เหยียนซินเจวี๋ยคิดว่าหลังจากที่ได้เห็นปราสาทจันทราแล้วก็คงจะไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาประหลาดใจได้อีกแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่วิจัยทางวิทยาศาสตร์ชื่อหม่าฮ้าวขับยานสำรวจดวงจันทร์และพาเขาไปที่ฐานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ดวงจันทร์ เขาก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
มี ‘โดม’ สีขาวเงินถูกสร้างไว้บนพื้นผิวของดินดวงจันทร์ เปลือกรูปหลายเหลี่ยมของมันเรืองแสงด้วยแสงสีขาวระยิบระยับ แต่ละโดมมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสิบเมตร สูงประมาณสามเมตร
“… ที่นี่คือสถานีวิจัยเหรอ?”
“นี่น่ะนะ?” หม่าฮ้าวมองไปที่เหยียนซินเจวี๋ยและกล่าวว่า “ไม่ใช่หรอก ใครจะอยู่ที่นี่ได้ล่ะ… นี่คือโดมสวนน่ะ”
เหยียนซินเจวี๋ยหยุดชั่วครู่หนึ่ง
“โดมสวน?”
“ใช่ จริงๆ มันเรียกว่า ‘หน่วยเกษตรไร้ดินทางจันทรคติ’ พื้นผิวถูกเคลือบด้วยวัสดุเซมิคอนดักเตอร์กราฟีนพิเศษ ซึ่งสามารถทนต่อผลกระทบของอุกกาบาตขนาดเล็กได้ และแสงก็ยังสามารถลอดผ่านได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถดูดซับแสงและแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าซึ่งให้พลังงานแก่โดมสวน”
อุณหภูมิกลางวันและกลางคืนบนดวงจันทร์แตกต่างกันมาก อุณหภูมิกลางวันอาจสูงถึงหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดองศา ในขณะที่อุณหภูมิกลางคืนอาจสูงถึงลบแปดสิบสามองศา หนึ่งวันบนดวงจันทร์เทียบได้เท่ากับสามสิบวันบนโลก สภาพแวดล้อมการเพาะปลูกนั้นหยาบแห้ง เนื่องจากไม่มีชั้นบรรยากาศ ความจุความร้อนและค่าการนำความร้อนของพื้นผิวดวงจันทร์จึงต่ำ ดังนั้นการจับพลังงานแสงอาทิตย์จึงเป็นหนึ่งในปัญหาหลักในการปลูกพืชบนดวงจันทร์
การใช้เทคโนโลยีเดียวกันจากพื้นที่ชีวมณฑลเอ หน่วยการเกษตรไร้ดินบนดวงจันทร์ที่ออกแบบโดยสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงสามารถแก้ปัญหานี้ได้
แม้ว่าผลผลิตจะมีจำกัด แต่ต้นทุนก็ยังต่ำกว่าการขนส่งเสบียงจากโลกมาที่นี่มากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่ให้ปรับปรุงเทคโนโลยีนี้อยู่ นักชีววิทยาบนดวงจันทร์กำลังค้นคว้าเกี่ยวกับพันธุ์มันฝรั่งที่สามารถสะสมแป้งได้อย่างรวดเร็วภายใต้สภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำเช่นนี้ และมันก็ได้มีความก้าวหน้าไปบ้างแล้ว
“… มันยังยากเกินกว่าจะพึ่งตนเองได้ในตอนนี้ แต่มันเป็นแหล่งอาหารเสริม รวมกับอาหารอัดแข็งและอาหารเหลว
“นอกจากจะใช้เป็นอาหารแล้ว พืชเหล่านี้ยังสามารถรีไซเคิลของเสียของนักบินอวกาศและบริโภคก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนหนึ่งจากฐานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วย แน่นอนว่าประสิทธิภาพการหมุนเวียนอาจจะไม่สูง ดังนั้นเราจึงยังจำเป็นที่จะต้องขนส่งเสบียงบางอย่างจากโลก”
เหยียนซินเจวี๋ย “แล้วน้ำล่ะ? การทำฟาร์มต้องใช้น้ำมากนี่นา?”
“มีน้ำแข็งบนดวงจันทร์” หม่าฮ้าวยิ้มและกล่าวว่า “โชคดีที่เราพบสมบัติใต้ฝ่าเท้าของเราซึ่งมันมีค่ามากกว่าฮีเลียมเสียอีก ย้อนกลับไปในตอนนั้น เราได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกไป ซึ่งทำให้เกิดความตกใจค่อนข้างมากในวงการดาราศาสตร์และธรณีวิทยา เราพบน้ำแข็งน้ำประมาณยี่สิบล้านตัน ซึ่งมันเพียงพอสำหรับอย่างน้อยก็สำหรับศตวรรษนี้ ตอนนี้เรามีน้ำแข็งที่เยอะกว่าขั้วโลกเสียอีก แน่นอนว่ามันอยู่ในคำสั่งของหลายร้อยล้านตัน… แน่นอนว่าอย่าบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ งานสำรวจยังไม่เสร็จ”
ยี่สิบล้านตัน…
ปากของเหยียนซินเจวี๋ยเปิดออกจนกว้างและหลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้น
“ไม่น่าเชื่อเลย… ทำไมผมไม่เคยเห็นข่าวนี้ในข่าวมาก่อนเลย”
“สื่อตะวันตกไม่สนใจที่จะรายงานเรื่องนี้น่ะ เนื่องจากนี่เป็นผลลัพธ์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เราจึงไม่พยายามเผยแพร่เช่นกัน…” หม่าฮ้าวใช้คางชี้ไปที่ปล่องที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาพูดว่า “นั่นแหละคือฐานของเรา เราอยู่กันที่นี่”
เหยียนซินเจวี๋ยมองออกไปนอกหน้าต่างรถแลนด์โรเวอร์และในที่สุดก็เห็นฐานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทางดวงจันทร์ลึกลับ
อาคารถูกตั้งอยู่กลางปล่องของดวงจันทร์ ผนังคอนกรีตขนาดใหญ่ถูกฝังอยู่ในหินดวงจันทร์ ส่วนที่เปิดโล่งเพียงส่วนเดียวของอาคารคือผนังและหอส่งสัญญาณ
แม้ว่าเขาจะมองเห็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่มันก็ยังเป็นภาพที่น่าทึ่งเสียยิ่งกว่าอะไร
หากปราสาทจันทราเปรียบเหมือนกับมังกรเงินบนท้องฟ้า นี่ก็เหมือนกับขุมทรัพย์ที่ถูกมังกรปกป้องไว้
มันเหลือเชื่อมากๆ
นี่มันเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของเทคโนโลยีการก่อสร้างและเทคโนโลยีการบินและอวกาศระดับสูงสุดเลยก็ว่าได้!
รถแลนด์โรเวอรค่อยๆ ขับขึ้นทางลาดทางเข้าและผ่านแอร์ล็อกทั้งสอง เหยียนซินเจวี๋ยเกือบจะตาบอดเพราะแสงสีขาวที่ส่องสว่างบนหัวของเขา
ถัดจากเขาเป็นลูกเรือภาคพื้นดินที่กำลังสวมชุดลำลอง พวกเขาใช้อุปกรณ์อย่างมืออาชีพในการทำความสะอาดฝุ่นดวงจันทร์จากรถแลนด์โรเวอร์ จากนั้นจึงเปิดประตูรถแลนด์โรเวอร์
หลังจากที่หม่าฮ้าวถอดหมวกแล้ว เขาก็สูดอากาศและยิ้มให้เหยียนซินเจวี๋ย
“ที่นี่ไม่จำเป็นต้องสวมชุดอวกาศในฐานหรอกนะ เดี๋ยวผมต้องไปรับคนอื่นๆ… ผู้ช่วยของผมจะพาคุณไปที่ห้องของคุณเอง”
รัฐบาลจีนส่งนักฟิสิกส์ชาวจีนไปดวงจันทร์ก่อน แม้ว่าจะเพิ่มงบประมาณเพิ่มอีกแสนหยวน แต่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ยอมรับได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าที่ปรึกษาของเหยียนซินเจวี๋ยเป็นนักฟิสิกส์ชื่อดังชาวจีนที่ชื่อนักวิชาการลู่
ต่อมานักฟิสิกส์จากประเทศอื่น ๆ และวิศวกรในสาขาฟิสิกส์ก็จะลงจอดบนดวงจันทร์โดยใช้โมดูลที่เชื่อมโยง ในฐานะกัปตันทีมวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หน้าที่ของหม่าฮ้าวคือการย้ายนักวิชาการเหล่านี้จากโลกไปยังป้อมปราการทางจันทรคตินี้โดยปลอดภัย
เหยียนซินเจวี๋ยพยักหน้าและพูดอย่างจริงใจ
“ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไรครับ” หม่าฮ้าวตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “พวกเราอยู่กันเป็นครอบครัว”
การที่ได้มาเหยียบพื้นที่ที่ห่างไกลขนาดนี้แต่เขากลับบอกว่าให้ทำตัวเหมือนอยู่กับครอบครัวทำให้เหยียนซินเจวี๋ยไม่เข้าใจเท่าไหร่ เขาคิดว่ากัปตันแค่พยายามจะทำดีกับเขาก็เท่านั้น
เมื่อเหยียนซินเจวี๋ยออกจากรถแลนด์โรเวอร์และถอดชุดอวกาศของเขาออก เขาเดินตามผู้ช่วยเข้าไป
ด้านในของฐานมีความพิเศษมากกว่าเดิม
ที่นี่มีถึงยี่สิบเอ็ดชั้น รวมไปถึงพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำงาน ห้องปฏิบัติการ และแม้แต่ห้องสมุดและโรงยิมจำลองด้วยแรงโน้มถ่วง แต่ละชั้นมีหน้าที่เฉพาะของตัวเอง ที่นี่เหมือนกับโรงแรมห้าดาว
ข้อเสียอย่างเดียวคือพื้นที่ส่วนตัวนั้นค่อนข้างเล็ก
แน่นอนเพราะว่าค่าก่อสร้างต่อเมตรของที่นี่นั้นสูงกว่าต้นทุนอสังหาริมทรัพย์ของแมนฮัตตัน นี่ยังไม่รวมถึง ‘ค่าสาธารณูปโภค’ ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ ห้องส่วนตัวขนาดสิบตารางเมตรก็ถือว่าหรูหราแล้ว
เมื่อเหยียนซินเจวี๋ยมาถึงประตูอะลูมิเนียมพร้อมตัวเลขบนประตู พนักงานก็ยื่นการ์ดให้เหยียนซินเจวี๋ยและพูดด้วยรอยยิ้ม
“นี่คือห้องของคุณ วิธีและบัตรประจำตัวเพื่อเข้าห้อง มันอำนวยความสะดวกทั้งหมดในสถานีวิจัยให้คุณ
“ระดับความปลอดภัยของคุณถูกอนุญาตให้เข้าถึงพื้นที่ทดลอง พื้นที่ที่พัก และพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนหมายเลขชั้นของคุณอยู่บนบัตร หากคุณต้องการใช้รถหรือออกจากฐาน คุณต้องคุยกับหัวหน้าผู้ดูแลฐานเสียก่อน
“เก็บการ์ดใบนี้ไว้ให้ดีล่ะ คุณจะต้องใช้มันตอนกินและอาบน้ำ คุณจะลำบากถ้าคุณทำมันหาย”
เหยียนซินเจวี๋ยรับบัตรและพยักหน้าด้วยท่าทางที่จริงจัง
“ครับ”
พนักงานบอกว่า “ถ้าคุณต้องการอะไรอีก คุณโทรหาผมผ่านช่องทางการสื่อสารในห้องได้ทันที หรือจะคุยกับกัปตันหม่าก็ได้เช่นกัน” พนักงานพยักหน้าแล้วเดินไปที่ลิฟต์
เมื่อเหยียนซินเจวี๋ยเดินเข้าไปที่บ้านใหม่ของเขา เขาก็วางกระเป๋าเดินทางไว้บนหิ้งแล้วทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงที่นุ่มของเขา
ความรู้สึกในการนอนในแรงโน้มถ่วงแค่หนึ่งส่วนหกนั้นเป็นเรื่องที่แปลกมาก อย่างไรก็ตามเขาได้ใช้เวลาในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากแรงโน้มถ่วงมาแล้วกว่าหนึ่งสัปดาห์เขาจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับมัน
“พรุ่งนี้ วันที่สิบแปด ธันวาคม…”
พรุ่งนี้เป็นวันสำคัญ
เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนจะทดลองครั้งแรกในวันพรุ่งนี้
นั่นจะนำชุมชนฟิสิกส์ไปสู่ยุคแห่งอนาคต
มันจะเป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว
ในฐานะตัวแทนของชุมชนฟิสิกส์ของจีน เขาเป็นคนที่จะจุดประกายไฟที่ส่องสว่างให้กับอารยธรรมมนุษย์ในจักรวาลอันเยือกเย็นนี้
เขามองดูดาวเคราะห์สีน้ำเงินที่ไกลกว่าสามแสนหกหมื่นกิโลเมตรนี้ผ่านนอกหน้าต่าง และหลับตาลงช้าๆ พร้อมกับนอนอยู่บนเตียง
ในฐานะนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทั่วไปๆ เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้มาถึงวันที่เขาทำเช่นนี้ จนถึงตอนนี้ ความสำเร็จที่คู่ควรที่สุดของเขาคือการทำงานภายใต้นักวิชาการหรูเสินเจียน
เขาคิดย้อนไปในอดีตและรู้สึกซาบซึ้งมาก…
บางครั้งชีวิตก็อาจจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เมื่อลู่โจวโทรหาเขาและพูดว่า ‘คุณคือผู้ถูกเลือก’ เขาก็ไม่สามารถอธิบายดีใจออกมาได้
และตอนนี้เขาอยู่ที่นี่แล้ว เขาเริ่มรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่มากขึ้น
“กลับไปที่โลกเมื่อไหร่ ฉันจะเลี้ยงเครื่องดื่มดีๆ ให้ลู่โจวสักหน่อยดีกว่า…”
ฉันต้องขอบคุณเขาเป็นการส่วนตัว
ราวกับว่าเขาได้ยินเสียงปรบมือจากระยะทางสามแสนหกหมื่นกิโลเมตร
มันเป็นเสียงเชียร์จากผู้คนทั่วโลก
เขากำหมัดแน่นก่อนจะคลายออก จากนั้นก็ค่อยๆ ผล็อยหลับไปโดยนึกถึงจุดประสงค์และภารกิจของเขาในวิชาฟิสิกส์
ตอนนี้เขานอนหลับแบบสงบสุขที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว
……………………………