SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 41: ช่วงเวลาของเขา (2)

SSS-Class Suicide Hunter SSSH ตอนที่ 41: ช่วงเวลาของเขา (2)

 

SSSH ตอนที่ 41: ช่วงเวลาของเขา (2)

 

ฉันไม่ใช่คนเดียวที่รายล้อมไปด้วยแสง

 

ค้นหาตัวตนของราชาปีศาจที่ชั้น 12 ไม่พบ]

 

[ยืนยันการล่าถอยของราชาปีศาจ]

 

[ประวัติศาสตร์ได้ถูกเปลี่ยนแปลง]

 

แสงสีขาวกระจายไปทุกที่ ส่องแสงจางๆจนเหมือนหมอกแสงได้ปกคลุมทุ่งหญ้าในทันทีและยังครอบคลุมเมืองหลวงของจักรวรรดิเอจิม

 

เม็ดฝน

 

มันสามารถอธิบายได้ว่า แสงโปรยปรายพัดผ่านอากาศเหมือนดอกแดนดิไลออน

 

“นี่มัน..?”

 

แม่มดมองไปรอบๆโดยไม่รู้ว่าต้องทําตัวอย่างไร

 

“คิม กงจาเกิดอะไรขึ้น?”

 

“เอ่อ ไม่รู้สิ นี่เป็นครั้งแรกสําหรับฉันเหมือนกัน มันก็…”

ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทําอย่างไร

 

เมื่อเห็นโลกถูกปกคลุมไปด้วยแสงสว่างฉันจึงถามในใจ

 

“จักรพรรดิดาบ นายรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”

 

– ไม่ นี่เป็นครั้งแรกสําหรับฉันเหมือนกัน นี่มันคืออะไร?มันน่ากลัว

นอกจากเวลาที่เขาสอนฉันเกี่ยวกับดาบแล้วเขาก็ไร้ประโยชน์

 

ฉันไม่รู้ว่ากอริลลาที่โง่เขลาตัวนี้ไปถึงชั้น 99 ได้ยังไง

 

– หืม? เฮ้ คิมซอมบี้ นี่นายกําลังด่าฉันเหรอ?

 

“ไม่มีทางน่า ฉันแค่คิดว่านายน่าทึ่งมากและคนต่ําต้อยอย่างฉันจะไม่สามารถเข้าใจนายได้

 

– แปลกมาก นายดูเหมือนว่านายกําลังแอบด่าฉันอยู่

 

แบ ยุรยองขมวดคิ้วและบ่น

 

แม้ในขณะที่เรากําลังคุยกัน ฝนแสงก็ยังคงตกกระหน่ํา

 

“ฮะ?

 

ตอนนั้นเองที่ฉันรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง

 

ฉันชี้นิ้วไปที่กําแพงเมืองขนาดมหึมาของจักรวรรดิ

 

“แม่มดมังกรดํา ดูทางนั้นสิ”

 

“หืม?”

 

“กําแพงเมือง ดูเหมือนว่าธงทั้งหมดจะหายไป”

 

ธงบนกําแพงเมืองที่มีสีแดงและสีทองหายไปอย่างรวดเร็วธงหลายร้อยผืนลดลงเหลือเพียงหลายสิบผืนในทันทีและพวกมันยังคงหายไปอย่างต่อเนื่อง

 

” ใช่ นายพูดถูก”

 

แม่มดขมวดคิ้ว

 

“รอฉันสักครู่ เราควรไปตรวจสอบ

 

“ใช่ ฉันเห็นด้วย”

 

“เทเลพอร์ต!”

 

แม่มดจับมือฉันและใช้สกิลของเธอ ช่วงเวลาต่อมาเราไม่ได้อยู่กลางทุ่งหญ้า แต่อยู่บนป้อมปราการที่สูงที่สุดของจักรวรรดิมุมมองที่แปลกใหม่ปรากฏในสายตาของเรา

 

“พระเจ้า”

 

แม่มดพูดพึมพําเบาๆ “ทุกอย่างเปลี่ยนไป”

 

มันเปลี่ยนไปจริงๆ

 

กระโจมของผู้อพยพและพื้นที่ที่แออัดถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวและ พวกมันก็หายไป ราวกับว่าพวกันไม่เคยมีอยู่จริง

 

เสื้อผ้าของชาวเมืองบนท้องถนนก็เปลี่ยนไปเช่นกันผ้าขี้ริ้วสกปรกกลายเป็นเสื้อผ้าปกติ แม้แต่ผลไม้ ในตลาดก็เปลี่ยนไปแอปเปิ้ลเน่าเริ่มสุกและดูน่าทาน

 

ฉันพูดพึมพําโดยไม่รู้ตัว

 

“ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลง

 

“อะไรนะ?”

 

“ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปแล้ว”

 

จํานวนทหารยามรอบกําแพงเมืองลดลงอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน

 

ไม่เพียงแค่ตัวเลข แต่การแสดงออกของพวกเขา ก็เปลี่ยนไปด้วย

 

ใบหน้าของพวกเขาไม่ได้เต็มไปด้วยความกลัวและสิ้นหวังต่อการปรากฏตัวของราชาปีศาจ ดูเหมือนพวกเขาเบื่อกับหน้าที่ของพวกเขา

 

“โดยปกติจักรวรรดิเอจิมควรถูกโจมตีโดยราชาปีศาจไม่ว่าพวกเขาจะชนะสงครามหรือถูกทําลายเพราะความพ่ายแพ้-ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม พวกเขาควรจะต้องต่อสู้กับราชาปีศาจแต่…”

 

ฉันกลืนน้ําลาย

 

“ในโลกนี้การโจมตีของราชาปีศาจกลายเป็น [ไม่มีอยู่”

 

ในขณะที่ไม่มีใครรู้

 

ในช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้ เหตุการณ์ที่ราชาปีศาจโจมตีหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์

 

ใช่แล้ว

 

ฉันทําให้มันหายไป

 

“ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไป..”

 

และผลลัพธ์นั้นก็ปรากฏออกมาต่อหน้าต่อตาฉัน

 

[กําลังแก้ไขด่านชั้นที่ 11]

 

[กําลังแก้ไขด่านชั้นที่ 1]

 

แสงสีขาวปกคลุมไปทั่วเมือง

 

แสงนั้นสัมผัสใบหน้าของขอทานเด็ก

 

สายฝนแห่งแสงโปรยปรายลงบนเสื้อผ้าของชายคนหนึ่งที่กําลังกังวลเกี่ยวกับอาหารในวันพรุ่งนี้

 

ซ่าาาา..

 

แสงลอยไปทั่วเหมือนดอกแดนดิไลออน

 

ในตลาด ตรงหัวมุมถนน บนโคมไฟข้างถนนและบนคนที่กําลังกลับบ้าน

 

มันขีดเขียนโลกเบาๆ

 

[การแก้ไขเสร็จสิ้น]

 

และไม่นานมันก็จางหายไป

 

มันหายไปที่ไหนสักแห่ง

 

ฉันปิดปากไป

 

แม่มดก็ทําเช่นเดียวกัน

 

ในโลกที่หยุดชั่วคราวเราไม่ได้ยินอะไรเลยเพราะเราทงคู่ต่างเงียบ มันจึงเหมือนกับว่าโลกกําลังกลั้นหายใจ

 

แต่ทันใดนั้นเอง

 

– ทุกคน ถูกๆ!”

 

หลังจากนั้นไม่นาน ความเงียบก็ถูกทําลาย

 

“แอปเปิ้ลที่เพิ่งมาจากเอลบรานท์! แอปเปิ้ลสดๆ!คุณชายแม้แต่เอลฟ์ก็ยังต้องซื้อแอปเปิ้ลตามฤดูกาลพวกนี้!มาดูแอปเปิ้ลสดๆพวกนี้กันเร็ว!”

 

เสียง

 

“วันนี้น้ําในห้องซาวน่าแย่มาก ข้ามองเห็นคราบสกปรก พระเจ้า เราควรทําอย่างไรถ้าคนที่ดูแลมันไม่…”

 

ฉันได้ยินเสียง

 

หลังจากที่ฉันยอมรับเควส เวลาที่หยุดชั่วคราวก็เริ่มไหลอีกครั้ง

 

“ซู่! พวกองค์ชายรัชทายาททําตัวแย่จริงๆ! ข้าได้ยินเสียง จักรพรรดิตะคอกใส่พวกเขาทุกคืนที่กําแพงวัง มันเป็นแค่ข่าวลือ แต่ข้าคิดว่า…”

 

“เย็นนี้ดื่มกันดีไหม? แค่พวกเรา”

 

“บริจาคหน่อย! แค่นิดหน่อย! เทพธิดารักทุกคน”

 

“แอปเปิ้ลเอลบรานท์ที่แม้แต่เอลฟ์ก็ยังชอบ!ถูกๆจ้า!”

 

โลกเริ่มกลับมาหายใจอีกครั้ง

 

“พวกเจ้าตรงนั้น!”

 

ในหมู่พวกเขา มีเสียงเรียกพวกเรา

 

” พวกเจ้ามาจากไหน?!”

 

แม่มดและฉันหันหัวไปตามทิศทางของเสียง นายพลคนหนึ่งถือดาบของเขาบนกําแพงเมือง เขาขมวดคิ้วอย่างหวาดกลัว

 

” หยาบคาย! ใครกันที่กล้าเหยียบป้อมปราการของจักรวรรดิ?! ลงมาเดี๋ยวนี้!”

 

มันเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย

 

ฉันพึมพํา

 

“ซาบาส เอจิม…”

 

ตาของนายพลเบิกกว้าง เขาดูเหมือนว่าเขาเพิ่งเคยเห็นฉันเป็นครั้งแรก

 

“เฮอะ! ทําไมคนอย่างเจ้าถึงรู้จักชื่อของข้า?”

ฉันปิดปาก

 

เข้าใจล่ะ”

 

เขาเป็นนายพลที่ควรจะอยู่ชั้น 11

 

ชาวเมืองของอาณาจักรที่ทักทายเหล่าฮันเตอร์ด้วยความใจ

 

NPC ที่ฉันคัดลอกสกิลหลังจากตาย

 

“บัดซบ! นี่พวกเจ้าไม่ได้ยินข้าบอกให้ลงมาหรือยังไง?”

 

เขากําลังตะโกนเหมือนกําลังคุยกับคนแปลกหน้า

 

แม้แต่ประวัติศาสตร์ของชั้น 11 ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

 

ตึก ตึก

 

“อา”

 

หัวใจของฉันก็สั่นสะท้านทันที

 

อารมณ์ที่ไม่รู้จักโอบล้อมหัวใจ หน้าอก และร่างกายของฉัน ฉันพูดไม่ออก ทําไมถึงเป็นฉัน? โลกได้พบกับลมหายใจแล้วแต่เสียงของฉันดูเหมือนจะถูกบางสิ่งเข้าครอบงํา

 

ฉันปิดปากและมองไปที่นายพล

 

ตอนนี้มันเป็นความทรงจําเก่าๆ

 

นึกถึงคําที่ NPC นายพลพูดกับฉัน –

 

– จบชีวิตของเจ้า ข้าทําไม่ได้

 

– ข้าขอขอบคุณแทนจักรวรรดิ

 

– โปรดดูแลอาณาจักรของพวกเราให้ดี

 

อ่า ฉันเข้าใจแล้ว

 

นี่คือสิ่งที่มันเป็น

 

“เขา”

 

ฉันไม่รู้ว่าทําไม แต่เสียงหัวเราะก็เล็ดออกมาจากปากของฉัน

 

“ฮาฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฮาฮ่าฮ่าฮา อะฮาฮ่าฮ่าฮ่า”

 

ฉันหัวเราะขณะกุมท้อง

 

นายพลมองมาที่ฉันอย่างตกตะลึง ทหารทุกคนหันมามองฉัน แม่มดมองฉันแปลกๆ แบ ยุรยองมองมาที่ฉันเหมือนคนบ้า

แต่ฉันไม่สนใจ

 

ฉันเสียใจที่ชาวเมืองของจักรวรรดิลืมเกี่ยวกับตัวฉัน แต่อารมณ์ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นได้เกาะกุมทั่วร่างกายของฉัน

 

“อ่า”

 

ฉันหายใจเข้าลึกๆและอ้าปาก

 

” จักรวรรดิ!”

 

เสียงคํารามดังออกมาจากปากของฉัน

 

ไหล่ของนายพลกระตุก

 

“ฉันปกป้อง!”

 

ทหารบนกําแพงเมืองหยุดชะงัก

 

“ฉันปกป้องอาณาจักรของพวกคุณ!”

 

และฉันก็ไม่หยุด

 

เสียงคํารามดั่งราชสีห์ของฉันถูกเสริมพลังด้วยออร่าสีแดง

 

“ฉัน! รักษาสัญญา!”

 

เหล่าชาวเมืองของจักรวรรดิหันหน้ามา

 

บางคนมองมาจากถนน บางคนมองมาจากตลาดบางคนก็มองมาจากบ้านของพวกเขา

 

เสียงของฉันดังขึ้นในเมือง ดังไปบนกําแพงเมืองฉันหัวเราะดังสนั่น เสียงหัวเราะของฉันดังขึ้นและดังขึ้นไปบนหอคอย

 

ฉันชี้ไปที่ท้องฟ้าด้านบนป้อมปราการหลายร้อยวัน

 

ด้วยความคิดที่ว่าฉันไม่ต้องการให้มีคนตายแม้แต่คนเดียวความจริงที่ว่าฉันเอาชนะปีศาจแห่งห่าฝนหลังจากผ่านไปหลายร้อยวัน

 

“ฉันภูมิใจ!”

 

ฉันมีความสุขมาก

 

“ฉันทําได้!”

 

มันเป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันที่ฉันรู้สึกแบบนี้

 

ฉันใช้ชีวิตอยู่เหมือนเศษถังขยะ ฉันอิจฉาคนอื่นๆหัวเราะเยาะพวกเขาและใช้ชีวิตไปวันๆ ดื่มเหล้าไปวันๆ

 

ฉันทุ่มสุดชีวิต ฉันเสี่ยงชีวิตของตัวเอง

 

แต่ไม่ใช่สําหรับวันนี้

[ด่านเคลียร์]

 

วันนี้ฉันได้ยืนหยัด

 

[วันนี้ด่านชั้นที่ 12 ได้ถูกเคลียร์แล้ว]

 

ฉันสามารถยืนต่อหน้าผู้คนได้

ต่อหน้าแม่มดและเซียนดาบ

 

และต่อหน้าคนทั่วทั้งโลก

 

ที่สําคัญที่สุดฉันสามารถยืนต่อหน้าตัวเองได้แล้ว

 

[แจ้งให้ทุกท่านทราบอีกครั้ง]

 

ฉันสามารถภูมิใจในตัวเองได้

 

[วันนี้ด่านชั้นที่ 12 ได้ถูกเคลียร์แล้ว]

 

ฉันอาจจะเป็นคนแบบนั้นก็ได้

 

[กําลังคํานวณผู้เข้าร่วม…]

 

[การคํานวณเสร็จสิ้น]

 

ฉันมีความสุขมากจนรู้สึกเหมือนหัวใจแทบจะระเบิด

 

[กําลังประกาศผู้ที่มีส่วนน่วมทั้ง 3 คน]

แสงถูกสลักลงบนท้องฟ้า

 

[การจัดอันดับผู้มีส่วนร่วม]

 

อันดับ 1. ราชาแห่งความตาย

 

อันดับ 2 แม่มด

 

อันดับ 3. เซียนดาบ

 

พวกมันอาจเป็นตัวอักษรที่ NPC มองไม่เห็น

 

นายพลตัวแข็งค้างเมื่อเจอกับเสียงคํารามของฉัน

 

“จะเจ้าเป็นอะไรน่ะ…”

 

“ซาบาส เอจิม!”

 

นายพลสะดุ้ง

ฉันมองลงไปที่เขาจากป้อมปราการ

 

“ดูแลอาณาจักรให้ดี!”

 

“ขอโทษที นี่คือการสิ้นสุดหน้าที่ของนักรบ! แต่แค่จับราชาปีศาจนั้นยังไม่พอ! อาจมีบางอย่างที่กัดกินอาณาจักรโดยที่มองไม่เห็นอีกมากมาย! มันมีแน่ๆ!”

 

ฉันฉีกยิ้ม

 

“จัดการเรื่องนั้นเองด้วยล่ะ!”

 

“เราจะไปกันแล้ว! เฮ้! ไปกันเถอะ!”

 

ปากของนายพลเปิดและปิดเหมือนปลาทอง

 

“ขะ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไรก่อนหน้านี้ นี่มันเรื่องอะไร”

 

– อาฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!

 

แบ ยุรยองกลิ้งไปมากลางอากาศโดยกุมท้องของเขา

 

– เฮือก! ฮีธีฮีฮี! อีกข อะ ไอ้เจ้าบ้า! ไอ้เจ้าคนโรคจิต! ไอ้ซอมบี้! ฉันคิดว่านายจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่นายก็โอ้อวดโจ่งแจ้งแบบนั้น! ฉันอยากรู้ว่าสมองของนายทํางานยังไง เฮ้! คิมซอมบี้! ฉันได้รู้แล้ว! นายควรค่าแก่การค้นคว้า

 

“อ่า”

 

ฉันเสยผมไปข้างหลัง

 

“แล้วฉันจะทํายังไงล่ะ? วันนี้ฉันอารมณ์ดีมากเลยนะ

 

– ไอ้ ไอ้เจ้าบ้า! เจ้าคิมโรคจิต! อีก ก็ดี! ฉันชอบที่นายไม่ได้ทําตัวเหมือนพวกคนขี้แพ้! อุฮิฮิฮิ

 

แบฮฺรยองยังคงกลิ้งไปมาในอากาศเหมือนกับว่ายังกลิ้งไม่

พอ

 

ฉันหันไปมองแม่มด

 

“เอาล่ะ แม่มดมังกรดํา! เธอกําลังทําอะไรอยู่? ไปที่ชั้น13กันเถอะ!”

 

แม่มดถอนหายใจ

 

“นั่นสินะ…ไม่มีคนปกติในหมู่แรงเกอร์ระดับท้อปไม่เป็นไรฉันเข้าใจ ฉันจะคิดว่ามันยังพอทําใจได้เพราะอย่างน้อยนายยังดีกว่านักถามนอกรีต”

 

“ว่าไงนะ?”

 

แม่มดคว้ามือของฉันและใช้สกิลของเธอ ต่อมาพวกเรากลับมาอยู่กลางทุ่งหญ้าอีกครั้ง เธอไม่พูดอะไรมากและคว้าแขนของเซียนดาบ

 

เจ้าของกิลด์มังกรดํามองมาที่หน้าของฉัน

 

“การเข้าเป็นคนแรกจะมอบให้ผู้ที่เป็นอันดับ 1 เสมอ”

 

เธอพูด

 

“นายสามารถพูดว่าเคลื่อนย้ายสําหรับพวกเราทุกคนราชาแห่งความตาย”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉายาของฉันถูกเรียก

 

วันนี้เต็มไปด้วยครั้งแรก

 

“ครับ คุณผู้หญิง”

 

ฉันยิ้ม

 

“ เคลื่อนย้าย”

 

และ เรามุ่งหน้าสู่ชั้นต่อไป

 

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 41: ช่วงเวลาของเขา (2)

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 41: ช่วงเวลาของเขา (2)

SSS-Class Suicide Hunter SSSH ตอนที่ 41: ช่วงเวลาของเขา (2)

 

SSSH ตอนที่ 41: ช่วงเวลาของเขา (2)

 

ฉันไม่ใช่คนเดียวที่รายล้อมไปด้วยแสง

 

ค้นหาตัวตนของราชาปีศาจที่ชั้น 12 ไม่พบ]

 

[ยืนยันการล่าถอยของราชาปีศาจ]

 

[ประวัติศาสตร์ได้ถูกเปลี่ยนแปลง]

 

แสงสีขาวกระจายไปทุกที่ ส่องแสงจางๆจนเหมือนหมอกแสงได้ปกคลุมทุ่งหญ้าในทันทีและยังครอบคลุมเมืองหลวงของจักรวรรดิเอจิม

 

เม็ดฝน

 

มันสามารถอธิบายได้ว่า แสงโปรยปรายพัดผ่านอากาศเหมือนดอกแดนดิไลออน

 

“นี่มัน..?”

 

แม่มดมองไปรอบๆโดยไม่รู้ว่าต้องทําตัวอย่างไร

 

“คิม กงจาเกิดอะไรขึ้น?”

 

“เอ่อ ไม่รู้สิ นี่เป็นครั้งแรกสําหรับฉันเหมือนกัน มันก็…”

ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทําอย่างไร

 

เมื่อเห็นโลกถูกปกคลุมไปด้วยแสงสว่างฉันจึงถามในใจ

 

“จักรพรรดิดาบ นายรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”

 

– ไม่ นี่เป็นครั้งแรกสําหรับฉันเหมือนกัน นี่มันคืออะไร?มันน่ากลัว

นอกจากเวลาที่เขาสอนฉันเกี่ยวกับดาบแล้วเขาก็ไร้ประโยชน์

 

ฉันไม่รู้ว่ากอริลลาที่โง่เขลาตัวนี้ไปถึงชั้น 99 ได้ยังไง

 

– หืม? เฮ้ คิมซอมบี้ นี่นายกําลังด่าฉันเหรอ?

 

“ไม่มีทางน่า ฉันแค่คิดว่านายน่าทึ่งมากและคนต่ําต้อยอย่างฉันจะไม่สามารถเข้าใจนายได้

 

– แปลกมาก นายดูเหมือนว่านายกําลังแอบด่าฉันอยู่

 

แบ ยุรยองขมวดคิ้วและบ่น

 

แม้ในขณะที่เรากําลังคุยกัน ฝนแสงก็ยังคงตกกระหน่ํา

 

“ฮะ?

 

ตอนนั้นเองที่ฉันรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง

 

ฉันชี้นิ้วไปที่กําแพงเมืองขนาดมหึมาของจักรวรรดิ

 

“แม่มดมังกรดํา ดูทางนั้นสิ”

 

“หืม?”

 

“กําแพงเมือง ดูเหมือนว่าธงทั้งหมดจะหายไป”

 

ธงบนกําแพงเมืองที่มีสีแดงและสีทองหายไปอย่างรวดเร็วธงหลายร้อยผืนลดลงเหลือเพียงหลายสิบผืนในทันทีและพวกมันยังคงหายไปอย่างต่อเนื่อง

 

” ใช่ นายพูดถูก”

 

แม่มดขมวดคิ้ว

 

“รอฉันสักครู่ เราควรไปตรวจสอบ

 

“ใช่ ฉันเห็นด้วย”

 

“เทเลพอร์ต!”

 

แม่มดจับมือฉันและใช้สกิลของเธอ ช่วงเวลาต่อมาเราไม่ได้อยู่กลางทุ่งหญ้า แต่อยู่บนป้อมปราการที่สูงที่สุดของจักรวรรดิมุมมองที่แปลกใหม่ปรากฏในสายตาของเรา

 

“พระเจ้า”

 

แม่มดพูดพึมพําเบาๆ “ทุกอย่างเปลี่ยนไป”

 

มันเปลี่ยนไปจริงๆ

 

กระโจมของผู้อพยพและพื้นที่ที่แออัดถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวและ พวกมันก็หายไป ราวกับว่าพวกันไม่เคยมีอยู่จริง

 

เสื้อผ้าของชาวเมืองบนท้องถนนก็เปลี่ยนไปเช่นกันผ้าขี้ริ้วสกปรกกลายเป็นเสื้อผ้าปกติ แม้แต่ผลไม้ ในตลาดก็เปลี่ยนไปแอปเปิ้ลเน่าเริ่มสุกและดูน่าทาน

 

ฉันพูดพึมพําโดยไม่รู้ตัว

 

“ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลง

 

“อะไรนะ?”

