่วัตถุสีดําพุ่งชนร้านค้าแห่งนี้จนพังพินาศ

 

ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งไปทั่ว ผู้คนรอบข้างกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน

 

เจิ้งปู่ต่อยู่ใกล้ที่สุดแต่เขากลับไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

 

“นี่คือ.ไข่?” เฉินตู้มองไข่ที่สูงพอๆกับมนุษย์และคิด “กลิ่นอายนี้เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไข่ของสัตว์อสูรเดียวดาย

 

ขณะที่เขากําลังคิด เปลือกไข่ก็แตกออก นกอินทรีย์ตัวน้อยฟักออกมา

 

อินทรีย์น้อยมองเฉินตู้และร้องจิบๆ มันกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของเขาและใช้จงอยปากเล็กๆจิกแก้มของเฉินตู้

 

“สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?” ชายชราขี่นกตัวใหญ่บินลงมาบนพื้นและมองฉากนี้ด้วยความตกตะถึง

 

“คารวะผู้อาวุโส ข้าคือเจิ้นต์” เฉินตู้มีความรู้ เขารู้ว่าชายชราผู้นี้เป็นผู้อมตะ เขาไม่กล้ารอและรีบแสดงความเคารพทันที

 

ก่อนที่ชายชราจะกล่าวสิ่งใด อินทรีย์ตัวน้อยก็เดินเข้ามาหาเจิ้นต์อีกครั้งและใช้ปีกเล็กๆของมันตบแผ่นหลังของเขา

 

ชายชราแสดงออกด้วยความซับซ้อนขณะมองอินทรีย์ตัวน้อย เขาประเมินเจิ้น “เห้อ…คู่หูของข้าตั้งท้องมาสามสิบปีแล้ว ในที่สุดมันก็วางไขในวันนี้ แต่มันฟักอินทรีย์หางศรออกมาอย่างกะทันหันที่นี่เจ้าเป็นคนแรกที่เห็นมัน ดังนั้นมันจึงถือว่าเจ้าเป็นญาติสนิทที่สุด”

 

เจิ้น ตกตะลึง เขาเร่งโบกมือ “ผู้อาวุโส ข้าขอโทษ ข้าข้าไม่ได้ตั้งใจจะทําเช่นนั้น”

 

ผู้อมตะเฒ่าหัวเราะ “เจ้าชื่อเจิ้นงั้นหรือ? ข้าจะเรียกเจ้าว่าเสี่ยวตู้ โอ้ เสี่ยวต์ อย่ากังวล ข้าไม่ได้โทษเจ้าอันที่จริงข้าควรเป็นฝ่ายขอโทษเจ้า ก่อนหน้านี้ไขใบนี้เกือบฆ่าเจ้าไปแล้ว”

 

“ข้ารู้สึกว่ามันเป็นโชคชะตา หากหลานชายของข้ายังมีชีวิตอยู่ เขาคงอายุเท่ากับเจ้า โอ้ เสี่ยตู้เจ้ายินดีฝึกฝนกับข้าหรือไม่? เจ้าได้รับการยอมรับจากอินทรีย์หางศร เจ้าอาจกลายเป็นนักรบอสูรในอนาคต”

 

“นักรบอสูร?” ดวงตาของเจิ้นต์ส่องประกายขึ้นด้วยความตื่นเต้น

 

เขากําหมัดแน่น “ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้าคือการเป็นนักรบอสูร! ผู้อาวุโส ข้าจะเป็นได้จริงๆงั้นหรือ?”

 

ชายชราหัวเราะ “เสี่ยวตู้ มันขึ้นอยู่กับการทํางานหนักของเจ้า แต่ตอนนี้ไปกันเถอะ”

 

“ทราบแล้ว” เฉินตูขึ้นไปบนแผ่นหลังของนกอินทรีย์ตัวใหญ่และจากไปพร้อมกับชายชรา

 

“สวรรค์!”

 

“ข้าพึ่งเห็นสิ่งใด?”

 

“เด็กนั่นช่างโชคดีนัก!”

 

“ชายชราผู้นั้นคือเจ้าเมืองภูผา!”

 

“เขาคือเจ้าเมืองงั้นหรือ? อาข้าได้ยินมาว่าเจ้าเมืองภูผาจะมาที่เมืองของเราเพื่อเจรจากับเจ้าเมืองของเรา”

 

ความโกลาหลปะทุขึ้นทันที

 

“เด็กผู้นั้นคือผู้ใด? ดูเหมือนเขาจะชื่อเจิ้นต์? เหตุใดเขาจึงโชคดีนัก!”

 

“เห้อ…เหตุใดไม่เป็นข้า?”

 

“หากข้ารู้เรื่องนี้ ข้าจะผลักเขาออกไป”

 

“บัดซบ! ชัดเจนว่าเจิ้นเป็นเพียงเด็กยากจน แต่เขากลับถูกนําตัวไปโดยนักรบอสูร ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปแล้ว อนาคตของเขาจะสดใสมาก!”

 

“เขายังได้รับการยอมรับจากอินทรีย์หางศร นี่คือสัตว์อสูรระดับอมตะ!”

 

“เปรียบเทียบกับสัตว์อสูรอมตะ สัตว์และพืชในตลาดแห่งนี้ล้วนเป็นขยะ พวกมันมีค่าน้อยกว่าอึของอินทรีย์หางศร!”

 

บางคนกระทืบเท้าด้วยความโกรธและเสียดาย

 

บางคนจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง บางคนกรีดร้อง บางคนน้ําลายไหล

 

ถ้ําสวรรค์วรรณกรรม

 

ในการแข่งขันกวีนิพนธ์ระหว่างนักปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่

 

นักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงมองศิษย์ในห้องโถงและหัวเราะ “เมืองนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่มีความสามารถศิษย์ของเจ้าเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความใคร่รู้ ดูเหมือนคําสอนของน้องเจียงจะได้ผล”

 

“ข้ารู้สึกปลาบปลื้มนัก พี่เฉิน ศิษย์ของข้ายังมีความรู้ที่ตื้นเขิน พวกเขายังเด็กเกินไป นี่เป็นความโชคดีของพวกเขาที่มีโอกาสพบกับท่าน” อาจารย์ของสถานศึกษาแห่งนี้คืออาจารย์เจียง เขากล่าวอย่างอ่อนน้อม

 

นักปราชญ์เฉินป้องหมัดขึ้น “น้องเจียง พวกเราเป็นคู่แข่งที่เท่าเทียมในการต่อสู้ครั้ง นี้ ผลลัพธ์คือการเสมอกันตอนนี้เรามาเล่นเกมส์ส่งดอกไม้และให้ศิษย์สองสามคนออกมาท่องบทกวีกันเถอะข้าอยากเห็นทักษะของเด็กๆ”

 

“ไม่มีปัญหา” อาจารย์เจียงคิดก่อนพยักหน้าเห็นด้วย

 

ทันใดนั้นดวงตาของศิษย์หลายคนก็ส่องประกายขึ้น

 

นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก นักปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่สองคนอยู่ตรงหน้า ตราบเท่าที่ศิษย์สามารถแสดงผลงานที่ดี พวกเขาจะได้รับชื่อเสียง

 

เลือกข้า เลือกข้า!”

 

ส่งให้ข้า ส่งให้ข้า!”

 

“อา…เสียงกลองหยุดแล้ว!”

 

“ผู้ใดได้รับดอกไม้สีแดงจงออกมาท่องบทกวีของเจ้า” นักปราชญ์เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ในสถานการณ์นี้หลี่เสี่ยวไปเดินออกไปข้างหน้าภายใต้การจ้องมองจากสายตาทุกคู่

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset