Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita – ตอนที่ 18: ช่างเป็นการเริ่มวันใหม่ที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้!

มันเป็นเช้าวันจันทร์วันหลังจากที่คุณแม่ของคาเอเดะได้เปิดประตูบานใหม่ให้กับผม
เวลา 7.50 น.และสถานที่ก็คือห้องเรียนห้องปี 1 ห้อง 4
ผมก็ต้องประสบพบเจอกับปัญหาใหญ่
ทันทีที่ผมเดินเข้าไปในห้องเรียนผมก็ถูกจ้องมองอย่างเป็นที่สนใจรวมทั้งเป็นที่อิจฉาและเกลียดชัง เอาจริงๆหัวใจของผมเต้นรัวมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วล่ะ

“อรุณสวัสดิ์ยูยะ รู้สึกไงบ้างล่ะที่ได้เป็นดาวเด่นของวันนี้น่ะ?”

ทันทีทันใดที่ผมไปถึงที่นั่งของตัวเองเพื่อนสนิทของผม ‘ฮิงุเระ ชินจิ’ ก็เรียกทักผม
ชินจิอยู่ในทีมฟุตบอลทีมเดียวกันกับผมและเป็นเพื่อนซี้ที่สุดเวลาที่อยู่ในสนาม
ด้วยความที่ตัวสูงเพียงแค่ 165 ซ.ม. เขาก็ตัวเล็กไปหน่อยสำหรับนักฟุตบอลแต่ถ้าเป็นเรื่องการจ่ายบอลที่มีลูกเล่นสร้างสรรค์จากฝีเท้าของเขานั่นก็เป็นอะไรที่เพอร์เฟคแล้วสำหรับผม
รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเป็นหนุ่มน่ารักอ่อนโยนของเขาประกอบกับบุคลิกที่ดูเป็นมิตร
ทำให้เขากลายเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆในฐานะของเจ้าตูบน้อยล่ะนะ
และตอนที่เขาเข้าโรงเรียน ม.ปลายมาในทีแรก เขาก็ถูกสาวๆหลายคนเข้าหาไม่ว่าจะทั้งพวกเพื่อนร่วมชั้นเอยหรือจะเป็นพวกรุ่นพี่เอยแต่เจ้าหมอนี่ก็ปฏิเสธพวกเขาทั้งหมดเลย
นั่นก็เพราะว่าเขามีผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบแถมตอนนี้ก็กำลังคบหากับเธออยู่ด้วย

“อรุณสวัสดิ์ชินจิ ก็นะถ้าจะให้ชั้นอธิบายสถานการณ์ของชั้นด้วยคำๆเดียวมันก็คงจะเป็น “นรกชัดๆ” ล่ะนะ”
“เอาเถอะ ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ นายจะยังจะคาดหวังอะไรได้อีกล่ะในเมื่อได้มาโรงเรียนพร้อมกันกับฮิโตสึบะ คาเอเดะน่ะ ไม่ใช่ว่านายควรที่จะต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับสถานการณ์แบบนี้หรอกเรอะ?”
“…..เงียบไปเลย! ชั้นก็บอกเธอไปตั้งหลายรอบแล้วว่าทำแบบนี้มันคงไม่ดีแหงๆ แต่คาเอเดะก็เล่นไม่ฟังกันเลย แล้วถ้าชั้นไม่ยอมแพ้หล่อนก็จะบีบน้ำตาเข้าสู้อีก……..”

ไม่นะ นี่ผมเผลอจำเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดไปโดยไม่รู้ตัวตอนที่ผมออกจากบ้านมา
และผมก็โพล่งมันออกไปแล้วตอนนี้รู้สึกว่าเลือดของผมมันไหลมากองกันอยู่ตรงใบหน้าซะแล้ว

“อ่าๆ งั้นหรอกเหรอ ถ้างั้นนายก็ควรจะคาดหวังไว้ได้เลยยูยะ”

เสียงอันตะลึงงันของชินจิได้ทิ่มแทงผมและทางรอดเดียวที่จะช่วยให้รอดพ้นไปได้นั่นก็คือการที่ทุกคนที่ก็ให้ความสนใจแต่ก็ยังลังเลที่จะฟังดีไหมอยู่
นี่แหละที่จะทำให้ผมผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้โดยที่ไม่ต้องตอบคำถามใดๆอีกจนกว่าจะถึงเสียงระฆังโฮมรูมของช่วงเช้า คิดว่านะ……..

“เน่ๆ โยชิ! จริงรึเปล่าที่ว่านายกับคาเอเดะจังน่ะเริ่มคบกันแล้วน่ะ!?”

แต่ก็มีคนอื่นได้ทำลายความสงบจิตสงบใจและความหวังของผมไปจนสิ้น

“…..ไปได้ยินมาจากใครมาน่ะ โอสึกิซัง?”

“ก็ต้องจากปากของคาเอเดะจังแหงอยู่แล้วน่ะสิ ช่วงหลังเลิกเรียนของวันศุกร์ที่แล้วเธอพูดกับชั้นว่า ‘ชั้นน่ะนะจะสารภาพความรู้สึกกับโยชิสุมิคุงล่ะ’ แต่ชั้นก็ไม่ได้ยินผลลัพธ์อะไรเลยตั้งแต่นั้นมา แต่ด้วยความวุ่นวายของช่วงเช้าวันนี้ทำให้ชั้นกลับมาสนใจเรื่องนี้อีกน่ะสิ! นายคงไม่ได้ปฏิเสธคำสารภาพรักของคาเอเดะจังสินะ!!”

หญิงสาวที่ดูเหมือนกับลูกบอลพลังงานในขณะที่เธอกำลังหัวเราะไปด้วย
คือเพื่อนร่วมชั้นของคาเอเดะ ‘โอสึกิ อากิโฮะ’ เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่ตัดผมบ๊อบทำให้เธอดูเหมือนกับโลลิถูกกฏหมายแต่ถึงอย่างนั้นขนาด ‘หน้าอก’ ของเธอนั้นก็อาจจะใหญ่เทียบเท่าหรือไม่ก็ใหญ่กว่าของคาเอเดะเลย

“อากิโฮะ อีกเดี๋ยวโฮมรูมจะเริ่มแล้วนะ เธอไม่ควรมาอยู่ในห้องของพวกเรานะรีบๆกลับไปได้แล้ว”
“บูววว…….ชินคุงคนบ้า ชินคุงไม่ได้อยากที่จะอยู่กับชั้นหรอกเหรอ?”
“ไม่เอาหน่า มันก็ต้องอยากอยู่แล้วน่ะสิ แต่ถ้าเธอไม่รีบกลับไปล่ะก็มีหวังโดนอาจารย์โกรธเอานะ”

ผมถอนหายใจออกมาเมื่อได้เห็นการจู๋จี๋กันอย่างหวานแหววอย่างกระทันหัน
ระหว่างชินจิกับโอสึกิซังพร้อมกับมีเครื่องหมายรูปหัวใจประกอบมากกว่าปกติ
ใช่แล้ว คนที่ชินจิหลงรักตั้งแต่แรกพบเลยก็คือ โอสึกิ อากิโฮะ และเธอก็ตกหลุมรักชินจิตั้งแต่แรกเห็นเหมือนกัน
ตอนนี้พวกเขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่รักงี่เง่าตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน

“ถ้าจะทำอะไรแบบนี้ก็ช่วยไปทำที่อื่นที่เถอะ ไอ้พวกบ้า ชั้นทนดูพวกนายทั้งคู่มาสวีทกันยามเช้าไม่ได้จริงๆ”
“อะไรนะ ไม่ได้ยินเลย! ชั้นไม่อยากให้ไอ้คู่สามีภรรยาที่เดินควงแขนสวีทกันมาโรงเรียนเมื่อเช้ามาพูดอย่างนี้ใส่หรอกนะ”
“ใช่แล้วๆ ยูยะ นายนี่ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองซะงั้น แต่นายน่าจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุดเท่าที่ชั้นเคยเห็นมาแล้วล่ะนะ พวกนายดูเป็นคู่รักมากกว่าคู่เราซะอีก”

ชินจิและโอสึกิซังก็ป่าวประกาศออกมาว่าผมและคาเอเดะเราเป็นคู่รักกัน!
ไม่เลย เป็นไปไม่ได้ ผมไม่ได้มีความสุขเลยสักนิดและจากนั้นผมก็เมินพวกเขา

“-ที่นายพูดตอนที่หนีไปจากชั้นตอนนั้นน่ะ จริงๆแล้วนายไม่ได้ต้องการจะสลัดชั้นออกจริงๆใช่ไหมคะ?”

ผมอายที่จะยอมรับเรื่องนั้น แต่ยิ่งไปกว่านั้นผมว่าผมได้กลิ่นของคาเอเดะนะ……
และด้วยกลิ่นนี้ทำให้ผมจำได้ว่าร่างกายของเธอนั้นนุ่มนวลและวิเศษสุดๆตอนที่เราจับมือกัน
ใช่ ผมไม่ได้อยากจะสลัดเธออกเลยสักนิด

“ถ้าเป็นอย่างที่คิดจริงๆ…….ก็ช่วยบอกกันหน่อยสิคะ ชั้นพร้อมที่จะยอมนายทุกเรื่องอยู่แล้วค่ะยูยะคุง ถ้าหากว่านายอยากล่ะก็ไว้คืนนี้มาเล่นสนุกกับร่างกายของชั้นเอาไหมคะ?”
“……..คาเอเดะ เธอจะพูดอะไรอย่างนั้นออกมาที่โรงเรียนไม่ได้นะและผมก็จะไม่ขอไปเล่นสนุกอะไรนั่นด้วย…..แบบว่า…นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไรแต่เช้าเลยเนี่ย?”

ผมเท้าศอกค้ำโดยไม่ตั้งใจเมื่อจู่ๆผมก็ได้ยินเสียงที่โผล่มาจากทางด้านหลัง
ผมก็แค่อยากที่จะโต้ตอบกลับอย่างเหมาะสมเฉยๆแต่ครึ่งนึงผมก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่านั่นคือเสียงของยัยตัวแสบที่ผมได้ยินมาตลอด 2 วันที่ผ่านมาและเมื่อผมหันหลังกลับไปอย่างกลัวๆผมก็เห็นคาเอเดะกำลังยืนอยู่ตรงนั้น
ไม่มีทาง! ไหงเธอถึงถ่อมาที่นี่เองเลยล่ะคาเอเดะ!!

“ชั้นแค่มาหานายเพราะว่ารู้สึกเหงาที่คิดว่าจะไม่ได้เจอคุณแฟนหนุ่มสุดที่รักจนกว่าจะถึงตอนพักเที่ยงน่ะค่ะ มันไม่ดีเหรอคะ?”
“เอาล่ะ ใจเย็นก่อนนะก่อนอื่นเลยผมไม่ใช่แฟนของเธอเพราะผมยังไม่ทันได้ตอบรับคำสารภาพของเธอเลยและผมก็ไม่ได้ชอบการถูกแกล้งด้วย แถมส่วนตัวผมชอบผู้หญิงที่ขี้อายมากกว่า แล้วผมก็ไม่อยากถูกล่อลวงโดยคนที่ชอบเปิดเผยด้วย ไว้ถ้าเข้าใจแล้วก็ค่อยกลับมาใหม่นะครับ”
“……..เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าจะพูดขนาดนี้งั้นคืนนี้ก็เตรียมตัวโดนจัดหนักได้เลยค่ะ! เดี๋ยวชั้นจะกลับไปที่ห้องเรียนแล้วเพราะว่าใกล้จะเริ่มโฮมรูมแล้วค่ะ อากิโฮะจัง”

คาเอเดะหันเดินกลับห้องเรียนไปพร้อมกับโอสึกิซัง
ให้ตายสิ แค่การมาโรงเรียนยังขนาดนี้เอาเถอะอย่างน้อยๆเจ้าหล่อนก็ไม่ได้มาที่ห้องเพื่อประกาศสงครามล่ะนะ

“…..นี่ยูยะ ชั้นขอถามอะไรสักอย่างดิ”
“อะไรล่ะชินจิ? ว่ามาสิ”
“ไม่ล่ะ คือชั้นก็รู้ว่ามันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ชั้นก็สงสัยจริงๆนะเกี่ยวกับเรื่องนั้นน่ะ…..ยูยะ….นายกับฮิโตสึบะซังได้อาศัยอยู่ด้วยกันรึเปล่า?”

ผมก็นึกถึงบทสนทนาที่พวกเราพูดคุยกันเมื่อกี้ได้และทรุดตัวลงพร้อมกับเอาหัวกระแทกลงบนโต๊ะ
แหงล่ะ! ใครที่ได้ยินบทสนทนาเมื่อกี้ก็คงจะตีความนึกถึงความเป็นไปได้นั่นชัวร์ๆ
ช่างโง่เขลาเบาปัญญาอะไรอย่างนี้นะตัวผม!!

“อ่า…..ชั้นเข้าใจแล้วๆคงจะมีบางอย่างเกิดขึ้นสินะ เพราะงั้นตอนนี้ชั้นก็……..เสียใจด้วยกับเรื่องปัญหาของนายนะ”

ถ้อยคำแสดงความเห็นอกเห็นใจที่เพื่อนสนิทของผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตะลึงงัน
ทำให้หัวใจของผมนั้นแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆนับล้านชิ้น
ช่างเป็นการเริ่มวันใหม่ที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้!
ผมตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงอยู่ภายในใจ 

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita

Comment

Options

not work with dark mode
Reset