 

“ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปแล้ว”

 

จํานวนทหารยามรอบกําแพงเมืองลดลงอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน

 

ไม่เพียงแค่ตัวเลข แต่การแสดงออกของพวกเขา ก็เปลี่ยนไปด้วย

 

ใบหน้าของพวกเขาไม่ได้เต็มไปด้วยความกลัวและสิ้นหวังต่อการปรากฏตัวของราชาปีศาจ ดูเหมือนพวกเขาเบื่อกับหน้าที่ของพวกเขา

 

“โดยปกติจักรวรรดิเอจิมควรถูกโจมตีโดยราชาปีศาจไม่ว่าพวกเขาจะชนะสงครามหรือถูกทําลายเพราะความพ่ายแพ้-ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม พวกเขาควรจะต้องต่อสู้กับราชาปีศาจแต่…”

 

ฉันกลืนน้ําลาย

 

“ในโลกนี้การโจมตีของราชาปีศาจกลายเป็น [ไม่มีอยู่”

 

ในขณะที่ไม่มีใครรู้

 

ในช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้ เหตุการณ์ที่ราชาปีศาจโจมตีหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์

 

ใช่แล้ว

 

ฉันทําให้มันหายไป

 

“ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไป..”

 

และผลลัพธ์นั้นก็ปรากฏออกมาต่อหน้าต่อตาฉัน

 

[กําลังแก้ไขด่านชั้นที่ 11]

 

[กําลังแก้ไขด่านชั้นที่ 1]

 

แสงสีขาวปกคลุมไปทั่วเมือง

 

แสงนั้นสัมผัสใบหน้าของขอทานเด็ก

 

สายฝนแห่งแสงโปรยปรายลงบนเสื้อผ้าของชายคนหนึ่งที่กําลังกังวลเกี่ยวกับอาหารในวันพรุ่งนี้

 

ซ่าาาา..

 

แสงลอยไปทั่วเหมือนดอกแดนดิไลออน

 

ในตลาด ตรงหัวมุมถนน บนโคมไฟข้างถนนและบนคนที่กําลังกลับบ้าน

 

มันขีดเขียนโลกเบาๆ

 

[การแก้ไขเสร็จสิ้น]

 

และไม่นานมันก็จางหายไป

 

มันหายไปที่ไหนสักแห่ง

 

ฉันปิดปากไป

 

แม่มดก็ทําเช่นเดียวกัน

 

ในโลกที่หยุดชั่วคราวเราไม่ได้ยินอะไรเลยเพราะเราทงคู่ต่างเงียบ มันจึงเหมือนกับว่าโลกกําลังกลั้นหายใจ

 

แต่ทันใดนั้นเอง

 

– ทุกคน ถูกๆ!”

 

หลังจากนั้นไม่นาน ความเงียบก็ถูกทําลาย

 

“แอปเปิ้ลที่เพิ่งมาจากเอลบรานท์! แอปเปิ้ลสดๆ!คุณชายแม้แต่เอลฟ์ก็ยังต้องซื้อแอปเปิ้ลตามฤดูกาลพวกนี้!มาดูแอปเปิ้ลสดๆพวกนี้กันเร็ว!”

 

เสียง

 

“วันนี้น้ําในห้องซาวน่าแย่มาก ข้ามองเห็นคราบสกปรก พระเจ้า เราควรทําอย่างไรถ้าคนที่ดูแลมันไม่…”

 

ฉันได้ยินเสียง

 

หลังจากที่ฉันยอมรับเควส เวลาที่หยุดชั่วคราวก็เริ่มไหลอีกครั้ง

 

“ซู่! พวกองค์ชายรัชทายาททําตัวแย่จริงๆ! ข้าได้ยินเสียง จักรพรรดิตะคอกใส่พวกเขาทุกคืนที่กําแพงวัง มันเป็นแค่ข่าวลือ แต่ข้าคิดว่า…”

 

“เย็นนี้ดื่มกันดีไหม? แค่พวกเรา”

 

“บริจาคหน่อย! แค่นิดหน่อย! เทพธิดารักทุกคน”

 

“แอปเปิ้ลเอลบรานท์ที่แม้แต่เอลฟ์ก็ยังชอบ!ถูกๆจ้า!”

 

โลกเริ่มกลับมาหายใจอีกครั้ง

 

“พวกเจ้าตรงนั้น!”

 

ในหมู่พวกเขา มีเสียงเรียกพวกเรา

 

” พวกเจ้ามาจากไหน?!”

 

แม่มดและฉันหันหัวไปตามทิศทางของเสียง นายพลคนหนึ่งถือดาบของเขาบนกําแพงเมือง เขาขมวดคิ้วอย่างหวาดกลัว

 

” หยาบคาย! ใครกันที่กล้าเหยียบป้อมปราการของจักรวรรดิ?! ลงมาเดี๋ยวนี้!”

 

มันเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย

 

ฉันพึมพํา

 

“ซาบาส เอจิม…”

 

ตาของนายพลเบิกกว้าง เขาดูเหมือนว่าเขาเพิ่งเคยเห็นฉันเป็นครั้งแรก

 

“เฮอะ! ทําไมคนอย่างเจ้าถึงรู้จักชื่อของข้า?”

ฉันปิดปาก

 

เข้าใจล่ะ”

 

เขาเป็นนายพลที่ควรจะอยู่ชั้น 11

 

ชาวเมืองของอาณาจักรที่ทักทายเหล่าฮันเตอร์ด้วยความใจ

 

NPC ที่ฉันคัดลอกสกิลหลังจากตาย

 

“บัดซบ! นี่พวกเจ้าไม่ได้ยินข้าบอกให้ลงมาหรือยังไง?”

 

เขากําลังตะโกนเหมือนกําลังคุยกับคนแปลกหน้า

 

แม้แต่ประวัติศาสตร์ของชั้น 11 ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

 

ตึก ตึก

 

“อา”

 

หัวใจของฉันก็สั่นสะท้านทันที

 

อารมณ์ที่ไม่รู้จักโอบล้อมหัวใจ หน้าอก และร่างกายของฉัน ฉันพูดไม่ออก ทําไมถึงเป็นฉัน? โลกได้พบกับลมหายใจแล้วแต่เสียงของฉันดูเหมือนจะถูกบางสิ่งเข้าครอบงํา

 

ฉันปิดปากและมองไปที่นายพล

 

ตอนนี้มันเป็นความทรงจําเก่าๆ

 

นึกถึงคําที่ NPC นายพลพูดกับฉัน –

 

– จบชีวิตของเจ้า ข้าทําไม่ได้

 

– ข้าขอขอบคุณแทนจักรวรรดิ

 

– โปรดดูแลอาณาจักรของพวกเราให้ดี

 

อ่า ฉันเข้าใจแล้ว

 

นี่คือสิ่งที่มันเป็น

 

“เขา”

 

ฉันไม่รู้ว่าทําไม แต่เสียงหัวเราะก็เล็ดออกมาจากปากของฉัน

 

“ฮาฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฮาฮ่าฮ่าฮา อะฮาฮ่าฮ่าฮ่า”

 

ฉันหัวเราะขณะกุมท้อง

 

นายพลมองมาที่ฉันอย่างตกตะลึง ทหารทุกคนหันมามองฉัน แม่มดมองฉันแปลกๆ แบ ยุรยองมองมาที่ฉันเหมือนคนบ้า

แต่ฉันไม่สนใจ

 

ฉันเสียใจที่ชาวเมืองของจักรวรรดิลืมเกี่ยวกับตัวฉัน แต่อารมณ์ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นได้เกาะกุมทั่วร่างกายของฉัน

 

“อ่า”

 

ฉันหายใจเข้าลึกๆและอ้าปาก

 

” จักรวรรดิ!”

 

เสียงคํารามดังออกมาจากปากของฉัน

 

ไหล่ของนายพลกระตุก

 

“ฉันปกป้อง!”

 

ทหารบนกําแพงเมืองหยุดชะงัก

 

“ฉันปกป้องอาณาจักรของพวกคุณ!”

 

และฉันก็ไม่หยุด

 

เสียงคํารามดั่งราชสีห์ของฉันถูกเสริมพลังด้วยออร่าสีแดง

 

“ฉัน! รักษาสัญญา!”

 

เหล่าชาวเมืองของจักรวรรดิหันหน้ามา

 

บางคนมองมาจากถนน บางคนมองมาจากตลาดบางคนก็มองมาจากบ้านของพวกเขา

 

เสียงของฉันดังขึ้นในเมือง ดังไปบนกําแพงเมืองฉันหัวเราะดังสนั่น เสียงหัวเราะของฉันดังขึ้นและดังขึ้นไปบนหอคอย

 

ฉันชี้ไปที่ท้องฟ้าด้านบนป้อมปราการหลายร้อยวัน

 

ด้วยความคิดที่ว่าฉันไม่ต้องการให้มีคนตายแม้แต่คนเดียวความจริงที่ว่าฉันเอาชนะปีศาจแห่งห่าฝนหลังจากผ่านไปหลายร้อยวัน

 

“ฉันภูมิใจ!”

 

ฉันมีความสุขมาก

 

“ฉันทําได้!”

 

มันเป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันที่ฉันรู้สึกแบบนี้

 

ฉันใช้ชีวิตอยู่เหมือนเศษถังขยะ ฉันอิจฉาคนอื่นๆหัวเราะเยาะพวกเขาและใช้ชีวิตไปวันๆ ดื่มเหล้าไปวันๆ

 

ฉันทุ่มสุดชีวิต ฉันเสี่ยงชีวิตของตัวเอง

 

แต่ไม่ใช่สําหรับวันนี้

[ด่านเคลียร์]

 

วันนี้ฉันได้ยืนหยัด

 

[วันนี้ด่านชั้นที่ 12 ได้ถูกเคลียร์แล้ว]

 

ฉันสามารถยืนต่อหน้าผู้คนได้

ต่อหน้าแม่มดและเซียนดาบ

 

และต่อหน้าคนทั่วทั้งโลก

 

ที่สําคัญที่สุดฉันสามารถยืนต่อหน้าตัวเองได้แล้ว

 

[แจ้งให้ทุกท่านทราบอีกครั้ง]

 

ฉันสามารถภูมิใจในตัวเองได้

 

[วันนี้ด่านชั้นที่ 12 ได้ถูกเคลียร์แล้ว]

 

ฉันอาจจะเป็นคนแบบนั้นก็ได้

 

[กําลังคํานวณผู้เข้าร่วม…]

 

[การคํานวณเสร็จสิ้น]

 

ฉันมีความสุขมากจนรู้สึกเหมือนหัวใจแทบจะระเบิด

 

[กําลังประกาศผู้ที่มีส่วนน่วมทั้ง 3 คน]

แสงถูกสลักลงบนท้องฟ้า

 

[การจัดอันดับผู้มีส่วนร่วม]

 

อันดับ 1. ราชาแห่งความตาย

 

อันดับ 2 แม่มด

 

อันดับ 3. เซียนดาบ

 

พวกมันอาจเป็นตัวอักษรที่ NPC มองไม่เห็น

 

นายพลตัวแข็งค้างเมื่อเจอกับเสียงคํารามของฉัน

 

“จะเจ้าเป็นอะไรน่ะ…”

 

“ซาบาส เอจิม!”

 

นายพลสะดุ้ง

ฉันมองลงไปที่เขาจากป้อมปราการ

 

“ดูแลอาณาจักรให้ดี!”

 

“ขอโทษที นี่คือการสิ้นสุดหน้าที่ของนักรบ! แต่แค่จับราชาปีศาจนั้นยังไม่พอ! อาจมีบางอย่างที่กัดกินอาณาจักรโดยที่มองไม่เห็นอีกมากมาย! มันมีแน่ๆ!”

 

ฉันฉีกยิ้ม

 

“จัดการเรื่องนั้นเองด้วยล่ะ!”

 

“เราจะไปกันแล้ว! เฮ้! ไปกันเถอะ!”

 

ปากของนายพลเปิดและปิดเหมือนปลาทอง

 

“ขะ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไรก่อนหน้านี้ นี่มันเรื่องอะไร”

 

– อาฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!

 

แบ ยุรยองกลิ้งไปมากลางอากาศโดยกุมท้องของเขา

 

– เฮือก! ฮีธีฮีฮี! อีกข อะ ไอ้เจ้าบ้า! ไอ้เจ้าคนโรคจิต! ไอ้ซอมบี้! ฉันคิดว่านายจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่นายก็โอ้อวดโจ่งแจ้งแบบนั้น! ฉันอยากรู้ว่าสมองของนายทํางานยังไง เฮ้! คิมซอมบี้! ฉันได้รู้แล้ว! นายควรค่าแก่การค้นคว้า

 

“อ่า”

 

ฉันเสยผมไปข้างหลัง

 

“แล้วฉันจะทํายังไงล่ะ? วันนี้ฉันอารมณ์ดีมากเลยนะ

 

– ไอ้ ไอ้เจ้าบ้า! เจ้าคิมโรคจิต! อีก ก็ดี! ฉันชอบที่นายไม่ได้ทําตัวเหมือนพวกคนขี้แพ้! อุฮิฮิฮิ

 

แบฮฺรยองยังคงกลิ้งไปมาในอากาศเหมือนกับว่ายังกลิ้งไม่

พอ

 

ฉันหันไปมองแม่มด

 

“เอาล่ะ แม่มดมังกรดํา! เธอกําลังทําอะไรอยู่? ไปที่ชั้น13กันเถอะ!”

 

แม่มดถอนหายใจ

 

“นั่นสินะ…ไม่มีคนปกติในหมู่แรงเกอร์ระดับท้อปไม่เป็นไรฉันเข้าใจ ฉันจะคิดว่ามันยังพอทําใจได้เพราะอย่างน้อยนายยังดีกว่านักถามนอกรีต”

 

“ว่าไงนะ?”

 

แม่มดคว้ามือของฉันและใช้สกิลของเธอ ต่อมาพวกเรากลับมาอยู่กลางทุ่งหญ้าอีกครั้ง เธอไม่พูดอะไรมากและคว้าแขนของเซียนดาบ

 

เจ้าของกิลด์มังกรดํามองมาที่หน้าของฉัน

 

“การเข้าเป็นคนแรกจะมอบให้ผู้ที่เป็นอันดับ 1 เสมอ”

 

เธอพูด

 

“นายสามารถพูดว่าเคลื่อนย้ายสําหรับพวกเราทุกคนราชาแห่งความตาย”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉายาของฉันถูกเรียก

 

วันนี้เต็มไปด้วยครั้งแรก

 

“ครับ คุณผู้หญิง”

 

ฉันยิ้ม

 

“ เคลื่อนย้าย”

 

และ เรามุ่งหน้าสู่ชั้นต่อไป

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset