Super God Gene – ตอนที่ 2120

“ไม่แปลกใจเลยที่เผ่าดราก้อนถูกกล่าวขานว่าเป็นเผ่าที่กล้าหาญที่สุด ด้วยพลังแบบนั้น พวกเขาไม่มีความจำเป็นเกรงกลัวใครในระดับเดียวกัน” หานเซิ่นชื่นชมคู่ต่อสู้ของเขา

 

พลังของหานเซิ่นไม่ได้ยอดเยี่ยมแบบดราก้อนเอท วิชากายหยกทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่ในตอนที่มันพัฒนาไปเป็นระดับมาร์ควิส มันมอบพลังน้ำแข็งให้กับเขาด้วย การวิวัฒนาการของมันจึงไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความแข็งแกร่งของร่างกายเพียงอย่างเดียว ดังนั้นเมื่อเทียบกับร่างมังกรทองของดราก้อนเอทแล้ว ร่างกายของเขายังด้อยกว่า

 

หานเซิ่นไม่สามารถใช้แสงเทพของกายหยกในการต่อสู้นี้ได้เช่นกัน ไม่อย่างนั้นผู้คนก็อาจจะสงสัยว่าเขาคือหานเซิ่น ซึ่งถ้าเขาสามารถใช้มันได้ โอกาสที่เขาจะต่อกรกับดราก้อนเอทได้ก็จะเพิ่มขึ้นมาก

 

ดราก้อนเอทแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้หานเซิ่นก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ผู้ชมที่ดูการต่อสู้อยู่ก็ประหลาดใจกับสถานการณ์ที่พลิกผันเร็วแบบนี้

 

ดราก้อนเอททรงพลังอย่างมาก ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ การเอาชนะดยุกคนหนึ่งก็เป็นแค่เรื่องง่ายๆ

 

“เผ่าพันธุ์ดราก้อนแข็งแกร่งขึ้นมาก แถมดราก้อนเอทก็เป็นเพียงแค่อันดับที่ 8 ของรุ่นนี้อีกด้วย! เขาแข็งแกร่งถึงขนาดที่ทำให้ผู้คนในระดับเดียวกันไม่มีหวังจะเอาชนะเขาได้”

 

“ข้าต้องยอมรับว่าดอลลาร์คนนั้นไม่เลวเลย เขาต่อสู้กับดราก้อนเอทมาได้ถึงจุดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ดราก้อนเอทใช้ร่างมังกรทองของเขาในการต่อสู้”

 

“ดอลลาร์เองก็แข็งแกร่งไม่เบา เขาต้องเป็นหนึ่งในมาร์ควิสที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเขาไม่โชคร้ายมาเจอกับดราก้อนเอทเร็ว เขาก็คงจะเข้าไปรอบลึกๆกว่านี้ได้”

 

“น่าเสียดายจริงๆ”

 

“ดราก้อนยังคงแข็งแกร่งที่สุดจริงๆ ด้วยพลังที่พวกเขามี รวมกับร่างมังกรทองนั่นอีก ดราก้อนเอทอาจจะท้าชิงกับเนตรมารได้เลย”

 

“ข้าก็คิดแบบนั้น ร่างมังกรทองทำให้ดราก้อนเอทไร้เทียมทาน แถมพลังของเขายังดูเหมือนจะไม่มีขอบเขต มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ! ถ้าร่างมังกรของเขาแข็งแกร่งมากพอ เขาก็อาจจะต่อกรกับราชันคนหนึ่งได้เลย”

 

“ข้าคิดว่าการต่อสู้กับราชันคนหนึ่งอาจจะเป็นอะไรที่เวอร์เกินไป ไม่ว่าร่างมังกรทองของเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางทนต่อพลังที่ราชันคนหนึ่งมีได้”

 

ภายในปราสาทนภา ยวิ๋นซู่อี ยวิ๋นซู่ซาง กระเรียนพันขนและเฟิร์สเดย์กำลังดูการต่อสู้อยู่ด้วยกัน

