Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1801 ชีวิตของเจ้าเป็นของข้า

บทที่ 1801 ชีวิตของเจ้าเป็นของข้า

 

ในช่วงเวลาสําคัญ ฟางหยวนพลิกกลับมาเป็นฝ่ายโจมตี

 

“บัดซบ!” หว่านเสี่ยวตะโกน “ช่วยหว่านห่าวกวงเร็ว เกราะแสงของเขาเป็นท่าไม้ตายอมตะ มันกําลังจะหายไป!”

 

หว่านเหลียงฮันรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งร่าง ฟางหยวนป้องกันตัวมาตลอด แต่ตอนนี้เขากลับเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันและโจมตีมาที่จุดอ่อนของพวกเขา

 

ความโหดเหี้ยมและเฉียบขาดนี้ทําให้หว่านเหลียนฮันรู้สึกเสียใจเป็นครั้งแรก “เราควรตรวจสอบให้ดีก่อนลงมือ ตระกูลหว่านยั่วยุคนเช่นนี้ ผู้ใดจะรู้ว่ามันจะนําพรหรือหายนะมาสู่พวกเรา!”

 

กองทัพอสูรวิญญาณทําให้สามผู้อมตะตระกูลหว่านรู้สึกราวกับจมอยู่ในคลื่นสมุทร

 

“หว่านเสี่ยว ถอยไป!” หว่านเหลียงฮันสัมผัสได้ถึงเจตนาสังหารของฟางหยวนและเร่งแจ้งเตีอน

 

หว่านเสียวกังวล “ข้าทําไม่ได้ ข้าต้องช่วยหว่านห่าวกวง เขาติดอยู่กลางวงล้อมของศัตรู เขายกเลิกท่าไม้ตายอมตะเกราะแสง ตอนนี้เขาใช้เพียงวิญญาณอมตะเกราะแสงเท่านั้น”

 

ผู้อมตะตระกูลหว่านทั้งสามได้รับผลกระทบจากท่าไม้ตายอมตะรบกวนจิตใจของฟางหยวน นั่นทําให้พวกเขาไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะใดๆเพราะมันมีโอกาสล้มเหลวสูงมาก

 

หว่านห่าวกวงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงใช้เพียงวิญญาณอมตะเกราะแสง

 

“บัดซบ!” ในช่วงเวลาวิกฤต หว่านเหลียงฮันต้องร่วมมือกับหว่านเสี่ยวและกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา สิ่งกีดขวางทางปัญญา

 

วิญญาณอมตะสิ่งกีดขวางทางปัญญาสร้างอุปสรรคบนเส้นทางแห่งปัญญาขึ้นรอบๆหว่านเสี่ยวและหว่านห่าวกวงเพื่อปกป้องพวกเขา

 

เมื่อหว่านเสี่ยวและหว่านห่าวกวงได้รับการสนับสนุนนี้ พวกเขาจึงสามารถกลับมารวมตัวกัน

 

“ดี ด้วยความร่วมมือของเรา เรามีความหวังที่จะทําลายอุปสรรค!” หว่านเหลียงฮันรู้สึกมีความสุข น้ําเสียงของเขาปรากฏร่องรอยของความเย้ยหยัน

 

“เจ้ายังไม่เข้าใจสถานการณ์ของตนเองอีกงั้นหรือ? ช่างมีจิตวิญญาณแห่งการเสียสละตนเองที่น่ายกย่อง” เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นด้านหลังหว่านเหลียงฮัน

 

หว่านเหลียงฮันรู้สึกราวกับตกลงไปในทะเลสาบน้ําแข็ง

 

ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาตระหนักในที่สุดว่าทุกอย่างเป็นแผนการของซวนปู้จิน

 

ฟางหยวนจงใจกดดันและแสดงเจตนาสังหารต่อหว่านเสี่ยวและหว่านห่าวกวงแต่เป้าหมายที่แท้จริงของเขาคือหว่านเหลียงฮัน

 

อสูรวิญญาณแรกกําเนิดเป็นเพียงเหยื่อล่อ

 

พวกมันมีพลังการต่อสู้ระดับแปด ผู้ใดจะคิดว่าชวนจินจะไม่ใช้พวกมัน ตั้งแต่เริ่มต้นเขาซ่อนตัวอยู่ภายใต้การคุ้มครองของพวกมันมาตลอด นั่นทําให้ผู้อมตะตระกูลหว่านค่อยๆพัฒนาความเข้าใจผิด

 

หว่านเหลียนฮันอาจสามารถมองทะลุกับดักนี้ได้ในสถานการณ์ปกติ แต่ก่อนหน้านี้เขาถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะรบกวนความคิด จิตใจของเขาว้าวุ่น นั่นทําให้เขาให้ความสนใจหว่านห่าวกวงกับหว่านเสี่ยวมากกว่าและไม่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ

 

‘ซวนปู้จินไม่ใช่คนกลัวตาย เขาสามารถเสี่ยงในสถานการณ์อันตราย ฉากก่อนหน้านี้เป็นเพียงการแสดง….’ ความคิดนี้พุ่งผ่านจิตใจของเขาขณะที่เขาต้องการโต้กลับ

 

แต่มันสายเกินไป

 

ฟางหยวนจะให้โอกาสเขาตอบโต้ได้อย่างไร

 

ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจขโมยชีวิต!

 

ฟางหยวนส่งมือปีศาจออกไป มันบินเข้าไปในร่างของหว่านเหลียงฮันก่อนจะบินกลับออกมาพร้อมกับบางสิ่งในกํามือ

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง “ชีวิตของเจ้าเป็นของข้าแล้ว”

 

ใบหน้าของหว่านเหลียงฮันแข็งค้าง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เขาตายแล้ว!

 

“พี่เหลียงฮัน!” หว่านเสี่ยวและหว่านห่าวกวงตะโกนด้วยความตกใจ ความโศกเศร้า และความโกรธ

 

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่กองกําลังหนึ่งจะบ่มเพาะผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา ความตายของหว่านเหลียงฮันเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของตระกูลหว่าน

 

ฟางหยวนบรรลุเป้าหมายของเขาแล้วครึ่งหนึ่งจากการสังหารหว่านเหลียงฮัน อีกครึ่งหนึ่งขึ้นอยู่กับการตอบสนองของสองผู้อมตะตระกูลหว่านที่เหลืออยู่

 

ฟางหยวนไม่สนใจกําไรที่จะได้รับจากการสังหารผู้อมตะระดับเจ็ดทั้งสอง

 

เขาต้องการจัดระเบียบโลกผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตก

 

เขากระตุ้นใช้วิธีบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อลดกลิ่นอายของตน

 

“ชายผู้นี้กําลังอ่อนแอลง! เขาไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก”

 

“บางทีท่าไม้ตายอมตะที่เขาใช้สังหารพี่เหลียงฮันอาจส่งผลกระทบต่อเขา!”

 

หว่านเสี่ยวและหว่านห่าวกวงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่อ่อนแอลงของฟางหยวน ขณะเดียวกันฝูงอสูรวิญญาณก็กระจัดกระจายออกไปทุกหนทุกแห่ง มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

 

ฟางหยวนนําศพของหว่านเหลียงฮันซ่อนไว้ด้านหลังอสูรวิญญาณแรกกําเนิดทั้งสี่

 

หว่านเสี่ยวและหว่านห่าวกวงกัดฟันแน่นด้วยความโกรธแต่พวกเขาตระหนักว่าตนเองไม่สามารถสังหารเป้าหมาย หากพวกเขายังดื้อรั้น พวกเขาอาจตายที่นี่

 

ดังนั้นพวกเขาจึงยกเลิกเขตแดนอมตะและเลือกที่จะล่าถอย

 

หว่านเสี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติไปแล้ว หว่านห่าวกวงต้องแบกหว่านเสี่ยวหลบหนี

 

ฟางหยวนควบคุมกองทัพอสูรวิญญาณและทําตัวราวกับเขากําลังไล่ล่า จากนั้นเขาก็มองหว่านห่าวกวงหายตัวไปในชั้นเมฆด้วยความพึงพอใจ

 

“ข้าควรไปเช่นกัน” ฟางหยวนมองไปยังทิศทางของฐานทัพตระกูลหว่านและเผยรอยยิ้มบาง เขาหายตัวไปหลังจากเก็บฝูงอสูรวิญญาณทั้งหมด

 

เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฟางมาถึง เขามองทะเลทรายที่ว่างเปล่าด้วยความมีนงง

 

มีเพียงร่องรอยของการต่อสู้ครั้งใหญ่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

 

การแสดงออกของฟางกงค่อนข้างไม่น่ามอง เขาคิด “ซวนปู้จิน! ดูเหมือนข้าจะมาช้าเกินไป ศัตรูได้รับชัยชนะ!”

 

ขณะที่เขากําลังคิดเรื่องนี้ สวรรค์สีเหลืองก็ตกสู่ความโกหลาหล

 

ฟางหยวนใช้อุบายเดิม เขาใช้ตัวตนของซวนปู้จินเพื่อเผยแพร่ผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้

 

กลุ่มผู้อมตะวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด พวกเขาตระหนักว่าโลกผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกเริ่มร้อนแรงขึ้นแล้วในเวลานี้

 

“ซวนปู้จินผู้นี้เป็นผู้ใด? เขาได้รับการคุ้มครองโดยอสูรวิญญาณแรกกําเนิดสี่ตัว นอกจากนั้น เขายังมีวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาที่น่ากลัวมาก”

 

“ไม่แปลกใจเลยที่ตระกูลฟางรับเขาเข้าร่วม ฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกมีผู้อมตะระดับเจ็ดชั้นแนวหน้าอีกคน!”

 

“ยุคที่ยิ่งใหญ่กําลังจะมาถึง ไม่เพียงร่องลึกใต้พิภพที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งแต่ยังมีตัวละครที่อันตรายทุกประเภทปรากฏขึ้น!”

 

ฟางกงตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในสวรรค์สีเหลืองหลังจากได้รับการแจ้งเตือนจากฟาง

 

ฟางกงถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่เขายังรู้สึกสับสนเล็กน้อย “ดังนั้นผู้ชนะก็คือซวนปู้จิน แต่เหตุใดเขายังไม่กลับมา?”

 

ฟางตี้เฉิงหัวเราะ “เขาเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษและพึ่งเข้าร่วมกับพวกเราเมื่อไม่นานมานี้ ตอนนี้เขาฆ่าหว่านเหลียงฮันซึ่งเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตก นอกจากสถานการณ์ของตระกูลฟางแล้ว เขากังวลว่าพวกเราจะยอมแพ้ต่อเขาเพื่อปกป้องตระกูล ดังนั้นเขาจึงอยู่ข้างนอกและวางแผนเผยแพร่ข่าวการต่อสู้ครั้งนี้ออกไป”

 

ฟางกงเข้าใจทันที “อืม ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเช่นพวกเจ้าชอบคิดมาก ซวนปู้จินกําลังกดดันตระกูลฟางของเราด้วยการกระทํานี้ แต่ความกังวลของเขาไม่ผิด หว่านเหลียงฮันถูกเขาสังหาร ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหว่านและตระกูลฟางเกือบพังทลายลง เห้อ…เสถียรภาพของพวกเราถูกทําลาย ตอนนี้สถานการณ์ของตระกูลฟางกลายเป็นยากลําบากอีกครั้ง”

 

“เจ้าคิดว่าเราควรเลือกอย่างไร? ตัดซวนปู้จินเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับตระกูลหว่านหรือยุติความสัมพันธ์กับตระกูลหว่านและปกป้องชวนรู้จิน? ตอนนี้มันเห็นได้ชัดว่าซวนปู่จินไม่ต้องการเข้าร่วมกับตระกูลฟางของเราอย่างแท้จริง เขาทําเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น อย่างไรก็ตามตระกูลหว่านก็ไม่ได้ดีต่อพวกเราเช่นกัน พวกเขาจะตอบโต้อย่างรุนแรงในอนาคต”

 

ฟางตี้เฉิงกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าคิดว่าการปกป้องชวนจินมีประโยชน์มากกว่า”

 

“ซวนปู้จินมีความภาคภูมิใจในตนเอง เป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเรา เขามีกําลังพอที่จะสนับสนุนความเย่อหยิงของตนเอง เพียงอสูรวิญญาณแรกกําเนิดสี่ตัว มันก็เหนือจินตนาการของเราไปแล้ว นอกจากนั้นเขายังเปิดเผยท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยอดเยี่ยมสองท่าในการต่อสู้ครั้งนี้ หากศัตรูประมาทเพียงเล็กน้อย พวกเขาจะตกเป็นเหยื่อทันที”

 

“ครั้งนี้ตระกูลหว่านเป็นฝ่ายสร้างปัญญาให้กับพวกเรา หากเราแสดงความอ่อนแอ กองกําลังอื่นจะคิดว่าพวกเราไม่มีกําลังพอที่จะปกป้องตนเอง พวกเขาจะพยายามสร้างปัญหาให้กับพวกเรามากขึ้น ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของพวกเราจะกลายเป็นไร้ประโยชน์”

 

“ในช่วงเวลาเช่นนี้ ตระกูลฟางควรรักษาความแข็งแกร่งและปกป้องซวนปู้จิน เขาอาจไม่ใช่หนึ่งในพวกเรา แต่เขาเป็นพันธมิตรที่มีคุณสมบัติเพียงพอ เรามีรากฐานของความร่วมมือ ตระกูลของเราเป็นหนี้ค่าตอบแทนของเขา นั่นช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากเขาต่อไป สิ่งที่กองกําลังอื่นไม่ต้องการเห็นคือเขาสนับสนุนพวกเรา”

 

ฟางตี้เฉิงเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญา การวิเคราะห์ของเขาทําให้ฟางกงมองเห็นภาพรวมได้ชัดเจนมากขึ้น

 

ฟางกงพยักหน้า “เจ้ากล่าวได้ถูกต้องแล้ว การปกป้องซวนปู้จินมีประโยชน์มากกว่า แต่หากเราทําเช่นนั้น ตระกูลหว่านจะตอบโต้เราอย่างรุนแรง ตระกูลฟางของเราจะถูกปราบปรามมากขึ้น!”

 

ฟางตี้เฉิงถอนหายใจ “เราไม่สามารถทําสิ่งใดกับเรื่องนี้ ข้อมูลของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์รั่วไหลออกไป เรารู้อยู่แล้วว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้น แผนปัจจุบันของเรายังเป็นการปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็วที่สุด ด้วยวิธีนี้ตระกูลฟางของเราจะสามารถก้าวข้ามวิกฤต”

 

ทะเลทรายผีเขียว

 

อสูรวิญญาณจํานวนมากไม่สามารถต่อต้านการโจมตีของฟางหยวน

 

หลังจากไม่นานพวกมันก็ก้มศีรษะลงและกลายเป็นทาสของเขา

 

อิงอู๋เซี่ยยืนอยู่ด้านข้าง

 

ช่วงเวลาที่ผ่านมาต้องขอบคุณเขาที่ดูแลสถานที่แห่งนี้และจับอสูรวิญญาณเอาไว้เป็นจํานวนมาก

 

หลังจากเอาชนะสามผู้อมตะตระกูลหว่าน ฟางหยวนไม่ได้กลับตระกูลฟางแต่มาที่นี่โดยตรง

 

“เอาล่ะ ไปต่อกันเถอะ” ฟางหยวนกล่าวแต่การแสดงออกของเขากลับเปลี่ยนไปอย่า งกะทันหัน

 

ตระกูลฟางส่งข้อความมาหาเขา

 

“ท่านผู้นํา คําตอบตระกูลฟางคือ?” อิงอู๋เซี่ยถามด้วยความกังวล การตอบสนองของตระกูลฟางจะส่งผลกระทบต่อแผนการเกี่ยวกับทะเลทรายผีเขียว

 

“ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมายของข้าทั้งหมด” ฟางหยวนยิ้ม

 

Related

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset