มีหลายอย่างๆ เกิดขึ้นระหว่างวัน อย่างแรกคือการสำรวจป่า ต่อมาคือภัยพิบัติจากซอมบี้ แม้ว่านี่เพิ่งจะห้าโมงเย็นตอนที่ตวนซื่อฉีออกจากระบบแฟนท่อมเขาก็หมดแรงแล้ว เขาเข้าไปในห้องหอพักและหอบร่างกายของเขาขึ้นไปบนเตียง เขารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนบนเตียงของเขา จากนั้นเพื่อนร่วมห้องของเขาอู๋ตี้ก็หัวเราะขึ้น “อะไรกัน? โดนผีสาวหลอกมาเหรอ?” ตวนซื่อฉี “เงียบน่า ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันเลย” อู๋ตี้ถอนหายใจและพูดว่า “เฮ้อ ฉันรู้แล้วน่า เจ้าคนน่าสงสาร” ตวนซื่อฉี “…” ตวนซื่อฉีไม่สนใจเพื่อนร่วมห้องของเขาและหยิบโทรศัพท์ออกมา เขาดูข้อความในเว่ยป๋อกว่าเก้าสิบเก้าข้อความ และยิ้มออกมาเมื่อเขาเริ่มเขียนบล็อกโพสต์ใหม่ [ เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว การทดสอบครั้งนี้แตกต่างกันมากๆ หลังจากที่เราสวมหมวกกันน็อคแล้ว เราก็ได้เข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่อธิบายการทดลองสั้นๆ ให้ฟัง เขาบอกว่าเราอยู่ในการทดลองทางสังคมวิทยา และใครอยากเลิกก็เลิกได้ แต่ไม่มีใครอยากเลิกเลยสักคน (หัวเราะ) สถานการณ์ของการทดสอบคือผู้เล่นรอดชีวิตจากเครื่องบินตกในป่าที่ไม่รู้จัก เราเกิดใกล้ๆ กับซากเครื่องบิน และมีทรัพยากรเหลืออยู่นิดหน่อยจากเครื่องบิน หลังจากสำรวจไปได้ไม่นานฉันก็พบกับชายหาด โอ้ เวลาก็ไม่เหมือนปกติ ทั้งวันนั้นมีเพียงแปดชั่วโมง กลางวันหกชั่วโมง และกลางคืนอีกสองชั่วโมง และนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก รูปแบบการเล่นคล้ายกับเกม ‘เดอะ ฟอเรสต์’ แต่ความแตกต่างคือเราต้องเอาชีวิตรอดแค่เจ็ดสิบสองชั่วโมงเท่านั้น และรอทีมกู้ภัยที่จะมาถึงในวันที่เก้า สิ่งที่ผู้เล่นต้องทำในช่วงเก้าวันนั้นคือการหาอาหารและต่อสู้กับธรรมชาติ นอกจากสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงจะอัพเกรดความรู้สึกของกลิ่นเสมือนจริง แต่ยังแนะนำระบบการต่อสู้เพิ่มแนวคิดของ ‘การตาย’ อีกด้วย โชคดีเพราะผมเป็นมือใหม่ ผมจึงเป็นคนแรกที่ตาย อย่างแรกคือมันไม่มีความเจ็บปวดในระบบการจำลองภาพเสมือนจริงนี้ นักวิจัยกล่าวว่าเมื่อเกิดความเจ็บปวดมากถึงจุดหนึ่งๆ สมองจะตื่นขึ้นเอง…คล้ายกับฝันร้าย ดังนั้นคลื่นสมองที่ผิดปกติที่เกิดจากการกระตุ้นที่มากเกินไปจะทำให้ผู้เล่นออกจากเกมเอง ฉันต้องบอกว่าการทดลองนี้…หรือเกมสยองขวัญนี้มันสมจริงมากๆ พวกเขาสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมได้อย่างลงตัวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเหยียบกิ่งไม้ แสงแดด เงา… มันสร้างความรู้สึกน่าขนลุกของเกาะมรณะนั้น พูดตามตรง แม้แต่ผู้ชายแกร่งๆ อย่างฉันก็ยังตกใจ แน่นอนว่าในนั้นก็มีผู้เล่นที่มีทักษะอยู่บ้าง มีคนใช้มีดฆ่าซอมบี้สี่ตัว นั่นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าประทับใจจริงๆ เรามาพูดถึงข้อบกพร่องกันต่อ การรับกลิ่นถือเป็นจุดเด่นของการทดลองนี้ เมื่อเทียบกับการทดสอบก่อนหน้านี้ที่ได้กลิ่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ครั้งนี้มันเปลี่ยนไปมาก ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณต้องเข้าห้องน้ำ คุณก็จะสามารถแยกกลิ่นระหว่างหมายเลขหนึ่งและหมายเลขสองได้อย่างชัดเจน น่าเสียดายที่ไม่มีการปรับปรุงใดๆ มากกว่านี้แล้ว ตัวอย่างเช่น คุณไม่สามารถได้กลิ่นของลูกสนหรือกลิ่นของลมทะเลที่พัดโชยมาได้ อย่างต่อไปคือเรื่องของรสชาติ ความรู้สึกรสชาติยังไม่ดีขึ้นเช่นกัน ของเหลวทุกอย่างจะมีรสชาติเหมือนน้ำ และอาหารทุกอย่างก็จะมีรสชาติเหมือนกระดาษแข็ง ซึ่งนั่นทำให้ไม่มีความสุขในการกินเลยสักนิด ในฐานะนักชิมอย่างฉัน ฉันต้องการบอกสตาร์สกายเทคโนโลยีว่าโลกที่ปราศจากอาหารที่ดีคือโลกที่ปราศจากความสุข และแน่นอนฉันก็รู้ว่านักวิจัยที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อหาทางแก้ไขมัน หากพวกเขาสามารถสร้างโลกที่คุณสามารถกินอาหารได้ไม่จำกัดและไม่อ้วนอีกต่อไป นั่นจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้ที่กำลังพยายามลดน้ำหนักทำได้ดีมากขึ้นอย่างแน่นอน ยังไงแล้วฉันก็ยังเต็มใจที่จะซื้อมัน ] เขาเขียนโพสต์ที่ค่อนข้างยาว หลังจากที่ตวนซื่อฉีพิมพ์ข้อความเสร็จ เขาก็ตรวจสอบโพสต์ของเขาอีกครั้งก่อนที่จะพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเขาก็กดปุ่มโพสต์ไป ไม่นานหลังจากที่เขารีเฟรชหน้าฟีดของตัวเอง เขาเริ่มเห็นความคิดเห็นที่ไหลออกมามากมาย [บ้าไปแล้ว!] [กระทู้นี้ดี! รอคอยการอัปเดทครั้งต่อไปของคุณอยู่นะ!] [ว้าว ฉันอิจฉาจังเลย! เมื่อไหร่ระบบแฟนท่อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการล่ะเนี่ย ฉันขอให้คุณทำการทดสอบให้เสร็จโดยเร็วนะ] [บล็อกเกอร์ คุณได้เจอกับท่านเทพลู่หรือยัง? ช่วยบอกพระเจ้าลู่ว่าสวัสดีด้วย!] ตวนซื่อฉีมองไปที่ความคิดเห็นและส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม พบกับท่านเทพลู่งั้นเหรอ? ไม่มีทางที่ผู้ทดสอบจะสามารถพบเขาได้แน่นอน อย่าว่าแต่ผู้ทดสอบเลย แม้แต่ซีอีโอของเพนกวินก็ยังไม่มีโอกาสได้พบกับท่านเทพลู่เลยเสียด้วยซ้ำ แม้แต่รูมเมทของฉันซึ่งเป็นนักเรียนของศาสตราจารย์ลู่ ก็ยังได้พบกับเขาเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง เขานอนหลับไม่ลงเพราะเขาตื่นเต้นกับบล็อกมากเกินไป เขากลิ้งไปมาบนเตียงสักพักก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเลื่อนดูหน้าเทรนด์ของเว่ยป๋ออย่างไร้จุดหมาย เขาสังเกตเห็นบางอย่างบนหน้าเพจที่กำลังมาแรงในตอนนี้ ดูเหมือนว่าการทดสอบรอบนี้จะมีคำวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น [ผู้เล่นหญิงตกใจสตาร์สกายเทคโนโลยีการทดสอบรอบพิเศษ เรียกร้องค่าชดเชยสำหรับความรู้สึกทุกข์ที่เกิดขึ้น!] [นักจิตวิทยาชื่อดังชาวแคนาดาบ่นว่าการทดสอบของสตาร์สกายเทคโนโลยีอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บทางจิตใจได้] เขามีใบดูสง่าเมื่อเขาได้อ่านหัวข่าวเหล่านี้ เขายังจำใบหน้าที่ร้องไห้และหวาดกลัวของผู้เล่นหญิงตอนที่เขาออกจากห้องทดลองได้อยู่เลย แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะไม่พบความเสียหายทางจิตใจใดๆ แต่ข่าวปลอมนี้ก็ยังลงเอยที่หน้าเทรนด์อยู่ดี “ฉันหวังว่าสิ่งนี้จะไม่ส่งผลต่อการทดสอบในสัปดาห์หน้านะ…” ตวนซื่อฉีปิดโทรศัพท์ลงและถอนหายใจเฮือกหนึ่ง อันที่จริงเขาไม่ได้กังวลอะไรมากเกินไป เพราะเขารู้ว่าทีมประชาสัมพันธ์ของสตาร์สกายเทคโนโลยีได้เริ่มควบคุมความเสียหายแล้ว ซึ่งคนไร้ชื่ออย่างเขาก็ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ตวนซื่อฉีปิดตาลง และผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้เลยว่าบทความที่เป็นข้อถกเถียงกันอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ถูกไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าโดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังไว้แล้ว… และไม่ใช่แค่ในเว่ยป๋อเท่านั้น ภายในหนึ่งชั่วโมง โลกทั้งโลกก็เริ่มถกกันเรื่องนี้เช่นกัน… …………………
มีหลายอย่างๆ เกิดขึ้นระหว่างวัน อย่างแรกคือการสำรวจป่า ต่อมาคือภัยพิบัติจากซอมบี้
แม้ว่านี่เพิ่งจะห้าโมงเย็นตอนที่ตวนซื่อฉีออกจากระบบแฟนท่อมเขาก็หมดแรงแล้ว เขาเข้าไปในห้องหอพักและหอบร่างกายของเขาขึ้นไปบนเตียง
เขารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนบนเตียงของเขา จากนั้นเพื่อนร่วมห้องของเขาอู๋ตี้ก็หัวเราะขึ้น
“อะไรกัน? โดนผีสาวหลอกมาเหรอ?”
ตวนซื่อฉี “เงียบน่า ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันเลย”
อู๋ตี้ถอนหายใจและพูดว่า “เฮ้อ ฉันรู้แล้วน่า เจ้าคนน่าสงสาร”
ตวนซื่อฉี “…”
ตวนซื่อฉีไม่สนใจเพื่อนร่วมห้องของเขาและหยิบโทรศัพท์ออกมา เขาดูข้อความในเว่ยป๋อกว่าเก้าสิบเก้าข้อความ และยิ้มออกมาเมื่อเขาเริ่มเขียนบล็อกโพสต์ใหม่
[
เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว การทดสอบครั้งนี้แตกต่างกันมากๆ
หลังจากที่เราสวมหมวกกันน็อคแล้ว เราก็ได้เข้าไปในป่า
เจ้าหน้าที่อธิบายการทดลองสั้นๆ ให้ฟัง เขาบอกว่าเราอยู่ในการทดลองทางสังคมวิทยา และใครอยากเลิกก็เลิกได้ แต่ไม่มีใครอยากเลิกเลยสักคน (หัวเราะ)
สถานการณ์ของการทดสอบคือผู้เล่นรอดชีวิตจากเครื่องบินตกในป่าที่ไม่รู้จัก เราเกิดใกล้ๆ กับซากเครื่องบิน และมีทรัพยากรเหลืออยู่นิดหน่อยจากเครื่องบิน หลังจากสำรวจไปได้ไม่นานฉันก็พบกับชายหาด
โอ้ เวลาก็ไม่เหมือนปกติ ทั้งวันนั้นมีเพียงแปดชั่วโมง กลางวันหกชั่วโมง และกลางคืนอีกสองชั่วโมง และนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
รูปแบบการเล่นคล้ายกับเกม ‘เดอะ ฟอเรสต์’ แต่ความแตกต่างคือเราต้องเอาชีวิตรอดแค่เจ็ดสิบสองชั่วโมงเท่านั้น และรอทีมกู้ภัยที่จะมาถึงในวันที่เก้า สิ่งที่ผู้เล่นต้องทำในช่วงเก้าวันนั้นคือการหาอาหารและต่อสู้กับธรรมชาติ
นอกจากสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงจะอัพเกรดความรู้สึกของกลิ่นเสมือนจริง แต่ยังแนะนำระบบการต่อสู้เพิ่มแนวคิดของ ‘การตาย’ อีกด้วย
โชคดีเพราะผมเป็นมือใหม่ ผมจึงเป็นคนแรกที่ตาย
อย่างแรกคือมันไม่มีความเจ็บปวดในระบบการจำลองภาพเสมือนจริงนี้ นักวิจัยกล่าวว่าเมื่อเกิดความเจ็บปวดมากถึงจุดหนึ่งๆ สมองจะตื่นขึ้นเอง…คล้ายกับฝันร้าย
ดังนั้นคลื่นสมองที่ผิดปกติที่เกิดจากการกระตุ้นที่มากเกินไปจะทำให้ผู้เล่นออกจากเกมเอง
ฉันต้องบอกว่าการทดลองนี้…หรือเกมสยองขวัญนี้มันสมจริงมากๆ พวกเขาสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมได้อย่างลงตัวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเหยียบกิ่งไม้ แสงแดด เงา… มันสร้างความรู้สึกน่าขนลุกของเกาะมรณะนั้น
พูดตามตรง แม้แต่ผู้ชายแกร่งๆ อย่างฉันก็ยังตกใจ
แน่นอนว่าในนั้นก็มีผู้เล่นที่มีทักษะอยู่บ้าง มีคนใช้มีดฆ่าซอมบี้สี่ตัว นั่นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าประทับใจจริงๆ
เรามาพูดถึงข้อบกพร่องกันต่อ
การรับกลิ่นถือเป็นจุดเด่นของการทดลองนี้ เมื่อเทียบกับการทดสอบก่อนหน้านี้ที่ได้กลิ่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ครั้งนี้มันเปลี่ยนไปมาก
ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณต้องเข้าห้องน้ำ คุณก็จะสามารถแยกกลิ่นระหว่างหมายเลขหนึ่งและหมายเลขสองได้อย่างชัดเจน
น่าเสียดายที่ไม่มีการปรับปรุงใดๆ มากกว่านี้แล้ว ตัวอย่างเช่น คุณไม่สามารถได้กลิ่นของลูกสนหรือกลิ่นของลมทะเลที่พัดโชยมาได้
อย่างต่อไปคือเรื่องของรสชาติ
ความรู้สึกรสชาติยังไม่ดีขึ้นเช่นกัน ของเหลวทุกอย่างจะมีรสชาติเหมือนน้ำ และอาหารทุกอย่างก็จะมีรสชาติเหมือนกระดาษแข็ง ซึ่งนั่นทำให้ไม่มีความสุขในการกินเลยสักนิด
ในฐานะนักชิมอย่างฉัน ฉันต้องการบอกสตาร์สกายเทคโนโลยีว่าโลกที่ปราศจากอาหารที่ดีคือโลกที่ปราศจากความสุข
และแน่นอนฉันก็รู้ว่านักวิจัยที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อหาทางแก้ไขมัน
หากพวกเขาสามารถสร้างโลกที่คุณสามารถกินอาหารได้ไม่จำกัดและไม่อ้วนอีกต่อไป นั่นจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้ที่กำลังพยายามลดน้ำหนักทำได้ดีมากขึ้นอย่างแน่นอน ยังไงแล้วฉันก็ยังเต็มใจที่จะซื้อมัน
]
เขาเขียนโพสต์ที่ค่อนข้างยาว
หลังจากที่ตวนซื่อฉีพิมพ์ข้อความเสร็จ เขาก็ตรวจสอบโพสต์ของเขาอีกครั้งก่อนที่จะพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเขาก็กดปุ่มโพสต์ไป
ไม่นานหลังจากที่เขารีเฟรชหน้าฟีดของตัวเอง เขาเริ่มเห็นความคิดเห็นที่ไหลออกมามากมาย
[บ้าไปแล้ว!]
[กระทู้นี้ดี! รอคอยการอัปเดทครั้งต่อไปของคุณอยู่นะ!]
[ว้าว ฉันอิจฉาจังเลย! เมื่อไหร่ระบบแฟนท่อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการล่ะเนี่ย ฉันขอให้คุณทำการทดสอบให้เสร็จโดยเร็วนะ]
[บล็อกเกอร์ คุณได้เจอกับท่านเทพลู่หรือยัง? ช่วยบอกพระเจ้าลู่ว่าสวัสดีด้วย!]
ตวนซื่อฉีมองไปที่ความคิดเห็นและส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
พบกับท่านเทพลู่งั้นเหรอ?
ไม่มีทางที่ผู้ทดสอบจะสามารถพบเขาได้แน่นอน
อย่าว่าแต่ผู้ทดสอบเลย แม้แต่ซีอีโอของเพนกวินก็ยังไม่มีโอกาสได้พบกับท่านเทพลู่เลยเสียด้วยซ้ำ
แม้แต่รูมเมทของฉันซึ่งเป็นนักเรียนของศาสตราจารย์ลู่ ก็ยังได้พบกับเขาเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง
เขานอนหลับไม่ลงเพราะเขาตื่นเต้นกับบล็อกมากเกินไป
เขากลิ้งไปมาบนเตียงสักพักก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเลื่อนดูหน้าเทรนด์ของเว่ยป๋ออย่างไร้จุดหมาย
เขาสังเกตเห็นบางอย่างบนหน้าเพจที่กำลังมาแรงในตอนนี้
ดูเหมือนว่าการทดสอบรอบนี้จะมีคำวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น
[ผู้เล่นหญิงตกใจสตาร์สกายเทคโนโลยีการทดสอบรอบพิเศษ เรียกร้องค่าชดเชยสำหรับความรู้สึกทุกข์ที่เกิดขึ้น!]
[นักจิตวิทยาชื่อดังชาวแคนาดาบ่นว่าการทดสอบของสตาร์สกายเทคโนโลยีอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บทางจิตใจได้]
เขามีใบดูสง่าเมื่อเขาได้อ่านหัวข่าวเหล่านี้
เขายังจำใบหน้าที่ร้องไห้และหวาดกลัวของผู้เล่นหญิงตอนที่เขาออกจากห้องทดลองได้อยู่เลย
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะไม่พบความเสียหายทางจิตใจใดๆ แต่ข่าวปลอมนี้ก็ยังลงเอยที่หน้าเทรนด์อยู่ดี
“ฉันหวังว่าสิ่งนี้จะไม่ส่งผลต่อการทดสอบในสัปดาห์หน้านะ…”
ตวนซื่อฉีปิดโทรศัพท์ลงและถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
อันที่จริงเขาไม่ได้กังวลอะไรมากเกินไป
เพราะเขารู้ว่าทีมประชาสัมพันธ์ของสตาร์สกายเทคโนโลยีได้เริ่มควบคุมความเสียหายแล้ว
ซึ่งคนไร้ชื่ออย่างเขาก็ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร
ตวนซื่อฉีปิดตาลง และผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้เลยว่าบทความที่เป็นข้อถกเถียงกันอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ถูกไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าโดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังไว้แล้ว…
และไม่ใช่แค่ในเว่ยป๋อเท่านั้น
ภายในหนึ่งชั่วโมง โลกทั้งโลกก็เริ่มถกกันเรื่องนี้เช่นกัน…
…………………