 

ยวิ๋นซู่อีตกใจ “ดราก้อนนี่แข็งแกร่งจริงๆ! ข้าคิดว่าร่างกายของพวกเราชาวนภาอาจจะอ่อนแอกว่าพวกเขา”

 

กระเรียนพันขนพูด “ร่างกายของดราก้อนแข็งแกร่งกว่าพวกเราจริงๆ แต่พละกำลังไม่ใช่จุดเด่นของพวกเรา การต่อสู้จะถูกตัดสินด้วยสิ่งเดียว ซึ่งนั่นก็คือวิชาการต่อสู้ มันก็จริงที่ดราก้อนเอทคือที่สุดในด้านพละกำลังทางกายภาพ แต่ข้าเชื่อว่าไผ่เดียวดายของพวกเราต่อกรกับเขาได้”

 

“แล้วหานเซิ่นล่ะ?” ยวิ๋นซู่อีถาม

 

“หานเซิ่นแข็งแกร่ง แต่เขาไม่ใช่ชาวนภา ข้าแค่เปรียบเทียบระหว่างเผ่านภากับเผ่าดราก้อนเท่านั้น” กระเรียนพันขนยิ้มให้กับยวิ๋นซู่อี

 

ยวิ๋นซู่อีหน้าแดง “ข้าก็แค่ถามเฉยๆ”

 

“ยังไงซะตอนนี้พวกเราก็ไม่รู้ว่าหานเซิ่นอยู่ที่ไหน” เฟิร์สเดย์ถอนหายใจ

 

หลังจากที่เฟิร์สเดย์พูด ยวิ๋นซู่อีก็ดูหดหู่ขึ้นมาทันที ยวิ๋นซู่ซางพูด

“ไม่ใช่ว่าท่านดรีมบีสต์บอกว่าหานเซิ่นยังมีชีวิตอยู่หรอกหรอ? ท่านดรีมบีสต์ไม่ใช่คนที่จะพูดโกหก ข้าแน่ใจว่าเขาต้องกลับมาที่นี่ในอีกไม่นาน”

 

“ข้ารู้ว่าเขาจะกลับมา แต่มันน่าเสียดายที่เขาไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน” ยวิ๋นซู่อีพูด

 

หานเซิ่นเห็นดราก้อนเอทแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆโดยไม่มีวี่แววว่าจะหยุด เขาได้สร้างบาดแผลให้กับดราก้อนเอทหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ดราก้อนเอทสามารถสมานบาดแผลที่ได้รับทั้งหมดในเวลาเพียงไม่นาน

 

หานเซิ่นไม่สามารถใช้พลังเขี้ยวได้เช่นกัน และถึงเขาจะใช้มันได้ มันก็อาจจะไม่รุนแรงพอที่จะฉีกร่างมังกรทองของดราก้อนเอทได้อยู่ดี

 

ดราก้อนเอทพูดถูก มันไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องกลัวใครคนอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกัน และถึงแม้คู่ต่อสู้จะรู้เกี่ยวกับพลังของเขาอยู่ก่อนแล้ว มันก็เป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี

 

หานเซิ่นสามารถต่อสู้กับดราก้อนเอทได้ถ้าเขาเอาจริง แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถใช้พลังหลายๆอย่างได้ เนื่องจากเขาใช้ตัวตนของดอลลาร์อยู่ ดังนั้นเขาจึงยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับดราก้อนเอทไปมากกว่านี้

 

แต่การยอมแพ้ที่จะต่อสู้ต่อไปไม่ได้หมายความว่าหานเซิ่นคิดจะพ่ายแพ้ เขาแค่ต้องการจะจบการต่อสู้ซะเดี๋ยวนี้

 

ตอนนี้ดราก้อนเอทเป็นเหมือนกับเครื่องจักรสังหารที่กำลังไล่ล่าหานเซิ่น หานเซิ่นไม่สามารถสลัดเขาหลุดไปได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เมื่อหมัดของดราก้อนเอทปรากฏตรงหน้าของเขาอีกครั้ง เขาก็รวบรวมบางอย่างสีทองเพื่อตอบโต้ มันก็คือเหรียญๆหนึ่ง เขาเล็งไปที่หน้าผากของดราก้อนเอท

 

ในระยะที่ใกล้แบบนั้น ดราก้อนเอทไม่สามารถหลบหลีกมันได้ แต่เขาก็ไม่คิดจะทำอะไรแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว เขาเมินเฉยต่อเหรียญที่เข้ามาและยังคงชกหมัดเข้าหาหานเซิ่นต่อไป

 

หานเซิ่นชกหมัดไปปะทะกับดราก้อนเอท หมัดของเขาเคลื่อนไปในอากาศอย่างเงียบๆและมันก็ถูกผลักออกมาในทันที ร่างกายของหานเซิ่นลอยขึ้นไปราวกับก้อนเมฆ

 

หานเซิ่นลอยตัวอย่างไร้น้ำหนักบนท้องฟ้า และเขามองลงมาที่ดราก้อนเอทอย่างใจเย็น

 

ตอนนี้เหรียญไปติดอยู่ที่หน้าผากของดราก้อนเอทแล้ว ดราก้อนเอทย่อตัวและกระพือปีกเพื่อกลับไปจู่โจมหานเซิ่นที่อยู่ในท้องฟ้า

 

แต่เมื่อเขากระพือปีกมังกร เขาก็พบว่าตัวเองไม่สามารถบินขึ้นได้ เขายังคงอยู่บนพื้น

 

ทุกคนแปลกใจและไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น มันดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับดราก้อนเอท

 

มันดูเหมือนกับว่าเขาถูกรั้งเอาไว้โดยอะไรบางอย่าง แต่พลังพิชิตมารของดราก้อนควรจะลบล้างผลเสียใดๆออกไป พลังแห่งการผนึกไม่ควรจะได้ผลกับพวกเขา และนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่พวกเขาถูกกล่าวขานว่าไร้เทียมทาน

 

แต่ตอนนี้ดราก้อนเอทกำลังถูกหยุดรั้งโดยพลังบางอย่าง ทำให้เขาไม่สามารถบินขึ้นได้

 

“เจ้าอวดดีเกินไป! ร่างมังกรของเจ้าแข็งแกร่งก็จริง แต่มันไม่ได้ป้องกันทุกสิ่งทุกอย่าง” หานเซิ่นพูดอย่างมั่นใจขณะที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ

 

ดราก้อนเอทและอาภามังกรของเขาปะทุขึ้นมาราวกับภูเขาไฟ เขาจับเหรียญบนหน้าผากและพยายามจะดึงมันออก แต่ไม่ว่าเขาจะปลดปล่อยอาภามังกรออกมาสักแค่ไหน เหรียญนั่นก็ยังคงติดกับหน้าผากของเขา

 

ผู้ชมเห็นว่าดราก้อนเอทพยายามจะแกะเหรียญออกจากหน้าผาก แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหนเหรียญก็ติดแน่นบนหน้าผากของเขา

 

ดราก้อนเอทโกรธ เขาไม่สนใจอีกเกี่ยวกับเหรียญอีกต่อไป เขาต้องการเข้าไปชกหมัดใส่หานเซิ่น

 

อาภามังกรที่หมัดของเขาระเบิดออกมาราวกับภูเขาไฟ แต่เมื่อดราก้อนเอทก้าวออกไปข้างหน้า เขาก็ทรุดลงไปกับพื้น

 

ทุกคนตกตะลึง เมื่อเห็นว่าเหรียญๆเดียวสามารถทำให้ยอดฝีมืออย่างดราก้อนเอทตกอยู่ในสภาพแบบนั้น

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset