หลังจากมองดูแมลงมากมายหนีออกมาจากหุบเขา หานเซิ่นและคนอื่นๆก็มองไปที่รอยแยกด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขณะที่พวกเขาจ้องมองอยู่นั้น มือข้างหนึ่งก็ปรากฏออกมาเห็นในช่องว่าง
แต่รอยแยกนั้นเล็กมากๆ ดังนั้นมันเป็นเรื่องยากที่จะดันมือข้างหนึ่งออกมา หลังจากที่ความพยายามที่จะดันมือออกมาล้มเหลว มือนั้นก็ถูกดึงกลับไป และดวงตาลูกหนึ่งก็ปรากฏในรอยแยกแทน แต่เมื่อมันเห็นหานเซิ่นและคนอื่น ดวงตานั้นก็ถอยและหายไป
“นั่นเป็นซีโน่เจเนอิคหรือสมาชิกของอัศวินไอซ์บลูกัน?” จีชิงถาม
นั่นคงจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกแมลงทั้งหมดหนีออกมาจากรอยแยก พวกแมลงไม่ได้ดุร้ายอะไร และพวกมันก็ดูเหมือนจะไม่กินเนื้อด้วยซ้ำ
หานเซิ่นรู้สึกอยากรู้อยากเห็น ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปหากำแพงและชักมีดเขี้ยวผีสิงออกมา เขาฟันไปที่รอยแยกบนหินเพื่อทำให้มันกว้างขึ้น
กำแพงหินแข็งพอสมควร แต่มันหนาเพียงแค่หนึ่งนิ้วเท่านั้น และเหนือกำแพงขึ้นไปเป็นอะไรที่กลวงโบ๋ หานเซิ่นขุดรอยแยกให้เปิดกว้างมากพอที่คนจะสามารถเดินเข้าไปได้
ภายในถ้ำกว้างพอสมควร และพวกเขาทั้งหมดก็สามารถเข้าไปข้างในได้อย่างสบายๆโดยไม่ต้องเบียดเสียด แต่ถ้ำดูเหมือนจะไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยมือคน มันมีหินงอกหินย้อยอยู่เป็นจำนวนมาก และพวกแมลงสีม่วงก็ตะเกียกตะกายกันเกาะอยู่ตามกำแพงและพื้นของถ้ำ บางสิ่งบางอย่างจะต้องทำให้เหล่าแมลงภายในถ้ำตื่นกลัว
“พวกเธอรออยู่ที่นี่ ฉันจะไปดูสักหน่อย” หานเซิ่นพูดกับหวงฟูจิ้ง
“พวกเราไปดูด้วยกันเถอะ” จีชิงพูดพร้อมกับกระพริบตา
“พี่ให้พวกเราไปด้วยเถอะ วิญญาณอสูรราชาแมลงปีศาจก็อยู่กับพวกเรา ดังนั้นพวกเราไม่เป็นอะไรหรอก” หานเหยียนมองไปในถ้ำอย่างตื่นเต้น
หานเซิ่นไม่ได้ปฏิเสธ เพราะในตอนที่มือเผยออกมาให้เห็นก่อนหน้านี้ เขาได้ใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อสแกนมันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่ามันจะคืออะไรก็ตาม มันก็ดูไม่ได้แข็งแกร่งอะไร มือข้างนั้นไม่มีทางเหนือกว่าระดับดยุกไปได้
หานเซิ่นและพวกพ้องเดินเข้าไปในถ้ำ ขณะที่หานเหยียนเดินอยู่หน้าสุดเพื่อเป็นคนนำทีมสำรวจลึกเข้าไปในถ้ำอย่างร่าเริง
มันมีแมลงอยู่รอบๆเป็นจำนวนมาก และพวกมันดูจะแตกตื่นเมื่อถูกอะไรบางอย่างเข้าไปใกล้
พวกเขาเดินทางลึกเข้าไปในถ้ำ และพวกเขาก็เห็นแมลงวิ่งหนีแตกตื่นกันในทุกที่ที่พวกเขาเคลื่อนที่ไป มันมีเส้นทางมากมายให้เลือก และโครงสร้างของถ้ำก็ซับซ้อนราวกับเขาวงกต
พวกเขาเดินทางตามการเคลื่อนไหวของพวกแมลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งไปถึงถ้ำที่ใหญ่กว่าเดิม น่าแปลกที่มันไม่มีเส้นทางไหนให้เข้าไปอีก และภายในถ้ำก็ดูเหมือนจะเป็นที่อยู่อาศัยของของเถาวัลย์และเห็ดสีดำ ด้วยกำแพงโดยรอบที่ดูแน่นหนา มันก็ดูเหมือนไม่มีทางไหนให้พวกเขาไปได้นอกจากทางอุโมงค์ที่พวกเขาเพิ่งจะเข้ามา
“แปลกจริง มันควรจะเป็นที่นี่ มันหายไปไหนกันแน่? นี่พวกเราเดินมาผิดทางอย่างนั้นหรอ?” จีชิงถามขณะที่มองไปรอบๆถ้ำ
“พวกเรามาถูกทางแล้ว” หานเซิ่นพูดอย่างมั่นใจ เขาใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนสแกนรอบๆเพื่อหาร่องรอยของสิ่งมีชีวิตที่พวกเขากำลังตามหา
หานเซิ่นมองไปรอบๆ หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็มาหยุดอยู่ที่ก้อนหินก้อนหนึ่งใกล้ๆกับกำแพง เขาสะบัดมือของตัวเองเพื่อผลักก้อนหินออกไปและเผยให้เห็นถ้ำขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ด้านหลังก้อนหิน ชายคนนั้นซ่อนตัวอยู่ในนั้น เขาขดตัวเป็นลูกบอลเพื่อจะยัดตัวเองเข้าไปข้างใน
หลังจากที่ถูกค้นพบ ชายคนนั้นก็กรีดร้องออกมา หลังจากนั้นเขาก็คุกเข่าและอ้อนวอนด้วยเสียงที่เกือบจะฟังไม่ออก
“อย่า…อย่าฆ่าข้า…”
หานเซิ่นและพวกพ้องประหลาดใจ พวกเขารู้ว่าชายคนนั้นเป็นคนเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง
เอ็กซ์ตรีมคิงที่พวกเขาได้พบในหน่วยอัศวินไอซ์บลูเป็นผู้คนที่สูงส่ง ด้วยฐานะทางสังคมทำให้พวกเขาอยู่เหนือคนอื่นเกือบทั้งหมด และพวกเขาก็มักจะดูแข็งแกร่งและเคร่งขรึม นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นคนเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงในสภาพแบบนั้น
“เจ้าคือใครกัน?” จีชิงถามชายคนนั้น
“ข้า…ข้าเป็นอัศวินสำรองคนหนึ่งของหน่วยอัศวินไอซ์บลู ได้โปรดปล่อยข้าไป” เอ็กซ์ตรีมคิงชายพูด ในขณะเดียวกันเขาก็อ้อนวอนต่อหน้าหานเซิ่นซ้ำๆ
“อธิบายสถานการณ์ของเจ้า ไม่อย่างนั้นพวกเราจะพาเจ้ากลับไปที่หน่วยอัศวินไอซ์บลู” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
ชายคนนั้นดูหวาดกลัวอย่างมากกับเรื่องนั้น เขารีบอธิบายทุกอย่าง
เมื่อพวกหานเซิ่นได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด พวกเขาก็พบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อได้
เอ็กซ์ตรีมชายคนนี้เป็นเหมือนกับหานเซิ่น เขาถูกพามาในฐานะอัศวินสำรองของหน่วยอัศวินไอซ์บลู แต่ทว่าเขาเป็นเอ็กซ์ตรีมคิงคนหนึ่ง นอกจากนั้นเขายังเป็นกัปตันของทีมอัศวินอีกด้วย ภารกิจของเขาเหมือนกับหานเซิ่นที่ว่าต้องไปเก็บกวาดซีโน่เจเนอิคที่อาศัยอยู่รอบๆฐานทัพ แต่บริเวณที่เขาถูกมอบหมายไม่ใช่ที่พวกเขากำลังอยู่ในตอนนี้ เขาถูกมอบหมายให้เก็บกวาดทะเลทรายแห่งหนึ่ง
ทีมของเขาได้เดินทางไปพบโบราณสถานที่ใจกลางของทะเลทรายแห่งนั้น ซึ่งหลังจากที่ติดต่อไปหาผู้บังคับบัญชา พวกเขาก็ถูกสั่งให้รอการไปถึงของเหล่าอัศวินไอซ์บลูระดับสูง
แต่พวกเขาก็ต้องประหลาดใจที่เมื่อเหล่าอัศวินไอซ์บลูระดับสูงมาถึง พวกเขาไม่ได้เข้าไปข้างในเพื่อสำรวจ แต่พวกเขาสังหารทีมที่ค้นพบมันแทน
ไป๋เหวินเซวียนถูกแทงร่วงลงไปในบ่อน้ำ เหล่าอัศวินไอซ์บลูระดับสูงเชื่อว่าเขาถูกฆ่าตาย แต่ร่างกายของเขายังคงไม่ขาดใจถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บอย่างหนักก็ตาม หลังจากนั้นเขาก็ได้ซ่อนตัวอยู่ในน้ำ
บ่อน้ำนั้นเชื่อมต่อกับระบบน้ำใต้ดิน ไป๋เหวินเซวียนอยู่ภายในนั้นเป็นเวลานาน เขาไม่กล้าจะออกมาด้วยความกลัวที่จะถูกฆ่า
แต่เนื่องจากภายในถ้ำก็ไม่ได้ปลอดภัยซะทีเดียว เขาจึงย้ายที่ไปเรื่อยๆ ตลอด 2 วันที่ผ่านมาเขาถูกไล่ล่าโดยซีโน่เจเนอิค และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เขามาถึงส่วนนี้ของถ้ำ เขาเห็นแสงสว่างจากรอยแยกและต้องการจะหนีออกมาจากถ้ำ แต่เขาเห็นพวกหานเซิ่นอยู่ข้างนอก
หลังจากที่หานเซิ่นได้ยินเรื่องราว เขาก็ถามไป๋เหวินเซวียน
“โบราณสถานนั้นเป็นของอารยธรรมแบบไหนกัน?”
ไป๋เหวินเซวียนรีบตอบ “ข้าไม่รู้ ข้าไม่เคยเห็นสถาปัตยกรรม และข้าก็อ่านข้อความที่พวกเราเห็นไม่ออก”
ใบหน้าของหานเซิ่นมืดลง เขาพูดอย่างเย็นชา “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็คงจะช่วยเหลือเจ้าไม่ได้ เจ้ารู้ว่าสิ่งที่ทีมของพวกเราบันทึกจะไม่ถูกลบออกไป เจ้าถูกถ่ายภาพแล้ว ดังนั้นถ้าข้าไม่พาเจ้ากลับไป ข้าก็จะถูกลงโทษ”
“ไม่ เจ้าจะพาข้ากลับไปไม่ได้! ถ้าพวกเขารู้ว่าเจ้าพบข้าเข้า พวกเขาก็จะคิดว่าข้าบอกเจ้าเกี่ยวกับโบราณสถาน พวกเขาจะฆ่าเจ้าไปด้วย!” ไป๋เหวินเซวียนกรีดร้อง
“ข้าก็อยากจะรู้เห็นเหมือนกันว่าพวกเขาจะทำแบบนั้นจริงๆหรือเปล่า”
หานเซิ่นส่งสัญญาณให้พวกพ้องของเขาหยิบอาวุธออกมา มันดูเหมือนกับว่าพวกเขาจะฆ่าไป๋เหวินเซวียน
“เซเคร็ด!” ไป๋เหวินเซวียนตะโกน “มันเป็นโบราณสถานของเซเคร็ด!”