เมื่อหานเซิ่นปลดปล่อยหมัดช็อคกิ้งสกายออกไป กระดูกขององครักษ์ระดับครึ่งเทพก็ถูกบดขยี้ มันไม่มีกระดูกแม้แต่ชิ้นเดียวที่ยังอยู่ในสภาพดี ร่างกายของเขาร่วงลงไปกองกำพื้นราวกับกระสอบ
หานเซิ่นเอื้อมมือไปจับองครักษ์ระดับครึ่งเทพคนนั้นและยกเขาขึ้นมา ร่างกายของเขายับเยิน แต่เขายังคงมีลมหายใจ หานเซิ่นโยนเขากลับไปให้องค์ชายดาบดารา
“ตามที่เจ้าขอ เขายังมีชีวิตอยู่” หานเซิ่นพูด
“ไป๋อี้ ข้าจะฆ่าเจ้า” องค์ชายดาบดารารับร่างองครักษ์เอาไว้ หานเซิ่นทำลายแม้กระทั่งยีนซีโน่เจเนอิคขององครักษ์คนนั้น นั่นทำให้องค์ชายดาบดาราโกรธมากๆ
“นี่ข้าอุส่าดีกับเจ้า เจ้าขอให้ข้าไว้ชีวิตเขา ข้าก็ไม่ฆ่าเขาแล้ว แต่เจ้าก็ยังไม่พอใจ การเป็นพี่ชายช่างเป็นอะไรที่ยากลำบากจริงๆ” หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็กระโดดไปหาองครักษ์อีก 3 คน
องครักษ์อีก 3 คนที่เหลือทั้งโกรธและกลัว พวกเขาอยากจะวิ่งหนีไป แต่หมัดช็อคกิ้งสกายนั้นลงมาหาพวกเขาเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาไม่สามารถหนีจากมันได้ แต่ถ้าพวกเขาพยายามจะป้องกันมัน พลังนั้นก็จะบดขยี้ร่างกายของพวกเขา พลังหมัดเข้ามาหาพวกเขาทีละคน องครักษ์ระดับราชันขั้นที่ 9 ร่วงไปก่อน หลังจากนั้นองครักษ์ระดับครึ่งเทพก็ร่วงตามไปเช่นกัน หานเซิ่นบดขยี้ร่างกายของพวกเขาในไม่กี่หมัด และโยนร่างกายของพวกเขากลับไปให้องค์ชายดาบดารา
คนของราชวงศ์ที่อยู่ใกล้เคียงตกตะลึงกับความโหดร้ายและความแข็งแกร่งของหานเซิ่น มันทำให้พวกเขาต้องคิดทบทวนเกี่ยวกับวิธีที่จะปฏิบัติกับหานเซิ่นในอนาคต
องค์ชายดาบดารากัดฟัน เขาอดกลั้นความอยากที่จะโจมตีหานเซิ่นด้วยตัวเองเอาไว้ เขาจ้องมองไปที่หานเซิ่นขณะที่แบกร่างองครักษ์ทั้ง 4 เดินจากไป
“องค์ชายดาบดาราคนนั้นใจเสาะชะมัด นี่เขาจะยอมรับความพ่ายแพ้อย่างนั้นหรอ?” องค์ชายสิบเก้าเบะปากด้วยความเย้ยหยัน
“นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเป็นคนที่น่ากลัว องค์ชายดาบดาราไม่ใช่คนที่จะถูกควบคุมโดยอารมณ์ชั่ววูบ”
ไป๋ชางลังเดินเข้ามา เขาถอนหายใจและพูด “คนของราชวงศ์ในรุ่นของพวกเราเป็นรุ่นที่มีทั้งความหวังและสิ้นหวังที่สุดเท่าที่เคยมีมา มันมีคนของราชวงศ์ที่ยอดเยี่ยมอยู่มากเกินไป และตอนนี้มันก็มีคนอย่างองค์ชายสิบหก องค์ชายสิบเจ็ดหรือแม้แต่องค์ชายดาบดารา เมื่อถึงเวลาที่ใครคนหนึ่งขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากท่านพ่อ มันจะไม่สงบสุขเป็นแน่”
“ความโกลาหลเป็นอะไรที่สนุก ไม่อย่างนั้นชีวิตก็เป็นเหมือนน้ำในสระที่หยุดนิ่ง นั่นเป็นอะไรที่น่าเบื่อ” องค์ชายสิบเก้าพูด
ทุกคนมองดูหานเซิ่นปีนขึ้นไปบนมังกรกษัตริย์รากแก้ว ไม่มีใครกล้าไปยั่วโมโหเขา เพราะยังไงซะเขาก็เพิ่งจะกำราบองครักษ์ระดับครึ่งเทพไป ราชวงศ์คนอื่นจึงรู้ตัวดีว่าพวกเขาไม่สามารถต่อกรกับหานเซิ่นได้ ส่วนคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้ก็รู้ว่าไม่ควรจะทำแบบนั้นภายในสวนกษัตริย์
หานเซิ่นพากิเลนโลหิตขึ้นไปนั่งบนหัวมังกรร่วมกับเขา ขณะที่ราชวงศ์คนอื่นแยกย้ายกันไปหามังกรกษัตริย์ของตัวเอง
หลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ใบไม้สีเหลืองของต้นไม้กษัตริย์ก็เริ่มเรืองแสงขึ้นมา มังกรกษัตริย์รากแก้วคำรามและดำลงไปใต้ดิน
มันไม่เหมือนกับมังกรกษัตริย์ขนาดเล็กที่หานเซิ่นเคยใช้ก่อนหน้านี้ มังกรกษัตริย์รากแก้วตัวนี้มีขนาดใหญ่และมันก็ลงไปใต้ดินได้ลึกกว่า มันเข้าใกล้แหล่งพลังมากกว่า
ในตอนที่หานเซิ่นฝึกร่วมกับไป๋เวย แหล่งพลังนั้นดูเหมือนกับดวงอาทิตย์สีทองที่ไกลออกไป แต่ตอนนี้เขาอยู่ใกล้มากๆและมันก็ใหญ่เกินบรรยาย
คลื่นลมปราณกษัตริย์สีทองเริ่มหลั่งไหลออกมาหาหานเซิ่น ลมปราณกษัตริย์ที่หานเซิ่นดูดซับเข้าไปจะช่วยสกัดพลังในร่างกายของเขา
กิเลนโลหิตดูดซับลมปราณกษัตริย์เข้าไปอย่างละโมบ และมันก็ดูสุขภาพดีขึ้นมาก
หลังจากที่หานเซิ่นดูดซับลมปราณกษัตริย์เข้าไป 30 คลื่น เขาก็ได้ยินเสียงประกาศในหัว
“ยีนระดับดยุก+1”
หานเซิ่นตกใจ แต่เขาก็รู้สึกดีใจมากๆด้วยเช่นกัน “จริงๆแล้วคลื่นของลมปราณกษัตริย์พวกนี้ก็คือยีนซีโน่เจเนอิคอย่างนั้นหรอ?”
ในครั้งก่อนหานเซิ่นอยู่ห่างไกลไปจากต้นไม้กษัตริย์ ลมปราณกษัตริย์ที่เขาดูดซับเข้าไปจึงอ่อนแอเกินกว่าที่จะได้รับยีนระดับดยุก แต่ตอนนี้เขามีลมปราณกษัตริย์มากมาย และเขาก็สามารถดูดซับพวกมันได้อย่างเต็มที่
ก่อนหน้านี้หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกสนใจในลมปราณกษัตริย์ แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมา เขาดูดซับลมปราณกษัตริย์เข้าไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อเขาดูดซับลมปราณกษัตริย์คลื่นที่ 50 เข้าไป เสียงประกาศก็ดังขึ้นอีกครั้ง
‘ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ เราก็ไม่จำเป็นต้องออกไปหาซีโน่เจเนอิคเพิ่มอีก เพียงแค่ดูดซับลมปราณกษัตริย์นี่ก็จะมอบยีนระดับดยุกให้กับเราอย่างเพียงพอ!” หานเซิ่นคิดขณะที่ดูดซับลมปราณกษัตริย์อย่างบ้าคลั่ง
ขณะที่มังกรกษัตริย์ยังอยู่ใต้ดิน ยีนระดับดยุกของหานเซิ่นก็เพิ่มขึ้นจนเต็มหนึ่งร้อยพ้อย เขาดูดซับลมปราณกษัตริย์เข้าไปอีก แต่ยีนระดับดยุกของเขาไม่เพิ่มขึ้นไปมากกว่านั้น
หานเซิ่นใช้ยีนระดับดยุกทั้งหนึ่งร้อยพ้อยเพื่อปลดล็อคยีนแรกของเรื่องราวของยีน
มันเป็นกระบวนการที่ราบรื่นเหมือนกับตอนที่ปลดล็อคยีนวิชากายหยก หลังจากที่เรื่องราวของยีนปลดล็อคยีนขั้นแรกแล้ว เขาก็ได้รับร่างแอสทรอลมา
เมื่อยีนระดับดยุกทั้ง 100 พ้อยหายไปแล้ว หานเซิ่นก็เริ่มดูดซับลมปราณกษัตริย์ต่อ ยีนระดับดยุกของเขาเริ่มถูกสะสมอีกครั้ง
“นี่มันของดีจริงๆ” หานเซิ่นยิ้ม เมื่อได้มังกรกษัตริย์รากแก้วนี้มาแล้ว เขาก็ไม่คิดจะจากไปไหน เขามีแผนที่จะใช้ลมปราณกษัตริย์เพื่อปลดล็อคยีนของวิชาจีโนอื่นๆอีก
ที่ไหนสักแห่งภายในอาณาจักรกษัตริย์ มันมีภูเขาลูกหนึ่งลอยอยู่ในความมืดมิด ภูเขานั้นดูใหญ่มหึมา และไม่ว่าใครจะใช้เวลาบินขึ้นไปสู่ยอดของมันสักแค่ไหน มันก็ไม่มีวันที่เขาจะไปถึงยอดของภูเขาได้
มันถูกรู้จักกันในชื่อภูเขาเอ็กซ์ตรีม ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 ภูเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอาณาจักรกษัตริย์ ตำนานที่น่าสะพรึงกลัวกล่าวขานถึงการมีอยู่ของมัน และยอดฝีมือมากมายต่างก็ถูกฆ่าตายขณะที่พยายามขึ้นไปให้ถึงยอดภูเขา ตำนานกล่าวไว้ว่าสิ่งมีชีวิตระดับครึ่งเทพและระดับเทพเจ้ามากมายเร่ร่อนอยู่ที่นั่น
ความลับของภูเขาเอ็กซ์ตรีมยังไม่ถูกค้นพบ และมันก็ยังมีสถานที่หลายแห่งบนภูเขาที่แม้แต่ราชาไป๋เองก็ยังไม่กล้าไปสำรวจ
บนด้านซ้ายของภูเขาเอ็กซ์ตรีม ชายที่ดูเหมือนกับผีคนหนึ่งกำลังเดินไปตามเส้นทางของภูเขา
ทุกก้าวที่เขาเดินออกไปนั้นเหมือนกับว่ามีพลังลึกลับบางอย่างลงมาสู่ตัวของเขา และทำให้ร่างกายของเขาเบาลงไปเรื่อยๆ เมื่อเขาเดินขึ้นไปบนทางลาดเอียงของภูเขาได้ครึ่งทาง ร่างกายของเขาก็ดูกึ่งโปร่งใส และมันดูเหมือนกับว่าเขากำลังจะจางหายไปได้ทุกเมื่อ
แต่ชายคนนั้นยังคงจ้องไปที่ยอดของภูเขาเอ็กซ์ตรีม และเขาก็ยังคงก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะไปให้ถึงยอดของมัน
“ครึ่งภูเขา ครึ่งท้องฟ้า ครึ่งเอ็กซ์ตรีม หนึ่งก้าว หนึ่งชีวิต หนึ่งโลก”
เมื่อเขาไปถึงครึ่งทาง เขาก็เห็นประโยคที่ถูกเขียนไว้บนหน้าผา ซึ่งมันเขียนเอาไว้ด้วยเลือด
ชายคนนั้นมองเห็นมัน แต่เขาก็ยังคงเดินไปข้างหน้าต่อไปโดยไม่สนใจคำบนหน้าผา
ตำนานบอกเอาไว้ว่าคำเหล่านั้นถูกทิ้งเอาไว้โดยกษัตริย์องค์ที่เจ็ดของเอ็กซ์ตรีมคิง กษัตริย์องค์ที่เจ็ดไปที่นั่นในตอนที่เขาเป็นครึ่งเทพ เขาหยุดอยู่ที่นั่นเพื่อเขียนคำเหล่านั้นเอาไว้ก่อนที่จะลงไปจากภูเขา
หลังจากนั้นมา ทายาททุกคนของเอ็กซ์ตรีมคิงที่มาเยือนภูเขาเอ็กซ์ตรีมและเดินผ่านคำเหล่านั้นไปล้วนแต่เสียชีวิตไป มันมีข้อยกเว้นเพียงแค่คนๆเดียวเท่านั้น
ข้อยกเว้นคนนั้นก็คือราชาเป่า กษัตริย์องค์ก่อนของเอ็กซ์ตรีมคิง ราชาเป่าเดินผ่านคำที่เขียนบนหน้าผาไป แต่เขารอดกลับมาได้ เขาไม่เคยพูดถึงเกี่ยวกับประสบการณ์บนภูเขาเอ็กซ์ตรีม เขาบอกเอาไว้แค่ว่าใครที่โชคดีพอจะไปถึงยอดของภูเขาเอ็กซ์ตรีมได้ คนๆนั้นจะกลายเป็นที่สุดในรุ่นตัวเองและได้รับร่างกายที่ไร้เทียมทาน