Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1855 ทําความเข้าใจกําแพงปราณ

บทที่ 1855 ทําความเข้าใจกําแพงปราณ

 

ถ้ําสวรรค์นักรบอสูร

 

ร่างแยกเจิ้งปู้ตู๋ของฟางหยวนเข้าไปในหมอกสีทองและช่วยผู้อมตะที่ติดอยู่ภายในซ้ําแล้วซ้ําอีก

 

แต่ละครั้งเขาต้องผ่านการต่อสู้ที่ยากลําบาก เขาต้องเผชิญหน้ากับอสูรปีมากมาย เขาได้รับบาดเจ็บจากการทํางานหนัก กลุ่มเด็กที่เข้ามาพร้อมกับเจิ้งปู่ต์ค่อยๆยอมรับเขาเป็นผู้นําเพราะการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของเขา

 

“คราวนี้อสูรปีสามกลุ่มมาจากทิศทตะวันออกเฉียงใต้ ทิศเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ พวกมันกําลังปิดล้อมเจ้า” ร่างหลักของฟางหยวนถ่ายทอดเสียง

 

“เข้าใจแล้ว ข้าจะแยกพวกเขาออกจากกัน กําจัดเด็กชุดขาวที่อยู่ข้างข้า” เจิ้งปู้ตู๋ตอบกลับ

 

“ได้” ร่างหลักของฟางหยวนนอนอย่างสะดวกสบายอยู่ในจุดที่หมอกสีทองหนาทึบที่สุด

 

ความสนใจส่วนใหญ่ของเขาอยู่ที่มรดกของเทพอมตะแรกกำเนิด

 

แม้มันจะเป็นเพียงครั้งแรกของมรดก แต่ฟางหยวนยังรู้สึกยกย่องมันเป็นอย่างมาก

 

จากมรดกครึ่งหนึ่งที่เขามีอยู่ เขาสามารถทําความเข้าใจรูปแบบการต่อสู้ของยุคโบราณอันไกลโพ้น ในเวลานั้นเส้นทางแห่งพลังปราณยิ่งใหญ่และทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ นอกจากนี้เขายังตระหนักถึงพรสวรรค์ของเทพอมตะแรกกําเนิดที่ไม่สามารถตัดสินด้วยสามัญสํานึกของคนทั่วไป

 

‘มรดกนี้ยังสามารถใช้งานได้ในยุคปัจจุบัน’

 

แน่นอนว่าหลังจากผ่านไปหลายปี เส้นทางแห่งพลังปราณพัฒนาไปมาก ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขตเป็นข้อพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

 

มรดกส่วนนี้ของเทพอมตะแรกกําเนิดกล่าวถึงท่าไม้ตายอมตะกําแพงปราณ

 

เดิมทีราชันมังกรไม่ต้องการส่งมอบมัน แต่เขาไม่มีทางเลือก หลังจากทั้งหมดท่าไม้ตายอมตะกําแพงปราณเป็นท่าไม้ตายเฉพาะตัวของเทพอมตะแรกกําเนิด

 

‘ด้วยมรดกนี้ ข้าจะเข้าใจกําแพงปราณของวังสวรรค์ ข้าจะพยายามทําลายมัน!’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายด้วยความคาดหวัง

 

ในชีวิตก่อนหน้า กําแพงปราณของวังสวรรค์เป็นปัญหาใหญ่สําหรับสวรรค์นิรันดร

 

หากฟางหยวนสามารถคลี่คลายสิ่งนี้ มันจะส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อวังสวรรค์

 

แต่กําแพงปราณของเทพอมตะแรกกําเนิดสามารถคงอยู่มาถึงปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าการทําลายมันเป็นภารกิจที่ยากลําบาก

 

ฟางหยวนจะไม่แปลกใจหากเขาล้มเหลว

 

ทุกท่าไม้ตายสามารถคลี่คลาย แต่ท่าไม้ตายเดียวกันจะส่งผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในมือของผู้อมตะที่แตกต่าง

 

ฟางหยวนอาจค้นพบจุดอ่อนของกําแพงปราณ แต่บางทีราชันมังกรอาจตระหนักถึงมันเช่นกัน นั่นคือเหตุผลที่เขามอบมรดกนี้ให้กับบรรพชนทะเลปราณโดยไม่กังวลมากนัก

 

มรดกที่แท้จริงนี้เป็นเหยื่อล่อชิ้นใหญ่เพื่อให้ข้าร่วมมือกับวังสวรรค์ ฟางหยวนเย้ยหยัน

 

หากบรรพชนทะเลปราณเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษของทะเลตะวันออกจริงๆ เขาอาจถูกล่อลวงโดยไม่สามารถควบคุมตนเอง

 

ในฐานะผู้บ่มเพาะสันโดษระดับแปดที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ อาจมีเพียงวังสวรรค์ที่สามารถมอบมรดกที่ล้ําค่าบนเส้นทางแห่งพลังปราณให้เขา

 

แต่ความจริงก็คือบรรพชนทะเลปราณเป็นเพียงหนึ่งในการปลอมตัวของฟางหยวน หากราชันมังกรรู้เรื่องนี้ ผู้ใดจะรู้ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร

 

“ถึงเวลาแล้ว” ฟางหยวนหยุดเรียนรู้มรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งพลังปราณก่อนจะให้ความสนใจกับสนามรบสิบสองราศี

 

ตอนนี้เขาต้องร่วมมือกับเจิ้งปู้ตู๋เพื่อแสดงละครฉากต่อไป

 

เด็กหลายคนที่อยู่รอบตัวเจิ้งปู้ตู๋ถูกสังเวยและเสียชีวิตในสนามรบ คนเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคต่อแผนการของฟางหยวนในอนาคต ดังนั้นพวกเขาจึงต้องถูกก่าจัด

 

เจิ้งปู้ตู๋ช่วยผู้อมตะกลับออกมาอีกครั้ง

 

เหลือผู้อมตะเพียงไม่กี่คนที่ยังติดอยู่ในหมอกสีทอง หนึ่งในนั้นคือเจ้าเมืองภูผา

 

หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ นอกจากระดับการบ่มเพาะของเจิ้งปู้ตู๋ที่พุ่งสูงขึ้น เขายังสามารถสร้างสายสัมพันธ์กับตัวตนระดับสูงเกือบทั้งหมดของถ้ําสวรรค์นักรบอสูร สิ่งสําคัญก็คือมันไม่ใช่ความโปรดปรานจากหนี้ทั่วไป แต่มันเป็นหนี้ชีวิต!

 

โลกภายนอกผู้อมตะอาจไม่ต้องชําระหนี้บุญคุณ แต่ที่นี่คือถ้ําสวรรค์นักรบอสูร พวกเขาให้ความสําคัญกับอารมณ์เชิงบวก พวกเขาเป็นผู้คนที่จะปฏิบัติตามกฎของการแทนคุณ

 

เจิ้งปู้ตู๋จะไม่ขาดแคลนทรัพยากรหลังจากนี้ อนาคตของเขาจะสดใสมาก แต่เขาจะไม่ทําตัวเหมือนคนเหล่านี้ติดหนี้เขา เขาจะยิ่งสุภาพและอ่อนน้อมมากขึ้น เขาจะไม่สนใจความสูญเสียเล็กๆน้อยๆ เขาจะแสดงบุคลิกที่สง่างามและเป็นแบบอย่างที่ดี

 

ฟางหยวนสามารถสังหารนักรบอสูรทั้งหมดแต่เขาเลือกที่จะปล่อยคนเหล่านั้นไป

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาโจมตีถ้ําสวรรค์นักรบอสูรอย่างเปิดเผยและสังหารนักรบอสูรจํานวนมาก แต่ครั้งนี้เขาต้องการรักษาคุณค่าของมันเอาไว้ให้มากที่สุด

 

‘ผู้อมตะของถ้ําสวรรค์นักรบอสูรจะถูกรับเข้ามาในฐานผู้ใต้บังคับบัญชาของข้า สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองกําลังของข้า’

 

‘ในช่วงเวลาที่การแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมถูกจัดขึ้น ข้าจะส่งพวกเขาออกไปสู้รบ’

 

‘แน่นอนว่ารูปแบบการต่อสู้ของพวกเขาเรียบง่ายเกินไป เมื่อวิธีการของพวกเขาถูกเปิดเผย พวกเขาจะประสบความสูญเสียครั้งใหญ่’

 

ผู้ใช้วิญญาณของถ้ําสวรรค์นักรบอสูรใช้ทางลัดในการบ่มเพาะ เมื่อได้รับพลังอํานาจมาง่ายเกินไป พวกเขาจึงไม่มีความพยายามที่จะฝึกฝนวิธีการอื่นๆ

 

เช่นเดียวกับที่ฟางหยวนกําลังล้อเล่นกับผู้อมตะทั้งหมดของถ้ําสวรรค์นักรบอสูร กระทั่งราชาอสูรก็ไม่สามารถมองเห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ เขาคิดว่าหมอกสีทองคือต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด เขาไม่ตระหนักถึงการคงอยู่ของสนามรบสิบสองราศี

 

ด้วยความแตกต่างนี้ ฟางหยวนจึงสามารถกําหราบพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

 

หลังจากเจิ้งปู้ตู๋ช่วยเจ้าเมืองภูผาออกไป ฟางหยวนก็เก็บสนามรบสิบสองราศี หมอกสีทองที่ปกคลุมสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาจางหายไป

 

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อสงสัย ฟางหยวนยังทิ้งอสูรปีจํานวนมากเอาไว้เบื้องหลังและทําให้มันเหมือนเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

 

หลังการต่อสู้อันดุเดือด ฝ่ายนักรบอสูรได้รับชัยชนะ ทุกคนต่างโห่ร้องยินดี

 

หมอกสีทองจางหายไปแต่เวลาในถ้ําสวรรค์นักรบอสูรยังเดินเร็วมาก

 

เจิ้งปู้ตู๋กลายเป็นวีรบุรุษและได้รับคําขอบคุณจากผู้อมตะทั้งหมด

 

ราชาอสูรยกย่องเขา “เสี่ยวตู๋ เจ้าคือวีรบุรุษตัวน้อยของเราอย่างแท้จริง เจ้าช่วยทุกคน เจ้าช่วยโลกใบนี้เอาไว้!”

 

เจิ้งปู้ตู๋เร่งโบกมือพร้อมกับแสดงออกด้วยความอ่อนน้อมและถ่อมตน

 

ฉายาวีรบุรุษตัวน้อยกลายเป็นสัญลักษณ์ของเจิ้งปู้ตู๋

 

แผนการหลังจากนี้ เขาจะกลายเป็นผู้อมตะและเข้ารับการทดสอบอย่างเปิดเผย สุดท้ายเขาจะกลายเป็นผู้สืบทอดมรดกที่แท้จริงของถ้ําสวรรค์นักรบอสูร

 

ร่างหลักของฟางหยวนออกจากสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาและใช้กายาสวรค์ตรวจสอบถสวรรค์วรรณกรรม

 

ร่างแยกหลี่เสี่ยวไป๋ของฟางหยวนมีความก้าวหน้าไม่มากเท่ากับเจิ้งปู้ตู๋แต่ชีวิตของเขายังค่อยข้างดี

 

ตั้งแต่การท่องบทกวีครั้งก่อน หลี่เสี่ยวไป๋กลายเป็นจุดสนใจของอาจารย์เจียง เขาได้รับการสั่งสอนจากอาจารย์ผู้นี้อย่างลับๆอยู่บ่อยครั้ง

 

หลี่เสี่ยวไป๋ค่อยๆแสดงพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมออกมา นั่นทําให้อาจารย์เจียงรู้สึกประหลาดใจและเริ่มสั่งสอนเขาด้วยความจริงใจมากขึ้น

 

‘ตอนนี้ข้ายังห่างไกลจากการเข้าใกล้ตัวตนชั้นสูงของถ้ําสวรรค์วรรณกรรม’

 

‘มันค่อนข้างน่าอนาถ’

 

‘ถ้ําสวรรค์วรรณกรรมแตกต่างจากถ้ําสวรรค์นักรบอสูร มีผู้อมตะระดับแปดอยู่ที่นี่ นอกจากนั้นมันยังเป็นถ้ําสวรรค์บนเส้นทางแห่งข้อมูล มันเชี่ยวชาญในการรวบรวมข้อมูลไม่มีสิ่งใดที่ข้าสามารถทําได้’

 

‘ข้าไม่สามารถใช้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลา หากข้าใช้สนามรบสิบสองราศี มันจะถูกมองทะลุได้อย่างง่ายดาย’

 

ฟางหยวนตัดสินใจรอให้หลี่เสี่ยวไป๋พัฒนาไปอย่างช้าๆ

 

เขาสามารถส่งกองทัพอสูรปีบุกสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา แต่นั่นจะทําให้เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่กับผู้อมตะระดับแแปด

 

ฟางหยวนไม่กลัว แต่มันยากที่จะเอาชนะในเวลาอันสั้น ถ้ําสวรรค์วรรณกรรมจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ หากการต่อสู้ที่ดุเดือดปะทุขึ้น

 

ฟางหยวนไม่ต้องการเห็นสิ่งนี้

 

หากการโจมตีได้ผล เขาคงทําไปนานแล้ว

 

เขาไม่สามารถกลืนกินถสวรรค์วรรณกรรม แต่มรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลและทรัพยากรที่อยู่ภายในเป็นสิ่งที่ฟางหยวนต้องการ

 

ในปัจจุบันฟางหยวนมีร่างแยกห้าร่าง

 

ร่างแยกกาลเวลาเป็นร่างแยกแรก จุดประสงค์ของมันคือการใช้แสงแห่งปัญญา ตอนนี้ร่างแยกกาลเวลายังเป็นผู้อมตะระดับหก

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรอู๋ส่วยเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด เขาควบคุมวังมังกร เขาแข็งแกร่งที่สุดท่ามกลางร่างแยกทั้งหมดของฟางหยวน เขากําลังเข้าหาเผ่ากู้เพื่อรับผลประโยชน์

 

ร่างแยกกายาแห่งความฝันไม่สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ ตอนนี้มันกําลังจําศีลอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ์

 

หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากฟางหยวน ร่างแยกเจิ้งปู่ดูพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

 

สําหรับร่างแยกหลี่เสี่ยวไป๋ เขาต้องพึ่งพาการทํางานหนักของตนเอง มันยังไม่ถึงเวลาที่ร่างหลักของฟางหยวนจะลงมือกระทําการใดๆ

 

นอกจากร่างแยก ฟางหยวนยังมีตัวตนปลอม

 

วันนี้ตระกูลฟางเริ่มติดต่อฟางหยวน กล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือตัวตนปลอมของเขา ซวนปู้จิน

 

“ผู้อาวุโสซวนปู้จิน เราต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า เราต้องการให้เจ้าช่วยผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์โดยเร็วที่สุด!”

 

ฟางหยวนมีความสุขมาก เป้าหมายในการเข้าร่วมกับตระกูลฟางของฟางหยวนไม่ใช่เพียงการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากทะเลทรายผีเขียวเท่านั้น อีกเป้าหมายหนึ่งของเขาก็คือวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

นี่เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะบัวสวรรค์ มันทรงพลังมาก ฟางหยวนเคยเห็นพลังอํานาจของมันมาแล้วด้วยตาของเขาเอง

 

‘ข้ามีท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม นี่เป็นไพ่ใบสําคัญสําหรับการรับสืบทอดวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์’

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

Daoist Gu, Gu Daoist Master, Gu Zhen Ren, Master of Gu, 蛊真人
Score 8.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2012 Native Language: Chinese
มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset