องค์ชายดาบดาราจ้องมองหลังของหานเซิ่นด้วยความโกรธ
“พวกเราไปกันเถอะ”
“องค์ชายจะจากไปทั้งๆแบบนี้อย่างนั้นหรอ?” องครักษ์อีกคนขององค์ชายดาบดาราดูโกรธขณะที่พูด
องค์ชายดาบดาราพูด “คนของข้าจะไม่ตายไปเปล่าๆ เขากล้าฆ่าคนในสวนของกษัตริย์ ดังนั้นกิเลนโลหิตจะต้องตาย พวกเราจะให้ศาลพิพากษาเขา”
หานเซิ่นขี่กิเลนโลหิตเข้าไปหาต้นไม้กษัตริย์ ขณะที่ในหัวกำลังคิด
‘จิตสังหารของกิเลนโลหิตนั้นแรงเกินไป ถ้ามันอยากจะฆ่าใคร เราก็ทำอะไรเพื่อหยุดมันไม่ได้ โชคดีที่อีกฝ่ายเป็นแค่องครักษ์คนหนึ่ง’
ขณะที่หานเซิ่นเข้าไปใกล้ต้นไม้กษัตริย์ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ยังหามังกรกษัตริย์รากแก้วไม่เจอ ดังนั้นเขาจึงเดินหน้าต่อไปอีก
มังกรกษัตริย์รากแก้วจะปรากฏตัวในตำแหน่งที่ต่างไปจากเดิมทุกครั้ง แต่วันนี้หานเซิ่นค่อนข้างโชคร้าย เขาไม่พบพวกมันระหว่างทางเลยแม้แต่ตัวเดียว
แต่ทว่ามันมีองค์ชายและองค์หญิงหลายคนตามหลังหานเซิ่นไป หานเซิ่นเมินเฉยต่อตัวตนของพวกเขา แต่หลังจากผ่านไปสักพักหานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าพวกเขาหยุดที่จะตามต่อไป นั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกกังวลเล็กน้อย
หานเซิ่นมองไปรอบๆและพบว่าเขาเข้ามาใกล้กับต้นไม้กษัตริย์ มันหนาเหมือนกับเสาขนาดยักษ์ และมันก็มีดินแดนกว่าหนึ่งร้อยไมล์ระหว่างเขากับต้นไม้
หานเซิ่นเห็นรอยย่นบนเปลือกของต้นไม้ที่กว้างใหญ่ราวกับหุบเขา แม้แต่มังกรกษัตริย์ที่เขาเคยเห็นก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น
หานเซิ่นชะลอความเร็วลง ที่นี่ต่างไปจากที่เขาจินตนาการเอาไว้ การเข้าไปใกล้ๆกับต้นไม้ไม่ได้ทำให้เขาหามังกรกษัตริย์รากแก้วได้มากขึ้นอย่างที่คิดเอาไว้
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็พบมังกรกษัตริย์ตัวหนึ่งที่มีชายในชุดคลุมสีขาวยืนอยู่ หานเซิ่นนึกถึงข้อมูลที่กุนซือไวท์มอบให้และระบุได้ว่าชายคนนั้นคือใคร
องค์ชายสิบเจ็ด ไป๋ชิงเสีย ถูกรู้จักกันในฐานะผู้ชายที่งดงามที่สุดในอาณาจักรกษัตริย์
ชายคนนั้นหล่อเหลาถึงขนาดที่ความงดงามของเขาทำให้เขาดูไร้เทียมทาน
แต่ถึงชิงเสียจะหล่อเหลา แต่ข้อมูลบอกเอาไว้ว่าเขาค่อนข้างอ่อนแอ แม่ของเขาได้รับบาดเจ็บขณะที่ตั้งครรภ์มทำให้ลูกในท้องได้รับบาดเจ็บไปด้วย เขาจึงเกิดมาไม่สมบูรณ์ เขาเป็นคนที่อ่อนแอมากๆในหมู่เอ็กซ์ตรีมคิง ร่างกายของเขาไม่เหมือนกับคนที่มีสายเลือดของราชวงศ์ เขาอ่อนแอยิ่งกว่าสามัญชนคนหนึ่งซะอีก
องค์ชายชิงเสียนั้นหล่อเหลามากๆ แต่เขาไม่ได้เก่งเรื่องไหนนอกจากเป็นอาหารตา เขาไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้เพื่อชิงอำนาจ ถ้าใครพูดถึงเขาก็มักจะเกี่ยวกับหน้าตาของเขา
“น้องสิบเจ็ด เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” หานเซิ่นขี่กิเลนโลหิตเข้าไปหาองค์ชายชิงเสีย แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ หานเซิ่นอยากจะรู้ว่าทำไมองค์ชายสิบเจ็ดถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียว
ดวงตาขององค์ชายชิงเสียเป็นเหมือนกับดวงดาว ใบหน้าของเขาดูคมคาย เขาดูเหมือนกับงานแกะสลักจากหินอ่อน แต่เขาดูไม่ค่อยดีนัก จริงๆแล้วเขาดูซีดเหมือนกับคนป่วย
เขาไม่ได้คาดคิดว่าหานเซิ่นจะเข้ามาพูดกับเขา องค์ชายชิงเสียมองมาที่หานเซิ่นและพูด
“ข้ามาที่นี่เพื่อรับการคุ้มครองจากคิงอีซ พี่สิบหกไม่ได้มาเพราะเรื่องนั้นอย่างนั้นหรอ?”
“เอิ่ม… ข้าก็แค่มาเดินเล่น” หานเซิ่นไม่รู้ว่าการคุ้มครองจากคิงอีซหมายถึงอะไร
‘บางทีมันอาจจะเป็นบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวอักษรภาษาคิงอีซบนใบไม้ของต้นไม้กษัตริย์ แต่นั่นจะช่วยคุ้มครองเขาได้ยังไง? เขาจะเด็ดใบไม้ใบหนึ่งจากต้นไม้กษัตริย์อย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
องค์ชายชิงเสียยิ้มและพูด “ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบัง ในเมื่อเจ้ามาถึงที่นี่แล้ว ถ้าเจ้าแข็งแกร่งพอที่จะปลุกรูปปั้นของอัลฟ่าให้ตื่นขึ้นมา แบบนั้นเจ้าก็ต้องได้รับการคุ้มครองจากคิงอีซอย่างแน่นอน”
“ถ้าเจ้าอยากจะได้การคุ้มครองจากคิงอีซ แบบนั้นข้าก็ไม่ควรจะรบกวนเจข้า ข้าจะไปเดินรอบๆต่อ” หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็เตรียมตัวจะจากไป
หานเซิ่นไม่รู้ถึงวิธีที่จะได้รับการคุ้มครองจากคิงอีซอะไรนี่ ดังนั้นถ้าเขาไม่ระมัดระวัง ตัวตนที่แท้จริงของเขาก็อาจจะถูกเปิดโปงได้ เขาจำเป็นต้องไปจากที่นี่ก่อนและทำความเข้าใจเกี่ยวกับคิงอีซในภายหลัง
องค์ชายชิงเสียกระโดดอย่างกะทันหัน ร่างกายของเขาเทเลพอร์ตมาอยู่ตรงหน้าหานเซิ่นและขวางทางหานเซิ่นเอาไว้
“ในตอนนี้คิงอีซยังไม่ตื่นขึ้นมา ข้าอยากรู้ว่าเจ้าเข้าใจรูปปั้นของอัลฟ่าได้ยังไง พี่สิบหกช่วยสอนข้าหน่อยได้ไหม” องค์ชายชิงเสียพูด ก่อนที่หานเซิ่นจะตอบตกลง เขาก็ตบฝ่ามือใส่หานเซิ่น
นิ้วมือของเขาเรียวยาวและพวกมันก็ส่องแสงสว่าง มันเป็นภาพที่งดงาม แต่ในขณะเดียวกันพวกมันก็ดูเข้มแข็ง
หานเซิ่นเห็นฝ่ามือของอีกฝ่ายที่ตบเข้ามาและสังเกตเห็นว่ามันไม่ได้มีพลังอยู่เลย แต่ถึงอย่างนั้นลูกตบของอีกฝ่ายก็ให้ความรู้สึกราวกับว่ามันเป็นอะไรที่ยากจะคาดเดา หานเซิ่นรู้สึกตกใจกับมัน
‘ผู้คนบอกว่าองค์ชายชิงเสียนั้นอ่อนแอ แต่ตอนนี้ฉันไม่คิดว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นความจริง ลูกตบของเขาเป็นบางสิ่งที่พิเศษมากๆ’ หานเซิ่นขมวดคิ้ว
กิเลนโลหิตคำรามออกมา มันต้องการจะกระโดดเข้าใส่องค์ชายชิงเสีย แต่หานเซิ่นห้ามมันเอาไว้
ภายในสวนของกษัตริย์มีกฎห้ามการฆ่าฟัน แต่กฎนั้นตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องเหล่าองค์ชายและองค์หญิงเท่านั้น มันยังพอจะอธิบายได้ ถ้าคนที่ถูกฆ่าเป็นแค่องครักษ์คนหนึ่ง แต่การฆ่าองค์ชายคนหนึ่งไม่เพียงจะทำให้กิเลนโลหิตถูกลงโทษเท่านั้น แต่หานเซิ่นเองก็จะถูกลงโทษด้วยเช่นกัน
หลังจากที่หยุดกิเลนโลหิต หานเซิ่นก็กระโดดลงจากหลังของกิเลนโลหิตและชกหมัดเข้าใส่องค์ชายชิงเสีย
หานเซิ่นใช้หมัดช็อคกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิงที่เขาเรียนรู้มาจากรูปปั้นอัลฟ่า คนอื่นๆได้เห็นแค่เงาของอัลฟ่า แต่หานเซิ่นเห็นรูปปั้นของอัลฟ่าใช้วิชานั้น
ปัง!
หมัดและฝ่ามือปะทะกัน หานเซิ่นและองค์ชายชิงเสียรู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาสั่นสะเทือน ขณะที่พวกเขาถูกผลักไปด้านหลัง ไม่มีฝ่ายไหนที่เป็นฝ่ายที่เหนือกว่า
หมัดของหานเซิ่นนั้นรวมพลังของร่างกายแห่งราชันออริจินอลเวเทอร์เข้าไปด้วย ถึงแม้มันจะแค่ระดับราชันขั้นแรก แต่มันก็ค่อนข้างทรงพลัง ถึงอย่างนั้นองค์ชายชิงเสียก็สามารถต่อสู้กับหานเซิ่นได้อย่างเท่าเทียม ดูเหมือนกับว่าข่าวลือที่ว่าองค์ชายชิงเสียมีร่างกายที่อ่อนแอจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว
‘เอ็กซ์ตรีมคิงเต็มไปด้วยยอดฝีมือจริงๆ เราจะประมาทใครไม่ได้เลย’ หานเซิ่นแปลกใจ
เหล่าองค์ชายและองค์หญิงที่มองดูจากระยะไกลเองก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน
ไป๋อี้ถูกรู้จักว่าเป็นคนที่บ้าบิ่นและละโมบ ขณะที่ไป๋ชิงเสียถูกรู้จักว่าเป็นคนที่อ่อนแอและเจ็บป่วย การที่องค์ชายทั้ง 2 ต่อสู้ใต้ต้นไม้กษัตริย์แบบนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลก
มันอาจจะเป็นความขัดแย้งที่เข้าใจได้ ถ้านี่เกิดขึ้นในสถานที่อื่น แต่ต้นไม้กษัตริย์อยู่ห่างออกไปแค่หนึ่งร้อยไมล์ และองค์ชายทั้ง 2 ก็อยู่ภายใต้คิงโคฟเวอร์ แม้แต่อัจฉริยะอย่างไป๋อู๋ฉางและไป๋หลิงซวงก็จะไม่เข้าไปในนั้น
คิงโคฟเวอร์ไม่ใช่สถานที่ที่อันตราย แต่มันมีพรของต้นไม้กษัตริย์อยู่ ถ้าต้นไม้กษัตริย์ยอมรับพวกเขา พวกเขาก็จะได้รับการคุ้มครองจากมัน พวกเขาจะถูกคุ้มครองโดยคิงอีซ
แต่ถ้าพวกเขาไม่ได้รับการยอมรับจากต้นไม้กษัตริย์ พวกเขาก็จะแค่ยืนเฉยๆอยู่ตรงนั้นอย่างเปล่าประโยชน์
องค์ชายและองค์หญิงหลายคนหวังจะได้รับการคุ้มครองจากคิงอีซ แต่พวกเขาไม่มีความมั่นใจพอที่จะลองดู เพราะถ้าพวกเขาไม่ได้รับพรหรือการคุ้มครองจากคิงอีซ พวกเขาก็จะถูกหัวเราะที่เป็นคนโชคร้าย