Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1376 ประเมินกำลังรบ

“ฮู ฮู…”

 

เสียงลมดังเข้าหูของฟางหยวนที่นั่งอยู่บนแผ่นหลังของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

 

แม้ลมจะแรงแต่ฟางหยวนยังมั่นคงเหมือนภูเขา

 

แน่อนนว่าผู้อมตะทุกคนสามารถต้านแรงลมดังกล่าว

 

ด้านข้างเขาคืออิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆ บางคนนั่ง บางคนยืน บางคนมองไปด้านล่าง และบางคนปิดเปลือกตาพักฟื้น

 

ฟางหยวนไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ

 

แม้เขาจะล้มเหลวหลายครั้งในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อย แต่อาการบาดเจ็บของเขาก็ฟื้นฟูขึ้นด้วยพลังอำนาจของวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า

 

‘ท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อยช่างอัศจรรย์นัก มันทำให้ข้าสามารถควบคุมสัตว์อสรแรกกำเนิดได้จริงๆ’ ฟางหยวนคิด

 

‘ตามคำอธิบาย ยิ่งข้าใช้สัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลประเภทนกอินทรีย์มากเท่าใด ข้าก็ยิ่งสามารถควบคุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดได้มากเท่านั้น’

 

‘นั่นหมายความว่าข้าควรซื้อนกอินทรีย์ให้มากขึ้นและเลี้ยงดูพวกมันอย่างเหมาะสม’

 

ไม่นานมานี้ฟางหยวนใช้วิญญาณอมตะสี่ดวงเพื่อซื้อสัตว์อสูรประเภทนกอินทรีย์จากสวรรค์สีเหลืองเพราะไม่มีทางเลือก

 

หากมีเวลาเพียงพอ เขาจะไม่ทำธุรกรรมที่โง่เขลาเช่นนี้อย่างแน่นอน

 

ปัจจุบันความสับสนวุ่นวายในสวรรค์สีเหลืองยังไม่จางหายไป หลายคนยังพูดถึงเหตุการณ์นี้และความโง่เขลาของฟางหยวน

 

อาจมีเพียงฟางหยวนเท่านั้นที่รู้ความจริงหรือบางทีวังสวรรค์อาจสามารถคาดเดาบางอย่างได้เช่นกัน

 

ฟางหยวนตรวจสอบมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ฝูงอินทรีย์เดียวดายและอินทรีย์บรรพกาลกำลังบินอยู่ในสวรรค์ทั้งเก้า

 

นอกจากนี้ยังมีรังอินทรีย์อยู่ในสวรรค์สีม่วงน้อย ฟางหยวนได้รับรังอินทรีย์เหล่านี้มาจากเผ่าไห่

 

มีลูกอินทรีย์เติบโตอยู่ที่นี่

 

ด้วยวิธีการเลี้ยงดูของเผ่าไห่ ลูกอินทรีย์เหล่านี้จะเติบโตขึ้นเป็นอินทรีย์เดียวดายหรือกระทั่งอินทรีย์บรรพกาลในอนาคต

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนได้ใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อชะลอเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ สิ่งนี้ทำให้ลูกอินทรีย์เหล่านี้เติบโตขึ้นค่อนข้างช้า

 

‘ในช่วงเวลานี้ข้าควรซื้ออินทรีย์จากภายนอก’

 

‘ยิ่งมีมากเท่าใด การควบคุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น ตอนนี้ข้ามีนกอินทรีย์มากกว่าสี่ร้อยตัว แต่ข้าแทบไม่สามารถควบคุมมัน ข้าสามารถสั่งให้มันบินไปเท่านั้น’

 

‘ไม่ใช่เรื่องใหญ่หากต้องต่อสู้กับศัตรูที่อ่อนแอ แต่มันจะไม่เชื่อฟังข้าหากข้าสั่งให้มันต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นจ้าวเย่ฮุ้ย’

 

ตอนนี้พวกเขาหนีออกจากสนามรบแล้ว ฟางหยวนจึงมีเวลาคิดอย่างใจเย็น

 

นอกจากการซื้อนกอินทรีย์ ฟางหยวนยังต้องพิจารณาเกี่ยวกับอาหารและความเป็นอยู่ของพวกมันอีกด้วย

 

ในการเลี้ยงอินทรีย์เหล่านี้ ฟางหยวนจำเป็นต้องเข้าใจรูปแบบการดำรงชีวิตของพวกมัน นี่หมายความว่าเขาต้องสร้างห่วงโซ่อาหารที่สมบูรณ์และต้องมีขนาดใหญ่มากพอ

 

‘โชคดีที่มิติช่องว่างของข้าใหญ่โตมาก มันมากพอสำหรับอินทรีย์เหล่านี้ ข้ายังสามารถสร้างระบบนิเวศพิเศษสำหรับพวกมันโดยเฉพาะ’

 

‘ตอนนี้ข้าค่อนข้างมั่งคั่ง ด้วยหินวิญญาณอมตะกว่าแสนก้อน การซื้อและเลี้ยงอินทรีย์เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย สิ่งสำคัญอีกประการที่ข้าต้องทำคือพัฒนาเกราะหวนคืน!’

 

ฟางหยวนกลายเป็นผู้นำของนิกายเงา

 

สิ่งนี้เกินความคาดหวังของเขาอย่างมาก

 

นิกายเงาพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับกุม ตอนนี้ฟางหยวนเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของวังสวรรค์

 

แม้ฟางหยวนจะไม่รับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของนิกายเงา วังสวรรค์ก็ยังจะไล่ล่าและสังหารเขา

 

ฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลกโดยสมบูรณ์ ไม่ว่าอย่างไรวังสวรรค์ก็ต้องกำจัดเขา

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงต้องยอมรับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของนิกายเงาเพื่อผลประโยชน์

 

‘รอจนกว่าข้าจะสามารถควบคุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดได้อย่างสมบูรณ์และเกราะหวนคืนได้รับการพัฒนาแล้ว จากนั้นข้าจะสามารถป้องกันตนเองจากวังสวรรค์’

 

ขณะที่ฟางหยวนคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็คิดไปถึงหอคอยดวงตาสวรรค์และผู้อมตะกึ่งระดับเก้าราชันมังกร

 

นี่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างช่วยไม่ได้

 

‘ข้ายังอ่อนแออยู่มาก! แม้ข้าจะมีเกราะหวนคืน แต่ข้าก็ทำได้เพียงยืนอยู่ต่อหน้าผู้อมตะระดับแปดและป้องกันการโจมตีของพวกเขาเท่านั้น แต่หากพวกเขาโจมตีอย่างไม่รู้จบ แม่น้ำหวนคืนจะแห้งเหือดไปในที่สุด’

 

‘แม้ข้าจะมีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด แต่สติปัญญาของมันก็ไม่เพียงพอและไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะด้วยตัวของมันเอง ยิ่งไปกว่านั้นมีโอกาสที่ท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อยจะถูกทำลาย’

 

‘เห้อ…ความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มันยังไม่พอให้ข้าต่อต้านวังสวรรค์’

 

‘ข้าต้องกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อเพิ่มระดับการบ่มเพาะอย่างรวดเร็ว มีเพียงการก้าวเข้าสู่ระดับแปดจึงจะทำให้ข้าสามารถหายใจได้เล็กน้อย การบ่มเพาะระดับเจ็ดต่ำเกินไป แต่หากข้าก้าวเข้าสู่ระดับแปด ข้อบกพร่องของร่างทารกอมตะจะแสดงออกมามากขึ้น มันยากที่จะแก้ไข’

 

ฟางหยวนกำลังเผชิญหน้ากับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 

‘มันยากสำหรับข้าที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งภายใต้สถานการณ์นี้ ข้าจะพึ่งพาพวกเขาได้หรือไม่?’ สายตาของฟางหยวนกวาดมองไปรอบๆ

 

อิงอู๋เซี่ย ไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน นางเสือดำ เทพธิดาเมี่ยวหยิน และกายาแห่งความฝัน

 

ราชันภูเขาม่วงทิ้งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลไว้ให้เขา มันบันทึกสถานการณ์ของคนเหล่านี้เอาไว้อย่างละเอียด

 

ฟางหยวนเรียนรู้มันเมื่อไม่นานมานี้

 

กายาแห่งความฝันเป็นสินค้าที่มีข้อบกพร่อง ราชันภูเขาม่วงสร้างพวกมันขึ้นมาอย่างเร่งรีบเพื่อช่วยร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณเท่านั้น

 

กายาแห่งความฝันเหล่านี้มีเศษเสี้ยวดวงวิญญาณของราชันภูเขาม่วงบรรจุอยู่ภายใน

 

แต่น่าเสียดายที่หลังจากมันหลอมรวมกับกายาแห่งความฝัน มันก็ไม่สามารถแยกออกจากกัน กายาแห่งความฝันเหล่านี้มีเวลาจำกัดและเมื่อถึงขีดจำกัดนั้น พวกมันจะระเบิดตัวเองและกลายเป็นอาณาจักรแห่งความฝันขณะที่ดวงวิญญาณของราชันภูเขาม่วงจะหายไปพร้อมกับพวกมัน

 

ข้อบกพร่องนี้ไม่สามารถแก้ไขแม้ราชันภูเขาม่วงจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาก็ตาม

 

นี่เป็นเหตุผลที่ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณไม่เคยใส่ดวงวิญญาณของเขาเข้าไปในกายาแห่งความฝัน

 

ดวงวิญญาณของอิงอู๋เซี่ยอยู่ในร่างของกายาแห่งความฝันระดับเจ็ด แต่เขาเป็นข้อยกเว้น

 

เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นกายาแห่งความฝันที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นข้อบกพร่องดังกล่าวจึงไม่ส่งผลกระทบต่อเขา

 

ดวงวิญญาณของเขาสามารถอยู่ในร่างกายาแห่งความฝันได้อย่างอิสระโดยไม่มีข้อจำกัด

 

ดังนั้นแม้จะมีกายาแห่งความฝันจำนวนมาก พวกมันก็ไม่มีค่าที่จะเลี้ยงดู

 

เดิมทีฟางหยวนต้องการเรียนรู้วิธีการบนเส้นทางแห่งความฝันของนิกายเงาผ่านกายาแห่งความฝัน แต่ตอนนี้เขาได้รับมรดกของราชันภูเขาม่วง ดังนั้นเขาจึงเข้าใจทุกสิ่งโดยไม่จำเป็นต้องทำการวิจัยด้วยตนเองอีกต่อไป

 

ผู้อมตะที่เหลืออีกห้าคนคือกำลังรบสำคัญของฟางหยวน

 

‘ปัจจุบันผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือไป่หนิงปิงที่ได้รับมรดกที่แท้จริงไป่เซียง น่าเสียดายที่เราเป็นเพียงพันธมิตร’

 

‘เทพธิดาเมี่ยวหยินฝึกฝนมรดกที่แท้จริงเสียงต้นกำเนิด นางเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด พลังการต่อสู้ของนางเชื่อถือได้’

 

‘นางเสือดำ…’ เมื่อฟางหยวนคิดถึงหญิงผู้นี้ หมอกสีดำก็เริ่มไหลออกจากร่างของนางและถูกพัดไปตามแรงลม

 

หมอกสีดำจางหายไปและเผยให้เห็นหญิงสาวที่น่ารักคนเดิม

 

เทพธิดากระต่ายขาวที่ไร้เดียงสากลับมาแล้ว

 

“ท่านวูอี้ไห่…ไม่ ข้าควรเรียกท่านว่าอย่างไร?” เทพธิดากระต่ายขาวถามฟางหยวนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนน้อมถ่อมตน

 

ไห่ลั่วหลัน ไป่หนิงปิง และคนอื่นๆมองนางด้วยความประหลาดใจ

 

หลังจากฟื้นตัว การบ่มเพาะของเทพธิดากระต่ายขาวลดจากระดับเจ็ดลงสู่ระดับหก สถานการณ์นี้ค่อนข้างเข้าใจได้ยาก

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนได้รับมรดกของราชันภูเขาม่วง เขาเข้าใจมรดกที่แท้จริงเสือดำของนาง

 

ผู้อมตะที่ฝึกฝนมรดกนี้จะเก็บสะสมความแข็งแกร่งเอาไว้และสามารถระเบิดพลังออกมาระหว่างการต่อสู้

 

อย่างไรก็ตามมันยังมีข้อบกพร่อง มันจะทำให้ผู้บ่มเพาะกลายเป็นคนสองบุคลิก ด้านมืดที่น่ากลัวและด้านสว่างที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา

 

โดยปกติพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในบุคลิกที่อ่อนแอ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตราย บุคลิกของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตามมันยังมีข้อจำกัดเรื่องเวลา

 

ทั้งสองบุคลิกมีความรู้สึกและความทรงจำเดียวกัน มันเป็นเพียงวิธีคิดที่แตกต่างเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับฟางหยวน

 

เนื่องจากเทพธิดากระต่ายข่าวชื่นชมในตัววูอี้ไห่ขณะที่นางเสือดำเป็นสมาชิกของนิกายเงา

 

ไม่ว่าด้านใดทั้งสองบุคลิกก็ยังภักดีต่อฟางหยวน

 

“อย่ากังวล ข้าเองก็มีปัญหาเช่นกัน ข้าต้องซ่อนตัวตนที่แท้จริงจากเจ้า เรียกข้าว่าฟางหยวน” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มอบอุ่นให้เทพธิดากระต่ายขาว

 

เทพธิดากระต่ายขาวดูเหมือนจะไม่สามารถยอมรับได้อย่างสมบูรณ์ในระยะเวลาสั้นๆ

 

ฟางหยวนลอบถอนหายใจ ‘นางเสือดำมีพลังการต่อสู้ระดับเจ็ด แต่มันไม่เสถียร ตอนนี้เหลือเพียงไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิงเท่านั้น’

 

‘ไห่ลั่วหลันภักดีที่สุดแต่การบ่มเพาะของนางยังอยู่ระดับหก นางมีสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงแต่พรสวรรค์โดยธรรมชาตินี้กลายเป็นสูญเปล่าเมื่อนางบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไฟ แต่ด้วยมรดกของนางมารผลาญสวรรค์ พลังการต่อสู้ของนางจึงเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับเจ็ดแนวหน้า อย่างไรก็ตามนางยังอ่อนแอที่สุด’

 

‘สำหรับอิงอู๋เซี่ย…’

 

ฟางหยวนมองอิงอู๋เซี่ยที่นอนอยู่บนแผ่นหลังอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดด้วยดวงตาเหม่อลอย

 

เขาดูเหมือนคนสูญเสียความหวังทั้งหมด

 

ฟางหยวนส่ายศีรษะ

 

ในความเป็นจริงด้วยท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน มันทำให้อิงอู๋เซี่ยครอบครองอันดับหนึ่งในแง่ของพลังการต่อสู้ กระทั่งฟางหยวนยังต้องกังวล

 

แต่เขากลายเป็นคนไร้จิตวิญญาณและไม่สามารถพึ่งพา

 

“อิงอู๋เซี่ยมอบวิญญาณทั้งหมดของเจ้าให้ข้า” ฟางหยวนกล่าว

 

อิงอู๋เซี่ยไม่พูดและไม่ตอบสนอง

 

เสียงของฟางหยวนดังขึ้น “อิงอู๋เซี่ย ข้าเป็นผู้นำนิกายเงา เจ้าจะไม่เชื่อฟังข้างั้นหรือ?”

 

อิงอู๋เซี่ยไม่ขยับราวกับหัวใจของเขาจะเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและไม่ต้องการรับรู้สิ่งใด

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น แต่ในจังหวะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหว แรงกดดันที่รุนแรงกลับพุ่งลงมาจากด้านบน

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะ!

 

“เศษซากของนิกายเงา ตระกูลอี้อยู่ที่นี่ อย่าคิดว่าพวกเจ้าจะสามารถหลบหนี!”

 

 ——————

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset