ใบหน้าของหานเซิ่นและกิเลนโลหิตถูกบีบเข้าหากัน หานเซิ่นลังเลว่าควรจะพากิเลนโลหิตกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ดีไหม ถึงแม้พลังของก็อตแซงชัวรี่อาจจะทำร้ายมัน แต่นั่นก็ยังดีกว่าที่ต้องถูกบีบเป็นไส้กรอกอยู่ที่นี่
หอยสังข์สายรุ้งไม่ได้เคลื่อนไหว มันยังคงดันกระจกเข้าใส่หานเซิ่นและกิเลนโลหิตเพื่อที่จะบดขยี้พวกเขาอย่างโหดร้าย หอยสังข์สีดำยืนอยู่ด้านนอกกระจกและมองมาที่พวกหานเซิ่นอย่างขบขัน มันขยับเข้ามาใกล้ๆและปล่อยบางสิ่งออกมาจากเปลือกของมัน ซึ่งพวกมันก็คือหอยสังข์สีดำตัวน้อยๆ
หอยสังข์ตัวน้อยล้อมกระจกเอาไว้เหมือนกับคลื่นทะเล พวกมันมีกันอยู่นับไม่ถ้วนและดูเหมือนกับเมฆที่ก่อตัวขึ้นมาจากหมึก
หานเซิ่นรู้สึกหนาวขึ้นมาเมื่อมองเห็นพวกมัน ถึงกระจกจะบีบเขาจนแบน แต่เขาก็จะไม่รู้สึกว่าตัวเองตายอย่างปลอยภัย ร่างกายของเขาจะถูกกลืนกินโดยเหล่าหอยสังข์ที่หิวกระหาย
ขณะที่หานเซิ่นกัดฟันและเตรียมตัวจะใช้วิชาโลหิตชีพจรเพื่อกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ ทันใดนั้นแสงสีแดงที่สวยงามก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขาและส่องลงมาถึงส่วนลึกของท้องทะเล
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นเปลวไฟที่ลุกโชติช่วงโฉบลงมาสู่ก้นทะเล มันเหมือนกับฟินิกซ์ที่บินลงมาจากสรวงสวรรค์ แสงสีแดงที่ดูสวยงามนั้นก็คือเปลวไฟของมัน
หอยสังข์สีดำและหอยสังข์คริสตัลสายรุ้งสังเกตเห็นฟีนิกซ์ หอยสังข์สีดำดูหวาดกลัว มันหนีกลับเข้าไปในเปลือกของมันในทันที หลังจากนั้นแสงแห่งเทพสีฟ้าของมันก็ปรากฏขึ้นมา
หอยสังข์คริสตัลสายรุ้งรวบรวมโซ่สสารสีรุ้งเป็นบานกระจกสีรุ้งและปล่อยเข้าใส่ฟีนิกซ์
ปัง!
บานกระจกนั้นเข้าปกคลุมฟินิกซ์
หอยสังข์สีดำโผล่หัวออกมาเมื่อเห็นว่าฟินิกซ์เพลิงถูกกักขังอยู่ภายในกระจก มันดูดีใจอย่างมากถึงขนาดที่กระโดดขึ้นเล็กน้อย
ปัง!
วินาทีต่อมา ฟีนิกซ์ก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา และเปลวไฟของมันก็ลุกโชติช่วงขึ้น กระจกสายรุ้งที่แข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อละลายภายใต้ความร้องแรงของฟินิกซ์ กระจกที่ละลายเริ่มไหลลงมาเหมือนกับไขของเทียน
ฟินิกซ์กระพือปีกของมันและกระจกสายรุ้งก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ แม้แต่เศษเล็กเศษน้อยของกระจกก็ละลายเป็นของเหลวในเวลาอันสั้น
เมื่อหอยสังข์คริสตัลสายรุ้งเห็นแบบนั้น มันก็ปล่อยโซ่สสารสายรุ้งออกมาเพิ่มอีก พวกมันกลายเป็นบานกระจกรูปร่างประหลาดที่ตรงเข้าไปหาฟีนิกซ์
ฟีนิกซ์กระพือปีกของมันและพ่นไฟสีทองออกมา ไฟนั้นทะลุผ่านกระจกสายรุ้งและพุ่งต่อเข้าไปหาหอยสังข์
หอยสังข์คริสตัลสายรุ้งเบิกตากว้าง มันรวบรวมพลังเอาไว้ที่เปลือกหอย หลังจากนั้นร่างกายของมันก็ถอยกลับเข้าไปข้างในเปลือกหอย
เปลวไฟสีดำพุ่งไปถูกด้านบนของเปลือกหอยสังข์คริสตัลสายรุ้ง แต่แทนที่จะทำลายเปลือกหอย เปลวไฟนั้นกลับลุกไหม้รอบๆเปลือกหอยและทำให้มันส่องสว่างเหมือนกับสายรุ้ง
ฟีนิกซ์มองมาที่หานเซิ่นและกิเลนโลหิต มันพ่นลูกไฟลูกหนึ่งมาทางพวกเขาเพื่อละลายกระจกที่กักขังพวกเขาอยู่
“นกแดงน้อย!” หานเซิ่นและกิเลนโลหิตถูกปล่อยเป็นอิสระ เขาดีใจอย่างมากเมื่อได้เห็นฟีนิกซ์สีแดง
“ร่างของเรเวนอาทิตย์และรังนกของอันอายอิ้งเบิร์ดนั้นไม่สูญเปล่าจริงๆ!”
นกแดงน้อยกระพือปีกและส่งเปลวไฟเข้าใส่หอยสังข์สายรุ้งเพิ่มอีก เปลวไฟสีทองที่น่ากลัวล้อมหอยสังข์เหมือนเป็นฟืนของกองไฟ
เมื่อเปลวไฟลุกโชติช่วงขึ้น เปลือกหอยสายรุ้งก็กลายเป็นสีทอง แสงสีรุ้งของมันเริ่มจะมัวหมองไป
หานเซิ่นเหลือบมองและเห็นหอยสังข์สีดำกำลังพยายามจะหนีไป ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงเรียกมนตราออกมาในร่างปืนไรเฟิลและยิงไปใส่เปลือกของหอยสังข์
หอยสังข์สีดำไม่ต้องการดึงความสนใจของฟีนิกซ์ ดังนั้นมันจึงไม่ได้ใช้อาณาเขตแห่งราชัน กระสุนพุ่งเข้าไปถูกเปลือกหอยและทะลุเข้าไปข้างใน ทำให้เจ้าหอยสังข์เริ่มมีเลือดไหลออกมา
หอยสังข์สีดำส่งเสียงกรีดร้อง สถานการณ์ในตอนนี้คับขันยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นมันจึงปลดปล่อยแสงสีฟ้าออกมาและเริ่มหนีไปอย่างรวดเร็ว
“แกคิดว่าฉันจะปล่อยให้แกหนีไปได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นไล่ตามไปพร้อมกับยิงใส่มันอีกครั้ง
กระสุนลูกต่อไปพุ่งผ่านอาณาเขตแสงสีฟ้าและเข้าไปที่ตัวของหอยสังข์สีดำ มันพุ่งผ่านรูที่ถูกสร้างขึ้นโดยกระสุนก่อนหน้านี้ และในครั้งนี้เลือดก็หลั่งไหลออกมาราวกับน้ำพุ
พลังในการฟื้นตัวของหอยสังข์สีดำนั้นแข็งแกร่ง แต่รูกระสุนยังไม่ฟื้นคืนสภาพเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นเป็นผลของวิชาอีเทอร์นิตี้ของเรื่องราวของยีน บาดแผลที่ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังนั้นจะไม่สามารถรักษาได้ วิชานั้นเป็นอะไรที่มากพอจะจัดการกับเจ้าหอยสังข์สีดำตัวนี้ แม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถทำลายพลังของวิชาอีเทอร์นิตี้ได้
หานเซิ่นเข้าไปใกล้หอยสังข์สีดำและเปลี่ยนมนตราเป็นปืนคู่ เขายิงออกไปซ้ำๆและกระสุนทุกนัดก็พุ่งตรงไปที่รูกระสุนนั้น ทำให้เลือดที่หลั่งไหลออกมาจากตัวหอยสังข์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อาณาเขตแสงสีฟ้ารวมกับเปลือกของหอยสังข์ทำให้เกิดเป็นระบบป้องกันที่สุดยอด แต่เนื้อหนังของตัวหอยสังข์ไม่ได้มีพลังป้องกันอะไร แถมมันก็ไม่รวดเร็วพอที่จะหลบกระสุนที่หานเซิ่นยิงออกไปได้ ในเวลาไม่นานมันก็ถูกยิงที่จุดเดิมซ้ำๆนับครั้งไม่ถ้วน
ร่างของหอยสังข์สีดำเริ่มสั่นไหวและเมฆดำก็หลั่งไหลออกมาจากเนื้อหนังของมัน เมฆสีดำก็คือฝูงหอยสังข์สีดำตัวน้อยๆ
ร่างกายของหานเซิ่นเรืองแสงด้วยพลังของคิงอีซ หอยสังข์สีดำตัวน้อยพยายามจะเจาะเข้าไปในรูขุมขนของหานเซิ่น แต่พวกมันถูกทำลายด้วยพลังของคิงอีซ
หอยสังข์สีดำไม่สามารถหนีไปได้ และหอยสังข์ตัวน้อยก็ไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นได้เช่นกัน หอยสังข์ตัวใหญ่ถูกยิงซ้ำๆและสูญเสียเลือดมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นบาดแผลของมันยังกำลังฉีกขาดด้วยพลังเขี้ยวอีก ซึ่งทำให้บาดแผลของมันเลวร้ายขึ้นไปอีก
ความเร็วในการคลานของหอยสังข์สีดำลดลงไปและอาณาเขตแสงสีฟ้าของมันก็อ่อนลงเช่นกัน ในที่สุดแสงสีฟ้าก็ดับลงไป เมื่อหานเซิ่นยิงปืนคู่อีกครั้ง เปลือกของหอยสังข์ก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
เมื่อไม่มีการป้องกันของแสงสีฟ้า เปลือกของหอยสังข์ก็พังทลายเมื่อถูกกระสุนกระหน่ำเข้ามา
“ซีโน่เจเนอิคหอยสังข์ภูเขาถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูร”
หานเซิ่นรู้สึกดีใจและรีบตรวจดูวิญญาณอสูรที่เพิ่งได้รับมา
“วิญญาณอสูรระดับราชันหอยสังข์ภูเขา : อาณาเขต”
หานเซิ่นแปลกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับวิญญาณอสูรประเภทอาณาเขตที่ทรงพลังอีกดวง เขาไม่รู้ว่านั่นเป็นเพราะซีโน่เจเนอิคระดับราชันมีโอกาสสูงที่จะมอบวิญญาณอสูรประเภทอาณาเขต หรือเป็นเพราะเขาโชคดีกันแน่
หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรดวงใหม่ออกมาเพื่อดูว่ามันเป็นยังไง
ร่างกายของหานเซิ่นแวววาวด้วยแสงสีฟ้า ซึ่งมันเป็นแสงสีฟ้าเดียวกับที่เขาเห็นหอยสังข์ภูเขาใช้ นี่ทำให้หานเซิ่นดีใจอย่างมาก
หานเซิ่นต้องการจะตรวจสอบแสงสีฟ้าให้แน่ใจ แต่หอยสังข์คริสตัลสายรุ้งเริ่มส่งเสียงกรีดร้องประหลาดออกมา หานเซิ่นหันไปมองและเห็นว่าหอยสังข์สายรุ้งกำลังถูกย่างโดยนกแดงน้อย มันดูจะเสียสติขณะที่พยายามจะวิ่งหนีเอาชีวิตรอด